ผัวเถื่อน 3
ใครจะไปคิดว่าชีวิตคนอย่างดาร์ลิง ดาวมหาลัยแสนสวยจะน่าสงสารได้ถึงเพียงนี้
เมื่อสองวันก่อน ฉันดันไปทำเรื่องขายหน้ากับผู้ชายที่ไม่รู้จักแม้กระทั่งชื่อแถมยังโดนเขากลั่นแกล้งกลับมาอีก
พูดแล้วแค้นแต่ช่างมันเถอะ ฉันพยายามจะลืมมันอยู่แม้ว่าจูบร้อนแรงนั่นจะฝังใจก็เถอะ อ๊าย หยุดคิดอะไรแบบนั้นเดี๋ยวนี้นะ ดาร์ลิง!!
“เป็นอะไรของแกวะ”
“เออ เห็นนั่งทำปากขมุบขมิบ อย่าบอกนะว่ากำลังเล่นของใส่ไอ้เต้กับชะนีน้อยแฟนใหม่มันน่ะ”
ใช่แล้วค่ะ อีกเรื่องที่ทำให้ชีวิตฉันน่าสงสารคือการที่ต้องมาทนดูแฟนเก่านั่งพลอดรักอยู่กับแฟนใหม่กลางโรงอาหารแบบนี้ ไม่ไปเปิดม่านรูดวะ
และสองคนที่อยู่กับฉันตอนนี้คือเพื่อนรักฉันเอง ชื่อ กอล์ฟ เกย์ควีนตัวแม่ อีกคนที่หาว่าฉันกำลังทำคุณไสย ชื่อ สายฝน ท็อปเซคทุกรอบแต่งานอดิเรกมันไม่ใช่อ่านหนังสือนะแต่คือการนั่งส่องผู้กับพวกฉันนี่แหละ สมองมันอัจฉริยะน่ะ อย่าไปใส่ใจเลย
“เฮอะ ฉันไม่ได้เสียดายแค่เจ็บใจ”
อันนี้เรื่องจริง ฉันว่าจริง ๆ แล้ว ฉันไม่รักเต้ขนาดนั้นหรอกแค่คบเพราะเห็นว่ามันเป็นสุภาพบุรุษมากกว่า ฉันแพ้ทางคนอ่อนโยนอะ
“ดูดู๊ นังชะนีเด็กนั่น มันส่งสายตาเยาะเย้ยแกด้วย”
กอล์ฟหันมาสะกิดฉันยิก ๆ
“มันคิดว่าฉันอิจฉาหรือไงวะ ผู้ชายดีกว่าไอ้เต้เยอะแยะ”
“ถ้านิสัยดีกว่ามีเยอะกูไม่เถียง แต่โปรไฟล์ระดับเต้หาไม่ได้ง่าย ๆ เด้อ”
“หล่อ รวย เทคแคร์เก่งแต่เหี้ยก็ไม่ไหวปะวะ”
“ฉันคิดออกแล้ว!!”
จู่ ๆ สายฝนก็โพล่งขึ้นหลังจากเงียบไปสักพัก
“อะไรของแก ฉันเกือบกรี๊ด”
กอล์ฟยกมือทาบอก ทำท่าเหมือนหัวใจจะวายหันไปด่าสายฝ
“แกอยากหาอะไรมาฝาดหน้าไอ้สองผัวเมียคู่นั้นไหม”
สายฝนพูดขึ้น เหยียดยิ้มร้ายบนใบหน้า
“ไอ้ฝนมีแผนอะไร
“แกก็หาแฟนใหม่ที่โปรไฟล์ดีกว่าไอ้เต้สิ”
“ก็เมื่อกี้พึ่งคุยกับไอ้กอล์ฟอยู่ว่าผู้ชายแบบนั้นมันหายาก”
“หึหึ กูมีคนนึง”
หลังเลิกเรียนฉันโดนสายฝนลากมายังสนามบาสที่มีผู้คนแน่นขนัดประหนึ่งมีการแข่งโอลิมปิ
“แกพาฉันมาทำไมเนี่ย คนก็เยอะ ร้อนก็ร้อน”
“ฉันจะทวนให้แกฟังอีกครั้ง คนที่ฉันพามาส่องชื่อว่า ฮันเตอร์ เรียนบริหารปี4 เป็นเจ้าของร้านเหล้าที่ดัง ๆ อะ ชื่ออะไรจำไม่ได้ หน้าตาอันนี้อยากโฆษณาว่าหล่อมาก หล่อกว่าไอ้เต้เป็นสิบเท่า”
โอเค ดูจากสายตาเพ้อฝันของเพื่อน เชื่อแล้วว่าหล่อจริง
“เป็นที่หมายปองของหญิงแท้ ชายเทียมเกือบทั้งมหาลัย”
“ฮอตขนาดนั้น ไม่เหลือมาถึงฉันแล้วมั้ง”
“นี่แหละที่น่าสนใจ ไม่มีข้อมูลว่าเขาเคยมีแฟนจริง ๆ สักคน”
“เฮอะ สาบานว่าคนที่แกกำลังพูดถึงเป็นคนปกติ”
ระหว่างที่ฉันกำลังเดินคุยกับสายฝนอยู่ข้างสนามบาส มีเสียงตะโกนออกมากจากในสนามพร้อมด้วยลูกกลม ๆ สีส้มที่พุ่งตรงมายังใบหน้าแสนสวยของฉัน
“>_-“
ณ จังหวะนี้ ฉันได้แต่ยืนหลับตาปี๋ ทำอะไรไม่ถูกแต่แล้วลูกบาสก็ถูกปัดออกด้วยมือใครบางคนตามมาด้วยเสียงกรี๊ดดังกระหึ่มสนาม
“กรี๊ด”
“เดินยังไงของเธอ”
ฉันค่อย ๆ เงยหน้ามองร่างสูงในชุดบาสสีแดงแขนกุดซึ่งยืนอยู่ตรงหน้า ห่างออกไปไม่ถึงคืบ
“นะ...นาย”
ยังไม่ทันที่ฉันจะได้หายตกใจ ผู้ชายในสนามคนหนึ่งก็วิ่งเข้ามาจับตัวฉันหมุนไปมา
“ผมขอโทษนะครับพี่ดาร์ลิง พี่เจ็บตรงไหนหรือเปล่า”
“อะ เอ่อ เปล่าจ้ะ”
ฉันตอบเขากลับไปยิ้ม ๆ พยายามส่งสายตาให้สายฝนเข้ามาช่วยแต่มันก็มัวแต่มองผู้ชายด้วยสายตาเคลิบเคลิ้ม
“ผมขอโทษนะครับ ผมไม่ได้ตั้งใจ”
“พี่ไม่เป็นไรจริง ๆ แค่ตกใจนิดหน่อย”
“เฮอะ สำออย”
คำพูดหยาบคายแบบนี้จะมาจากใครไปไม่ได้ถ้าไม่ใช่ผู้ชายคนที่ฉันเกลียดที่สุดในโลก
ไอ้หน้าหล่อที่จับฉันล็อกกับขาโต๊ะไง ถึงแม้วันนี้เขาจะช่วยฉันแต่ใช่ว่าจะลบล้างความป่าเถื่อนที่ทำกับฉันได้หรอกนะ
“นายว่าใครสำออย”
เขายักไหล่ก่อนจะเดินแทรกกลางระหว่างฉันและผู้ชายอีกคนเข้าสนามไป ดูมันสิคะ ดูมัน ใครได้ผู้ชายแบบนี้เป็นแฟนนะ ซวยตายเลย
“ยังไงผมขอไลน์พี่ไว้ได้ไหมครับ เผื่อว่า...”
ฉันละสายตาจากไอ้ผู้ชายป่าเถื่อนคนนั้นหันกลับมามองผู้ชายอีกคนตรงหน้า ไม่ทันที่ฉันจะได้ปฏิเสธเขาก็มีคนตะโกนมาจากในสนาม
“จะยืนกันให้ลูกบาสมันกระแทกหัวอีกหรือไงวะ”
“เออ ไม่อยากยืนนักหรอก”
เขาและฉันยืนจ้องตาด้วยความอาฆาตกันอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่ฉันจะลากสายฝนไปนั่งสแตนด์ด้านข้าง
“แก แกโชคดีมาก ๆ ฉากเมื่อกี้โรแมนติกชะมัดเหมือนในซีรี่ส์เกาหลีเลย
“ฉากไหน ฉากที่นายนั่นด่าฉันว่าสำออยน่ะเหรอ”
“ฉากที่เขาปัดลูกบาสให้แกย่ะ คนอะไรเท่ชะมัด”
ท่าเพ้อฝันของเพื่อนรักทำให้ฉันถึงกับกลอกตามองบน
“เลิกเพ้อ หมอนั่นไม่ใช่คนดี แล้วไหนล่ะนายฮันเตอร์ของแก”
“ก็คนที่ช่วยแกไม่ให้โดนลูกบาสไง พรหมลิขิตเนอะ”
“-0-“
พรหมลิขิตบ้าอะไรล่ะ พรหมสู่ขิตละสิไม่ว่า
“อย่าบอกนะว่า...”
“ใช่แล้ว เขาคือพี่ฮันเตอร์และคือคนที่แกต้องเอามาเป็นแฟนให้ได้”
ช่วยด้วย ดาร์ลิงจะเป็นลม ผู้ชายในมหาวิทยาลัยมีเป็นร้อยเป็นพัน ทำไมต้องเป็นไอ้หมอนี่ด้วยวะ
“Hi ชะนี กอล์ฟฟี่มาแล้ว”
“ไปหาผู้ชายมาอีกละสิ”
“มีบ้าง แล้วไหนล่ะผู้ชายที่ดาร์ลิงต้องมาจับจอง”
กอล์ฟถามพลางชะเง้อเข้าไปในสนาม
พรึบ!!
เสื้อคลุมนักกีฬาถูกโยนลงมาคลุมหัวฉัน ตามด้วยผ้าเช็ดหน้าและขวดน้ำ
“นายจะหาเรื่องกันหรือไง!?”
“ฝากหน่อย”
“ไม่ เอาคืนไป”
เขาโน้มหน้าลงมาใกล้ฉันก่อนจะกระซิบลงข้างหู
“ผัวฝากของแค่นี้ไม่ได้หรือไง”
พูดเพียงเท่านั้น เจ้าตัวก็วิ่งกลับเข้าไปในสนามทิ้งให้ฉันต้องเป็นเป้าสายตาของคนทั้งสนาม รวมถึงเพื่อนฉันเองด้วย
“ไอ้ดาร์ลิง แกมีอะไรจะสารภาพไหม”
“ไม่มี๊ พวกแกอย่ามองกันแบบนั้นสิ”
สายฝนและกอล์ฟจ้องฉันอย่างจับผิด ฉันเลยต้องทำเฉไฉมองเข้าไปในสนามแต่เหมือนหนีเสือปะจรเข้เพราะฉันหนีสายตาเพื่อนไปเจอสายตาของฮันเตอร์แทน
“แน่ะ มีส่งสายตากันด้วย”
ฉันไม่สนใจฟังเสียงเพื่อนล้อ หยิบเสื้อคลุมฮันเตอร์ขึ้นมาทำท่าจะเขวี้ยงลงพื้นแต่ต้องหยุดชะงักเมื่อเขาชี้หน้าและทำสัญญาณใช้นิ้วปาดคอตัวเอง
“นั่น พวกแกมีสัญญานให้กำลังใจกันด้วย”
จะบ้าตาย ท่าปาดคอมันคือสัญญาณให้กำลังใจตรงไหนวะ
“อ๊าย นังชะนีดาร์ลิง แกมันเลว แกใช้ร่างกาย แกทอดสะพานให้พี่เขาใช่ไหม”
“แกล่อลวงพี่ฮันเตอร์ของฉันตั้งแต่เมื่อไหร่กันดาร์ลิง”
ฉันยกมือขึ้นกุมขมับ ใจจริงอยากเอาหัวเขกกับขอบสนามด้วยซ้ำ ช่วยบอกฉันทีว่าเพื่อนฉันเห็นฉันดีกว่าผู้ชายหรือเปล่า -_-
——————