“มั่นใจขนาดนั้น?” ปลาบปลื้มเลิกคิ้วถาม
“มั่นใจร้อยล้านเปอร์เซ็นต์” เธอยังคงตอบด้วยน้ำเสียงมาดมั่น
“ไม่คิดว่าสักวัน เธออาจจะตกหลุมรักฉันบ้างหรอ”
“ไอ้ปลื้ม แกฝันหรอ ฉันเนี้ยนะจะตกหลุมรักแก...” แอบเฟลอยู่นะ แต่ช่างเหอะ เขาชินแล้ว ก็นะ ไม่แปลกที่เธอจะเกลียดเขา เพราะทุกอย่างมันก็ดูเหมาะเจาะซะขนาดนั้น ไม่เกลียดก็แปลก
ฟิ้ว!! โป๊ก!!
“โอ๊ย!!” อัญชันร้องลั่นห้องเมื่ออยู่ๆ ปากกาที่ไหนไม่รู้ก็ลอยมาโดนศีรษะเธออย่างจัง จึงหันไปมองที่ต้นเหตุ แล้วก็เห็นปลาบปลื้มกำลังง้างแขนเตรียมจะเขวี้ยงปากกาอีกครั้ง “ไอ้ปลื้ม!! แกปาปากกาใส่หัวฉันหรอ”
“เห้ย!! เปล่า” ปลาบปลื้มปฏิเสธทั้งที่มีหลักฐานคามือ
เพี๊ยะ!!
อัญชันจึงลุกขึ้นจากเก้าอี้ของตัวเอง ก่อนจะเดินไปตบหัวปลาบปลื้มด้วยความแรง
“โอ๊ย!! ฉันไม่ได้ทำโว้ย!” ปลาบปลื้มยกมือขึ้นกุมศีรษะที่ถูกฟาดเมื่อคู่ด้วยความเจ็บ แต่เธอเชื่อเขาที่ไหนกัน ก็เห็นๆ กันอยู่
“อย่าให้เห็นอีกนะ ไม่งั้นฉันจะฟ้องอาปราณกับอาฝัน”
“ฟ้องแม่เลยหรอ ยัยขี้ฟ้อง!!”
“เมื่อไหร่จะเรียนจบสักทีก็ไม่รู้ เบื่อหน้าจะแย่ ทำไมฉันจะต้องอยู่ห้องเดียวกับแกด้วยวะ วุ๊ว!!”
“เพราะมึงอ่า กูโดนด่าเลยไอ้ห่าฟร้องค์” ปลาบปลื้มหันไปด่าเพื่อนสนิทที่เป็นตัวต้นเหตุ ทำให้เขาต้องโดนด่า ทั้งที่ไม่ได้เป็นคนทำเลย
“คอยดูเถอะ หล่อขนาดนี้ไม่ชอบให้มันรู้ไป” พูดกับตัวเองเบาๆ ก่อนจะสตาร์ทรถและขับไปสู่คอนโดของอัญชัน
“ขอบใจที่ขับรถมาส่ง ฉันขึ้นห้องและ”
“เดี๋ยวดิ หิวน้ำ...”
“กลับไปกินที่บ้าน ไม่ให้ขึ้นไป...”
“แต่...ดึกขนาดนี้จะมีรถที่ไหนวิ่งมา” เขาหาข้ออ้าง
“เอารถฉันไป แล้วพรุ่งนี้ก็มารับ” แล้วเธอก็เปิดประตูรถ แล้วเดินเข้าไปในคอนโดทันที ทิ้งให้ปลาบปลื้มหน้าหงอยเป็นหมาเหงา สุดท้ายก็ตัดสินใจขับรถเธอกลับบ้าน
วันต่อมา...
“ปัน ช่วยคุยกับคุณพ่อให้หน่อย ปลื้มอยากอยู่คอนโด” ปลาบปลื้มอ้อนพี่สาวที่วันนี้กลับมานอนบ้านด้วยแววตาอ้อนวอน
“ปลื้มก็ไปคุยเองสิ แล้วทำไมต้องอยากอยู่คอนโด ปกติก็นอนบ้าน” พี่สาวถามเหตุผลกับน้องชาย
“ทีปันยังอยู่คอนโดได้เลย ปลื้มจะอยู่บ้างไม่ได้หรือไง?”
“ไปขอแม่สิ ให้แม่ช่วยพูดให้ ปันว่าพ่อน่าจะฟังแม่มากกว่าปันนะ”
“คุณแม่...” ปลาบปลื้มเอ่ยเรียกเพียงฝันที่กำลังปอกผลไม้อยู่ที่ครัว
“ว่าไงลูก เสียงอ้อนแบบนี้อยากได้อะไรอีก” เพียงฝันเอ่ยถามอย่างรู้ทันลูกชายคนเล็กของบ้าน ที่เวลาอยากได้อะไรก็มักจะเสียงออดอ้อนมาแต่ไกลแบบนี้ทุกครั้ง
“รู้ทันปลื้มอีกแล้ว...”
“ก็แม่เป็นแม่ จะไม่รู้ได้ยังไง แม่เลี้ยงปลื้มมานะ”
“ปลื้มอยากอยู่คอนโด ช่วงนี้เรียนหนักมากเลย...ถ้าปลื้มต้องขับรถกลับบ้านทุกวันเหนื่อยแย่เลย” ว่าแล้วปลาบปลื้มก็กอดเอวแม่พร้อมกับเอาหน้าแนบไหล่ของเธอเชิงอ้อน
“อย่าคิดว่าแม่ไม่รู้ว่าอยากอยู่เพราะอัญชัน”
“แล้วอัญชันเกี่ยวอะไรล่ะแม่ ไม่เกี่ยวเลย อยู่คนละที่เลย”
“คนละที่ แต่ก็คอนโดตรงข้าม”
“โธ่ คุณแม่...ให้ปลื้มอยู่เถอะนะ นะแม่นะ โอเคยอมรับก็ได้ว่าอยากอยู่ใกล้อัญชัน...”
“นี่ไงเห็นไหม แม่เดาไม่ผิดเลย...”
“นะแม่...”
“คิดไม่ดีอยู่หรือเปล่า คิดจะรวบหัวรวมหางลูกสาวอาซันใช่ไหม” มือเล็กวางมีดปอกผลไม้ลงแล้วหันมาจ้องลูกชายเชิงจับผิด หรี่ตามองใบหน้าหล่อตี๋ที่ดูเหมือนสามีของตัวเองไม่มีผิดเพี้ยน
“ไม่ได้รวบเลยแม่”
“ผู้ชายไว้ใจได้ที่ไหน ขนาดคุณพ่อยังร้ายแล้วแม่จะไว้ใจลูกได้ยังไง DNAความร้ายมันส่งต่อกันขนาดนี้”
“งั้นแม่ก็ต้องบอกว่าไอ้ป้องมันร้ายด้วยน่ะสิ” ปลาบปลื้มโยนให้พี่ชายฝาแฝด
“ป้องไม่ร้าย มีแต่เรานั่นแหละที่ร้าย”
“เอ้า ทำไมปลื้มคนเดียวล่ะแม่ ปลื้มกับมันก็หน้าเหมือนกันอ่า”
“เหมือนแค่หน้า แต่นิสัยไม่เหมือนไง ปลื้มกับอัญชันเจอกันมาตั้งแต่เด็กๆ แล้วปลื้มก็ชอบอัญชันอีก คนชอบๆ กันอยู่ใกล้กันอะไรจะเกิดขึ้น แล้วยิ่งปลื้มเป็นแบบนี้ แม่ยิ่งไม่ไว้ใจเลย แล้วถ้าไปอยู่คอนโดจะอยู่ยังไง กับข้าวกับปลาก็ทำไม่เป็น”
“ซื้อกินก็ได้ไงครับแม่ เงินก็มี”
“ใช้เงินเปลือง ไม่รู้ล่ะไปขอคุณพ่อเอง”
“โถ่แม่ ช่วยขอพ่อให้ปลื้มหน่อยนะ นะครับนะ แม่ก็รู้ว่าพ่อเชื่อฟังแม่”
“ไปทำกับข้าวให้ได้ก่อน แล้วแม่จะยอม”
“แม่...”
“ทำให้ได้สักอย่างนึงแล้วจะยอมให้อยู่ รู้ไหมว่าในบรรดาลูกๆ เนี่ยปลื้มน่าเป็นห่วงที่สุดเลยนะ”
“แม่ปลื้มเอาตัวรอดได้ แค่ทำกับข้าวไม่เป็น ไม่ได้การันตีว่าจะอยู่ไม่ได้ ลองให้ปลื้มไปอยู่ก่อนสักเดือนก็ได้ นะๆๆๆ”
“ไม่...คำไหนคำนั้น...เอางี้...ทำเมนูง่ายๆ อย่างไข่เจียวให้ได้ก่อน”
“ไม่เอา ปลื้มไม่ชอบให้น้ำมันกระเด็น ปลื้มไม่ชอบความร้อนบนหน้าเตาแม่ก็รู้” ลูกชายสุดที่รักกล่าวอย่างเอาแต่ใจ จนผู้เป็นแม่ส่ายหน้าด้วยความระอา
“งั้นก็ไม่ต้องไปอยู่...” เพียงฝันยื่นคำขาดกับลูกชาย
“โธ่แม่...”
“อยากไปก็ทำให้ได้ แค่ต้มบะหมี่กินได้มันไม่พอหรอกนะ”
“โอเค...ทำก็ทำ...” สุดท้ายปลาบปลื้มก็เดินไปในครัวแล้วหยิบกระทะมาถือไว้
เขาเดินไปที่เตาแล้ววางกระทะลง ก่อนจะหาวิธีเปิดเตา แต่ก็ถูกเพียงฝันร้องขัดขึ้นก่อนด้วยความตกใจ
“นั่นปลื้มจะทำอะไร?”
“เจียวไข่ไงครับ”
“แล้วจะเปิดเตาทำไม”
“ก็เจียวไข่ ไม่เปิดเตาจะเจียวไข่ยังไงล่ะครับแม่”
“ไม่ใช่แบบนั้น...” เพียงฝันยกมือขึ้นคลึงขมับตัวเองเล็กน้อย
“แล้วแบบไหนครับ...”
“ไปเอาถ้วยมาตอกไข่ก่อน...นี่แค่เรื่องง่ายๆ ปลื้มยังทำไม่เป็นเลย จะรอดไหมเนี้ย” เพียงฝันบ่น แล้วเดินไปหยิบชามกับส้อมมาวางไว้ที่เคาน์เตอร์ครัว
“ตอกไข่ใส่ชาม” เธอเอ่ยบอก
โป๊กๆ แผล๊ะ!!
ปลาบปลื้มหยิบไข่มาตอกที่เคาน์เตอร์ แต่เพราะแรงที่เขาตอกมันแรงเกินไปทำให้ไข่แตก ไหลลงพื้นจนเลอะเทอะไปหมด นั่นยิ่งทำให้ผู้เป็นแม่หนักใจเข้าไปใหญ่ นี่ขนาดแค่ตอกไข่ยังเลอะเทอะขนาดนี้ ถ้าทำอาหารคงไฟไหม้บ้านแน่ๆ
“จะรอดไหมเนี่ยลูก”
“สงสัยตอกแรงไป แฮะๆ”
“หยุด!!” เธอร้องห้ามเมื่อปลาบปลื้มกำลังจะจับไข่ไปตอกอีกครั้ง “ทำแบบนี้” เพียงฝันจับไข่ไปเคาะที่ขอบชามไม่แรงมาก พอให้เปลือกไข่มันแตกนิดเดียว จากนั้นก็ใช้นิ้วอีกข้างช่วยปลอกไข่ให้แยกออกจากกัน
“แล้วก็ไม่ทำให้ปลื้มดูตั้งแต่แรก”
“ใครจะไปคิดว่าแค่กะเทาะไข่ออกจากเปลือกจะทำไม่ได้”
หมับ!! ฟ่อด!
“คุณแม่ทำอะไรอยู่ครับ” ปกป้องถามขึ้นเมื่อเข้ามาในครัว พร้อมกับเข้าไปสวมกอดแม่จากทางด้านหลัง ตามด้วยหอมแก้มแม่ไปหนึ่งที
“สอนปลื้มเจียวไข่” เพียงฝันตอบ
“มึงนึกบ้าอะไรของมึงเนี่ยปลื้ม” ปกป้องเอ่ยถามน้องชายฝาแฝดอย่างไม่ค่อยเข้าใจ
“เสือก”
“ปลื้ม แม่จะตีลูกเดี๋ยวนี้เลย ดูพูดเข้า ไม่น่ารักเลย”
“โธ่แม่...” ปลาบปลื้มเบี่ยงตัวหลบฝ่ามือแม่ พลางทำหน้ายู่ที่ถูกดุ
“เลิกทำนะไอ้น้องรัก ดูท่าแล้วไม่น่ารอด” ปกป้องยกมือขึ้นยีหัวน้องชายตัวเองเชิงหยอก ก่อนจะเดินออกไปจากครัว
“สัส มึงอย่าดูถูกกูไอ้ป้อง”
“สภาพ ซื้อกินเถอะมึง ง่ายกว่า”
“ซื้อกินแม่ก็ไม่ให้กูไปอยู่คอนโดดิ มึงช่วยพูดกับพ่อให้หน่อยดิ ป้องพี่ชายสุดที่รัก”
“อืม รักกูขึ้นมาเชียว”
“นะช่วยหน่อย” ปลาบปลื้มเปลี่ยนเป็นขอร้องพี่ชายแทน
“ก็ไปขอเอง พ่อมีเหตุผล มึงก็เอาเหตุผลไปบอกพ่อ กูว่าพ่อคงไม่ขัดหรอก”
“...”
“งั้นก็มาเจียวไข่ให้ได้ แล้วแม่จะไปคุยกับพ่อให้”
“แม่...มันยาก ทำไมต้องทำให้ยุ่งยากด้วย”
“นี่เมนูนี้ง่ายสุดแล้ว ลองทำดูก่อนสิ” เพียงฝันยังคงคะยั้นคะยอให้ลูกชายทำ
ผ่านไป1ชั่วโมง...
“ฝันวันนี้มีอะไรกินครับ” เสียงปราณเอ่ยถามภรรยาตัวน้อย พร้อมกับเดินไปสวมกอด ตามด้วยหอมแก้มนวลด้วยความอ่อนโยน
“ไข่เจียวฝีมือปลื้มค่ะ” เพียงฝันเอ่ยบอกสามีพร้อมกับผายมือโชว์ผลงานไข่เจียวหลากสีที่เรียงรายกันอยู่บนโต๊ะอาหาร
ปราณมองบรรดาไข่เจียวแล้วหน้าซีดเผือด สายตาเลื่อนมองไข่เจียวสีเหลือง สีน้ำตาล สีน้ำตาลเข้ม หลายๆ จาน ที่คาดว่าน่าจะลองทำหลายๆ จานดู
“จะกินได้ไหมเนี้ย” ปราณเอ่ยขึ้นกับตัวเองเบาๆ เพราะรู้อยู่แล้วว่างานครัวปลาบปลื้มแอนตี้ที่สุด เขาไม่ชอบความวุ่นวายในครัว อะไรที่มันมีขั้นตอนยุ่งยากเขามักจะปฏิเสธหัวชนฝาเลย และในบ้านก็มีแค่ปลาบปลื้มคนเดียวนี่แหละที่ทำกับข้าวไม่เป็น
“ปลื้มเลือกให้เองพ่อ เอาจานนี้น่าจะโอเคที่สุด” ไข่เจียวที่ดูเหมือนจะเป็นไข่เจียวที่สุด ถูกยื่นให้ปราณชิมเป็นคนแรก ท่ามกลางใบหน้าที่ค่อนข้างลำบากใจของผู้เป็นพ่อ แม้มือจะรับไปแต่ภายในใจก็อยากที่จะเอาไปเททิ้ง แค่กลิ่นก็รู้แล้วว่ารสชาติจะเป็นแบบไหน กลิ่นน้ำปลาตีหน้าขนาดนี้ มีหวังได้ตัดไตทิ้งแน่ๆ
“ปลื้มอยากได้อะไร บอกพ่อมาเลย” ปราณเอ่ยถามวัตถุประสงค์ของลูกชายคนเล็ก
“ปลื้มอยากอยู่คอนโด ให้ปลื้มอยู่คอนโดนะครับ”
“อย่านะพี่ปราณ” เพียงฝันจ้องหน้าสามีตาเขม็ง
“พ่ออนุญาต อ้อ วันนี้พ่อจองร้านอาหารไว้พอดีเลย ไปกินข้าวนอกบ้านกันนะ” ปราณวางจานไข่เจียวกลิ่นน้ำปลาลง ก่อนที่จะเลี่ยงและชวนออกไปกินข้าวนอกบ้านแทน ไม่กล้าเสี่ยงจริงๆ ก็รักแหละแต่ทำใจกลืนไม่ได้หรอก
“พี่ปราณ!!!” เพียงฝันเมื่อถูกสามีขัดใจก็เดินตึงตังออกไปนอกห้องครัวทันที
“เดี๋ยวพ่อขอไปง้อแม่ก่อนนะ” มือหนายกขึ้นตบไหล่ลูกชายเบาๆ จากนั้นก็รีบเดินตามภรรยาไปทันที