คุณเจฟอยากกินของหวาน

1674 Words
ในขณะที่แก้วใสกำลังมึนกับความเว่อร์วังอลังการของตระกูลมิกาเรนท์ สองสามีภรรยาผู้ซึ่งเป็นพ่อและแม่ของเจฟฟรีย์ก็เดินออกมาปรากฏตัวอย่างสง่างามราวกับหลุดมาจากเทพนิยายก็ว่าได้เพราะทั้งสองคนแต่งตัวสวยหล่อตั้งแต่หัวจรดเท้าเหมือนจะออกไปงานสังคมมากว่ามาต้อนรับว่าที่แม่ของหลานโดยเฉพาะฝ่ายหญิง "มัมครับ แด๊ดครับ ทำไมแต่งตัวแบบนี้ มีงานเหรอ" เจฟฟรีย์เอ่ยถามบิดามารดาด้วยความสงสัย ในเมื่อก่อนกลับมาตนได้โทรถามแล้วว่ามีงานไหมวันนี้ซึ่งคำตอบที่ได้คือ ไม่มี แล้วทำไมทั้งคู่ถึงแต่งตัวเหมือนจะออกไปข้างนอก "ไม่มีจ้ะลูกรัก มัมกับแด๊ด แต่งตัวสวย ๆ หล่อ ๆ มาต้อนรับลูกสะใภ้ของเรา" มาดามแป้งหอมให้คำตอบลูกชายแต่สายตากลับจับจ้องไปที่ใบหน้าของว่าที่ลูกสะใภ้ด้วยความถูกอกถูกใจ ส่วนสามีไม่ได้เอ่ยคำใดนอกจากยืนยิ้มอย่างเดียวเพราะไม่อยากขัดใจภรรยาจึงยอมแต่งตัวแบบนี้ทั้ง ๆ ที่รู้ว่ามันเว่อร์ แก้วใสเห็นการแต่งตัวของสองผัวเมียก็อึ้งไปเหมือนกันยิ่งได้รู้คำตอบก็ยิ่งอึ้ง 'แค่มาต้อนรับลูกจ้างต้องจัดเต็มขนาดนี้เลย' "อ้อ แบบนี้เอง หึ แก้วใส สองคนนี้คือพ่อกับแม่ของผม มัมครับ แด๊ดครับ นี่คือแก้วใส" "สะ สวัสดีค่ะ คุณท่านทั้งสอง" "ว้ายยยยย ไม่ได้ ๆ เรียกคุณท่านไม่ได้จ้ะ หนูต้องเรียกเราสองคนเหมือนตาเจฟ" "เอ่อ จะดีเหรอคะ หนูเป็นแค่ลูกจ้าง ไม่ควรเรียกแบบนั้น" "ลูกจง ลูกจ้าง อะไรกัน แม่ของหลานเราก็คือลูกสะใภ้ของเรา เรียกมัมกับแด๊ดนะถูกแล้ว มัมว่าเราเข้าไปคุยกันในบ้านดีกว่า ยืนนาน ๆ เมื่อยขา ไปแก้วใสมากับมัม" แก้วใสกำลังอ้าปากจะปฏิเสธก็โดนมาดามแป้งหอมจูงมือเข้าไปในบ้านอย่างไม่ทันตั้งตัวจึงหันมาขอความช่วยเหลือจากเจฟฟรีย์แต่เขากลับยักคิ้วให้เฉย ๆ "แด๊ดรู้ไหมมัมกำลังทำอะไร" เจฟฟรีย์กระซิบถามบิดาหลังจากที่มารดาและแก้วใสห่างออกไป เขารู้สึกตงิด ๆ เหมือนงานจะเข้ายังไงชอบกล คุณเจสันได้ยินคำถามของลูกชายก็ยิ้มตรงมุมปาก "มัมของลูกอยากได้หนูแก้วเป็นลูกสะใภ้" "หะ! ผมไม่ได้คิดอะไรกับหล่อนนะแด๊ดแค่จ้างมาอุ้มบุญเท่านั้น" เขาปฏิเสธเสียงสูง "เหรอ งั้นแด๊ดจะบอกมัมให้เอง" เมื่อบิดาทำท่าจะเร่งฝีเท้าเดินไปบอกมารดาทำให้เจฟฟรีย์ต้องรีบจับแขนพ่อเอาไว้ "เดี๋ยว ๆ แด๊ด ผมว่าเรื่องนี้ยังไม่ต้องบอกมัมหรอก" "ทำไมบอกไม่ได้ มัมของลูกจะได้เลิกหวัง" "ผมจะบอกมัมเอง" ชายหนุ่มตอบเพียงแค่นั้นแล้วก้าวเท้าเดินตามสองสาวไปติด ๆ ปล่อยให้บิดายืนยิ้มกับอาการของลูกชายเพียงลำพัง คุณเจสันมองแผ่นหลังของลูกชายที่กำลังเดินตามหลังแก้วใสก็อดจะยิ้มไม่ได้ คนอาบน้ำร้อนมาก่อนมีเหรอจะไม่รู้ว่าเจฟฟรีย์กำลังเป็นอะไรแต่ก็เอาเถอะในเมื่อเจ้าตัวปฏิเสธก็ต้องปล่อยไป เอาไว้โดนทิ้งเมื่อไหร่ก็รู้ตัวเอง หลังจากนั่งลงบนโซฟาและพูดคุยกันสักพักดูเหมือนสองสาวต่างวัยจะเข้ากันได้ดี พูดถึงเรื่องนั้นเรื่องนี้ได้เป็นฉาก ๆ โดยเฉพาะเรื่องของเจฟฟรีย์ทำเหมือนเจ้าตัวไม่ได้นั่งด้วย มาดามแป้งหอมโฆษณาลูกชายตัวเองสุดฤทธิ์เหมือนมีอาชีพเป็นแม่ค้าขายของทำให้แก้วใสหายจากอาการเกร็งและพูดคุยได้อย่างสนิทใจ "คิก คิก ฮ่า ๆ ๆ ๆ คุณเจฟนี่ก็ตลกนะคะมัม" หญิงสาวหัวเราะน้ำตาเล็ดหลังจากได้ฟังวีรกรรมของชายหนุ่มช่วงที่เป็นเด็กและวัยรุ่น "ตลกมากจริง ๆ แต่มีเรื่องตลกกว่านี้อีกนะ" "พอ ๆ ผมว่าเราไปกินข้าวกันเถอะจะได้ไปพักผ่อน" เขาทำงอใส่มารดากับแก้วใสที่ยังขำไม่หยุดเพราะเรื่องของตนในช่วงวัยเด็กจึงชวนทั้งหมดไปกินข้าว มารดาจะได้เลิกขุดคุ้ยเรื่องน่าอายมาเล่าให้คนมาใหม่ฟังเสียที "จ้ะ ๆ ทำเป็นหน้าบูดไปได้ มัมแค่เล่าเรื่องของลูกให้หนูแก้วใสฟังเอง" "นั้นนะสิคะ คุณเจฟจะอายทำไมเรื่องสมัยเด็ก หนูว่าเราไปทานข้าวก็ดีนะคะ หิ้ว หิว" หญิงสาวลูบท้องตัวเองพร้อมกับทำหน้าละห้อยสร้างความเอ็นดูแก่คนทั้งสามได้ไม่น้อย เจฟฟรีย์เห็นความน่ารักของแก้วใสก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาก่อนจะทำหน้านิ่งตามเดิมเมื่อหันไปเห็นแววตาของบิดามารดาซึ่งกำลังจ้องตนเองอย่างคนรู้ทัน มาดามแป้งหอมกับสามีหันมาสบตาอย่างรู้กันแต่ไม่ได้เอ่ยคำใดออกมาก่อนจะชักชวนว่าที่ลูกสะใภ้ไปยังห้องรับประทานอาหาร เมื่อกินข้าวเสร็จสองสามีภรรยาก็ปล่อยให้ลูกชายได้ดูแลว่าที่ลูกสะใภ้ตามลำพัง ชายหนุ่มจึงพาหญิงสาวขึ้นมาบนห้องนอนของตนเองพร้อมกับชี้แจ้งว่าหล่อนต้องนอนในห้องนี้เหมือนกัน "อะไรนะคะ คุณเจฟจะให้แก้วนอนห้องนี้" หล่อนนั่งบนเตียงอยู่ดี ๆ ก็มีเรื่องให้ต้องดีดตัวลุกขึ้นมาด้วยความตกใจ "อืม" เขาตอบสั้น ๆ ในขณะที่สายตากำลังสำรวจคนตรงหน้าตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยสายตาวิบวับแต่หญิงสาวกลับไม่สนใจสายตาหื่น ๆ ของเขาเพราะตกใจเรื่องห้องนอน "ไม่ได้นะคะ เราจะนอนด้วยกันได้ยังไง แก้วมาเป็นแม่อุ้มบุญ ไม่ได้มาเป็นเมียคุณเจฟ" "แล้วอยากเป็นไหม" คำถามของเขาทำเอาหญิงสาวไปไม่เป็นกันเลยทีเดียวได้แต่กะพริบตาปริบ ๆ อย่างงงงวย มารู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่ปากถูกปิดด้วยปากแล้วล้มตัวนอนลงบนโซฟาอยู่ใต้ร่างคนตัวโตซึ่งกำลังบดจูบปากบางอย่างหิวกระหาย เจฟฟรีย์ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันทำไมถึงพูดแบบนั้นออกไปครั้นจะพูดแก้ตัวก็ทำไม่ได้เพราะปากเจ้ากรรมกำลังติดภารกิจ เนิ่นนานหลายนาทีกว่าปากของสองหนุ่มสาวจะหลุดออกจากกันและเป็นเขาที่เปิดปากพูดก่อน "ปากของแก้วหวานจัง" เขาชมหล่อนและมองปากเจ่อ ๆ ด้วยสายตาหวานซึ้งทำให้คนถูกมองเริ่มทำตัวไม่ถูก "คะ คุณเจฟ" หล่อนเรียกชื่อเขาด้วยน้ำเสียงสั่น ๆ ในขณะที่มือทั้งสองข้างโอบรอบคอชายหนุ่มอย่างไม่รู้ตัว ส่วนร่างกายก็เบียดเข้าหาเขาเหมือนจงใจทั้ง ๆ ที่หล่อนไม่ได้ตั้งใจแต่มันเป็นเอง "แล้วของคุณเจฟหวานไหม" คำถามของเขาทำเอาคนฟังหน้าแดงซ่านด้วยความอายและใช้ความพยายามอย่างหนักในการเปล่งเสียงตอบ "วะ หวาน" "ไม่ใช่แค่ปากนะครับที่หวาน ส่วนอื่นก็หวาน อยากชิมไหม" เขาถามด้วยน้ำเสียงแหบพร่าใช้เสน่ห์ที่มีสะกดคนใต้ร่างได้อยู่หมัดทำให้หญิงสาวเหมือนคนตกอยู่ในภวังค์ "อยากกิน" "หึหึ อยากชิมส่วนไหนก่อน" "ชิมส่วน เอ๊ย ไม่ ๆ ไม่ชิม คุณเจฟปล่อยแก้วก่อน แก้วจะไปจัดของ" หญิงสาวส่ายหน้าเป็นพัลวันหลังจากรู้สึกตัวจึงหาทางเลี่ยงด้วยการชี้ไปที่กระเป๋าของตนเองซึ่งวางอยู่ตรงหน้าเตียง "ของจัดตอนไหนก็ได้ แต่ตอนนี้เรามาชิมความหวานกันดีกว่า คุณเจฟอยากกินของหวาน" พูดอย่างเดียวมันไม่เห็นภาพเขาจึงมองไปที่ของหวานทั้งสองลูกและลามลงไปถึงโหนกนูนที่กำลังโดนเสียดสีทำให้หญิงสาวหน้าแดงขึ้นกว่าเดิม อยากจะผลักเขาไปให้ไกลแต่ร่างกายอ่อนแรงเหลือเกิน ไม่รู้เรี่ยวแรงหายไปไหนหมด "ขะ ของหวานอยู่ในครัว ดะ เดี๋ยวแก้วไปเอามาให้เอง" หล่อนผินหน้ามองไปทางอื่นเพราะไม่กล้าสบตาคนเจ้าเล่ห์ ใช่ว่าหล่อนไม่อยากให้ความร่วมมือในการผลิตลูกแต่นี่มันกลางวันแสก ๆ เพิ่งจะเดินทางมาถึง ขอพักให้หายเหนื่อยก่อน แล้วอีกไม่กี่ชั่วโมงก็ถึงเวลาของอาหารเย็นด้วย ถ้าไม่ลงไปหรือลงไปสายผู้ใหญ่ทั้งสองจะคิดอย่างไร "ใครบอก ของหวานอยู่ในห้องนี้ต่างหาก" นิ้วเรียวจิ้มลงบนโหนกนูนของหญิงสาวเป็นการบอกใบ้แต่หล่อนก็ยังทำเป็นไม่เข้าใจ ถามแบบคนไร้เดียงสาทั้งที่รู้เต็มอกว่าเขาหมายถึงอะไร "ตะ ตรงไหนคะ กะ แก้วไปเอามาให้เอง" "คุณไงคือของหวาน" ชายหนุ่มเอ่ยจบก็จูบปิดปากหญิงสาวทันทีทำให้คนโดนจูบไม่สามารถปฏิเสธได้อีกจึงยอมปล่อยตัวปล่อยใจทำตามที่เขาต้องการ แก้วใสหลับตาพริ้มจูบตอบแบบเงอะงะอย่างคนประสบการณ์น้อยแต่เป็นที่พอใจของชายหนุ่มมาก ๆ จึงได้รับรางวัลตอบแทนเป็น ...... นานนับชั่วโมง สรุปเย็นของวันนี้ไม่มีใครลงไปกินข้าวกับผู้ใหญ่ทั้งสองเลยสักคนเนื่องจากอิ่มของหวานที่ขยันกันป้อนอย่างไม่รู้จักเบื่อ ดีไม่ดีป่านนี้เบาหวานอาจจะถามหาแล้วก็ได้เพราะกินนานกันเหลือเกิน "คุณเจฟขา อื้อ......อื้ม" "อื้มมมมม...."
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD