ตอนที่ 8
“นี่ดาร์ลิง ถามจริงกับพี่ฮันเตอร์นี่เป็นอะไรกันวะ”
“เป็นคนที่ฉันเกลียดไง”
“เหรอ แต่พี่เขามองแกไม่วางตาเลยนะ”
ฉันหันไปมองฮันเตอร์ ปรากฏว่าเขากำลังมองฉันอยู่จริง ๆ และเมื่อฉันหันไปสบตาเขา
เขาดันทำตาดุใส่ฉันเสียอย่างนั้น ฉันเลยแลบลิ้นปลิ้นตากลับไปแล้วหันกลับมาดื่มกับเพื่อนต่อ
ทางด้านฮันเตอร์เมื่อหญิงสาวหันกลับไป ใบหน้าจากที่เคยดุดันจึงเปลี่ยนเป็นยิ้มแย้มออกมา สร้างความประหลาดใจให้เพื่อนทั้งสองคนไม่น้อย
“มึงว่ามันอาการหนักปะวะ” พร้อมหันไปกระซิบถามภีม
“กูว่าเข้าขั้นบ้าเลย” ภีมกระซิบตอบ
“เผื่อพวกมึงลืม กูไม่ได้หูหนวก”
“ชะอุ้ย เค้าเปล่าพูดอะไรนะตัวเอง ไอ้ภีมคนเดียวเลย”
“เดี๋ยวกูเอาแก้วฟาดปากเลยไอ้เหี้ยนี่”
ฮันเตอร์ส่ายหน้าเอื้อมระอากับสงครามขนาดย่อมของเพื่อนทั้งสอง
หันกลับไปมองดาร์ลิงแต่ก็ต้องตกใจเมื่อเธอดันไม่อยู่เสียแล้ว
“เฮ้ย ไอ้เตอร์จะไปไหนวะ”
“เดี๋ยวกูมา”
ห้องน้ำร้านนี้ทำไมมันไกลนักนะ ฉันได้แต่บ่นในใจเร่งสาวเท้าตรงไปยังห้องน้ำ โชคดีที่คนไม่เยอะ ฉันเลยไม่ต้องต่อแถวรอคิว ถ้าให้รอคิวมีหวังฉี่ราดตรงนี้แน่
“กรี๊ด”
ปัง!!
“เกิดอะไรขึ้น”
ทุกสายตาภายในห้องน้ำหันไปจับจ้องใบหน้าหล่อของชายหนุ่มที่พรวดพราดเข้ามาในห้องน้ำ
“กรี๊ด พี่ฮันเตอร์”
แก๊งชะนีเด็กกรี๊ดกันลั่นห้องน้ำเมื่อเห็นว่าคนที่เปิดประเข้ามาคือฮันเตอร์ พวกเธอโยนเพื่อนที่เมาไร้สติซึ่งกำลังช่วยพยุงกันอยู่ทิ้งอย่างลืมตัว ลำบากฉันต้องเข้าไปช่วยพยุงน้องคนนั้นแทน
“เอ่อ พวกเธอเป็นใคร”
ฮันเตอร์ผงะเล็กน้อยเมื่อโดนแก๊งชะนีเด็กจู่โจม
“พี่ฮันเตอร์เข้ามาทำอะไรเหรอคะ”
เขาหันมามองฉันเล็กน้อยก่อนจะตอบเด็กคนนั้นเสียงเรียบ
“ได้ยินเสียงกรี๊ดเลยเข้ามาดู”
“อ่อ เสียงนี่น่าเองแหละค่ะ พอดีเมื่อกี้เพื่อนลื่นจะล้มเลยตกใจมากไปหน่อย”
“อืม ไม่มีอะไรก็ดี”
ฮันเตอร์หันมองฉันอีกครั้ง ครั้งนี้เขาชี้นิ้วไปด้านนอกเหมือนต้องการสื่อสารว่าให้ออกไปคุยกันด้านนอก
“เอ่อ พี่ฮันเตอร์คะ พวกหนูเป็นแฟนคลับพี่ อยู่ในกลุ่มเหยื่อของนักล่าด้วย ขอถ่ายรูปไปลงกลุ่มหน่อยได้ไหมคะ”
“ใช่ค่ะ ๆ นี่เป็นครั้งแรกเลยนะคะที่ได้เจอพี่ใกล้ขนาดนี้”
“งื้อ พี่กร้าวใจมา”
ฉันกลอกตามองบน คิดอยากจะอ้วกกับคำเยินยอพวกนั้นด้วยซ้ำ น้องเขาเห็นอะไรดีในตัวฮันเตอร์กัน ฉันล่ะไม่เข้าใจจริง ๆ
“อือ จะถ่ายก็รีบถ่าย”
“เย่ ขอบคุณมากนะคะ”
“นี่พวกหนู มาเอาเพื่อนก่อนไหม”
ฉันซึ่งยืนเงียบอยู่นานพูดขึ้นเพราะเริ่มรู้สึกพยุงเพื่อนพวกนางไม่ไหวแล้ว
“ว้าย ขอโทษค่ะพี่ดาร์ลิง”
พวกเธอเข้ามารับเพื่อนไปพยุงต่อก่อนจะถามคำถามที่ทำเอาฉันถึงกับสะอึก
“นี่พี่ฮันเตอร์กับพี่ดาร์ลิงเป็นแฟนกันเหรอคะ”
“เฮ้ย ไม่ช่ายยย พวกน้องมั่วแล้ว”
ฉันรีบหันไปปฏิเสธเสียงสูงแต่พวกน้อง ๆ กลับยิ้มล้อกัน หัวเราะคิกคัก
ชอบใจกันใหญ่
“ไม่เป็นก็ไม่เป็นค่ะ แต่พวกหนูเชียร์พวกพี่สองคนนะ”
“ไม่ต้องเชียร์หรอก ฮันเตอร์เขามีคนในใจอยู่แล้ว ใช่ไหมฮันเตอร์”
“ไม่มี”
ทีอย่างนี้แล้วเสียงดังฟังชัดเชียวนะ ฉันส่งสายตาเขียวปัดไปให้เขาแต่
เจ้าตัวกลับเลิกคิ้วกวน ๆ
“ถ้ายังไงหนูขอถ่ายรูปพี่ฮันเตอร์เลยนะคะ”
เมื่อเห็นว่าไม่เกี่ยวกับฉันแล้ว ฉันเลยทำท่าจะเดินออกไปแต่กลับโดน
ฮันเตอร์คว้าไว้ เขาล็อกคอฉันเข้าประชิดตัวก่อนจะยกมือถือถ่ายรูปเราสองคน
“กรี๊ด พวกพี่น่ารักกันมากเลย”
“รักกันนาน ๆ นะคะ”
“ถือไม้เท้ายอดทองกระบองยอดเพชรนะคะ”
แก๊งชะนีเด็กเดินเรียงแถวกันเข้ามาอวยพรฉันกับฮันเตอร์ราวกับอวยพรงานแต่ง เมื่อพวกน้องออกไปหมดฉันเลยหันไปฟาดอกฮันเตอร์เต็มแรง
“โอ๊ย มันเจ็บ”
“สมควรแล้ว ถ้าน้องเขาเข้าใจผิดขึ้นมาทำยังไง”
“เข้าใจผิดอะไร”
เขายื่นหน้าเข้ามาถามฉันด้วยแววตาใสซื่อ ฉันเลยต้องรีบดันหน้าเขาออกห่าง
“เข้าใจว่าฉันกับนายเป็นแฟนกันไง”
“อ่า โมโหเรื่องนี้เอง”
“…”
“กลัวคนอื่นจะเข้าใจผิดว่าเราเป็นแฟนกัน ทั้งที่เราเป็นผัวเมียกันสินะ”
“ไอ้ฮันเตอร์ ไอ้คนเลว ไอ้ปากปีจอ!!”
นิ้วแกร่งเลื่อนมาแตะริมฝีปากฉันไว้
“ระวังปากหน่อยคนสวย เธอก็รู้ว่าฉันทำอะไรได้”
“ฮึ่ย”
ฉันผลักฮันเตอร์ออกแล้วเดินหนีออกมาด้วยความหงุดหงิด ผู้ชายบ้าอะไรไม่รู้ ชอบขู่อยู่เรื่อย
“อ้าว ดาร์ลิง”
เสียงนุ่มละมุนที่ฟังดูคุ้นเคยทำให้ฉันลอบถอนหายใจก่อนจะหันหลังกลับไปทักทายเขา
“สวัสดีเต้”
“ไม่เจอกันนาน สวยขึ้นหรือเปล่า”
ฉันสวยของฉันอย่างนี้อยู่นานแล้วย่ะ ฉันไม่ได้ตอบเขาเพียงแค่ส่งยิ้มไปให้แทน
“แล้วนี่ดาร์ลิงมากับใคร ไปนั่งดื่มกับเราสักแก้วไหม”
“ดาร์ลิง”
ฉันรีบหันไปหาฮันเตอร์ซึ่งเดินมายืนอยู่ข้างฉัน แม้เมื่อกี้จะหงุดหงิดเขา
แต่ไม่อยากยอมรับเลยว่ารู้สึกโล่งใจไม่น้อยที่เห็นเขาตอนนี้
“นี่ใครเหรอดาร์ลิง”
“เอ่อ คือ…”
ฉันหันไปส่งสายตาให้ฮันเตอร์หวังให้เขาช่วยไล่เต้ไปให้หน่อย แต่เหมือนเขาตีความผิดเพราะฮันเตอร์กลับก้มลงประกบปากจูบฉันแทน
“เอ่อ เต้ไปก่อนละกัน ดีใจที่ได้เจอนะดาร์ลิง”
เต้เดินออกไปแล้วแต่ฮันเตอร์ยังไม่ยอมถอนจูบออก ดิ้นก็แล้ว ผลักก็แล้ว
แต่เขาก็ไม่ยอมผละออกไปสักที สิ่งสุดท้ายที่ฉันทำได้คือกัดลิ้นเขาซะเลย
“โอ๊ย ยัยบ้ากัดมาได้”
“ฮันเตอร์ นายเลิกจูบฉันตามอำเภอใจสักที”
“ก็เห็นขยิบตาเลยนึกว่าให้จูบ”
ฉันเม้มปากตัวเองแน่น อยากจะข่วนหน้าหล่อ ๆ นั่นให้หายหมั่นไส้จริง
“ฉันหมายถึงให้นายช่วยไล่เต้โว้ย”
“อ้าวเหรอ แย่จังนะ”
ฮันเตอร์กระตุกยิ้ม เดินออกไปทางหลังร้านเพื่อสูบบุหรี่ สบายใจ ทิ้งให้ฉันยืนเป็นผีบ้าอยู่คนเดียว
ฉันเลยเดินตามเขาออกมาหวังจะด่าอีกสักนิดสักหน่อย
“คราวหน้าถ้านายยัง…”
“ข้อมือยังเจ็บไหม”
“นายว่าไรนะ?”
“ขอโทษที่บีบแรงไปหน่อยแต่เธอทำตัวหน้าโมโหก่อน”
“ถ้านายจะว่าฉัน นายไม่ต้องขอโทษก็ได้นะ”
เขาหันไปพ่นควันบุหรี่อีกฝั่ง ยื่นมือข้างที่ว่างมายีหัวฉัน
“งี่เง่า”
“อะไรของนายเนี่ยฮันเตอร์”
“เธอมันงี่เง่า ชอบทำให้ฉันเป็นบ้า”
•เธอมันงี่เง่า ชอบทำให้ฉันเป็นบ้า•
ฮันเตอร์