มือทั้งสองข้างรูดแพนตี้ของเธอออกก่อนจะโยนมันทิ้งไว้ข้างๆ โซฟา เขาจับแยกเรียวขาทั้งสองข้างออกจากกัน สายตามองดูเนินเนื้อโหนกนูนและร่องเล็กสีชมพูสวยด้วยแววตาเป็นประกาย ร่างบางพยายามดิ้นขัดขืนแต่แรงที่มีน้อยนิดก็สู้แรงคนตัวโตกว่าไม่ได้ เวลานี้ร่างกายเธอก็ดันเคลิบเคลิ้มตอบสนองไปกับสัมผัสของเขา มือทั้งสองข้างจัดการปลดหัวเข็มขัดหนังสีดำของตัวเองออก การกระทำของ
เขามันทำให้เธอตื่นกลัวและที่กลัวไปมากที่สุดก็คือกลัวว่าแม่จะกลับมาเห็นเข้าพอดี
“ฮืออ..พี่ชินอย่าทำหนูเลย อึก..นะหนูกลัวแล้ว” เธอพูดออกมาด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ น้ำตาใสๆ เริ่มไหลออกมาจากดวงตาคู่สวย มือเล็กยกมือขึ้นปิดใบหน้าที่แดงก่ำของตัวเองไว้แน่นพร้อมกับสะอื้นไห้ออกมาอย่างหนัก
“เด็กดีอย่าร้องนะ โอเคๆ พี่จะหยุด อย่าร้องนะครับ”
“ฮืออ อึก ฮือ พี่.. อย่าทำหนู ฮืออ”
ชายหนุ่มเริ่มใจเสียที่เห็นเธอร้องไห้ออกมาอย่างหนักจนเริ่มทำตัวไม่ถูก เขาโน้มตัวเข้าไปหาพลางจูบซับน้ำตาของเธอเบาๆ การกระทำของเขาทำให้คนตัวเล็กหยุดร้องไห้ไปครู่หนึ่ง เธอกะพริบตาปริบๆ มองดูเขา ทั้งคู่มองจ้องสบสายตากันอยู่ครู่ใหญ่ด้วยความรู้สึกแปลกๆ ก่อนที่เตชินทร์จะเป็นฝ่ายผละตัวออกห่างจากเธอ ร่างสูงรีบลุกขึ้นยืนและเดินออกจากประตูบ้านไปอย่างรวดเร็ว
เสียงรถยนต์ที่ขับห่างออกจากตัวบ้านไปเรื่อยๆ ทำให้เธอรีบลุกขึ้นมา มือเล็กรีบหยิบบราเซียร์และแพนตี้ขึ้นมาสวมใส่และจัดการกับเสื้อผ้าของตัวเองให้อยู่ในสภาพเรียบร้อยก่อนจะเดินไปล็อกประตูบ้าน สายตามองดูนาฬิกาแขวนผนังที่ใกล้ถึงเวลาที่แม่จะกลับมาจากที่ทำงาน ร่างบางค่อยๆ ทรุดตัวลงนั่งบนโซฟาอย่างหมดแรงขณะที่นึกถึงเหตุการณ์เมื่อครู่
‘…เขาเพิ่งทำเรื่องแบบนั้นกับผู้หญิงคนอื่นมา แล้วก็มาทำแบบนี้กับฉันต่อได้หน้าตาเฉย เขาเป็นผู้ชายที่ห่วยแตกจริงๆ โคตรน่ารังเกียจ ไอ้คนเลว ฉันจะไม่มีวันให้อภัยผู้ชายคนนี้แน่ๆ ...’
มหาวิทยาลัย
เสียงเรียกของใยไหมที่ดังเข้ามาใกล้ทำเอาลีอาที่นั่งเหม่อจดจ่อกับโทรศัพท์ในมือและครุ่นคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยเงยหน้าขึ้นมามองดู
“ลีอา ลี..อาา”
“มะมีอะไร”
“ใจลอยไปถึงไหนกัน นี่เอกสารที่ต้องเอากลับไปให้ผู้ปกครองเซน”
“เอ่อ..คิดอะไรเรื่อยเปื่อย วันนี้ฉันขอกลับก่อนนะมีธุระนิดหน่อย” ฉันมองเอกสารในมือก่อนจะพึมพำออกมาอย่างใจลอย
“เอกสารเข้าค่ายที่ระยอง? ”
“ใช่ วันจันทร์ต้องเอาไปส่งให้พวกรุ่นพี่ปี2” พิชชี่ตอบ
“ตรงซอกคอเธอไปโดนอะไรมา” ใยไหมที่นั่งจ้องลีอาอยู่นานเก็บความสงสัยไว้ไม่อยู่ก่อนจะเอ่ยถามออกมาด้วยความสงสัย
“อ้อ..มัดกัดน่ะ ยังคันๆ อยู่เลย” มือเล็กรีบตะบบตรงซอกคอของตัวเองอย่างตกใจ เมื่อเช้าฉันก็ใช้รองพื้นปิดจนมิดแล้วนะทำไมยังเห็นอยู่อีก มันคงจะจางลงเลยเห็นชัดขึ้น
“เพิ่งจะสี่โมงเอง เธอจะรีบกลับทำไมบ้านไม่หายไปไหนหรอก คืนนี้ไม่ไปเที่ยวกับพวกฉันหรือไง ไปเที่ยวผับของพี่ชายกราฟฟิกด้วยกันไหม แดนซ์ๆ สนุกกัน น่ะๆ ไปเปิดหูเปิดตาบ้าง” ใยไหมเอ่ยชวนพลางขยิบตาส่งให้ลีอา
“เอ่อ..ผับเหรอ? ไว้คราวหน้านะ”
“คราวหน้าอีกแล้ววว..ผลัดมาสองครั้งแล้วนะ เที่ยวเสร็จไปนอนที่คอนโดของฉันก็ได้ น่ะๆ ไปเหอะอยากให้เธอไปด้วย” พิชชี่พูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงอ้อนๆ
“ไปไหม? วันนี้มีนักร้องดังมาร้องเพลงที่ร้านด้วย สเปเชียลเดย์นะ ถ้าเธอไปเดี๋ยวฉันเลี้ยงเอง” กราฟฟิกพยายามหว่านล้อมเต็มที่ เขาอยากให้ลีอาไปด้วยใจจะขาด
“จ้ะ!! พ่อคนสายเปย์ มองจากดาวอังคารยังดูออกเลย..เลี้ยงแต่ลีอาน้า เลี้ยงพวกฉันด้วยได้ป่ะ” ใยไหมอดไม่ได้ที่จะพูดแซว กราฟฟิกรุกหนักขนาดนี้แม้แต่เพื่อนๆ ยังดูออก จะมีก็แต่อีกฝ่ายที่ยังทำมึนและพยายามรักษาระยะห่างไม่ให้มากเกินกว่าเพื่อน
“เอ่อ..กลัวแม่ด่าน่ะ” ลีอาพูดโพล่งออกมาเสียงเบา พลางยิ้มแหย่ๆ
“ไม่ยาก ก็บอกแม่เธอว่ามาทำรายงานที่คอนโดฉันก็ได้ อืม..ให้ฉันบอกแม่เธอให้ก็ได้นะ พรุ่งนี้ก็วันเสาร์ด้วยจะเที่ยวดึกแค่ไหนก็ได้” พิชชี่พูดคะยั้นคะยอ เธอเคยไปเที่ยวบ้านลีอาและเจอพิมพ์มาดาแม่ของลีอาอยู่หลายครั้ง
“อืม ก็ได้ "
“เย้!! วันนี้ได้แดกเหล้าฟรีแล้ว” ออกัสยักคิ้วหลิ่วตาส่งให้กราฟฟิกที่ยิ้มกว้างอย่างดีใจ
เสียงพูดคุยดังออกมาจากกลุ่มของรุ่นพี่ปีสามที่กำลังเดินเข้ามาใกล้ทำเอาลีอาสะดุ้งโหยง หลายวันมานี้เธอพยายามหลบเลี่ยงทุกๆ ที่ที่พวกรุ่นพี่ปีสามชอบเดินผ่านหรือแม้กระทั่งโต๊ะประจำตรงด้านหน้าตึกคณะเธอก็พยายามเลี่ยงเท่าที่จะทำได้ แค่ได้ยินเสียงของเตชินทร์ก็ทำให้เธอรู้สึกหวาดกลัวแล้ว แต่ที่ทำให้ลีอาแปลกใจมากกว่าก็เพราะหลังจากวันนั้นเตชินทร์ไม่มาป้วนเปี้ยนวุ่นวายกับเธอเหมือนช่วงก่อนเลยสักนิด เธอพยายามเลิกคิดแต่มันก็แว๊บเข้ามาในหัวสมองทุกครั้งที่ได้ยินเสียงหรือเห็นเขาในที่ไกลๆ
ชายหนุ่มชะงักไปเล็กน้อยเมื่อเห็นรุ่นน้องสาวที่กำลังลุกขึ้นยืนและทำท่าจะเดินหนีเมื่อเห็นเขาเดินเข้าใกล้โต๊ะที่พวกเธอนั่งอยู่ ท่าทีแบบนั้นไม่ค่อยสบอารมณ์เขาเท่าไหร่นักแต่เขาก็พยายามทำเป็นไม่สนใจ
“เดี๋ยว ลีอา!!”
“อะไรของยัยนั่นวะ ทำยังกับจะหนีใครอย่างนั้น” ออกัสพึมพำออกมาอย่างงงๆ
“สวัสดีค่ะ/สวัสดีครับ” เสียงทักทายของรุ่นน้องทำให้พวกรุ่นพี่ปีสามเดินเข้าไปพูดคุยด้วย เตชินทร์ทำท่าจะผละหนีแต่ก็ต้องชะงักฝีเท้าเพราะเรื่องที่ได้ยินออกจากปากของรุ่นน้องปีหนึ่ง
รอยยิ้มร้ายแสยะขึ้นตรงมุมปาก เมื่อนึกอะไรสนุกๆ ขึ้นมาได้..
ลีอาถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่หลังจากวางสายโทรศัพท์ ในใจรู้สึกผิดที่โกหกแม่ออกไปแบบนั้นแต่เธอก็อยากจะลองไปเที่ยวกับเพื่อนๆ ดูบ้าง ถือว่าเปิดหูเปิดตาบ้างแล้วที่สำคัญก็มีเพื่อนๆ อยู่ด้วยมันคงไม่มีน่ากลัว ก็แค่เที่ยวผับใครๆ ก็ไปเที่ยวกันทั้งนั้น แต่การไปเที่ยวผับครั้งแรกทำเอาเธอตัดสินใจเลือกชุดที่ใส่ไปไม่ได้สักทีเพราะในตู้เสื้อผ้าของเธอไม่มีชุดที่พอจะใส่เที่ยวกลางคืนแบบนั้นได้เลย หญิงสาวยืนมองเสื้อผ้าบนเตียงอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะหยิบโทรศัพท์โทรหาพิชชี่
“โทรบอกแม่แล้วใช่ไหม รอแป๊บนะเดี๋ยวฉันเข้าไปรับที่บ้าน”
“อืม ไปผับนี่มันต้องแต่งตัวยังไง”
“ก็เปรี๊ยวๆ แซ่บๆ หน่อย เดี๋ยวฉันเตรียมไว้ให้รูปร่างของเธอกับฉันน่าจะใส่ไซส์เดียวกันได้” พิชชี่พูดเสียงใสตอบกลับมาอย่างอารมณ์ดี
“ขอบใจนะ”
“ไม่เป็นไร อีกสิบห้านาทีฉันคงจะถึงบ้านเธอ "
“อือ..เดี๋ยวเจอกัน”
คอนโดพิชชี่
“ไม่ๆ ชุดนี้มันโป๊ไป”
“กะกระโปรงมันสั้นไปหน่อยว่าไหม”
“โหยย..ไม่ไหวอ่ะ แหวกลึกขนาดนั้นนมแทบจะปลิ้นออกมาหมดแล้ว”
เสียงบ่นของคนตัวเล็กที่กำลังลองใส่ชุดที่เพื่อนสาวหยิบออกมาวางลงบนเตียงกว้าง ผ่านไปหลายสิบนาทีเธอก็เลือกชุดที่จะใส่ไม่ได้สักที ไม่ใช่เพราะเธอเรื่องมากแต่ชุดเปรี้ยวๆ แซ่บๆ ที่เพื่อนของเธอบอกมันดูหวาดเสียวจนเธอไม่กล้าใส่และดูเหมือนทั้งคู่จะสนุกสนานกับการจับลีอาแต่งตัว ผิดกับอีกฝ่ายที่ได้แต่บ่นออกมาอย่างเหนื่อยหน่ายเพราะชุดแต่ละชุดมันดูโป๊ในสายตาเธอไปหมด
“ไปเที่ยวเขาก็แต่งแบบนี้กันทั้งนั้น ไม่โป๊หรอกน่าเธออ่ะคิดมากไปเอง พวกฉันก็แต่งแบบนี้เหมือนกัน เห็นไหม? ” ใยไหมพูดยิ้มๆ เมื่อเห็นหน้านิ่วคิ้วขมวดของลีอา
ทั้งใยไหมและพิชชี่ต่างหุ่นดีทั้งคู่ใส่อะไรก็ดูดีไปหมด ลีอาจ้องมองหน้าอกคัพดีของใยไหมด้วยความตื่นเต้น พอใยไหมใส่เสื้อสายเดี่ยวรัดรูปแบบนี้ยิ่งทำให้มันดูใหญ่อลังการจนเธอยังละสายตาไม่ได้
“ว้าว! หน้าอกเธอใหญ่จัง ตอนใส่ชุดนักศึกษาฉันคิดว่ามันใหญ่แล้วพอมาเห็นแบบนี้มันดูใหญ่มาก” ฉันเอื้อมมือออกไปสัมผัสหน้าอกของใยไหมและเธอก็แอ่นหน้าอกไซส์เบิ้มให้ฉันจับอย่างเต็มใจ มันใหญ่จนล้นฝ่ามือของฉันด้วยซ้ำ
“ฉันไม่ค่อยชอบมันเท่าไหร่ มันหาเสื้อผ้าสวยๆ ใส่ยากแถมยังหนักด้วย” ใยไหมพูดตอบพลางยิ้มเขินๆ
“ใส่ตัวนี้ดีไหม” พิชชี่หยิบเสื้อเกาะอกสีขาวยื่นส่งให้ลีอา
“ฉันไม่เคยใส่แบบนี้ มันรู้สึกโป๊ๆ ยังไงไม่รู้” ฉันส่ายหน้าปฏิเสธพลางมองหน้าพิชชี่กับใยไหมที่ทอดถอนหายใจออกมาอย่างเอือมระอากับความเรื่องมากของฉัน
“อืมม..งั้นใส่ชุดนี้ไหมดูเปรี้ยวนิดๆ แล้วก็ไม่โป๊มาก”
พิชชี่หยิบชุดเดรสแขนกุดสีดำที่คอเสื้อไม่ลึกมากแต่พอหันด้านหลังมาเท่านั้นแหละทำเอาลีอาเบิกตากว้างขึ้นมอง มันเว้าลึกลงมาถึงกลางหลัง ถ้าเอาผมยาวปิดๆ ไว้ก็แทบจะไม่เห็นอะไรและมันก็ดูโป๊น้อยกว่าชุดอื่นๆ ที่ลีอาตัดสินใจเลือกชุดนั้นเพราะมันไม่สั้นมากเหมือนชุดอื่นๆ
“ชุดนี้มันต้องเกล้าผมเป็นมวยสูงๆ แบบนี้ถึงจะเหมาะนะ แผ่นหลังเธอทั้งเนียนทั้งขาว สวยออก” มือเรียวของพิชชี่ลูบสัมผัสไปบนกลางหลังของลีอาเบาๆ มันเนียนนุ่มมือจนผู้หญิงด้วยกันยังรู้สึกอิจฉา
“มีของดีอยู่กับตัวต้องโชว์บ้างรู้ไหม หน้าอกของเธอก็สวยนะน่าจะใส่เสื้อโชว์หน่อยก็ดี” ใยไหมเอ่ยชมขณะหยิบบราปีกนกออกมาติดบนหน้าอกคัพซีของเพื่อน
“ไม่เอา ปล่อยผมแบบนี้ดีกว่ามันจะได้ปิดหลังด้วย เอ่อ..ฉันชอบแบบนี้มากกว่า”
“โอเค ตามใจเธอ มาๆ มาแต่งหน้าต่อ ฉันล่ะอยากลองแต่งหน้าให้คนอื่นดูบ้าง วันนี้จะได้ลองแสดงฝีมือสักที” พิชชี่หัวเราะออกมาเมื่อเห็นใบหน้ามุ่ยๆ ของลีอา
กว่าสามสาวจะแต่งตัวแต่งหน้าเสร็จก็ปาเข้าไปเกือบสองทุ่มแต่โชคดีที่ผับของพี่ชายกราฟฟิกอยู่ไม่ไกลจากคอนโดของพิชชี่นักเลยใช้เวลาไม่ถึงยี่สิบนาทีก็มาถึงผับก่อนเวลานัดหมาย
เสียงเพลงที่ดังๆ ในผับและบรรยากาศที่แปลกหูแปลกตาทำเอาลีอาจ้องมองไปรอบๆ อย่างตื่นเต้น เธอนั่งดื่มม็อกเทลและพูดคุยกับเพื่อนๆ ดวงตากลมโตเบิกกว้างขึ้นเล็กน้อยเมื่อเห็นกลุ่มรุ่นพี่ปีสามเดินตรงเข้ามาที่โต๊ะที่พวกเธอนั่งอยู่ แถมพวกเขายังเป็นกลุ่มเพื่อนของเตชินทร์แต่เมื่อเธอมองดูจนทั่วกลับไม่พบผู้ชายคนนั้น ลีอาถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก เธอทักทายรุ่นพี่ปีสามกลุ่มนั้นตามมารยาทก่อนจะหันกลับไปพูดคุยกับกราฟฟิกที่นั่งอยู่ข้างๆ
“ฉันไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ” ลีอาหันไปบอกพิชชี่ที่นั่งอยู่ใกล้ๆ ร่างบางคว้ากระเป๋าสะพายขึ้นมาถือไว้และตั้งท่าจะลุกเดิรไปเข้าห้องน้ำ
“ให้ไปเป็นเพื่อนไหม” พิชชี่เอื้อมมือออกมาจับเเขนเรียวเล็กของลีอาไว้เบาๆ
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวฉันมานะ”
เสียงทุ้มต่ำคุ้นหูดังขึ้นจากด้านหลังของหญิงสาวหลังจากที่เธอเพิ่งทำธุระส่วนตัวเสร็จและเดินออกมาจากในห้องน้ำ
เธอจำเสียงนั้นได้ดี...มันเป็นเสียงของปีศาจร้ายที่คอยตามหลอกหลอนเธอชัดๆ เธอรีบหันขวับไปมองต้นทางเสียงทันที
“แอบมาเที่ยวผับแบบนี้ถ้าอาพิมพ์รู้เข้าจะเป็นยังไงน้า”
“พี่คงไม่ทำตัวเป็นเด็กเอาเรื่องนี้ไปฟ้องแม่หนูหรอกใช่ไหม”
“หึ ก็ไม่แน่นะ บางทีฉันอาจจะทำก็ได้”
มือหนาล้วงโทรศัพท์เครื่องหรูอออกมาค้นหาเบอร์โทร เขาแสยะยิ้มเมื่อเจอเบอร์โทรที่ต้องการ เท้าขยับเดินเข้าใกล้พลางยกหน้าจอมือถือขึ้นมาให้คนตัวเล็กดู ทันทีที่เห็นเบอร์โทรของแม่ตัวเอง ลีอาก็เดินเข้าแย่งโทรศัพท์ออกจากมือของเขาทันที สีหน้าไม่พอใจและแววตาวาวโรจน์ด้วยความโกรธทำให้เตชินทร์ยิ้มกว้างออกมา เขารวบข้อมือเล็กไว้พร้อมกับดึงรั้งร่างบางให้เข้าในวงแขน สายตาคมมองจ้องแผ่นหลังเนียนขาวที่โผล่ออกมาจากเส้นผมยาวสลวยที่ปิดบังอยู่ มือหนาปัดเส้นผมอ่อนนุ่มออกจากแผ่นหลังไปไว้ด้านหน้าก่อนจะเลื่อนฝ่ามือลงลงลูบไล้ผิวใสเบาๆ
“อย่ามาทำลามกกับหนูนะ ไม่งั้นหนูจะแหกปากร้องให้ลั่นร้านเลย ไม่เชื่อก็คอยดู”
เตชินทร์หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโชว์ให้เธอดูอีกครั้งก่อนจะกดโทรออกและแนบมันลงกับข้างกกหูเล็ก ร่างบางที่ดิ้นไปมาถึงกับหยุดชะงักนิ่งใบหน้าซีดเผือดแทบไม่มีสีเมื่อได้ยินเสียงผู้หญิงที่ดังเข้ามาในสาย
“ฮัลโหล.. ฮัลโหล! ชินมีอะไรหรือเปล่าจ้ะ”