EP.7 เป็นประจำเดือนครั้งแรก
“ครั้งนี้ครั้งสุดท้ายแล้วนะ น้องโตแล้วให้พี่อุ้มบ่อยๆ คงไม่เหมาะเท่าใดนัก” ชายหนุ่มแกล้งทำเสียงดุ เขาก้มลงอุ้มร่างบางขึ้นมาแนบอกก่อนจะเดินกลับเข้าไปยังคฤหาสน์ เซรินะห์หัวเราะคิกคักอย่างอารมณ์ดี มือเรียวโอบรอบคอของพี่ชายไว้แน่น
“มันจะไม่เหมาะได้ยังไงคะพี่ชาย ก็เราเป็นพี่น้องกันนี่นา”
“ใช่...เราเป็นพี่น้องกัน” ชีคหนุ่มตอบรับ เขาเป็นพี่ชายของเธอ และเธอเป็นน้องสาวของเขา แล้วเขาจะต้องกังวลเรื่องความเหมาะสมหรือไม่เหมาะสมทำไมกัน
“เอ้าถึงแล้ว”
ชายหนุ่มวางเธอลงหน้าคฤหาสน์ เซรินะห์ยังคงอ้อนพี่ชายไม่ห่าง เธอกอดแขนที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามของพี่ชายเอาไว้แน่น เจ้าฮัมซาเดินตามมายังด้านหลัง มันเดินเลยทั้งสองไป ก่อนจะนอนหมอบลงข้างๆ เสากลางห้องโถง
“แล้ววันนี้เล่นกับเจ้าฮัมซาเป็นยังไง สนุกหรือเปล่า” ชายหนุ่มเอ่ยถาม เพราะเซรินะห์รักเจ้าฮัมซาเอามากๆ และใช้เวลาส่วนใหญ่ขลุกอยู่กับเจ้าฮัมซาเป็นวันๆ ฮัมซาก็เช่นกันไม่ว่าเจ้านายมันจะอยู่ที่ไหนเขาจะต้องเห็นมันนั่งเฝ้าอยู่ไม่ห่าง
ชายหนุ่มเผลอยิ้มเมื่อคิดถึงเมื่อห้าปีก่อน เขาและเจ้าหน้าที่ศูนย์วิจัยตกลงกันว่าจะนำเจ้าฮัมซากลับคืนสู่ผืนป่าเพื่อให้มันได้ใช้ชีวิตเฉกเช่นสัตว์ป่าตัวอื่นๆ ซึ่งกว่าจะเกลี้ยกล่อมให้เซรินะห์เข้าใจเขาต้องใช้ระยะเวลาร่วมเดือน ทว่าเมื่อถึงวันที่นำเจ้าฮัมซาไปปล่อยจริงๆ ปัญหากลับอยู่ที่เจ้าฮัมซาเพราะมันวิ่งตามรถจี๊ปของเขาอย่างไม่ลดละ
เขาแข็งใจเร่งรถกลับออกมาเพราะอย่างไรเสียสัตว์ป่าก็ต้องกลับคืนสู่ป่า ยิ่งเจ้าฮัมซาโตขึ้นทุกวันเช่นนี้เขาก็ยิ่งหนักใจ ทว่าสามวันต่อจากนั้นทหารวิ่งเข้ามารายงานเขาด้วยท่าทางตื่นตระหนก เมื่อเจ้าฮัมซามายืนอยู่หน้าประตูรั้วคฤหาสน์ขู่คำรามเสียงดังก้องพยายามจะกระโจนเข้ามาด้านในให้ได้ เขารีบออกไปทันทีเพราะเกรงว่ามันจะทำร้ายผู้คนบริเวณนั้น
ทว่า...เขากลับไม่เร็วเท่าเซรินะห์ เด็กสาวไปถึงก่อนเขา ภาพที่เขาเห็นทำให้เขาต้องตัดสินใจใหม่อีกครั้ง เมื่อทั้งสองกอดกันแน่นด้วยความคิดถึง
“ช่วงหลังๆ เจ้าฮัมซาขี้เกียจอย่าบอกใครเลยล่ะ วันๆ เอาแต่นอน” เซรินะห์หน้ามุ่ย แก้มป่องจนเขากลัวว่ามันจะปริแตก ใบหน้างอทว่ากลับดูน่ารักน่าหยิกเสียเหลือเกิน
“ช่วยไม่ได้เจ้าฮัมซาอายุเก้าปีแล้ว มันเริ่มอายุมากจะให้วิ่งเล่นเหมือนตอนเป็นเด็กๆ คงไม่ไหว น้องเองก็เหมือนกัน...”
ชีคหนุ่มมองไปยังเด็กสาวเขาเฝ้ามองพัฒนาการของเธอมาโดยตลอดจนเขาเริ่มสังเกตว่าเอวที่เคยตรงเริ่มคอด สะโพกเริ่มผาย และเธอเริ่มมีหน้าอก เขาไม่รู้ว่าการเฝ้าสังเกตน้องสาวของตนเองเช่นนี้มันเข้าขั้นประสาทหรือเปล่า แต่เขาเป็นคนเลี้ยงเธอ คอยเปลี่ยนผ้าอ้อมให้เธอ จึงไม่แปลกที่เขาจะมองเห็นการเปลี่ยนแปลงของเธอ
“พูดไปแล้วก็ใจหาย น้องยังรู้สึกเหมือนกับว่าเพิ่งได้เจอฮัมซาไม่กี่วันนี่เอง เผลอแป๊บเดียวเจ้าฮัมซาก็เริ่มแก่แถมตัวโตกว่าน้องเสียแล้ว”
“ใช่เผลอแป๊บเดียว...ไวจนเราตั้งตัวแทบไม่ทันเชียวล่ะ”
ชีคราเซมจ้องมองใบหน้าของหญิงสาว เธอโตเร็วจนเขาเตรียมใจไม่ทัน ทุกอย่างผ่านไปเร็วมาก เด็กทารกตัวเล็กๆ ไม่มีอีกต่อไปแล้ว เหลือเพียงสาวงามที่กำลังรอวันผลิบานรับแสงอรุณ...และเธอกำลังเข้ามาผลิบานกลางใจชีคหนุ่มโดยที่เจ้าของหัวใจไม่รู้ตัวเลยว่าทุกลมหายใจเข้าออกของเขามีแต่ดวงจันทร์ดวงนี้...
ชีคฮาดีนนั่งอ่านหนังสือพิมพ์ด้วยท่าทางผ่อนคลาย เมื่อเขาวางมือจากธุรกิจทั้งหมด เวลาส่วนใหญ่จึงหมดไปกับการอ่านหนังสือ ปลูกต้นไม้ และเลี้ยงลูกหลงแสนซน...เซรินะห์
“ท่านพ่อครับ” ชีคราเซมเดินมานั่งข้างๆ บิดา
“ว่ายังไงราเซม หน้าตาเครียดมาเชียว ในฟาร์มมีปัญหาอย่างนั้นรึ”
“เปล่าครับวันนี้ผมอยากปรึกษาท่านพ่อเรื่องเซรินะห์” ใบหน้าคมคร้ามยังคงเคร่งขรึมดังเดิม
“มีอะไร หรือว่าเซรินะห์ไปก่อเรื่องอะไรอีก”
ชีคฮาดีนเอ่ยอย่างอารมณ์ดี นึกขอบใจเจ้าลูกชายที่เก็บเด็กสาวมาเลี้ยงทำให้บั้นปลายชีวิตของเขากลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งหลังจากสูญเสียภรรยาไปอย่างไม่มีวันย้อนกลับ เพราะแม่ตัวยุ่งมักหาเรื่องมาให้เขาปวดหัวและตามแก้ไม่หวาดไม่ไหว ถึงจะโกรธยังไงทว่าเมื่อเห็นสายตาออดอ้อน และเสียงหวานๆ ก็จำต้องใจอ่อนอยู่ร่ำไป
“เรื่องย้ายโรงเรียนครับท่านพ่อ ผมอยากให้เซรินะห์ย้ายไปเรียนที่อังกฤษ”
ชีคฮาดีนวางหนังสือพิมพ์ก่อนจะหันมาทางบุตรชายทันที “ทำไมรีบนักล่ะ ไหนตอนแรกตกลงกันไว้ว่าเข้ามหาวิทยาลัยถึงจะให้น้องไปเรียนที่อังกฤษ ระหว่างนี้ก็ให้น้องเรียนโรงเรียนนานาชาติที่รัฐเจดดาห์ไปก่อน” ชีคฮาดีนเอ่ยถามน้ำเสียงไม่ค่อยพอใจนัก ที่จะให้เด็กผู้หญิงอายุสิบห้าไปเรียนไกลถึงต่างแดน แค่ต่างรัฐเขายังหวงไม่อยากให้ไป นี่อะไรจะให้ข้ามทวีปไปถึงอังกฤษเขาไม่มีทางยอมแน่ๆ
“ผมคิดว่าเซรินะห์น่าจะเรียนรู้การใช้ชีวิตภายนอกบ้าง นอกจากโรงเรียน คฤหาสน์ และฟาร์มเลี้ยงสัตว์ เธอควรได้มีสังคมที่เธอเลือกเองไม่ใช่สิ่งที่ผมกับท่านพ่อเลือกให้เธอ”
“แล้วการไปอังกฤษเซรินะห์เป็นคนเลือกอย่างนั้นหรือราเซม น้องบอกเราหรือว่าต้องการอะไร” ชีคฮาดีนย้อนถามบุตรชาย ชีคหนุ่มนิ่งอึ้งเมื่อโดนย้อนถามเช่นนั้น
“แล้วผมจะคุยกับน้องเองครับ”
“ว้าย! นมคะ นมซะห์” เซรินะห์ร้องเสียงหลงดังมาจากในห้องน้ำ ทว่าเจ้าตัวกลับไม่ยอมออกมา
“มีอะไรหรือคะคุณหนู” หญิงร่างท้วมรีบวิ่งไปยังหน้าห้องน้ำทันที ด้วยเกรงว่านายสาวของตนอาจเกิดอุบัติเหตุในห้องน้ำถึงได้ร้องเสียงหลงเช่นนั้น หญิงสาวเยื่ยมหน้าออกมาครึ่งตัวในสภาพพันผ้าขนหนูกระโจมอกไว้ ใบหน้าแดงก่ำ ผมเปียกลู่แนบแก้มบางระลงมายังลำคอ
“คือหนู...” ใบหน้าแดงระเรื่อขึ้นกว่าเดิม หญิงสาวมีท่าทางเขินอายอย่างเห็นได้ชัด
“มีอะไรหรือคะ” พากีซะห์มองหน้าเด็กสาวที่เลี้ยงมากับมือด้วยความไม่เข้าใจ เพราะเด็กสาวยังปกติดีทุกอย่าง ไม่ได้เกิดอุบัติเหตุอย่างที่เธอกังวล
“คือหนู...เป็น...” หญิงสาวหน้าแดงก่ำจนแทบจะปริแตก