ตอน พลาดพลั้ง (3)

3354 Words
มาลินีมองหน้าเขา เขานิ่งดูปฏิกิริยาของเธอ ครู่หนึ่งผ่านไป เธอหลุบสายตาและกดโทรศัพท์โอนเงินใส่บัญชีตามหมายเลขที่เห็นในหน้าจอของชูศักดิ์ “โปรดลบรูปของฉันทั้งหมดออกจากโทรศัพท์คุณด้วย” มาลินีกัดฟันพูดขณะเก็บโทรศัพท์ของเธอลงกระเป๋าถือ “ได้จ้ะที่รัก คุณลบเองได้เลยเพื่อความชัวร์” ชูศักดิ์คลิกเปิดภาพในอัลบั้มหนึ่งและส่งโทรศัพท์ให้เธอ มาลินียื่นมือรับโทรศัพท์เครื่องนั้นมาถือไว้และเลื่อนสายตาไปที่หน้าจอ เธออ้าปากค้างเมื่อเห็นภาพในโหมดฉายสไลด์อัตโนมัติ มันเป็นภาพการร่วมประเวณีระหว่างเธอกับเขาอย่างโจ่งแจ้งโดยเห็นใบหน้าและอากัปกิริยาของเธอเพียงฝ่ายเดียว ซึ่งเธอเดาได้ว่าชูศักดิ์เป็นผู้ตั้งกล้องถ่ายภาพดังกล่าวไว้ก่อนที่เธอจะเข้าไปในบังกะโลริมหาดที่ชุมพร มีตัวหนังสือมุมล่างแสดงวันเวลาที่บันทึกไว้ว่า 28/11/62 - 19.43 มาลินีเพ่งมองสีหน้ารื่นรมย์ของตัวเธอเอง ริมฝีปากแย้มอ้าเป็นรอยยิ้ม นัยน์ตาฉ่ำเยิ้มเคลิ้มฝัน มันแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าเธอกำลังอยู่ในแดนสุขาวดีที่เธอมีความสุขอย่างเปี่ยมล้น เธอเป็นตัวของตัวเอง มีอิสระ เป็นธรรมชาติ ไม่เขินอาย และไม่มีลักษณะของการถูกบังคับหรือฝืนใจ มาลินีเพ่งมองภาพเหล่านั้นเนิ่นนานก่อนกดปุ่มลบภาพรวดเดียวทั้งชุด “สบายใจแล้วใช่ไหมที่รัก” ชูศักดิ์เขยิบร่างเขาเข้ามาชิดเก้าอี้นวมไร้พนักวางแขนที่เธอนั่งอยู่ เขารับโทรศัพท์ที่เธอส่งคืนมาขณะที่สมองของมาลินียังเต็มไปด้วยภาพของตนเองกับเขาหลายสิบภาพในอิริยาบทอันปลุกเร้าที่เพิ่งผ่านตาไป “มาลินี คุณรู้ไหมว่าคุณเป็นนักรบตัวจริงในสนามนั้น” ชูศักดิ์จับคางเธอให้หันไปทางเตียงนอนขนาดคิงไซส์ “คุณอยากทำแบบนี้ไหม” เขาเปิดโทรศัพท์อีกครั้งและคลิกเปิดภาพเคลื่อนไหวที่มีเสียงประกอบชัดเจน มาลินีพยายามเบือนหน้าหนี แต่ชูศักดิ์ยัดโทรศัพท์ใส่มือเธอและจับมือเธอให้ยกดูหน้าจอ มาลินีมองเห็นหญิงผมสีส้มผู้มีผิวขาวจัดและร่างที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามของชาวผิวดำสนิทกำลังกระทำต่อกันในลักษณะพิสดาร เธอเคยเห็นท่าทางแบบนี้จากภาพแกะสลักหินของโบราณสถานบางแห่งในภาพยนต์สารคดีต่างประเทศ มาลินีหายใจถี่ เธอส่งโทรศัพท์คืนให้ชูศักดิ์ซึ่งรับไปวางบนโต๊ะโดยที่ยังเปิดให้เสียงจากวิดีโอดังกล่าวดังออกมา จากนั้นเขาก็ผละไปที่ตู้เย็นมุมห้อง เขาเปิดหยิบขวดสีเขียวอ่อนจากช่องแข็งออกมา “คุณจะเข้าไปอยู่ในแดนมหัศจรรย์อีกครั้ง คุณจำประสบการณ์นั้นได้ใช่ไหม” ชูศักดิ์แนบขวดแก้วเย็นเฉียบลงที่ต้นคอมาลินี เขาพูดต่อ “ผมรู้ว่าคุณโหยหารสชาติที่คุณพบเจอที่ชุมพร คุณเก็บซ่อนตัวจริงของมาลินีไว้ในท่าทีสงบเสงี่ยม คุณถูกครอบไว้ด้วยฐานะสะใภ้ของครอบครัวผู้ดีเก่า ในฐานะเมียของคนที่เคยเป็นหัวหน้างานผู้ผลักดันให้คุณก้าวขึ้นสู่ระดับนำขององค์กร แต่คุณรู้อะไรไหม ผมรู้ว่ามันไม่ได้สร้างความพึงพอใจให้กับคุณเท่ากับการมีเซ็กซ์ดีๆ สักวันละครั้ง มาลินี คุณต้องการมัน ผมรู้” มาลินีหลับตาขณะที่ชูศักดิ์เชยคางของเธอขึ้นแล้วรินน้ำจากขวดสีเขียวเข้าไปในปากเธอ... กลางเดือนมิถุนายน 2563 ชูศักดิ์ติดต่อหามาลินีเป็นครั้งที่สอง เขาส่งข้อความแนบภาพถ่ายของเธอในชุดเครื่องแบบของบริษัทเงินทุนศรีสมิธที่เธอใส่ไปหาเขาที่คอนโดฯ ในครั้งแรกที่เขารีดเงินเธอ ในภาพดังกล่าวเธอนั่งอยู่บนตักของเขาบนเก้าอี้นวมในอิริยาบทที่ใครก็ดูออกว่าคนทั้งสองกำลังทำกิจกรรมทางร่างกายร่วมกัน ภาพนั้นแสดงให้เห็นใบหน้าเปรมปรีดิ์ของมาลินีอย่างชัดเจน เธอจำใจไปที่คอนโดฯ ของเขาอีกครั้งและโอนจ่ายเงินไปอีกสามแสนบาท ปลายเดือนสิงหาคม 2563 ชูศักดิ์ส่งภาพถ่ายที่เธอไม่คิดว่าจะได้เห็นมาทางกล่องข้อความในโทรศัพท์ มันเป็นภาพของเธอในห้องเดอลุกซ์ของโรงแรมที่ชายหาดชะอำสมัยเมื่อครั้งที่เธอยังมีสัมพันธ์กับชายผู้ใช้ชื่อว่าแซมเมื่อปี 2556 “คุณไปเอาภาพพวกนี้มาจากไหน!” มาลินีถามเขาด้วยเสียงเบาเหมือนกระซิบขณะขอตัวจากกลุ่มเพื่อนร่วมงานที่กินอาหารด้วยกันในศูนย์การค้า เธอเดินเลี่ยงกลุ่มคนพลุกพล่านไปยังลานน้ำพุที่ส่งเสียงซ่ากลบเสียงอื่นรอบตัว “อ๋อ มันเกลื่อนอยู่ในเว็บโป๊ของเมืองนอกที่ต้องสมัครสมาชิกแพงจัดเชียวละถึงจะได้ดู ผมซูมภาพออกมาก็เห็นว่าหน้าตานักแสดงออกจะคุ้น” “มันเข้าไปอยู่ในเว็บนั้นได้อย่างไร!” “คุณยอมรับใช่ไหมว่าเป็นภาพคุณ” มาลินีนิ่งไป ชูศักดิ์พูดต่อ “อย่างนี้นะ ผมจะบอกอะไรให้ คือคนที่เขาเอาคลิปกับภาพไปขายให้แอดมินของเว็บนั้นเป็นคนไทยนี่แหละ ผมสืบถามไปสองสามทอดก็เจอตัว เขามีภาพอย่างว่าเยอะ ถ่ายจากห้องของโรงแรมสี่ดาวที่คุณกับแฟนเก่าเข้าไปแสดงหนังโป๊กันบ่อยๆ นั่นแหละ คนขายคลิปเขาทำงานฝ่ายซ่อมบำรุงสถานที่และเขาก็มีฝีมือด้านนี้ เขาซ่อนกล้องไว้ที่ช่องแอร์ทุกห้อง แล้วเขาคอยดูว่าห้องไหนหนุ่มสาวเข้าไปเขาก็แอบบันทึกภาพไว้ พอมีเวลาเขาก็เอาคลิปมาตัดต่อทำเป็นหนังชุดขายหาเงินใช้หลายปีมาแล้ว ผมตะล่อมกล่อมจนเขายอมขายคลิปวิดีโอต้นฉบับของคุณให้สิบเจ็ดนาที แต่ราคาแพงระยับ เขาคิดนาทีละหมื่น คุณจะซื้อต่อผมไหม ผมรับรองได้ว่ามันจะไม่ไหลออกไปสู่สื่อสาธารณะอย่างเด็ดขาด คือจริงๆ ผมก็เป็นห่วงคุณมากเลยนะ มาลินี ผมกลัวคุณจะเสียครอบครัว เสียงานไปหากมีใครเอาคลิปพวกนี้ไปเผยแพร่ต่อ สำหรับคลิปและภาพเก่าชุดนี้ผมเอากำไรนิดหน่อย คุณจ่ายผมเพียงสองแสนก็พอ คุณจะได้รับตัวต้นฉบับเลยละ มันอยู่ที่คอนโดของผม เย็นนี้เจอกัน...”... ... ...หลังจากนั้นมาลินีจำยอมจ่ายเงินให้ชูศักดิ์อีกสามครั้ง ซึ่งครั้งสุดท้ายคือกันยายนปีที่แล้ว เขาเรียกร้องเงินถึงห้าแสนบาทแลกกับการเลิกตอแยกับเธอ ชูศักดิ์หายเงียบไปตลอดระยะเวลาห้าเดือน ขณะที่เธอกำลังเริ่มโล่งใจว่าหลังจากนี้เธอคงพ้นจากเรื่องเลวร้ายที่เผชิญมาถึงสองปี และแล้ววันนี้ 16 กุมภาพันธ์ 2565 เขาก็ติดต่อมาพร้อมกับข้อเสนอ เขาต้องการเงินก้อนใหญ่จากเธอหนึ่งล้านบาทเพื่อแลกกับแฟลชไดรฟ์ที่เขาบอกว่าเป็นสำเนาคลิปและภาพทั้งหมดของเธอทุกชุดที่เขาเก็บไว้ เธอควรทำอย่างไรดี มาลินีสะบัดศรีษะไล่ความคิดที่ถ่วงหนักออกไปขณะที่นายมงคลพารถเลี้ยวเข้าไปจอดหน้าสำนักงานใหญ่ของบริษัทเงินทุนศรีสมิธ ถนนรัชดาภิเษก เธอต้องเข้าประชุมแล้ว เรื่องอื่นเอาไว้ก่อน หัวค่ำวันนั้น หลังจากวิ่งออกกำลังบนลู่ไฟฟ้าจนเหงื่อโซมไปทั้งตัวและอาบน้ำทำความสะอาดร่างกายแล้ว มาลินีพาเด็กชายตะวันเข้านอนเมื่อเวลาสองทุ่ม เธอห่มผ้าให้ลูกชายและฟังเขาร้องเพลงที่คุณปู่สอน เธอพูดคุยและหัวเราะกับเด็กน้อยจนเขาหลับไป ชัยภัทรโทรศัพท์บอกเธอไว้ว่าเขาต้องกลับดึกเพราะมีงานพบปะสังสรรค์และปรึกษางานกับผู้จัดการสาขาที่จังหวัดนครปฐม มาลินีมองลูกชายที่หายใจเป็นจังหวะ นัยน์ตาหลับพริ้ม ปากอิ่มเผยอ แก้มกลมสองข้างเป็นสีชมพู แขนขาไม่มีตุ่มยุงกัด เขาเป็นเด็กที่ไม่รู้จักความลำบาก ไม่มีเรื่องทุกข์ใจ เขาเกิดมามีทุกสิ่งเพียบพร้อม มีพ่อแม่ผู้มอบความรักแก่เขาจนหมดหัวใจ มีคุณตาคุณยายอยู่ที่ต่างจัดหวัด มีคุณปู่คุณย่าผู้คอยเลี้ยงดูประคับประคอง ท่านทั้งสองเป็นครูผู้สอนและถ่ายทอดความรู้ต่างๆ แก่เขา นอกจากนั้นยังมีที่อยู่อาศัยอันสะดวก สบาย ปลอดภัย พร้อมบริวารรายรอบ เด็กชายตะวันขยับตัวควานมือลอดผ้าห่มออกมาเพื่อเกาใบหน้า มาลินีเอื้อมมือไปสัมผัสแก้มของเขาและลูบเบาๆ เด็กน้อยถอนใจยาว เขายิ้มออกมาขณะเที่ยวเล่นอยู่ในอาณาจักรนิทราอันอบอุ่น มาลินีจับมือเล็ก ๆ ของเขาไว้และก้มหน้าลงจุมพิตมือข้างนั้นเนิ่นนาน เธอกำลังคิดหาทางออกกับปัญหาที่เธอกำลังเผชิญ พรุ่งนี้เช้าเธอต้องติดต่อกลับไปหาชูศักดิ์ก่อนเก้าโมงเช้าเพื่อบอกเขาว่าเธอจะโอนเงินหนึ่งล้านบาทให้ หรือไม่เช่นนั้นเขาจะเข้ามาที่สำนักงานของเธอเพื่อเอาโฉนดปลอมมาทำการกู้เงิน ซึ่งเธอจะต้องเซ็นอนุมัติและเบิกเงินให้เขาไป เธอยังมีทางเลือกอื่นอยู่อีกไหม มาลินีถามตัวเอง เวลาผ่านไปครู่ใหญ่ขณะที่มาลินีใช้เวลาครุ่นคิด เธอมองนาฬิการูปซูเปอร์แมนที่แขวนบนผนังห้อง สามทุ่มกว่าแล้ว อีกนานกว่าชัยภัทรจะถึงบ้าน เพราะเขาต้องขับรถมาจากนครปฐม มาลินีผุดลุกขึ้นจากเตียงของลูกชายและเริ่มเดินกลับไปกลับมา เสียงเครื่องปรับอากาศแผ่วเบากับเสียงหายใจเป็นจังหวะของเด็กน้อยทำให้อารมณ์ที่กระเพื่อมไหวของเธอค่อยสงบลง มาลินียอมรับกับตนเองว่าในเวลานี้เธอกลัวสูญเสียทุกอย่าง ทั้งลูก สามี ชื่อเสียง และการงานที่เพิ่งเริ่มต้นเป็นผู้บริหารสาขา เธอครุ่นคิดหาคำตอบในการแก้ปัญหาที่เธออดทนแบกรับอย่างเงียบเชียบมาถึงสองปี เธอวางแผนการคร่าวๆ ไว้สามทางเลือก ซึ่งทุกทางเลือกเธอต้องสูญเสียบางอย่างไป แต่คงไม่ใช่ทั้งหมด ทางเลือกที่หนึ่ง ในฐานะภรรยาเธอจะบอกความจริงแก่ชัยภัทรถึงสิ่งที่เธอได้กระทำไปและพร้อมรับการตัดสินใจของเขา จากนั้นเธอจะไปสถานีตำรวจและเล่าเหตุการณ์ให้เจ้าหน้าที่ฟัง เธอจะซ้อนแผนจับกุมชูศักด์ โดยเธอจะนัดให้เขามาที่สำนักงานสาขาโดยให้เขานำแฟลชไดรฟ์มาด้วย เจ้าหน้าที่ผู้ซ่อนตัวอยู่ในห้องทำงานของเธอจะออกมาจับกุมเขาโดยละม่อมโดยที่คนในบริษัทไม่รู้รายละเอียดว่าเป็นเรื่องอะไร เธอจะขอร้องทางตำรวจให้ช่วยกันนักข่าวออกไปไม่ให้มาเกี่ยวข้อง มันจะไม่เป็นข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์หรือสื่อออนไลน์ วิธีนี้จะช่วยให้เธอสามารถรักษาการงานไว้ได้ แต่ชีวิตครอบครัวของเธอล่ะ ชัยภัทรจะให้อภัยเธอไหม ถ้าเธอเป็นเขาเธอจะยอมหรือเปล่าที่ภรรยาไปมีเพศสัมพันธ์กับชายอื่นไม่ว่าจะรู้ตัวหรือถูกวางยา และหากเขาขอหย่า เธอจะทำอย่างไร เธอจะต้องย้ายออกจากบ้านนี้ สิทธิการเลี้ยงดูลูกคงเป็นของเขาเพราะความเสื่อมเสียที่เธอทำไว้ หรือหากชัยภัทรให้อภัย เธอจะทนสู้หน้าคุณดนัยและคุณเพ็ญไหวหรือ ไม่ต้องพูดถึงพ่อแม่ของเธอซึ่งหากเรื่องนี้ขยายออกไปถึงตำบลมาลาคำ ท่านคงต้องซ่อนหน้าไม่อยากให้ใครพบเห็นหรือมาถามไถ่ถึงลูกสาว นอกจากนั้นคลิปฉาวโฉ่ของเธออาจแพร่กระจายไปเหมือนไฟลามทุ่งหากชูศักดิ์ทำสำเนาและส่งต่อให้ผู้อื่นเห็น หรือเธอควรปกปิดเรื่องนี้ไว้โดยไม่ให้ชัยภัทรรับรู้ เธอจะขอร้องทางตำรวจให้ทำคดีนี้อย่างเงียบเชียบและปิดความไว้จากนักข่าวโดยไม่ให้กระทบกระเทือนถึงชื่อเสียงและเกียรติภูมิของครอบครัวสามี เธอต้องจ่ายเงินปิดปากเจ้าหน้าที่ไหมนะ มาลินีถามตัวเอง ถ้าจ่ายครั้งแรกไปแล้วเธอเชื่อว่ามันต้องมีครั้งต่อไปแน่นอนแบบเดียวกับการขว้างงูไม่พ้นคอ และมันเป็นไปได้หรือที่หากชูศักดิ์ถูกจับกุมแล้วจะไม่เป็นข่าว มาลินีส่ายศีรษะขณะก้าวเดินช้าๆ ในห้องเด็กชาย เธอนึกเสียดายเงินสองล้านบาทที่เคยเสียให้ชูศักดิ์ และหากเธอยังต้องการรักษาสถานภาพของตนให้เป็นปกติสุขเธอจะต้องหาเงินมาให้เขาอีกหนึ่งล้านบาทในวันพรุ่งนี้ แต่เธอหมดปัญญาหาเงินมาให้เขาแล้ว เงินส่วนตัวของเธอที่เก็บออมไว้ก็จ่ายให้ชูศักดิ์ไปจนเกือบหมดโดยที่ชัยภัทรไม่ระแคะระคาย เป็นตายร้ายดีอย่างไรเธอจะไม่แตะต้องเงินส่วนกลางในบัญชีของลูกชายอย่างเด็ดขาด มาลินีกัดฟันบอกตนเอง มาลินีพุ่งความคิดไปยังทางเลือกที่สอง ด้วยอำนาจหน้าที่ของเธอในฐานะผู้จัดการสาขาของบริษัทเงินทุนศรีสมิธทำให้เธอมีสิทธิ์เข้าถึงบัญชีลูกค้าสำคัญ ซึ่งหลายคนเป็นผู้สูงอายุที่นำเงินก้อนสุดท้ายมาลงทุนทิ้งไว้และรับแต่ดอกเบี้ยไปใช้ทุกเดือนตามสัญญาที่ผูกไว้ยาวนาน เงินต้นเหล่านั้นเธอสามารถนำไปหมุนในลักษณะงูกินหางได้โดยไม่มีใครรู้ ซึ่งหากเธออนุมัติเงินกู้ให้ชูศักดิ์โดยที่เขารับเงินไปโดยผลักภาระให้เธอเป็นคนชำระหนี้แทน เธออาจนำเงินลงทุนที่นอนแช่อยู่ในหลายบัญชีมาเวียนจ่ายคืนให้บริษัท เธอสามารถแก้ไขตัวเลขในระบบคอมพิวเตอร์ให้เกลื่อนกลืนข้อมูลจนสมดุลโดยที่ไม่มีใครสังเกตเห็น และหากเธอใจกล้า เธออาจโอนเงินของบริษัทเข้าบัญชีเธอครั้งละไม่มากเผื่อวันหน้าเธอมีเหตุต้องใช้ มาลินีทำงานกับระบบปฏิบัติการของบริษัทจนรู้วิธียักย้ายให้ตัวเลขเหลื่อมกันชนิดลอดตาไปหากไม่มีการตรวจสอบอย่างละเอียด แต่เธอจะกล้าทำเช่นนั้นหรือ เธอถามตนเอง แล้วเธอก็ตอบตนเองได้ในทันทีว่าเธอเติบโตมาไม่ใช่เพื่อการคดโกง เธออาจทำผิดพลาดเรื่องอื่น แต่เรื่องความซื่อสัตย์ต่อที่ทำงานและลูกค้านั้นเป็นสิ่งที่เธอสามารถยกมือไหว้ตนเองได้ เธอเดินกลับไปกลับมาอีกหลายรอบขณะใคร่ครวญถึงทางเลือกต่อไป มาลินีเม้มปากขณะจินตนาการ... พรุ่งนี้เมื่อไปถึงสำนักงานแล้วเธอจะโทรศัพท์บอกชูศักดิ์ว่าเธอเปิดเซฟธนาคารและเอาเงินสดออกมาหนึ่งล้านบาทใส่กระเป๋าถือเตรียมไว้แล้ว เธอจะนัดเวลาและขับรถไปที่คอนโดฯ ของเขา ในกระเป๋าถือของเธอไม่มีเงินหนึ่งล้านบาท แต่มีมีดปอกผลไม้คมกริบหนึ่งด้าม ขณะยืนหน้าห้องเธอจะล้วงมันออกมาซ่อนไว้ในมือ เมื่อเขาเปิดประตูหลังจากเสียงเคาะเธอจะวิ่งเข้าประชิดและแทงหัวใจเขาอย่างรวดเร็ว จากนั้นเธอจะโทรแจ้งตำรวจและรอมอบตัว เธอจะยอมติดคุก ความตายของเขาจะช่วยให้เธอพ้นจากความวิตกกังวลที่กัดกินจิตวิญญาณของเธอมากว่าสองปี หากเธอจะต้องสูญเสียทุกสิ่งที่เธอมีจากการตกเป็นข่าวฉาวตามที่เขาขู่ เธอขอเลือกวิธีนี้ให้จบเรื่องไป ทันใดนั้นมาลินีได้ยินเสียงประตูใหญ่หน้าบ้านซึ่งใช้ระบบอัตโนมัติเลื่อนเปิดออก ชัยภัทรกลับมาแล้ว มาลินีหยุดความคิดไว้ เธอก้มตัวจูบหน้าผากเด็กชายตะวันอย่างแผ่วเบา จากนั้นเดินออกจากห้องนอนของเขา “อ้าว น้อย ยังไม่นอนหรือ” ชัยภัทรยิ้มอย่างดีใจและรี่เข้ามาหามาลินีที่เปิดประตูบ้านรับ เขากางแขนกอดเธอไว้ “เหนื่อยจังเลย ประชุมนอกรอบแล้วมันจบยาก พูดกันแต่เรื่องเงินเฟ้อและหนี้เสีย ทางนครปฐมมีปัญหาลูกหนี้เก่าไม่มีเงินชำระจากวิกฤตโควิด คุยสั้นๆ ไม่ได้ ต้องยาวไป ระดมสมองกันว่าจะทำอย่างไร แต่เหมือนผมจะเป็นคนคิดฝ่ายเดียวให้พวกเขา หัวผมระบมขับรถแทบไม่ถึงบ้าน” ชัยภัทรพูดเสียงอ่อย “ดื่มน้ำเย็นไหมคะ น้อยไปเอาให้” “ขอเปลี่ยนเป็นช่วยนวดคอกับบ่าให้ผมหน่อยได้ไหม” ชัยภัทรทรุดตัวลงนั่งบนโซฟา เขาจับมือมาลินีกดที่บ่าอันแข็งตึงของเขา มาลินีจูบขมับเขาอย่างเห็นใจและลงมือบีบนวดไปทั่วบริเวณหัวไหล่และต้นคอเรื่อยไปถึงท้ายทอย ชัยภัทรมีท่าทีเหมือนจะหลับลงไปเมื่อกล้ามเนื้อที่ปวดเกร็งผ่อนคลายลง “ขอแอสไพรินให้ผมสองเม็ด” เขางึมงำ มาลินีรีบเดินไปห้องกลางและเปิดตู้ใบเล็ก เธอหยิบขวดยาแก้ปวดออกมาแล้วเดินไปรินน้ำอุ่นใส่แก้ว “น้อยจ๋า ช่วยเอาผ้าชุบน้ำเย็นๆ มาด้วย” ชัยภัทรส่งเสียงบอกมาจากโซฟา มาลินีเดินเข้ามาในห้องนั่งเล่นพร้อมกับแก้วน้ำ ยาสองเม็ด และผ้าขนหนูเปียกหมาด เธอป้อนยาให้ชัยภัทร ถือแก้วน้ำจ่อปากเขา จากนั้นใช้ผ้าขนหนูเช็ดไปทั่วใบหน้าและต้นคอให้สามี “ตะวันเป็นไงบ้างวันนี้” ชัยภัทรเอ่ยปากถามเธอ “ซนเหมือนเคยค่ะ กว่าจะจับนอนได้ต้องวิ่งไล่กันหลายรอบ น้อยนึกเห็นใจคุณพ่อกับคุณแม่ว่าท่านต้องตะครุบจอมซนทั้งวัน” มาลินีบอกเขา “สงสัยต้องหาเพื่อนมาให้เล่นด้วย ไม่งั้นคุณพ่อคุณแม่ต้องหมดแรงสักวัน เด็กมีพลังเยอะ เคลื่อนไหวร่างกายได้ตลอดเวลา แต่คนแก่ต้องนอนพักผ่อนมากกว่าปกติ” “นั่นสิคะ ตอนน้อยเล็กๆ ก็วิ่งเล่นทั้งวันเหมือนกัน ตกเย็นก็เฮฮาอยู่กับเพื่อนๆ พ่อกับแม่ต้องถือไม้เรียวเรียกไปอาบน้ำ” มาลินีเออออกับสามีขณะที่ในใจเธอต้องการสารภาพกับเขาให้หมดเปลือก “มีลูกอีกสักคนน่าจะดีนะน้อย ตะวันจะได้มีเพื่อน ผมเชื่อว่าปลายปีนี้โควิดคงแผ่วลง เศรษฐกิจน่าจะฟื้นตัวปีหน้า ปีนี้น้อยใช้เวลาตั้งท้องไปดีไหม คลอดลูกปลายปี ลาคลอดสักสองเดือนก็ได้ ไม่ต้องห่วงเรื่องงาน ผมจะคอยแบ๊กอัปให้ งานผู้จัดการไม่ยากถ้ามีลูกน้องดี สาขาคุณได้คนชั้นยอดทั้งนั้น ตกลงนะจ๊ะ” ชัยภัทรดึงภรรยาเข้ามากอดอย่างรักใคร่ เขาลูบไล้เนื้อตัวมาลินีครู่หนึ่งแล้วดึงเธอให้ลุกขึ้นตามเขา “คอผมค่อยยังชั่วแล้ว คุณนวดให้ผมดีมากเลย ขอเวลาอาบน้ำแป๊บนึงนะ เดี๋ยวเราช่วยกันพาน้องมาให้เจ้าตะวันสักคน แฝดเลยก็ได้ สามคนกำลังเหมาะ” มาลินีเดินตามหลังสามีเข้าห้องนอนและตามเก็บเสื้อผ้าของเขาใส่ตะกร้า ชัยภัทรเปิดฝักบัวอาบน้ำครู่หนึ่งและเช็ดตัวจนแห้ง เขาสวมเสื้อคลุมเดินออกมา เมื่อไม่เห็นภรรยาเขาก็เดินไปยังห้องเด็กชายตะวัน เขาเห็นมาลินีนั่งข้างเตียงเด็กน้อย ชัยภัทรเดินเข้าไปจ้องดูลูกชายที่หลับสนิทและเผยอปากขยับราวกับกำลังฝันถึงอาหาร ชัยภัทรคุกเข่าลงและก้มลงจูบหน้าผากเด็กน้อยและแนบแก้มลงกับใบหน้าลูกชายพร้อมกับงึมงัมร้องเพลงเสียงเบาๆ ครู่หนึ่งจากนั้นเขาก็จูงแขนมาลินีกลับห้องนอน มาลินีลืมตาครุ่นคิด ขณะที่ชัยภัทรหลับไปหลังจากใช้เวลาไม่ถึงสิบนาทีร่วมรักกับเธอ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD