สูตรรักฉบับคนเถื่อน | 21

1614 Words
๒๑ สามวันต่อมา ความยิ่งใหญ่ของสิ่งปลูกสร้าง ตึก อาคารตั้งสูงหลายสิบชั้นบ่งบอกว่าในตอนนี้เธอกลับเข้ามาในเขตพื้นที่ของกรุงเทพฯ อีกครั้งแล้ว รู้สึกใจหวิวแปลกๆ เมื่อเผลอนึกถึงใครหลายๆ คนที่ข้องเกี่ยวกับเธอในพื้นที่ที่เธอเคยอยู่แถวนี้ แต่แล้วความทรงจำพวกนั้นก็ต้องถูกปล่อยผ่าน เพราะคนที่เคยสำคัญต่อเธอ เธอได้ตัดขาดไปหมดแล้ว "...น้ำ" "...คะ" คนที่เผลอคิดอะไรเพลินๆ สะดุ้งขึ้นเพราะมือเย็นเฉียบแตะลงที่แขนของเธอ "มะ เมื่อกี้พี่ภาสว่าไงนะคะ พอดีน้ำยังไม่ทันได้ฟัง" "เป็นอะไรหรือเปล่า เมารถไหม พี่ถามย้ำแล้วนี่ ถ้าเมารถให้นั่งเครื่องบินแทน ประหยัดเวลาเดินทางด้วย น้ำจะได้มีเวลาพัก" "ขอโทษที่ทำให้เป็นห่วงนะคะ น้ำแค่ตื่นเต้นที่ได้กลับมาที่กรุงเทพฯ อีกครั้ง" "คิดถึงบ้านเหรอครับ อยากกลับไปเยี่ยมบ้านไหม" คนตัวเล็กส่ายหน้าไปมา สิ่งที่คนในครอบครัวทำกับเธอ มันใจร้ายเกินกว่าจะกลับไปได้จริงๆ "โกรธพวกเขาเหรอ" "พวกเขาใจร้ายกับน้ำมากเกินไป" "พี่เองก็ไม่อยากให้น้ำกลับไป ไม่ใช่เพราะอยากสนับสนุนให้น้ำโกรธพวกเขา แค่ไม่อยากปล่อยให้กลับไปในพื้นที่ที่ทำให้น้ำเสียใจอีก" รอยยิ้มจางๆ คลี่ออกมาบนมุมปากบาง เรื่องที่เกิดขึ้นกับเธอมันหนักหนามาก ยังนึกภาพไม่ออกเลยว่า หากเสี่ยประภาสคนที่เธอต้องมาตกอยู่ในฐานะภรรยาของเขาเป็นคนที่ไม่ดี ป่านนี้ชีวิตของเธอมันจะเป็นยังไง ชีวิตของเธอทั้งชีวิต แต่คนที่เธอเคยเรียกว่าพ่อแม่ กลับเอาชีวิตของเธอมาแลกกับเงินได้ อย่าถามเลยว่าเขาต้องใจร้ายเบอร์ไหน ควรใช้คำว่า ความรักความผูกพันธ์ความเมตตาพวกเขาไม่เคยมีให้เธอเลยต่างหากล่ะ "...ถึงโรงพยาบาลแล้ว น้ำอยากเข้าไปกับพี่หรือเปล่า" "ถ้าพี่ภาสอยากให้น้ำเข้าไป..." "พี่อยากให้น้ำรับรู้ทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับพี่ แต่ที่พี่ถามเพียงแค่ต้องการความสมัครใจ กลัวว่าเราจะรู้สึกรังเกียจ" น้ำใจส่ายหน้าไปมาทันทีที่ได้ยินแบบนั้น มันรู้สึกใจหายแปลกๆ ในตอนที่ได้ยินคำว่ารังเกียจ คนอย่างประภาส ไม่ควรมีใครรู้สึกแบบนั้นกับเขาเลย เพราะเขาเป็นคนดีและดีกับทุกคนจริงๆ "ให้น้ำเข้าไปด้วยนะคะ น้ำอยากเจอคุณหมอ อยากคุยกับคุณหมอ จะได้ถามวิธีดูแลพี่ภาสด้วย" "เมียพี่น่ารักจัง สมแล้วที่..." "ที่อะไรเหรอคะ?" "สมแล้วที่พี่เลือกเธอไง" "ไปกันเถอะค่ะ ป่านนี้คุณหมอรอเราแล้วมั้ง" ผู้ฟังพยักหน้าเบาๆ ใจจริงแล้วเขาอยากพูดอะไรที่มากกว่านี้ แต่ถึงยังไงก็เชื่อว่าสักวันเขาก็คงจะได้พูดอยู่ดี หลังจากที่พบหมอเป็นที่เรียบร้อยแล้ว "...เราถามหมอตรงๆ ไม่ได้เหรอคะ หรือไม่ก็ให้หมอติดต่อทีมแพทย์เก่งๆ เพื่อช่วยกันรักษาให้หายขาดเลยได้ไหม" ดวงตากลมโต มองถุงยาที่อยู่ในมือตาละห้อย เธอรู้สึกแย่ทุกครั้งที่เห็นเครื่องมือแพทย์ และตอนที่เข้าไปในห้องตรวจก็ไม่รู้ว่าคุณหมอทำอะไรกับผู้ป่วยบ้าง ไม่เห็นมีการพูดถึงเลยว่าระยะของโรคมันอยู่ที่ระยะไหน แต่เธอก็พอที่จะเดาได้ว่าคนที่ปิดบังอาจจะเป็นคนที่อยู่ใกล้ตัวของเธอเอง "ไม่มีอะไรหายขาดหรอกน้ำ มีแต่ต้องกินยาเพื่อยับยั้งการเจริญเติบโตและการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็งเท่านั้น" "แล้วทุกครั้งที่มาพบหมอก็จะเป็นแบบวันนี้ทุกครั้งเลยเหรอคะ คุณหมอไม่ทำอะไรมากไปกว่านี้เลยเหรอ" "ระยะของพี่มันแค่ระยะเริ่มต้น ร่างกายยังมีแรง ร่างกายยังคงรับสารอาหาร ก็อย่างที่บอก หมอต้องสั่งยาให้กลับมากินทุกครั้ง และมีการตรวจหาการแพร่กระจายของเชื้อทุกครั้ง เป็นห่วงพี่เหรอ" "มันดูไม่ปกตินี่คะ เหมือนพี่พยายามปกปิดเพราะไม่อยากให้น้ำเป็นห่วง" "ก็อย่าห่วงเลย เกิดแก่เจ็บตายเป็นเรื่องธรรมดานะ อย่างน้อยๆ โรคร้ายที่พี่เป็น มันก็ทำให้พี่รู้ว่าพี่อาจจะมีชีวิตอยู่ในโลกใบนี้ได้อีกกี่วัน" "พี่ภาส..." คนตัวเล็กโน้มตัวเข้าไปสวมกอดเขาไว้ทันทีที่ได้ยินแบบนั้น ไม่ใช่แค่คำพูดของเขาหรอกที่พูดให้เธอรู้สึกแย่ แต่น้ำเสียงของเขามันคงความรู้สึกหดหู่ขึ้นมาทำให้รู้สึกแปลกๆ เธอไม่ชอบที่เขาพูดแบบนี้ มันเหมือนเป็นลางสังหรณ์ที่ทำให้เธอไม่ชอบเอาเสียเลย "พี่ดีใจที่น้ำกอดพี่นะ" "อย่าพูดแบบนี้อีกได้ไหมคะ น้ำไม่โอเคเลยเวลาที่พี่ภาสพูดถึงเรื่องตาย" "แต่ชีวิตคนเรา ไม่มีใครอยู่กับใครตลอดไปได้ มีแต่หัวใจเท่านั้นแหละที่จะมีแต่คำว่าตลอดไป" "แต่มันต้องไม่ใช่ในช่วงเวลาอันใกล้ หากจะถึงเวลานั้น ก็ขอให้มันเป็นเรื่องของธรรมชาติ อย่าพูดแบบนี้อีกนะคะ อย่าลืมสิว่าพี่มีหลายอย่างที่ต้องดูแล ลูกน้องคนงานของพี่เยอะมากนะคะที่เขาหวังพึ่งพาพี่อยู่" "แต่ถ้าวันหนึ่งพี่ไม่อยู่สักคน น้ำช่วยดูแลคนพวกนั้นแทนพี่ได้ไหม" "น้ำจะช่วย ก็ต่อเมื่อเราอยู่ช่วยด้วยกันเท่านั้นค่ะ" รอยยิ้มเก๋ผุดขึ้นบนมุมปากของชายหนุ่ม มือหนาวางหมับลงบนศีรษะทุยเล็กพลางโยกไปมาเบาๆ อย่างเอ็นดู "ขี้อ้อนนะเรา" "แล้วใจอ่อนไหมคะ ถ้าใจอ่อนต้องไม่พูดถึงเรื่องนั้นอีกแล้วนะ" "ดูมีความสุขกันจังเลยนะ" เสียงที่ติดตรึงอยู่ในห้วงของความทรงจำดังขึ้นที่ทางด้านหลัง แน่นอนว่า หญิงสาวหันขวับกลับไปมองทันที ดวงตากลมโตเบิกกว้าง พบว่า เป็นคนที่ครั้งหนึ่งเธอเคยคบหายืนอยู่ทางด้านหลัง และเขาเป็นเจ้าของคำพูดนั้นจริงๆ ปากอวบอิ่มในตอนแรกตั้งใจจะขยับเรียกชื่อ แต่พอคิดขึ้นมาได้ว่า เธอไม่ควรเอ่ยชื่อเขาทำให้เธอเลือกที่จะเงียบแต่มองเขาอยู่แบบนั้นเพียงอย่างเดียว "ไง ไม่เจอกันนานเลยนะ" ดวงตาแข็งกร้าวมองสบประสานกับดวงตากลมโตคู่สวยที่อัคนีเคยมองว่ามีเสน่ห์มาก กรามบดเข้าหากันในตอนที่ลดสายตาลงต่ำ มองมือของคนสองคนที่จับเกี่ยวกันเอาไว้ "น้ำรู้จักเหรอ เพื่อนรึเปล่า" น้ำใจหันหาเจ้าของคำถาม เธอจับมือเขาเอาไว้แน่น ก่อนที่ประภาสจะมองเลยไปยังชายหนุ่มอีกคน "ไม่ตอบเขาไปละน้ำว่าเราสองคนเป็นอะไรกัน" "เคยคบกันค่ะ แต่ตอนนี้เราเลิกกันไปแล้ว พี่ภาสคะ น้ำว่าเราไปกินข้าวกันดีไหมคะน้ำหิวข้าว" "เห็นหน้าผัวเก่าแล้วยืนนิ่งไม่ได้ กลัวผัวใหม่เข้าใจผิดเหรอน้ำ" การพูดจาหยาบโลนส่งผลให้คนตัวเล็กหันขวับ เธอและเขาไม่เคยเกินเลยกันแบบนั้น เขาไม่ควรพูดอะไรแบบนี้ออกมา "ช่วยพูดในสิ่งที่มันเป็นความจริงด้วยค่ะ เราไม่เคยมีอะไรกัน" "แล้วไม่เคยกอด ไม่เคยจูบ ไม่เคยจับ ไม่เคย..." "หยุดพูดจาไม่ให้เกียรติเมียผมเดี๋ยวนี้นะ!" คนที่ทนฟังไม่ไหวโพล่งขึ้นมาอย่างเหลืออด ส่งผลให้คนทั้งคู่มองสบตากันทันที "เมีย?" อัคนีบดกรามเข้าหากันแน่น หงุดหงิดที่เห็นคนทั้งคู่กอดกัน หงุดหงิดที่เห็นความอ่อนโยนและความออดอ้อนหรือทุกการกระทำที่คนทั้งคู่มีต่อกัน และเขาก็กำลังจะคลั่งกับสรรพนามนั้นที่เพิ่งหลุดออกมา "ครับ น้ำใจคือเมียผม ผมไม่พอใจหากคุณจะพูดถึงเมียผมแบบนี้ทั้งที่เรื่องของคุณกับเมียผมมันจบไปแล้ว" "ใครบอกว่าจบ ฉันไม่เคยบอกว่าจบ!" "แต่น้ำจบ เรื่องของเรามันจบแล้ว ตอนนี้น้ำมีสามีแล้ว อย่ามายุ่งกับน้ำอีก" "คุยกันหน่อยไหม" มือหนาคว้าหมับที่ข้อมือบาง สัมผัสที่คุ้นเคย การกลับมาแตะเนื้อต้องตัวผู้หญิงที่เขาเคยคบหาอีกครั้งมันทำให้เขาใจสั่น ยิ่งเห็นเธอตัดบทความสัมพันธ์แบบตรงไปตรงมามันยิ่งทำให้เขาเลือดขึ้นหน้าไปมากกว่าเดิม "ปล่อยนะ อย่าทำแบบนี้..." หัวใจดวงน้อยเต้นถี่ ไม่คิดว่าการกลับมาที่กรุงเทพฯ คราวนี้จะทำให้เธอได้พบเขา และไม่คิดว่าเขาจะเป็นฝ่ายเดินกลับเข้ามาหาเธอ ทั้งที่ร่วมเดือนกว่าที่เราเลิกรากัน "ปล่อยน้ำเดี๋ยวนี้นะคุณ" "มึงไม่ต้องเสือกเรื่องของผัวเมีย น้ำเป็นเมียกู!" ผัวะ! หมัดร้อนๆ เหวี่ยงเข้าใส่ใบหน้าหล่อเหลาของคนที่อัคนีพึ่งพบหน้าเป็นครั้งแรก เขาเกลียดขี้หน้า เกลียดการกระทำที่มันทำกับคนของเขา เกลียดที่ผู้หญิงของเขาไปกอดมัน "พี่ภาส! ...คนบ้า ปล่อยน้ำเดี๋ยวนี้นะ" "อยากเห็นมันจมกองเลือดเพราะเฮียไหมน้ำ ไปเคลียร์กับเฮียก่อน แล้วเฮียสัญญาว่าจะไม่ทำอะไรมัน" "บ้า บ้าที่สุด!"
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD