๔
"แกควรสำเหนียกเอาไว้นะนังน้ำ ที่ยัยฟ้าเรียนไม่จบต้องออกมากลางคันเพราะแกที่รั้นจะเรียนต่อ แกคิดว่าฉันและพ่อแกมีเงินมากมายนักเหรอ ส่งแกเรียนมัธยมก็ลำบากจะตายห่า แต่ฉันกับผัวฉันต้องส่งแกให้ได้เรียนต่อมหา'ลัย บุญคุณที่แกต้องทดแทนมันมหาศาล อย่าคิดว่าจะสบายคนเดียวได้ก็แล้วกัน!"
"คุณเฟื่อง คุณหยุดพูดแบบนี้สักทีได้ไหม ผมชักจะทนคุณไม่ไหวแล้วนะ!"
"หรือคุณจะเถียง หรือว่าคุณจะปฏิเสธว่าเงินส่วนหนึ่งที่หมดไปมันไม่ได้เป็นเพราะส่งอีเด็กกาฝากนี่เรียน!"
"กะ กาฝาก หมายความว่าไงคะ ทำไมแม่ถึงพูดกับหนูแบบนี้ ปัญหาภายในบ้าน อันไหนที่หนูช่วยได้ หนูพร้อมที่จะช่วยเหลืออยู่แล้ว ทำไมถึงคิดเหรอคะว่าถ้าหนูสุขสบาย แล้วจะเอาตัวรอดคนเดียวเมื่อยามที่ได้ดี"
"เหอะ ขอให้จิตสำนึกของแกมีเหมือนที่แกพยายามพูดเถอะ!" สายตาเกลียดชังที่มองมาพาลพาหัวใจดวงน้อยกระตุกวูบ ความน้อยใจมันถาโถมเข้าใส่จนน้ำตาเม็ดโตหลั่งไหลออกมาเป็นทาง
"แม่พูดเหมือนน้ำไม่ใช่ลูกของแม่เลย"
"ไม่ใช่แบบนั้นนะลูก น้ำ..." พ่อคือคนที่รั้งมือเล็กไปจับ ไม่ลืมที่จะตวัดสายตาไปตำหนิผู้เป็นภรรยา
"ตกลงที่บ้านมีปัญหาอะไรเหรอคะ หากตั้งใจจะคุยกับน้ำตั้งแต่แรกอยู่แล้วก็พูดออกมาเลยก็ได้ ปัญหาของพ่อกับแม่ก็เหมือนปัญหาของลูก น้ำไม่เคยคิดที่จะทอดทิ้งพ่อกับแม่"
"น้ำฟังพ่อนะลูก ไม่มี..."
"พ่อแกเป็นหนี้นอกระบบอยู่สี่ล้าน ไม่รู้ว่าดอกเบี้ยบานปลายแค่ไหน โฉนดบ้านหลังนี้ก็ไม่อยู่ อีกไม่กี่วันธนาคารมันก็จะมายึดบ้าน และหากไม่มีเงินสี่ล้านไปคืนพวกมัน ตัวแก ตัวฉัน พ่อแก ยัยฟ้า ถูกฆ่าตายยกครัวแน่!"
"ว่าไงนะคะ สี่ล้าน!" ดวงตากลมโตเบิกกว้าง อยากภาวนาให้สิ่งที่เธอได้ยินเมื่อสักครู่หูเธอแค่ฝาดไป ทุกอย่างไม่ได้เป็นเรื่องจริง แต่พ่อที่ทิ้งตัวลงนั่งอย่างหมดแรง บ่งบอกว่าเรื่องที่แม่ของเธอพูดมันคือเรื่องจริง
"ทะ ทำไม มันเกิดอะไรขึ้นเหรอคะ ที่ผ่านมาเราอยู่แบบพอเพียงมาตลอดไม่ใช่เหรอ แล้วทำไม..."
"พอเพียงบ้านแกเหรอ พ่อแกเป็นพนักงานบริษัท เงินเดือนสามหมื่นกว่า เลี้ยงทั้งครอบครัว ใช้โฉนดบ้านไปกู้เงินหวังจะเปิดร้านกาแฟเล็กๆ ให้ฉัน เศรษฐกิจมันก็แย่มาก ไม่เห็นทุนไม่มีกำไร ไม่มีปัญญาใช้หนี้ธนาคาร ต้องกู้เงินนอกระบบ ทั้งส่งต้นและดอกธนาคารทั้งส่งแกเรียน สุดท้ายแล้วผลลัพธ์มันก็เป็นแบบนี้ไง!" ความจริงที่รับรู้ประเดประดังเข้ามาจนมวลสมองของเธอหนักอึ้ง สมองกลับไปประมวลสถานะทางการเงินของครอบครัวแทบจะทันที ที่ผ่านมา ก็ใช่ว่าเธอจะอยู่อย่างสุขสบาย แต่ก็ไม่ถึงกับอดอยาก ในส่วนเรื่องเรียนเอง เธอก็มีงานพิเศษทำแม้จะรับเงินจากที่บ้านบ้าง แต่ไม่คิดว่าพอเกิดปัญหา สาเหตุของปัญหากลับถูกโยนมาที่เธอ
"เรื่องจริงเหรอคะพ่อ"
"...พ่อขอโทษนะลูก" พ่อที่นั่งร้องไห้ทำหญิงสาวแทบหมดแรง เธอสวมกอดพ่อของตัวเองเอาไว้แน่น ยังไม่รู้ว่าทางออกของปัญหาจะเป็นแบบไหนแต่ความรู้สึกของพ่อเธอในตอนนี้สำคัญยิ่งกว่าอะไร
"พ่อขอโทษนะลูกนะ พ่อขอโทษสำหรับทุกอย่างนะ"
"ทำไมต้องขอโทษน้ำด้วยล่ะคะ ในเมื่อทุกอย่างมันเกิดปัญหาเราก็แค่ช่วยกันแก้ปัญหาไม่ใช่เหรอคะ หนี้ธนาคาร มันมีวิธีผ่อนผันประนอมหนี้ไม่ใช่เหรอคะ พ่ออย่าร้องนะ น้ำเชื่อว่าทุกอย่างจะต้องมีทางออก"
"ทางออกน่ะมี ไหนๆ แกก็ถามมาจนถึงขนาดนี้แล้ว แกก็ควรรู้ตั้งแต่ตอนนี้เลยว่าทำไมพ่อแกถึงย้ำคำว่าขอโทษแกออกมา"
"พะ เพราะอะไรคะแม่ ทำไมถึงต้องขอโทษน้ำ หรือเพราะพ่อกับแม่ตั้งใจจะให้น้ำเลิกเรียนแล้วออกมาทำงาน ถ้ามันสุดทางจริงๆ น้ำทำงานพิเศษเพิ่มก็ได้ค่ะ น้ำทำได้จริงๆ นะคะ อย่าเพิ่งให้น้ำออกจากมหา'ลัยเลยค่ะเพราะหากเรียนจบโอกาสที่จะได้ทำงานดีๆ มันมีเยอะมากกว่า"
"แล้วงานพิเศษที่แกจะทำมันจะได้ตังค์สักกี่บาท หนี้พ่อแกสี่ล้านดอกเบี้ยอีกไม่รู้กี่ล้านเพราะมันเป็นเงินนอกระบบ โฉนดบ้านจะมีปัญญาที่ไหนไปไถ่กลับ แกคิดว่าเงินไม่กี่พันที่แกจะหยิบยื่นช่วยเหลือคิดว่ามันจะพอหรือไง"
"แล้วพ่อกับแม่จะให้น้ำทำแบบไหน"
"แต่งงาน มีเสี่ยคนหนึ่งเขาสนใจแกมาก เขาให้สินสอดสิบล้าน แค่แกไปอยู่กับเขา คนที่บ้านก็จะสบาย!"
"ตะ แต่งงาน ไม่นะคะ ทำไมเราต้องใช้วิธีนี้คะแม่"
"มึงอย่าดื้อนักได้ไหม อย่ามาโชว์โง่ มึงคิดว่าจะมีผู้ชายคนไหนหอบเงินสิบล้านมาแต่งมึงไปเป็นเมีย หรือลูกเศรษฐีที่คบอยู่นะเหรอ มึงคิดว่าเขาจะเอามึงจริงๆ เหรอ!"
"หยุดพูดแบบนี้!" พ่อลุกขึ้นชี้หน้า กรามบดเข้าหากัน แม้หญิงสาวซึ่งเป็นคนกลางก็ไม่คิดว่าแม่จะใช้คำพูดแบบนี้กับเธอเหมือนกัน
"คุณอยากตายเหรอคุณเสกสรรค์ คุณอยากโดนอุ้มฆ่าเพราะไม่มีปัญญาใช้หนี้อย่างนั้นเหรอ!"
"คุณก็พูดดีๆ สิ ใช้คำพูดดีๆ กับลูกบ้าง อย่าพูดกับน้ำแบบนี้!"
"ถ้ามีปัญญามากพอก็บอกอีลูกสาวของคุณให้มันช่วยเหลือพ่อที่รักมันมากอย่างคุณสิ อย่าดีแต่ปาก ถ้ามันรักคุณเหมือนที่คุณรักมันมันจะต้องช่วยเหลือคุณ แล้วฉันจะรอดูว่ามันจะช่วยอะไรคุณหรือทอดทิ้งคุณให้จมอยู่กับปัญหาคนเดียว!" เสียงทะเลาะดังก้องไปทั่วทั้งบ้าน ภาพที่แม่ชี้หน้าพ่อ ภาพที่พ่อร้องไห้ ทุกอย่างมันถาโถมเข้ามาในเวลาพร้อมกัน แม้ว่าต่อจากนั้นผู้เป็นแม่จะเดินออกไปแต่ก็ไม่ได้ทำให้ความรู้สึกแย่ๆ หายออกไปตาม
"น้ำ พอขอโทษนะลูก พ่อขอโทษหนูนะ"
"พ่อ ฮึก... พ่อกับแม่ จะให้หนูทำแบบนี้จริงๆ เหรอคะ จะให้น้ำแต่งงานกับใครก็ไม่รู้แบบนั้นจริงๆ เหรอ"
"เสี่ยประภาสเอ็นดูหนูมาก ภรรยาของเขาตายจาก เขาไม่มีใคร และเขาพร้อมจะช่วยเหลือเราถ้าหนูยอม"
"พ่อ..."
"พ่อรู้ว่าสิ่งที่พ่อพูดมันทำร้ายความรู้สึกของหนูมาก หนูมีแฟนแล้ว แล้วหนูแน่ใจแค่ไหนว่าเขาจะรักหนูจริง พ่อไม่ได้อยากพูดให้หนูเสียใจแต่พ่อจำเป็นต้องพูด ฐานะของเขาต่างกับเรามาก เราไม่รู้เลยว่าแท้จริงแล้วเขาจะคิดแบบไหน ปัญหาของเราที่เรากำลังเผชิญ เขาสามารถหยิบยื่นมือมาช่วยเราได้ไหม พ่อรู้ว่ามันไม่ใช่ปัญหาของเขา ที่เขาไม่จำเป็นต้องมาช่วยเหลือเรา ซ้ำหากเขารู้ว่าเราจนตรอก มีปัญหา เขาอาจจะทิ้งขว้างลูกสาวของพ่อด้วยซ้ำ แต่เสี่ยประภาสคือคนที่ยื่นมือมาช่วยเรา เขาพร้อมที่จะทำให้ครอบครัวของเรารอดพ้นจากหนี้สิน คืนความสบายใจให้เราได้ พ่ออยากให้หนูเก็บเรื่องนี้ไปคิด น้ำช่วยพ่อสักครั้งได้ไหมลูก..."