“มี๊ สวัสดีค่ะ ป๊าสวัสดีค่ะ” อัญชันทักทายพ่อกับแม่ที่กำลังจัดเตรียมอาหารอยู่ในครัว ด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส พอเห็นก็ต้องแอบยิ้มตาม เพราะพ่อกับแม่ของเธอนั้นหวานกันมาก
“มีชีสเค้กในตู้นะ ป๊าซื้อมา เอาไปกินรองท้องก่อน” ซันเอ่ยบอกลูกสาว
“สวัสดีครับอาซัน อาเอวา วันนี้ขอฝากท้องด้วยคนนะครับ” ปลาบปลื้มเอ่ยทักทายซันและเอว่าด้วยความเป็นกันเอง
“ได้สิ ไปรอข้างนอกก่อนไป ในนี้มันร้อน” ซันกล่าว
อัญชัน พอรู้ว่ามีขนมโปรดก็เดินไปเปิดตู้แล้วเอามาจัดใส่จาน เตรียมยกออกไปทาน โดยที่ไม่ได้สนใจปลาบปลื้มที่เดินตามต้อยๆ
“ป๊า! วันนี้พี่ชิจะกลับมากินข้าวที่นี่ไหมคะ” อัญชันถามผู้เป็นพ่อด้วยความอยากรู้
“ไม่หรอก รายนั้นคงอยู่กับเมีย” ซันตอบพร้อมไหวไหล่อย่างไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่ ดีเสียอีก ตั้งแต่มีลูกสะใภ้คนนี้อชิลูกชายของเขาก็ดูเป็นผู้เป็นคนขึ้นเยอะเลย แถมติดเมียแจ บ้านช่องไม่ค่อยกลับ
“อ้อ”
“ช่วงนี้ดูโทรมๆ นะ เรียนหนักหรอ” เมื่อสังเกตเห็นใบหน้าของลูกสาว ก็อดที่จะถามไถ่ไม่ได้ พักหลังๆ มานี้ลูกสาวของเขาก็ไม่ค่อยกลับบ้านเหมือนกัน แถมยังดูเหมือนหน้าจะโทรมขึ้นอีกด้วย
“นิดหน่อยค่ะป๊า เอ่อ อัญชันไปกินขนมดีกว่า” เธอเอ่ยกลบเกลื่อนพร้อมกับยกยิ้มขึ้นบนใบหน้า พยายามที่จะทำตัวสดใสเหมือนเดิม แต่คนเป็นพ่อนั้นย่อมรู้ดีว่ามันต้องมีอะไรที่ไม่ปกติแน่ๆ
“ปลื้ม...เดี๋ยวอยู่คุยกับอาก่อน” ซันรั้งปลาบปลื้มไว้ก่อนที่ปลาบปลื้มจะเดินตามลูกสาวของตัวเองไป
“ครับอาซัน” ปลาบปลื้มหันกลับมาแล้วเดินมาหาซันแทน
“ช่วงนี้อยู่กับอัญชันบ่อย อัญชันมีเรื่องไม่สบายใจหรือเปล่า”
“ครับ...อัญชันอกหัก” คำตอบของปลาบปลื้มทำเอาซันขมวดคิ้วมุ่น
“อกหักจากใคร?”
“ไอ้น่านฟ้าครับ เพื่อนพี่อชิ” ปลาบปลื้มตอบไปตามตรงตามประสาคนสนิทกัน
“เป็นขนาดนี้เลยหรอ”
“ครับอาซัน ไม่รู้มันมีอะไรดีนักหนา”
“หวงเว่อร์ไปนะเราเนี่ย” ซันเอ่ยแซว แน่นอนว่าซันเองก็รู้ว่าปลาบปลื้มแอบชอบลูกสาวของตน และด้วยความสนิทกันเลยทำให้ซันเอ็นดูปลาบปลื้มอยู่ไม่น้อย จริงๆ ก็ทุกคนนั่นแหละที่รู้ ยกเว้นก็แต่เจ้าตัวนั่นแหละ ที่ไม่เคยรับรู้อะไรเลย เอาแต่หน้ามืดตามัววิ่งตามคนที่เขาวิ่งหนีอยู่ได้ พูดแล้วมันก็ขึ้น
“...”
“ยังไงช่วงนี้อาฝากดูอัญชันหน่อยนะ อัญชันยังอ่อนต่อเรื่องความรัก ส่วนปลื้ม...ถ้าชอบก็ลุยเลย...อาเชียร์...จังหวะนี้แหละ...จังหวะที่อ่อนแอ”
“จังหวะไหนอัญชันก็ต่อต้านปลื้มทั้งนั้นแหละครับ เห้อ...” เขาตอบพร้อมกับถอนหายใจออกมาแรงๆ
“สู้ๆ อาเชียร์” ฝ่ามือหนายกขึ้นตบเบาๆ ที่ไหล่ของปลาบปลื้มเบาๆ เชิงให้กำลังใจ
“กินด้วยดิ” ปลื้มเอ่ยขึ้นพร้อมกับนั่งลงข้างกายเธอ ที่เอาแต่ตักชีสเค้กกินอย่างเอร็ดอร่อย ตาก็จับจ้องมองทีวีที่เปิดรายการโปรดอย่างใจจดใจจ่อ โดยไม่คิดที่จะสนใจคนข้างๆ
“อยากกินก็ไปเอาในตู้เย็น” เธอตอบเสียงเรียบ และขยับตัวออกห่างจากปลาบปลื้มเล็กน้อย
“ไม่เอาอยากกินชิ้นนี้” ปลาบปลื้มบอกด้วยความเอาแต่ใจ ก่อนจะแย่งชีสเค้กที่อยู่ในมืออัญชันมาถือไว้และยัดเข้าปากทีเดียวหมด
เพี๊ยะ!!
“ไอ้ปลื้ม!! ไอ้บ้าเอ้ย” อัญชันฟาดฝ่ามือไปที่ไหล่ของเขาอย่างแรง เมื่อถูกแย่งกินไปคำเดียวต่อหน้าต่อตา
“ขอชิมนิดเดียวเอง ทำหวงไปได้” ปลาบปลื้มพูดหลังจากที่เคี้ยวหมดปากแล้ว พอเห็นท่าทางอารมณ์เสียของอัญชันเขาก็ยิ้มกว้างออกมาด้วยความพอใจที่แกล้งเธอได้ รอยยิ้มกวนๆ ปรากฏขึ้นตามด้วยยักคิ้วใส่เธออีกสองสามครั้ง
“ป๊า!! ไอ้ปลื้มมันแย่งอัญกินหมดเลย” คนตัวเล็กตะโกนฟ้องผู้เป็นพ่อลั่นบ้าน ฝ่ามือก็กระหน่ำทุบตีไปที่ไหล่ของปลาบปลื้มอย่างหัวเสีย ไม่เข้าใจว่ามันจะมาแย่งกินทำไม หงุดหงิดชะมัด
“เดี๋ยวไปหยิบให้ในตู้”
“ชีสพายมะยงชิดมันเหลืออันเดียว ไอ้บ้าเอ้ย ไปไกลๆ เลยไป ฉันเกลียดแกไอ้ปลื้ม” จากนั้นเธอก็เดินตึงตังขึ้นบ้านทันที
ส่วนปลาบปลื้มนั้นก็รู้สึกผิด ไม่น่าไปแกล้งเลยจริงๆ นึกว่ายังมีอีก เลยยัดเข้าปากจนหมด แล้วทีนี้จะทำยังไงดี หมดแล้วด้วย คงงอนนานแน่ๆ ทรงนี้
“เวรแล้วไง ทำไงดีทีนี้” เขาสบถกับตัวเองออกมาเบาๆ
“อาซัน ชีสพายมะยงชิดนี่ไปซื้อที่ไหนหรอครับ เมื่อกี้สงสัยแกล้งแรงไปหน่อยอัญชันงอนขึ้นห้องไปแล้ว” ปลาบปลื้มเดินคอตกกลับไปถามซัน ทำเอาซันอดที่จะหลุดขำออกมาไม่ได้
“ร้านข้างแถวๆ โรงเรียนเก่าอัญชันน่ะ แต่มันหมดแล้วนะ อาหยิบมาแค่นั้น”
“อ้าว ปลื้มควรทำไงดีอาซัน”
“หัดทำสิ ของโปรดอัญชันนะ”
“อย่างปลื้มเนี่ยนะจะทำเป็น ปลื้มทำกับข้าวไม่เป็นน่ะสิ ของหวานไม่ต้องพูดถึงเลย”
“จะรอดไหมเนี่ยเรา” ซันส่ายหัวเบาๆ ก่อนจะช่วยภรรยายกอาหารไปที่โต๊ะ ช่วงนี้แม่บ้านลากัน เลยต้องเข้าครัวทำกับข้าวกินกันเอง บวกกับเริ่มวางมือกับธุรกิจหลายๆ อย่างแล้ว เพราะส่วนใหญ่อชิลูกชายของเขาจะเป็นคนเข้ามาบริหารเอง
ระหว่างรับประทานอาหารเย็น...
บรรยากาศบนโต๊ะอาหารวันนี้ดูเงียบแปลกๆ เพราะปกติ จะมีการสนทนาพูดคุย เล่าเรื่องราวต่างๆ ให้กันฟัง แต่เพราะปลาบปลื้มทำอัญชันงอน เลยทำให้ทุกคนก็พลอยอึดอัดไปด้วย
“อัญชัน กินนี่ดิ ทอดมันกุ้งของโปรดเธอนิ” ปลาบปลื้มพยายามชวนคุย แต่เธอก็ยังคงเงียบอยู่ แถมยังเขี่ยอาหารที่ปลาบปลื้มตักให้ไปไว้ที่ขอบจานอีกทั้งที่เป็นเมนูที่ชอบ ทำเอาปลาบปลื้มหน้าเสียเลยทีเดียว ได้แต่หันไปมองหน้าซันที่สังเกตการณ์อยู่เงียบๆ กับเอวา
“อัญชัน ช่วงนี้เรียนหนักหรอลูก มี๊ว่า ช่วงนี้หน้าหนูดูโทรมๆ ไปนะ” เอวาเปิดบทสนทนาขึ้น
“นิดหน่อยค่ะมี๊ แต่ไม่ต้องห่วงอัญชันนะคะ แค่นี้เองสบายมาก”
“แล้ววันนี้จะนอนบ้านไหม หรือกลับไปนอนคอนโด” ซันเป็นคนเอ่ยถามประโยคนี้
“คอนโดค่ะ พรุ่งนี้อัญมีเรียน ไว้อาทิตย์หน้าอัญกลับมานอนบ้านนะคะ” เธอตอบผู้เป็นพ่อ ก่อนจะก้มหน้าก้มตากินข้าวต่อ
“อัญชัน ฉันไม่ได้เอารถมา แวะไปส่งที่บ้านได้ป้ะ”
“ไม่! อยากมาเองก็หาทางกลับเอง ไม่ใช่ธุระของฉันที่จะต้องไปส่ง”
“งั้นเดี๋ยวฉันไปส่งเธอ แล้วเดี๋ยวฉันให้ไอ้ป้องมารับก็ได้”
“ไม่ต้อง ฉันกลับของฉันได้ ป๊าคะมี๊คะอัญอิ่มแล้ว เดี๋ยวงั้นอัญขอกลับเลยนะคะ ขับรถดึกมันอันตราย” จากนั้นเธอก็รีบรวมช้อนแล้วลุกขึ้นเตรียมจะกลับคอนโดอย่างที่บอกพ่อกับแม่
“อัญชัน...มี๊ว่า...ให้ปลื้มไปส่งเถอะลูก...นี่ก็มืดแล้ว...เป็นผู้หญิงขับรถมืดๆ มันอันตราย”
“ฉันเห็นด้วยกับอาเอวา” ปลื้มตีเนียน พร้อมกับเดินไปดึงกุญแจรถที่อัญชันถือ ไปถือไว้ ก่อนจะเดินนำไปที่รถอย่างเอาแต่ใจ
“มี๊!!”
“ค่อยไปทะเลาะกันต่อ แต่ป๊าขอเถอะ ให้ปลื้มไปส่งน่ะดีแล้ว ถึงแล้วก็โทรมาบอกป๊ากับมี๊ด้วยนะ” ซันเอ่ยบอก สุดท้ายเธอก็ต้องจำใจเดินตึงตังขึ้นรถไป
“เมื่อไหร่จะมีเมียสักทีก็ไม่รู้ จะได้เลิกตามฉัน น่ารำคาญจริงๆ” เธอบ่นอุบอิบไปตามทาง
“ก็มาเป็นให้ดิ” ปลาบปลื้มกล่าวกวนๆ ตามสไตล์
“หึ ตายแล้วเกิดใหม่สิบชาติ ก็ไม่มีทาง เพราะฉันเกลียดแก”
“ระวังนะ เกลียดยังไงได้อย่างงั้น”
“...ไม่มีทาง!!” เธอตอบกลับด้วยความมั่นใจแบบเกินร้อย ส่วนปลาบปลื้มนั้นก็ยกยิ้มร้ายออกมาอย่างท้าทายเธอเล่นกัน ก็จะคอยดูว่าเธอจะเป็นของเขาหรือเปล่า ปลาบปลื้มคิดในใจ