"ไม่ร้องน๊า คนเก่งของพี่ไอ"
ไอลินนั่งปลอบน้องสาวที่ร้องไห้ไม่ยอมหยุดเพราะยังตกใจ จนเธอเองอยากจะร้องตามไม่รู้ว่าชีวิตต้องเจออะไรที่มันหนักหนาขนาดนี้จนเธอเองคิดหาหนทางแทบจะไม่ได้อยู่แล้วนะ ร่างที่ใหญ่กว่าเด็กหญิงตัวน้อยโผเข้ากอดกันเพื่อปิดบังน้ำตาของเธอที่เริ่มไหล
"แต่พวกเขาเอาหนูสกปรกมาใส่หนูญา"
ญาลินจำเหตุการณ์ได้ดี เธอเชื่อฟังพี่สาวเป็นอย่างดีนั่งอยู่กับที่ไม่ดื้อไม่ซนแต่ไม่รู้ทำไมถึงมีคนเอาหนูสกปรกที่แสนน่ากลัวมาใส่ตัวเธอจนญาลินวิ่งหนีหนูตัวนั้นให้ปั่นป่วนไปทั้งร้านอาหารที่พี่สาวของเธอทำงานอยู่
"พวกเรามาไกลจากพวกเขาแล้ว ไม่มีใครทำอะไรหนูญาของพี่ได้อีกแล้วนะ เงียบนะคะคนสวย"
เธอเองก็ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นเหมือนกันคนพวกนั้นถึงได้แกล้งน้องสาวของเธอจนเธอโดนไล่ออกทั้งทีเริ่มงานได้ไม่กี่ชั่วโมงและไม่ได้รับเงินค่าแรงที่เธอแสนจะอยากได้มาอีกด้วย
"หนูญาขอโทษพี่ไอนะคะ"
"ขอโทษพี่ทำไม"
"หนูญาทำให้พี่ไอต้องโดนไล่ออก"
"พี่โดนไล่ออกเอง หนูญาไม่ผิดสะหน่อย"
ไอลินไม่เคยคิดโทษน้องสาวของเธอแม้แค่น้อยไม่ว่าเหตุการณ์จะร้ายแรงแค่ไหนทุกอย่างมันก็ไม่ได้เริ่มมาจากญาลินเด็กน้อยที่แสนบอบบางคนนี้
"ส่งหนูญาไปอยู่บ้านเด็กนะคะ พี่ไอจะได้ไม่ลำบาก"
ญาลินพอจะรู้เรื่องบ้างว่าเด็กที่พ่อแม่เสียแล้วอย่างเธอควรถูกส่งไปอยู่ที่สถานสงเคราะห์เพื่อจะได้หมดปัญหาไปสะไม่ต้องมาก่อความเดือดร้อนให้ใคร
"ไม่มีทาง พี่จะไม่ส่งหนูญาไปที่ไหนทั้งนั้น เราจะลำบากด้วยกัน ห้ามคิดแบบนี้อีกนะ"
ญาลินเป็นเด็กฉลาดเธอรู้มากเกินตัว จนทำให้ไอลินเองเริ่มหนักใจกลัวเธอจะคิดหนีไปตามที่เธอพูด ถ้าชีวิตเธอไม่มีน้องสาวแสนน่ารักเป็นกำลังใจให้เธอก็ไม่รู้ว่าจะต่อสู้กับทุกเรื่องที่มันเลวร้ายอย่างนี้ได้ยังไง เธอจะขาดใครในชีวิตไม่ได้อีกแล้ว
"หนูญาจะไม่พูดอีกแล้ว"
ร่างเล็กกอดผู้เป็นพี่สาวแน่น คนเดียวที่สำคัญที่สุดในชีวิตของเธอคือไอลินพี่สาวที่สวยที่สุดและมีผมหอมของเธอ ถ้าพี่สาวไม่ให้เธอไปเธอก็จะไม่คิดถึงมันอีกแล้ว
"เราไปหางานทำกันต่อ เผื่อโชคดีคืนนี้จะได้มีที่นอนกัน"
"ไปค่ะ พี่ไอสู้ๆ "
"หนูญาก็สู้ๆ เหมือนกัน"
สองสาวจับมือกันแน่น ออกเดินต่อไปในเมืองใหญ่ที่ไร้คนรู้จักแห่งนี้ เธอสองคงหวังพึ่งโชคชะตาที่อาจนำความโชคดีมาให้บ้างไม่มากก็น้อย
"พี่ไอ จะไม่มีใครมาเห็นหนูญาใช่ไหม"
พี่สาวของเธอได้งานใหม่แบบรวดเร็วแต่เด็กน้อยอย่างเธอก็ต้องมานั่งแอบผู้ใหญ่ใจร้ายที่หลังร้านที่แทบจะมืดมิดและไม่มีคนผ่านไปมา
"ใช่จ้ะ แต่หนูญาอย่าไปไหนนะ จนกว่าพี่จะมา"
เธออยากจะหางานที่มันดีกว่านี้จะได้ไม่ต้องทิ้งน้องสาวไว้ในที่ที่น่ากลัวแบบนี้แต่เพราะที่นี้จะจ่ายเงินเลยเธอเลยต้องเลือกทำที่นี้เพื่อที่พักในค่ำคืนนี้จะได้ไม่ใช่ที่สถานีรถไฟ
"ไม่ไปไหนแน่นอน พี่ไอรีบกลับมานะ"
ญาลินกอดพี่สาวของเธออีกครั้งก่อนที่จะปล่อยให้ไอลินไปทำงาน และสาวน้อยก็ขออวยพรให้พี่สาวทำงานสำเร็จได้ด้วยดี
ไอลินในชุดเกาะอกสีดำรัดรูปไปทั้งตัวโชว์ส่วนเว้าโค้งของร่างกายที่แสนห่วงแหนแต่ก็ต้องใส่เพราะมันเป็นชุดทำงานของผับแห่งนี้ หญิงสาวรีบเดินกลับเข้ามาด้านในเพื่อรับงานจากหัวหน้าและจะได้รีบเริ่มงานใหม่ทันที
ไอลินที่เพิ่งเริ่มงานดูจะขยันขันแข็งดี เธอยังคงก้มหน้าก้มตาทำงานทั้งที่เกิดมาไม่เคยมาในสถานที่แบบนี้ นี้เป็นครั้งแรกที่เธอเดินเข้าผับมันดูแย่กว่าบาร์ที่เธอเคยเดินเข้าไปทำงาน ทีนี้มีแต่กลิ่นเหล้า บุหรี่และสังคมแปลกๆ เต็มไปหมดจนเธอไม่อยากทำงาน แต่เพราะเงินคำเดียวไอลินต้องจำยอมทนก้มหน้าทำงานต่อไป
"ถูกใจไหมคะ"
ดาราสาวหุ่นอวบอึ่มนั่งก้มหน้าก้มตาอยู่ตรงหว่างขาของคอนเนอร์ สองมือของเธอจับตรงหน้าขาของเขาเพื่อเป็นหลักให้เธอกลืนกินเจ้าแท่งเนื้อยักษ์อย่างอร่อยและแสนจะถูกใจเธอเป็นที่สุด
"อ้าส์ ดีมาก ต้องอย่างนี้ อ้าส์ ซี้ดดด"
ปากหนาครางซี้ดซ้าดด้วยความถูกอกถูกใจในดาราสาวที่เพิ่งจะมาทำหน้าที่ครั้งแรก สายตาคมก้มลงมองร่างเปลือยเปล่าของเธออารมณ์ของเขาก็ยิ่งพลุ่งพล่านจนเผลอยกมือขึ้นมากดศีรษะของเธอ
"อื้มๆ อื้อๆ "
ร่างอวบอิ่มที่ไม่มีเสื้อผ้าปกปิดร่างกาย ดิ้นฝืนแรงของคอนเนอร์แต่พองามให้เขาคลายมือออกและเธอก็จับท่อนเนื้อเข้าออกในโพรงปากของเธออย่างสนุกสนาน
"นายครับ เกิดเรื่องที่ชั้นล่างครับ"
เสียงเคาะประตูอย่างลวกๆ สองสามครั้งก่อนจะเปิดออก ลูกน้องห่างแถวของคอนเนอร์รีบวิ่งหน้าตาตื่นเข้ามารายงานเหตุการณ์ตามที่เบสบอดี้การ์ดคนสนิทของคอนเนอร์สั่งมา
"อะไรวะ มึงก็เคลียร์สิ"
ร่างใหญ่ผลักหญิงสาวให้ออกห่างจากตัวเขา แล้วรีบยัดแท่งเนื้อที่ยังแข็งตัวอยู่เข้ากางเกงอย่างยากลำบาก นี่มันวันอะไรมีแต่เรื่องให้เสียอารมณ์ตั้งแต่หัวค่ำเลยหรือไงวะไอ้เบสมันไปไหนไม่มาจัดการปัญหาแทนเขา
"บราวนี่กลับก่อนนะคะ"
เธอรู้หน้าที่ดีว่าจบลงแค่นี้แน่นอนและก็ไม่ควรฝืนอยู่ต่อไม่งั้นจากที่พอจะได้เงินบ้างอาจจะต้องถูกตัดออกจากบัญชีสาวๆ ของคอนเนอร์ด้วยแน่ถ้าขืนไปยุ่งเรื่องที่นอกเนื่องจากบนเตียง
"เออ"
เขาคงหมดอารมณ์และคงไม่ต่อกับเธอแล้วหรือถ้าจะต่อก็คงเรียกคนใหม่มาไม่เริ่มของเก่าให้เสียอารมณ์แน่นอน
"เคลียร์แล้วครับแต่ลูกค้าไม่ยอม ตอนนี้พี่เบสกำลังคุยอยู่ครับ"
ลูกน้องที่มารายงานสถานการณ์รอจนกว่านายของเขาคุยจบแล้วค่อยพูดแทรกขึ้นมาอย่างมีมารยาทตามที่เบสผู้เป็นหัวหน้าสอนมา
"ไม่ได้เรื่อง"
คอนเนอร์ลุกออกจากห้องทำงานอย่างหัวเสีย เขากำลังได้อารมณ์อยู่แล้วเชียวดันมาขัดจังหวะ แล้วใครมันกล้ามีเรื่องกับลูกค้าทั้งที่ก่อนหน้านี้ทุกคนก็ทำงานดีไม่มีปัญหา อย่าให้เขารู้ว่าใครก่อเรื่องมันต้องโดนไล่ออกวันนี้แน่นอน
"คนของเราตบหน้าลูกค้าครับ คนนี้รายที่สามแล้วของคืนนี้"
เบสที่ยืนคุมเหตุการณ์ไว้รีบรายงานเรื่องให้คอนเนอร์ถึงจะสงสารคนก่อเรื่องเพียงใดแต่เขาก็ต้องทำตามหน้าที่
"นี้เธอ ไม่รู้กฎของร้านหรือไงว่าลูกค้าคือพระเจ้าห้ามแตะ ห้ามขัดใจ"
งานนี้เรื่องไม่จบง่ายแน่เพราะคนที่พนักงานของเขามีเรื่องด้วยเป็นถึงลูกนักการเมืองที่มีชื่อเสียงและเป็นลูกค้าประจำของที่นี่
"แต่พวกเขาจับก้นฉันก่อน"
ใบหน้าหวานของไอลินหันมามองตามมือใหญ่ที่วางอยู่บนไหล่ของเธอ เธอต้องแย่แน่ๆ วันนี้เธอเพิ่งเริ่มงานวันแรกที่นี้แต่ดันเกิดเรื่องสะก่อน
"ยังจะมาเถียง ไปรอฉันในห้องทำงาน"
เสียงใหญ่สั่งคนตัวเล็กดังจนเธอสะดุ้งด้วยความตกใจ เขาอยากจะจับเธอตีก้นนัก หวงตัวขนาดนี้แล้วมาทำงานที่ผับเขาทำไม คงต้องไล่ออกสถานเดียว
ร่างใหญ่จัดการเคลียร์เรื่องที่เกิดขึ้นจนเรียบร้อย และรีบเดินกลับมาห้องทำงานเพื่อจัดการยัยตัวแสบที่ก่อเรื่องเอาไว้จนเขาต้องจ่ายเงินหลายบาทเพื่อทำขวัญไอ้เด็กพวกนั้น
"ไง กล้ามากนะที่ตบหน้าไอ้พวกนั้น"
"อย่าไล่ฉันออกเลยนะ ฉันอยากทำงานที่นี้จริงๆ นะ หักเงินเดือนก็ได้ หรือจะเปลี่ยนตำแหน่งให้ฉันก็ได้"
"นี้เธอกล้าต่อรองกับฉันทั้งที่โทษของเธอคือไล่ออก"
เขาเกลียดคนที่ไม่รู้จักความผิดของตัวเองเป็นที่สุด แล้วดูเธอทำตัวเขาขอร้องเขาทั้งที่รู้กฎของที่นี่ดีแต่ยังทำผิด
"ขอร้องละนะ"
"นายครับเราเจอเด็กนี้แอบอยู่ทีหลังผับครับ"
เด็กน้อยวัยห้าขวบร้องไห้จนตัวโยนโดนจับขึ้นมาหาคอนเนอร์ในห้องทั้งที่เธอแอบหลับอยู่ในมุมเล็กๆ ของร้านแต่ก็มิวายพ้นสายตาของผู้ใหญ่ตัวโต
"พี่ไอ ฮื่อออ"
ญาลินที่ถูกปล่อยตัววางลงกับพื้นรีบวิ่งหาพี่สาวทันที ใบหน้าเปื้อนน้ำตารีบซบลงกับอกของไอลินพี่สาวที่จะช่วยเธอให้ปลอดภัยจากคนใจร้าย
"หนูญาไม่ร้องนะ"
ไอลินทำได้เพียงแค่ปลอบน้องสาว เพราะยังไงถ้าพวกเขาเจอน้องสาวของเธอสุดท้ายเธอก็ต้องถูกไล่ออกเพราะผับจะมีเด็กขนาดญาลินเข้ามาไม่ได้อยู่แล้วเธอหมดหนทางที่จะขอร้องเขาแล้วละ
"นี้เธอ เอาเด็กนี้เข้ามาในผับฉัน เธอนี้มัน ฉันไล่เธอออก ไปรับเงินค่าแรงวันนี้ของเธอสะแล้วพากันออกไปเดี๋ยวนี้เลย"
ค่าแรงที่เขาแทบไม่อยากจะจ่ายแต่คงต้องให้ตามรายชั่วโมงที่เธอทำงานจะได้ไม่มาเรียกร้องที่หลัง
เขาไล่หญิงสาวตัวเล็กสองคนอย่างไม่ไยดี และคงไม่ต้องใจดีด้วยเพราะเธอไม่ได้มีประโยชน์อะไรกับเขาแถมยังจะทำให้เขาเดือดร้อน
"ให้พี่ไอทำงานที่นี้นะคะ เราจะได้มีเงินไปเช่าบ้านอยู่กันไม่ต้องนอนที่สถานีรถไฟ หนูญาขอร้องนะคะ"
เด็กน้อยญาลินรีบเดินเข้าไปหาคอนเนอร์เพื่อเจรจากับเขาทั้งที่คราบน้ำตายังเปื้อนอยู่เต็มหน้า
"หนูญาเราไปกันเถอะ"
"พี่ไอ หนูญาไม่อยากนอนที่สถานีรถไฟ"
"ทนอีกนิดนะ มาพี่อุ้ม"
ร่างเล็กอุ้มเด็กหญิงห้าขวบให้เธอขึ้นมาแนบอกใบหน้าหวานก้มลงกับร่างน้องเพื่อปิดบังน้ำตา วันนี้เธอแค่โชคไม่ดีอีกแล้วที่ไม่ได้งานทำ
"อะไรวะ นอนสถานีรถไฟ หึเด็กลวงโลกเรียกเงินงั้นสิ"
แววตาเด็กน้อยน่าสงสารจนเขาหวั่นใจ แต่จะมีใครลำบากแบบนั้นนี้เธอคงสอนให้เด็กโกหกเพื่อหลอกเอาเงินสะจนเคยตัวผู้หญิงคนนี้น่ากลัวสะจริง
"คนใจร้าย ใจร้ายที่สุด"
ญาลินตะโกนต่อว่าคอนเนอร์ด้วยภาษาไทย โดยที่ไอลินไม่ได้ดุอะไรน้องสาวเพราะคิดว่าที่นี่ไม่มีใครฟังรู้เรื่องและเธอก็กำลังรีบจะไปให้พ้นจากที่นี่
เสียงหวานของเด็กผู้หญิงนั้นเคยดังก้องอยู่ในหูของเขาเมื่อวันก่อน วันนี้กลับมาดังอีกครั้งแต่มันก็ไม่อาจทำให้เขาเปลี่ยนใจได้ เพราะคนอย่างคอนเนอร์ตัดสินใจอะไรไปแล้วจะไม่คืนคำเป็นอันขาด
"ตามฉันมา"
เบสที่รู้เหตุการณ์ดีทุกอย่าง ถึงเขาจะเป็นบอดี้การ์ดของคอนเนอร์ที่ใครต่างหวาดกลัว แต่เขาก็ไม่ใช่คนใจร้ายที่จะไม่ช่วยเหลือผู้หญิงกับเด็กที่กำลังลำบากหรอกนะ
ไอลินเดินตามร่างใหญ่มา เธอก็แค่เดินออกทางหน้าผับไม่ได้ก็เลยต้องออกทางหลังผับตามที่เขาพามาเท่านั้น ในสมองของเธอคงไม่ต้องคิดอะไรให้มากอีกแล้วนอกจากคืนนี้ต้องนอนที่สถานีรถไฟ
"อยู่ล้างแก้วที่นี่ คนงานกำลังขาด เธอทำได้ใช่ไหม ส่วนเงินรับได้ที่ฉันหลังเลิกงาน"
"แต่ ฉันกับน้องถูกเจ้านายของคุณไล่ออก"
"ฉันคุมห้องนี้ ไม่มีใครรู้หรอก"
เจ้านายของเขาไม่เคยสนใจห้องล้างแก้วที่แสนจะงานเยอะนี้หรอก คอนเนอร์สนใจแต่ห้องเก็บเหล้าที่เอาไว้บริการลูกค้าเท่านั้นที่นี้จึงตกอยู่ในความดูแลของเขา