bc

คุณหนูสิบห้าตระกูลเจียง

book_age18+
211
FOLLOW
1K
READ
HE
time-travel
drama
mystery
like
intro-logo
Blurb

ประตูห้องชั้นในปิดสนิท แสงสว่างด้านนอกแม้จะเจิดจ้าอยู่บ้างทว่าก็ไม่อาจทำลายความตั้งใจของหานไป่จิ้งไปได้ หลังผ่อนร่างกายบอบบางดุจกิ่งหลิวของเจียงซูหลันลงบนเตียงเรียบร้อย ดวงตาดำเข้มคล้ายจะอ้อยอิ่งอยู่กับริมฝีปากสีหวานของนางอยู่อย่างนั้น จนกระทั่งอดใจไม่ไหวจึงค่อยๆ โน้มใบหน้าคมคายลง

ลมหายใจอุ่นๆ ของนายท่านสกุลหานเพิ่งจะรินรดโดนข้างแก้ม เจ้าของใบหน้างามกลับเบือนหนีเสียแล้ว

เมื่อริมฝีปากแตะต้องได้เพียงแก้มเนียนใส ลมหายใจของหานไป่จิ้งถึงกับหนักอึ้งยิ่งกว่าเดิม แน่นอนว่านอกเหนือจากความปรารถนาแล้วย่อมเป็นความโกรธเคือง

ดวงตาล้ำลึกดุจบ่อน้ำไร้ก้นคู่นั้นแดงก่ำราวกับกำลังหลั่งโลหิตออกมา มือที่ทาบทับอยู่ข้างกายนางนั้นกำแน่นยิ่ง

“เจ้าไม่ยินยอมเป็นของข้าอย่างนั้นหรือ!” แม้เสียงคาดคั้นจะแผ่วเบานักแต่กลับเย็นชาเสียจนคนฟังเหน็บหนาว

**************

บุตรสาวห้าคนของใต้เท้าเจ้ากรมพิธีการเจียงโหย่งเล่อล้วนขึ้นเกี้ยวแต่งออกไป ในเมื่อเจียงซูหลันเป็นบุตรธิดาคนที่สิบห้าของใต้เท้าเจ้ากรมพิธีการย่อมต้องอยู่ในขบวนเจ้าสาวขบวนหนึ่งเช่นกัน

พี่สาวน้องสาวที่แต่งออกไปพร้อมกันในครั้งนี้มีทั้งหมดห้าคน ไม่รู้ว่าแต่ละคนนั้นต้องพบเจอกับสามีเช่นไร แต่สำหรับนางต่อให้ต้องใช้ชีวิตกับบุรุษที่แต่งด้วยนานแค่ไหน นางก็ไม่มีวันมอบใจให้เขา

เจียงซูหลันตั้งใจเอาไว้แล้วว่า ชีวิตนับจากนี้ล้วนไร้รักไร้ใจ แม้ร่างกายจะถูกผู้เป็นสามีครอบครองก็ตาม

chap-preview
Free preview
บทที่ ๑ เจ้าสาวสิบห้า
แคว้นเว่ย วันที่ยี่สิบเดือนสามรัชสมัยเว่ยเสียนตี้ปีที่สามสิบหก บุตรสาวห้าคนของใต้เท้าเจ้ากรมพิธีการเจียงโหย่งเล่อล้วนขึ้นเกี้ยวแต่งออกไป ในเมื่อเจียงซูหลันเป็นบุตรธิดาคนที่สิบห้าของใต้เท้าเจ้ากรมพิธีการย่อมต้องอยู่ในขบวนเจ้าสาวขบวนหนึ่งเช่นกัน พี่สาวน้องสาวที่แต่งออกไปพร้อมกันในครั้งนี้มีทั้งหมดห้าคน ไม่รู้ว่าแต่ละคนนั้นต้องพบเจอกับสามีเช่นไร แต่สำหรับนางต่อให้ต้องใช้ชีวิตกับบุรุษที่แต่งด้วยนานแค่ไหน นางก็ไม่มีวันมอบใจให้เขา เจียงซูหลันตั้งใจเอาไว้แล้วว่า ชีวิตนับจากนี้ล้วนไร้รักไร้ใจ แม้ร่างกายจะถูกผู้เป็นสามีครอบครองก็ตาม ขบวนเจ้าสาวยาวหลายลี้เคลื่อนห่างจากจวนตระกูลเจียงขึ้นไปทางทิศเหนือ ใช้เวลาเดินทางเกือบหนึ่งชั่วยามก็มาถึงที่ตั้งของจวนตระกูลหานเสียที จวนตระกูลหานแห่งนี้ตั้งมั่นอยู่ทางเหนือของเมืองหลวงมาหลายชั่วอายุคนแล้ว ต่อให้ผู้ปกครองแคว้นเว่ยเปลี่ยนไปกี่ รัชสมัย ไม่ว่าสกุลอื่นจะล่มสลายไปมากเพียงใด จวนสกุลหานก็ยังยืนหยัดอยู่เช่นเดิม แถมนับวันยังมีอำนาจมากขึ้น บัดนี้นายท่านหลายคนในสกุลหาน ล้วนแยกจวนออกไปเป็นหลายสาย กระจายตัวไปทั่วทุกหนแห่งของแคว้นเว่ย ปล่อยให้นายท่านใหญ่ปกครองจวนสกุลหานในเมืองหลวง ทว่าห้าปีก่อนนายท่านใหญ่และฮูหยินใหญ่ได้จากไปแล้ว อำนาจทั้งหมดจึงตกเป็นของทายาทเพียงคนเดียว นั่นคือ หานไป่จิ้ง แต่ถึงอย่างไรก่อนที่นายท่านใหญ่จะจากไปนั้นก็ยังรับอนุภรรยาผู้หนึ่งเข้ามา ธุระภายในจวนทั้งหมดจึงตกเป็นของอนุภรรยาผู้นั้น ยามนี้แม้ไม่มีใครเอ่ยปากแต่ทุกคนในเมืองหลวงต่างก็อดคิดไม่ได้ว่า เห็นทีจวนสกุลหานที่ยืนหยัดมาหลายชั่วอายุคนอาจถึงวันล่มสลายเสียแล้ว จนกระทั่งวันที่บุตรสาวสายตรงของใต้เท้าเจียงโหย่งเล่อแต่งเข้าไป จึงทำให้คนทั้งเมืองหลวงโล่งใจขึ้นมาได้บ้าง การให้ภรรยาเอกของคุณชายหานเป็นผู้จัดการธุระภายในจวน ถึงอย่างไรก็ย่อมดีกว่าให้อนุภรรยาของนายท่านใหญ่ที่จากไปแล้วจัดการอยู่ดี อีกอย่างคุณหนูสิบห้าตระกูลเจียงผู้นี้ ก็เป็นถึงบุตรสาวของใต้เท้ากรมพิธีการ แถมยังเป็นบุตรสาวที่เกิดจากฮูหยินใหญ่อีก เรื่องขนบธรรมเนียมการปฏิบัติต่างๆ อนุภรรยาผู้หนึ่งจะเทียบนางได้อย่างไร สำหรับเจียงซูหลันแล้ว ไม่ว่าอำนาจจัดการธุระในจวนจะตกอยู่กับผู้ใดล้วนไม่ใส่ใจเลยสักนิด นางคิดเพียงแค่ขอให้ตนใช้ชีวิตอยู่ในจวนตระกูลหานไปอย่างดีจนกว่าจะถึงวันสิ้นลม ในเมื่อความหวังหนึ่งในใจไม่สัมฤทธิ์ผล นางก็ยินดีใช้ชีวิตเช่นนี้ หวังเพียงว่าคุณชายสกุลหานผู้นั้นคงไม่ใจร้ายจนเกินไป หรือถ้าหากสามีของนางผู้นี้ใจร้ายจริงๆ ละก็ การจบชีวิตด้วยมือตนเองก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ไม่เลวแม้แต่น้อย คิดถึงตรงนี้คุณหนูสิบห้าตระกูลเจียงพลันหลับตาลง หากชาตินี้ไม่อาจครองคู่กับคนที่ตนรัก เกิดชาติหน้าสวรรค์คงมอบโอกาสให้นางกับคนผู้นั้นกระมัง ลืมตาขึ้นอีกครั้งก็เห็นมือขาวนวลของคนผู้หนึ่งรั้งผ้าม่านขึ้น เบื้องหน้าของนางในตอนนี้ปรากฏเรือนหลังใหญ่ที่งดงามยิ่ง ก่อนหน้านี้เคยได้ยินมาว่าจวนสกุลหานร่ำรวยมั่งคั่งเป็นสกุลใหญ่สกุลหนึ่งของแผ่นดิน แต่เมื่อเทียบกับสิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้า คำเล่าลือเหล่านั้นกลับด้อยกว่ามากมายนัก สาวใช้ผู้ติดตามมาจากบ้านเดิมอย่างเสี่ยวถงยอบกายลงก่อนจะประคองคุณหนูลงมาจากเกี้ยวเจ้าสาวด้วยท่าทางระมัดระวังยิ่ง หนำซ้ำแววตาสีหน้ายังเผยให้เห็นความเคารพเลื่อมใสถึงเก้าส่วน “คุณหนู” เสียงของเสี่ยวถงในตอนนี้สั่นเทาด้วยความปลาบปลื้มยินดี เจียงซูหลันแตะหลังมือเบาๆ แล้วเอ่ยว่า “เข้าไปกันเถิด” ในเมื่อขึ้นเกี้ยวเจ้าสาวผ่านประตูใหญ่ของจวนสกุลหานมาถึงเรือนหลังนี้แล้วก็หมายความว่า นางไม่อาจหันหลังกลับหรือหลีกหนีฐานะภรรยาเอกของหานไป่จิ้ง ดังนั้นมีเพียงต้องเผชิญหน้ากับสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างมีสติเท่านั้น ที่สำคัญนางไม่อาจปล่อยให้ผู้ใดล่วงรู้ความลับภายในใจเด็ดขาด มิเช่นนั้นมิเพียงเป็นการทำลายชีวิตตน แต่ยังทำให้ตระกูลเจียงของนางต้องมัวหมองไปด้วย เรื่องราวความรู้สึก ทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับคนผู้นั้นล้วนต้องเก็บไว้เป็นความลับในใจ พอเงยหน้ามองป้ายอักษรหน้าเรือนหลังใหญ่ตรงหน้าพลันหรี่ตาลงเล็กน้อย เรือนเหิงเยว่ ชื่อนี้ช่างมีความหมายดียิ่งนัก ดูไปแล้วอาจคล้ายกับจวนสกุลหานแห่งนี้ก็เป็นได้ นางสูดหายใจแล้วก้าวเข้าสู่ด้านใน มองด้านนอกว่าใหญ่โตโอ่อ่า ด้านในช่างเหนือกว่ามากมายนัก ต้นไม้ใบหญ้า ดอกไม้ ภูเขาจำลอง สะพานโค้งเหนือสระบัว ที่นี่ล้วนมีทุกอย่างไม่ขาดแม้สิ่งเดียว แต่ดูเหมือนจวนเจ้าบ่าวแห่งนี้จะแตกต่างจากจวนอื่นมากนัก ที่อื่นบรรยากาศคงคึกครื้นทว่าที่นี่กลับเงียบเหงายิ่ง แม้กระทั่งโคมแดงก็ยังไม่มีแขวนไว้ ไม่รู้ว่าความจริงแล้วสถานที่จัดงานเลี้ยงอยู่ไกลเกินไป หรือสามีของนางผู้นั้นไม่ได้ใส่ใจกันแน่ หานไป่จิ้งไม่ได้ใส่ใจ นั่นคือ สิ่งที่เจียงซูหลันสัมผัสได้ในวันรุ่งขึ้น คืนเข้าหอไร้เงาเจ้าบ่าว ไร้พิธีการกราบไหว้ฟ้าดิน แม้แต่การคารวะน้ำชา คุกเข่ากราบไหว้บรรพชนตระกูลหานก็ไม่มี เจียงซูหลันจึงรู้ว่าไม่เพียงนางที่คิดไร้ใจไร้รักแต่เขาก็เป็นเช่นเดียวกัน ค่ำคืนที่ผ่านมาเห็นคุณหนูยังสวมชุดเจ้าสาว นั่งแผ่นหลังตรงอยู่เช่นนั้น ขอบตาของเสี่ยวถงแดงก่ำด้วยความสงสาร สุดท้ายจึงขยับเข้าใกล้เอ่ยเรียกออกมาคำหนึ่ง “คุณหนู” “เก็บโต๊ะเถิด” เบื้องหน้าของนางยังมีอาหารคาวหวานหลายจาน แม้หน้าเรือนจะไม่ผูกโคมแดงแต่ด้านในก็ยังมีเทียนมงคลเล่มใหญ่ บัดนี้เทียนดับแล้วแต่ยังเหลือน้ำตาเทียนให้เห็น “ช่วยข้าเปลี่ยนชุด” นางเอ่ยปากเพียงเท่านั้นก็ลุกจากเก้าอี้ แต่กว่าจะเดินได้อย่างมั่นคงกลับต้องรวบรวมแรงใจไม่น้อย หลังเปลี่ยนชุด จัดแต่งทรงผมเป็นหญิงสาวออกเรือนแล้ว ใบหน้าที่ปรากฏในกระจกนั้นย่อมเผยความขื่นขมออกมา แต่ชั่วอึดใจหนึ่งก็เลือนหายไป นางจะเจ็บปวดไปทำไม ในเมื่อก่อนแต่งเข้ามาเป็นฮูหยิน ของเขา สิ่งเหล่านี้ล้วนคาดหวังเอาไว้แล้วทั้งสิ้น หนำซ้ำนางยังคาดหวังให้ผลลัพธ์เป็นมากกว่านี้ด้วยซ้ำ อย่างเช่น เขากับนางไม่ต้องพานพบ อยู่ในจวนเดียวกันก็เสมือนตายจากไปนานแล้ว ไม่ต้องทำหน้าที่ภรรยาปรนนิบัติสามีนับว่าชาตินี้นางสมปรารถนาไม่ต้องอ้อนวอนต่อสวรรค์เบื้องบนให้เมตตา ทางด้านเจ้าบ่าวที่หายไปในคืนแต่งงานน่ะหรือ ท้ายจวนสกุลหานในฝั่งตะวันออกเป็นที่ตั้งของเรือนก้งเยว่ กว่าจะไปถึงเรือนก้งเยว่ได้ต้องผ่านภูเขาจำลองขนาดใหญ่ ยามนี้ดอกหลิงเซียวสีส้มกำลังเบ่งบานดูงดงามยิ่ง ทว่าพอก้าวเข้าเขตเรือนชั้นในบรรยากาศช่างแตกต่างกันมากเหลือเกิน ราวกับสถานที่อย่างเรือนก้งเยว่แห่งนี้ไม่ได้อยู่ในจวนสกุลหานอย่างไรอย่างนั้น รอบเรือนทั้งภายนอกภายในเงียบสงัด ค่อนข้างวังเวงและน่ากลัวเป็นอย่างยิ่ง ด้านในนั้นมีบุรุษสองคนที่มีศักดิ์ฐานะแตกต่างกัน คนหนึ่งสวมอาภรณ์สีดำนั่งอยู่บนตั่งตัวยาวสีหน้าแม้จะเรียบสนิทแต่กลับซีดเซียวอยู่บ้าง อีกคนท่าทางนอบน้อมดูปกติกระทำการสิ่งใดล้วนระมัดระวังเป็นอย่างยิ่งกระทั่งช่วยคุณชายปลดเสื้อคลุมตัวนอกออก ห้าวอี้ในวัยยี่สิบเจ็ดปีถึงได้ลอบสูดหายใจคราหนึ่ง กลิ่นเลือดคาวคลุ้งมาพร้อมกับลิ่มเลือดสีดำเข้มติดอยู่ตรงหัวไหล่ข้างซ้ายของหานไป่จิ้ง ร่องรอยที่เห็นคล้ายจะเกิดจากกระบี่แหลมคมทิ่มแทง และกระบี่นี้ยังอาบด้วยยาพิษอีกด้วย “นายท่าน” ห้าวอี้เรียกแล้วรีบหยิบกล่องไม้ขนาดใหญ่ใต้ตั่งออกมา พอเปิดฝาออกก็จะพบกับขวดหยกหลากสี หานไป่จิ้งเหลือบตามองทีหนึ่งก่อนจะหยิบขวดสีขาวพลางกัดฟันสั่ง “ใส่ยาให้ข้า” ห้าวอี้ไม่พูดอะไร รีบใส่ยาพันแผลให้ เพราะรู้ดีว่าคุณชายของตนนั้นมีความเชี่ยวชาญในการใช้พิษและยาถอนพิษเป็นอย่างดี จัดการกับแผลเรียบร้อยจึงอดพูดออกมาไม่ได้ “ได้ยินมาว่าไห่ฉวนรีบร้อนมารอพบคุณชายตั้งแต่ยามจื่อที่ผ่านมาแล้ว คาดว่าน่าจะเป็นเรื่องของฮูหยินที่เข้าจวนมาเมื่อเช้าวานนี้” สกุลไห่ผู้นี้เป็นพ่อบ้านของจวนสกุลหานหลายชั่วอายุคนแล้ว ตั้งแต่รุ่นปู่จนกระทั่งตอนนี้เป็นบุตรชายอายุสามสิบปีต้นๆ เรื่องฝีมือของไห่ฉวนนับว่าอยู่เหนือผู้อื่นอยู่มาก ในเมืองหลวงอาจจะร่ำลือกันไปว่าอนุภรรยาของหานเต๋อเป็นคนจัดการทั้งมัน แต่ความเป็นจริงนั้นลี่อี๋เหนียงหาได้มีอำนาจตัดสินใจเรื่องใหญ่น้อยภายในจวนแห่งนี้ไม่ นางเป็นเพียงคนที่ถูกผู้อื่นใช้งาน เป็นหมากเบี้ยที่สักวันหนึ่งต้องถูกจัดการทิ้ง ทว่ายามนี้นางยังพอมีประโยชน์หานไป่จิ้งจึงปล่อยให้ใช้ชีวิตอยู่ในจวนสกุลหานต่อไป พอนึกถึงภรรยาเอกของตนที่เพิ่งเข้าจวนมา หัวคิ้วพลันขยับเข้าหากัน แต่หลังจากนั้นกลับไม่ปรากฏความรู้สึกใดๆ ให้เห็นอีกเลย เมื่อคุณชายไม่มีคำสั่งอะไรออกมา ห้าวอี้จึงทำเพียงก้มหน้าเก็บกวาดทุกอย่างในเรือนให้กลับสู่ปกติ หนำซ้ำยังจุดกำยานเพื่อกลบกลิ่นคาวเลือดอีกด้วย

editor-pick
Dreame-Editor's pick

bc

บอสคนนี้เป็นของเธอนะ

read
3.9K
bc

ใต้ปีกเจ้าพ่อ

read
2.5K
bc

มัดใจ'รุ่นพี่วิศวะตัวร้าย

read
6.8K
bc

ชะตาต้องรัก

read
3.5K
bc

รักนอกพันธสัญญา

read
3.7K
bc

หัวใจของยมฑูตอบอุ่นมากนะ : Grim Reaper and The Warm Heart

read
1.0K
bc

แค้นรักวายุภักษ์

read
1.3K

Scan code to download app

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook