EP6 - Come back to me

1154 Words
6 - Come back to me หลังจากนั้น “คุณไม่ต้องกังวลนะ ผมวางยาบอนไซหลับไปแล้ว เพื่อความมั่นใจผมสวมหูฟังครอบหูกันเสียงขั้นสุดแล้ว” ในขณะผมขับรถ ผมทำให้บอนไซนอนหลับไปเพราะผมไม่อยากให้เขารู้อะไรบางอย่างไม่งั้นเขาจะไม่สบายใจจนสติแตกโวยวายยิ่งความจำกำลังมีปัญหาหนัก จำใครได้บ้างก็ไม่รู้แต่ว่าอย่าจำได้เลยดีกว่าเพราะความจริงบางอย่างอาจทำเขารับไม่ได้ “คุณไม่ต้องมาบอกว่ากลัวนะ คุณเต็มใจทำอยู่แล้ว” “ค่ะ ฉันยอมรับแต่ว่ามันเริ่มรุนแรงมากไปแล้วนะคะ” “พูดแบบนี้คุณอยากจับตัวเองเหรอ คุณบ้าไปแล้วเหรอ เอาเถอะคุณไม่ต้องพูดอะไรมาก ทำแบบนี้ต่อไปดีที่สุดแล้ว” ผมกับริต้าคุยอะไรบางอย่างในขณะบอนไซนอนหลับไปด้วยฤทธิ์ยา ผมหวังดีแค่ไหนไม่อยากให้เขาได้ยินเรื่องไม่สบายใจ ผมทำให้แล้ว ทีนี้ผมกับริต้าจะได้คุยสบายใจและเปิดเผยมากขึ้น “ผมจะพาเมธัสเข้าบ้าน” “แน่ใจนะคะว่าเขาจะไม่รู้อะไร” “คุณไม่ต้องทำให้ทั้งสองคนสงสัย อยู่อย่างปกติทำเป็นไหม ส่วนไอ้เด็กนั่นผมจะหาทางจัดการพวกมันเอง” ผมกับริต้ากำลังวางแผนทำอะไรบางอย่างเพราะความไม่ไว้นี่แหละทำให้ผมและเธอต้องปกป้องตัวเอง หากคนนอกมาก่อกวนและอยากรู้มากขนาดนี้ ผมคงต้องตั้งโต๊ะจับเข่าคุยกัน สุดท้ายปิดปากให้เงียบที่สุด ที่บ้านบอนไซ “ให้เขานอนพักไปก่อน ตื่นก็คงจะเห็นมุมห้องนอนมุมเดิมที่เขาตื่นและเข้านอนจนชินตา” ผมอุ้มบอนไซกลับมาพักที่ห้องนอนในบ้านตนเอง เขาเกิดและโตมากับที่นี่ การเข้านอนและตื่นนอนที่ห้องเดิม มุมเดิมและอะไรเดิม ๆ จะทำให้เขาชินตาอยู่อย่างสบายใจเมื่อกลับมาเซฟโซนแล้ว ผมต้องทำให้เขาอยู่ในสภาพอุ่นใจที่สุด แค่นี้ทุกอย่างน่าจะเข้าที่แล้ว เวลาผ่านไปพักหนึ่ง บอนไซรู้สึกตัวหลังจากสลบไป ผมจำอะไรได้นิดหน่อย ลืมตาขึ้นมาพบมุมเดิมในห้องนอนเดิมที่เวลาตื่นมาทุกเช้าผมจะต้องเห็นมันเสมอ ตอนนี้ผมมึนหัวมากเลยราวกับถูกลบความทรงจำ ให้ผมไม่สามารถจดจำอะไรได้แม้กระทั่งคนรัก “ที่นี่มันห้องนอนผมนี่นา...” ผมนั่งอยู่บนเตียงนอนอาจจะเป็นมุมโปรดที่คุ้นตาผม เตียงนอนสีน้ำเงินผ้าห่มลายอวกาศสีฟ้า ไหนจะโต๊ะเขียนหนังสือ โต๊ะคอมพิวเตอร์ที่มีหูฟังครอบหูและอีกหลายอย่างในห้องนอน ของทุกชิ้นมันเป็นของผม ผมเป็นเจ้าของในห้องนี้ทุกอย่าง ยกเว้นอย่างเดียวที่ผมไม่สามารถเป็นเจ้าของมันได้นั่นคือการรักษาคนที่ผมรักที่สุด ผมจำไม่ได้แล้วว่าเขาเป็นใคร ผมเคยมีจริงหรือเปล่า ทำไมผมรู้สึกเหมือนทุกอย่างมีอยู่ไม่หายไป แค่ผมจำไม่ได้เท่านั้น “คิดถึงมากเลย” ผมลุกขึ้นจากเตียงมองหาของบางอย่างในห้องนอน สิ่งของคุ้นตาหรือภาพถ่าย เอกสารที่เคยอยู่อาจทำให้ผมจดจำอะไรได้บ้าง ผมสูดลมหายใจให้เต็มปอดเข้าไปมากที่สุด เผื่อว่าสมองผมจะปลอดโปร่งคิดอะไรออกบ้าง ดีกว่านอนอยู่บนเตียงเปล่าประโยชน์ ผมค้นหาของในลิ้นชักและทุกมุมในห้องนอนกลับไม่พบอะไรเลย ทุกอย่างที่เป็นของผม มันหายไปไหนหมด “อดีตของผมหายไปไหน” ในขณะนั้นริต้าเดินเข้ามาในห้องนอน ฉันได้ยินเสียงบอนไซลุกเดินสังเกตและฟังจากเสียงเท้ากระทบพื้นห้อง ฉันมั่นใจว่าเขาตื่นขึ้นมาแล้ว ฉันเดินเข้ามาเห็นเขาเดินค้นหาของบางอย่าง ฉันเดินเข้าไปกอดลูกชายเพื่อสร้างความมั่นใจอีกครั้ง ตอนนี้เขาควรได้กำลังใจดีกว่ามาค้นหาอดีตจากสิ่งของ ความจริงฉันกับคิวบิกขนย้ายของในห้องออกไปกลัวเห็นแล้วจะไม่สบายใจ แล้วปัจจุบันเวลาเขาไปเรียนเขาอยู่หอพัก ของบางส่วนต้องอยู่ที่นั่นอยู่แล้ว “บอนไซ ลูกกลับมาบ้านแล้ว ไม่ต้องกลัวแล้วนะ” “ผมคิดถึงแม่มากเลยครับ” ผมหวาดกลัวกับสิ่งที่วนเวียนในเหตุการณ์ต่าง ๆ ก่อนที่ผมจะกลายเป็นผู้ชายที่เหมือนสติหลุดลอยไม่สมประกอบไปแล้ว อย่างน้อยตอนนี้แม่ผมให้ความอบอุ่นทางใจเป็นอย่างดี ผมไม่กลัวอะไรมากกว่านี้แต่ผมยังสงสัยว่าของทุกชิ้นที่บ่งบอกตัวตนผมหายไปไหน ทำไมพ่อแม่ต้องย้ายมันออกไปจากห้องผมด้วย “เป็นไงบ้าง” คิวบิกเดินเข้ามาดูอาการ ผมได้ยินเสียงริต้าคุยกับบอนไซถือว่าเป็นเรื่องดีที่ลูกชายกลับมาพบทุกคนในครอบครัวแล้ว ผมอยู่ดูอาการก่อน ก่อนหน้าบอนไซจะกลับมา ผมกับริต้าขนของบางอย่างออกไปหมดหวังว่าจะไม่ตามหามันเจอล่ะ ไม่อยากให้เด็กอย่างทิมเบอร์มาสอดรู้สอดเห็น ไม่งั้นทุกอย่างพังหมดไม่เหลือชิ้นดี ทางด้านเมธัส แฟนต้าพาผมกลับมาที่บ้านหลังหนึ่ง ซึ่งสิ่งที่เห็นตรงหน้าคือบ้านของตนเอง บ้านจัดสรรสองชั้นที่ผมอยู่ มันรื้อฟื้นความทรงจำของผมขึ้นมาได้บ้าง ผมอาศัยอยู่ที่นี่ ความทรงจำบางอย่างหวนมาทำผมรู้สึกว่าเหมือนทุกเหตุการณ์วนกลับมาให้ผมกลับไปทำมันอีกครั้ง ถ้าผมมีเวทมนตร์สามารถย้อนกลับไปแก้ไขอดีตได้ ผมจะทำชีวิตวัยเด็กให้มีความสุขอีกครั้งไม่ต้องมาเสียดายเวลาเมื่อมันผ่านไปแล้ว “เราได้กลับบ้านแล้วเหรอ” ผมมึนงงไม่หายเดินเข้ามาในบ้าน มุมเดิม ๆ บอกให้ผมเข้าใจว่าตอนนี้ผมอยู่ในเซฟโซนที่เป็นของผมแท้จริง ไหนจะห้องนั่งเล่นมีโซฟานุ่ม ๆ พร้อมเจ้าตุ๊กตาหมีที่ตัวใหญ่กอดอบอุ่น ความสุขในห้องนี้มีครบทุกอย่างตามที่ใจผมต้องการมาก “ใช่ แต่ว่าสักพักนายต้องไปอีกที่นะ” “นายจะพาเราไปไหน” “พาไปเซฟโซนใหม่ไงล่ะ” ผมกลับมาบ้านตัวเองแล้วทำไมผมต้องย้ายออกไปที่อื่นอีกล่ะ นี่มันบ้านของผมแล้วผมต้องออกไปไหน ทำไมทุกอย่างดูมีความลับปิดบังผม ทุกคนรู้ว่าเกิดอะไรแล้วไม่ยอมบอกผมงั้นเหรอ ผมเป็นอะไรผมยังไม่เข้าใจตัวเองเลย “ที่ไหนเหรอ”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD