เจฟฟรีย์นั่งคิดนอนคิดมาสามวันก็ยังหาทางออกไม่ได้จึงตัดสินใจโทรไปปรึกษาเพื่อนสนิทซึ่งมีอาชีพเป็นหมอ ทางนั้นแนะนำให้เขาจ้างหญิงสาวมาอุ้มบุญเพื่อจบปัญหาในเมื่อแม่อยากได้หลานแต่ลูกไม่อยากมีเมีย การอุ้มบุญคือทางออกที่ดีที่สุด ชายหนุ่มเห็นด้วยกับวิธีแก้ปัญหาของเพื่อนจึงตัดสินใจใช้วิธีอุ้มบุญทำหลานให้มารดาแต่มีข้อแม้ว่าผู้หญิงที่มาอุ้มบุญต้องเป็นคนไทยเท่านั้นและมีคุณสมบัติอีกหลายข้อตามที่เขาคิดเอาไว้ ถ้าใครผ่านเขาก็จ้างทันทีพร้อมกับเงินก้อนแรกสิบล้านบาท
"ไปจัดการตามที่สั่งอีกสองวันฉันจะไปประเทศไทย" เขาสั่งลูกน้องคนสนิทให้ไปที่ประเทศไทยเพื่อรับสมัครหญิงสาวมาอุ้มบุญโดยมีค่าจ้างสูงถึงสามสิบล้านบาท อันเดรเป็นทั้งเลขาและบอดี้การ์ดจึงลุกขึ้นโค้งคำนับเพื่อทำความเคารพแล้วเดินออกจากห้องของเจ้านายหนุ่มด้วยความรู้สึกที่หนักอึ้งเพราะไม่รู้ว่าภารกิจครั้งนี้จะสำเร็จหรือไม่
"เป็นไงบ้างว่ะ เจ้านายว่ายังไง" แอนดริวเลขาอีกคนของเจฟฟรีย์เอ่ยถามคู่หูของตนทันทีที่เห็นหน้า เขาถูกสั่งให้ดูแลงานข้างนอกจึงไม่ได้เข้าไปฟังด้วยแต่เห็นหน้าของอันเดรแล้วคิดว่าเรื่องใหญ่แน่นอน
"เจ้านายสั่งให้กูไปประเทศไทย"
"ไปทำไม งานมีปัญหาเหรอ"
"หึ สั่งให้ไปหาผู้หญิงมาอุ้มบุญลูกของเจ้านาย"
"หะ! อุ้มบุญ นี่เจ้านายเอาจริง กูคิดว่าพูดเล่น"
"อืม เอาจริงต้องหาให้ได้ภายใน Week นี้ด้วย"
"โชคดีเพื่อน"
"เฮ้อ"
ประเทศไทย
หลังจากตกงานแก้วใสก็กลับมาตั้งหลักอีกครั้งที่บ้านเกิดของตนเองนั่นก็คือกรุงเทพ หล่อนไม่ต้องการกลับมาสักเท่าไรเพราะเบื่อความวุ่นวายของเมืองหลวงที่มีทั้งปัญหารถติด ปัญหาเรื่องฝุ่นแต่ไม่รู้จะไปตั้งหลักที่ไหนจึงตัดสินกลับบ้านที่ตั้งอยู่แถวพระรามเก้า
เกือบสัปดาห์แล้วที่หล่อนหางานแต่ก็ยังหาไม่ได้สักทีไม่รู้ทำไม ทั้ง ๆ ที่หล่อนพูดภาษาอังกฤษได้แต่สอบสัมภาษณ์ไม่ผ่านทุกครั้งเหมือนสวรรค์จงใจแกล้งอย่างไรอย่างนั้น
"ได้โปรดเถอะเจ้าค่ะ เทวดาฟ้าดินหนูอยากมีงานทำ หนูต้องการเก็บเงิน หนูมีความฝันอยากเป็นคนรวย ถ้าหนูตกงานแบบนี้แล้วเมื่อไหร่ความฝันของหนูจะเป็นจริง" สาวอวบหน้าใสขอร้องต่อเทวดาฟ้าดินหลังจากที่ผิดหวังกับงานเมื่อวาน บริษัทยักษ์ใหญ่ใจกลางเมืองหลวงปฏิเสธหล่อนเข้าทำงานด้วยเหตุผลข้อเดียวคือ เกรดต่ำ หล่อนเรียนได้เกรดเฉลี่ยไม่ถึงสามซึ่งที่นั่นต้องถึงสามเขาจึงจะรับเข้าทำงาน
"พ่อจ๋า แม่จ๋า ลูกอยากเป็นคนรวย ช่วยลูกด้วย" หล่อนอ้อนวอนต่อเทวดาฟ้าดินยังไม่พอ เมื่อเดินเข้าไปในบ้านเห็นรูปพ่อแม่วางอยู่บนชั้นก็รีบยกมือขอพร บิดามารดาของหญิงสาวเสียชีวิตเมื่อสองปีก่อนเพราะอุบัติเหตุโดนคนเมาขับรถมาชนในขณะขับรถกลับมาจากการไปทำบุญที่วัดส่งผลให้สองคนผัวเมียอาการสาหัสแต่สุดท้ายไม่รอดไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาลปล่อยให้ลูกสาวคนเดียวใช้ชีวิตตามลำพังโชคดีที่สองสามีภรรยามีเงินพร้อมบ้านและที่ดินบวกกับประกันชีวิตจึงทำให้แก้วใสไม่เดือดร้อนมากนักหลังจากพ่อแม่เสีย
"เฮ้อ หนูทำงานอะไรก็ได้ ขอแค่งาน เข้าใจไหม" หญิงสาวทำหน้าหมดอาลัยตายอยากในขณะเข้า google เพื่อหางานทำ หล่อนไปสะดุดตากับเว็บไซต์หางานเว็บหนึ่งจึงคลิกเข้าดู ก่อนจะทำตาโตกับค่าจ้างที่มีมูลค่าเป็นสิบล้าน คนอยากรวยไม่รอช้ารีบเข้าไปอ่านรายละเอียดและคุณสมบัติของคนทำงานซึ่งหล่อนมีครบทุกข้อจึงตัดสินใจส่งข้อมูลไปสมัครอย่างไม่ลังเล ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงหลังจากนั้นโทรศัพท์ก็มีสายเข้ามาและเชิญให้หล่อนไปสัมภาษณ์ที่บริษัทในวันพรุ่งนี้ตอนแปดโมงครึ่ง
"กรี๊ดดดดดด ขอให้ได้ด้วยเถอะเจ้าพระคู้ณณณณณ ลูกช้างของานนี้ด้วยเถอะ" หญิงสาวยกมือขึ้นท่วมหัวไหว้ขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์อย่างมีหวังเพราะอยากได้งานนี้มากจริง ๆ เนื่องจากค่าตอบแทนล้วน ๆ โดยไม่ได้คำนึงถึงผลดีและผลเสียแม้แต่น้อย
ทางด้านเจฟฟรีย์เมื่อเดินทางมาถึงประเทศไทยเข้าพักที่เพนท์เฮ้าส์เรียบร้อยก็สอบถามถึงความคืบหน้าจากลูกน้องทันที อันเดรจึงเอาข้อมูลของผู้สมัครให้เจ้านายพิจารณาคนแล้วคนเล่า สุดท้ายชายหนุ่มไปสะดุดกับสาวอวบหน้าใสที่มีแววตาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นจนทำให้เขาเผลอยิ้มอย่างไม่รู้ตัวและหัวใจสั่นไหวแปลก ๆ จึงสั่งให้อันเดรติดต่อนัดสัมภาษณ์
"ติดต่อเธอคนนี้ พรุ่งนี้ให้มาที่บริษัท"
"ครับเจ้านาย"
"แก้วใส ใจซื่อตรง หึหึ แล้วเจอกันสาวน้อย"
ชายหนุ่มมองรูปแก้วใสอย่างไม่วางตาเหมือนมันมีแรงดึงดูดจนต้องมองตลอดเวลา เขาไม่อยากเชื่อเลยว่าในโลกใบนี้จะมีผู้หญิงที่มีคุณสมบัติครบตามต้องการจริง ๆ เพราะคุณสมบัติที่เขาต้องการนั้นมันไม่น่าจะมีอยู่จริงโดยเฉพาะข้อสุดท้าย
'ไม่เคยมีแฟน โสดสนิทตั้งแต่เกิดยันปัจจุบันและบริสุทธิ์ ไม่เคยผ่านชายใดมาก่อนแม้กระทั่งจูบ'
"โสดสนิท บริสุทธิ์หรือไม่พรุ่งนี้รู้กัน แก้วใส"
เจฟฟรีย์เอ่ยด้วยน้ำเสียงเย้ยหยันเพราะไม่เชื่อ ก่อนจะยิ้มอย่างชั่วร้ายเมื่อสมองอันชาญฉลาดสั่งให้พิสูจน์คุณสมบัติข้อนี้ของแก้วใสด้วยตัวเองส่วนจะใช้วิธีไหนขอคิดก่อนเพราะเรื่องแบบนี้ต้องค่อยเป็นค่อยไป ถ้าหล่อนไม่ยินยอมก็ถือซะว่าหล่อนขาดคุณสมบัติไม่เหมาะกับการเป็นแม่ (อุ้มบุญ) ของลูกแต่ถ้าหล่อนยอมก็ค่อยว่ากันอีกครั้ง เขาหวังว่าหล่อนจะผ่าน!
วันต่อมาหญิงสาวแต่งตัวดีตั้งแต่หัวจรดเท้าพร้อมกับแต่งหน้าอ่อน ๆ มายังสถานที่นัดหมาย หล่อนมานั่งรอผู้ว่าจ้างเกือบครึ่งชั่วโมงกว่าจะได้เข้าพบเพราะมาก่อนเวลานัด เมื่อเดินเข้ามาในห้องทำงานที่สุดจะใหญ่โตอลังการหรูหราความตื่นเต้นก็ยิ่งทวีคูณ ยิ่งได้เห็นสายตาของคนสัมภาษณ์ก็ยิ่งใจเต้นรัวเกือบเดินขาขวิดด้วยซ้ำดีนะที่หล่อนพอมีสติไม่อย่างนั้นล้มลงบนพื้นแน่นอน
"เชิญนั่งครับคุณแก้วใส" เจฟฟรีย์เอ่ยเป็นภาษาไทยเพราะร่ำเรียนมาตั้งแต่เด็กจึงพูดได้ชัดถ้อยชัดคำ เขาจ้องคนตรงหน้าอย่างไม่วางตารู้สึกถูกใจกับการได้เห็นตัวจริงของหล่อนเป็นอย่างมากโดยเฉพาะหน้าอกอวบอิ่มที่ดูยังไงก็เป็นของจริงแถมยังกลมโตชวนให้คนมองคิดไปไกลเลยทีเดียวโดยเฉพาะเขา
"สะ สวัสดีค่ะท่าน" แก้วใสเจอสายตาร้อนแรงของท่านประธานสุดหล่อเข้าไปความมั่นใจที่อุตส่าห์สร้างขึ้นมาก็มลายหายไปทันที หญิงสาวยกมือขึ้นไหว้เจ้าของห้องอย่างเก้ ๆ กัง ๆ เริ่มทำตัวไม่ถูก
'คนบ้ามองแบบนี้ใครเขาจะกล้ากันเล่า' หล่อนด่าเขาในใจขณะที่ปั้นหน้ายิ้มสู้ตาย
"คุณรู้ใช่ไหมว่างานที่ผมจะให้ทำเป็นงานแบบไหน" ชายหนุ่มไม่รอให้เสียเวลา รีบเข้าประเด็นทันทีที่เห็นหญิงสาวนั่งบนเก้าอี้เรียบร้อย แก้วใสจึงตอบด้วยน้ำเสียงชัดถ้อยชัดคำเพราะรู้รายละเอียดของงานมาจากอันเดรแล้ว
"ทราบค่ะ คุณอันเดรแจ้งไว้แล้ว"
"หึหึ ผมขอถามสองข้อ ข้อแรกคุณมาสมัครงานนี้ทำไม"
"เพราะดิฉันต้องการเงิน ดิฉันมีความฝันเงินสามสิบล้านจะช่วยให้ดิฉันทำตามฝันสำเร็จ"
"ดี ตอบตรง ๆ แบบนี้ก็ดี ข้อที่สองคุณแน่ใจใช่ไหมว่ามีคุณสมบัติผ่านทุกข้อ"
"ดิฉันมั่นใจ ไม่มีข้อไหนที่ดิฉันไม่ผ่าน" หล่อนเชิดหน้าตอบด้วยความมั่นใจทำให้ชายหนุ่มพึงพอใจเป็นอย่างมากแต่ต้องเก็บอาการเอาไว้ภายใต้ใบหน้าเคร่งขรึมทำเหมือนกับว่าไม่เชื่อสิ่งที่แก้วใสพูด
"หึหึ แต่ผมไม่มั่นใจ"
"มะ หมายความว่ายังไง"
"ผมต้องการพิสูจน์"
"พิสูจน์! "