๒๕
"...นเรศ หรือนายแพทย์นเรศที่น้ำเจอเมื่อกี้ เคยเป็นเพื่อนรุ่นพี่ของพี่ตั้งแต่สมัยที่เรียนมหา'ลัยด้วยกัน เดิมทีพ่อของนายเรศเคยทำงานที่ไร่ของพี่ตั้งแต่สมัยที่แม่ของพี่ยังมีชีวิตอยู่ แม้จะนานมาก แต่เรื่องราวดีๆ ที่คนรุ่นพ่อแม่มี มันทำให้กลายเป็นความสัมพันธ์ที่ดีในรุ่นลูกต่อมา ไอ้หมอมันไว้ใจได้ พี่เรียกหมอนั่นว่าเพื่อนตาย" เวลาที่พูดถึง บนใบหน้าของเจ้าของคำพูดเต็มไปด้วยรอยยิ้มกว้าง บ่งบอกว่าความสัมพันธ์ฉันท์เพื่อนมันดีมากจริงๆ
"ถึงว่า เมื่อวานตอนที่พี่ภาสเข้าไปหาหมอ พี่และคุณหมอมีท่าทีแปลกๆ"
"แปลกแบบไหน" ถามไปพลางอมยิ้ม ยังจำได้อยู่ว่าเมื่อวานเขาเล่นใหญ่ ทำเหมือนเขากับนายแพทย์หนุ่มไม่ใช่คนที่รู้จัก แต่ความจริงแล้วเป็นเพื่อนรักกัน
"มันเป็นความรู้สึกน่ะค่ะ อธิบายออกมาเป็นคำพูดยากอยู่เหมือนกัน"
"ขอโทษที่พี่ไม่ได้บอกน้ำตรงๆ นะ จริงๆ แล้วไอ้หมอมันกลัวว่า พอน้ำรู้ว่าพี่กับมันเป็นเพื่อนกันแล้วน้ำจะคิดว่ามันจะดูแลพี่ไม่ดีน่ะ"
"ไม่เกี่ยวเลยค่ะ น้ำไม่เคยตัดสินใครแบบนั้นสักหน่อย"
"ตอนนี้มันคงรู้แล้วแหละว่าเมียพี่น่ารักแค่ไหน" ว่าไปพลางเลื่อนมือไปบีบแก้มนวลเนียนของภรรยาสาวเบาๆ
"เพื่อนคนเดียวที่พี่มีชื่อว่านเรศ หมอนั่นเป็นเพื่อนตาย หากวันหนึ่งน้ำต้องการความช่วยเหลือให้บอกมัน จำไว้ว่ามันคือคนที่ไว้ใจได้ที่สุด" คนตัวเล็กพยักหน้ารับเบาๆ ทุกคำพูดของเขาเธอจำได้ขึ้นใจเสมอ
"ถ้าเราไม่มีธุระอะไรที่ต้องทำที่นี่แล้ว ถ้าอย่างนั้นเรากลับบ้านของเรากันนะ แต่ถ้าน้ำอยากไปที่ไหนก่อนบอกพี่ตอนนี้ได้เลยนะ พี่พร้อมที่จะพาไปทุกที่" คนตัวเล็กก้มหน้าลงทันที ริมฝีปากอวบอิ่มเม้มเข้าหากันแน่น แม้ว่าคนตัวเล็กไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา แต่ทว่าความใส่ใจ ส่งผลให้คนที่กำลังมองอยู่รู้สิ่งที่อยู่ในใจเธอ
"คิดถึงพ่อกับแม่เหรอ"
"มีบ้างค่ะ แต่คิดว่าตอนนี้พวกเขาคงมีความสุขดี"
"อยากกลับไปหาพวกเขาก่อนไหม"
"ไม่ดีกว่าค่ะ น้ำได้พูดทุกอย่างออกไปชัดเจนแล้ว พวกเขาเองก็คงจะคิดดีแล้วถึงยอมยกน้ำให้พี่ แลกกับเงินจำนวนมหาศาลที่คิดว่าชาตินี้น้ำคงไม่มีทางหาให้พวกเขาได้"
"ความกตัญญูคือเครื่องหมายของคนดี พี่จะเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวดีๆ ให้กับชีวิตน้ำนะ อย่าเสียใจที่ได้ตัดสินใจแบบนี้ บุญคุณที่พวกเขามีต่อน้ำ น้ำตอบแทนแล้ว อย่ากังวลว่าน้ำจะถูกมองว่าทอดทิ้งพวกเขา พวกเขาต่างหากที่เลือกที่จะทอดทิ้งเธอ" น้ำตาเม็ดโตคลอออกมาจากดวงตากลมโต ผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าของเธอในตอนนี้เขาเข้าใจเธอเป็นอย่างดี รู้ในบางอย่างที่เธอคิดแต่ไม่ได้พูด และทุกคำพูด ที่เขาใช้มันเพื่อพูดกับเธอ เสมือนเป็นการช่วยเธอหาทางออกทั้งที่เธอยังไม่ได้เอ่ยขออะไรออกมาเลยสักคำ
จะมีผู้ชายสักกี่คนที่เป็นอย่างเขา อย่างน้อยๆ การที่เธอเดินหน้าไม่หยุด มันทำให้เธอรู้ว่าเธอเลือกไม่ผิด อย่างน้อยๆ หลังจากที่เขาได้ทุกอย่าง เขาก็ยังดีกับเธอ
"กอดพี่ได้นะ อ้อมกอดของพี่ยินดีต้อนรับเธอเสมอ" แขนยาวมั่นคงอ้าออกกว้าง รอยยิ้มอบอุ่นบนมุมปากหนาส่งผลให้คนตัวเล็กถลาตัวเข้าไปในอ้อมกอดที่อบอุ่นนั่นทันที
ไม่เคยคิดว่าอ้อมกอดของคนที่เคยมองว่าแปลกหน้าจะอบอุ่นและปลอดภัยได้ถึงขนาดนี้ มันทำให้เธอกล้ากอดเขาจนเต็มแขน กล้าวางศีรษะซบลงบนอกแกร่งด้วยความเต็มใจ
@หนึ่งเดือนต่อมา
"ลุงพัฒน์ สวัสดีค่ะ" น้ำใจยกมือไหว้ ลุงพัฒน์สามีของป้าหมอน ซึ่งเป็นคนคนเดียวกับที่ไปรับเธอในวันนั้น เพียงแต่วันนั้นเธอไม่รู้จักชื่อ ช่วงเวลาให้หลังสามีของเธอแนะนำเธอให้รู้จักทุกๆ คนมากขึ้น ปกติลุงพัฒน์จะพักที่บ้านหลังใหญ่ที่เธออาศัยอยู่ด้วยกันพร้อมกับภรรยา แต่บางครั้งต้องออกไปทำงานแทนเจ้านายอย่างประภาส ถือว่าลุงพัฒน์เป็นอีกคนที่สนิทกับสามีของเธอมาก และเท่าที่ฟังเวลาที่สามีของเธอเอ่ยถึง ลุงพัฒน์คือคนที่สามีเธอรักและเคารพเหมือนอย่างป้าหมอนเลย
"หนูน้ำ ลุงพึ่งมาถึงเมื่อคืนครับ แต่คุณภาสบอกว่าหนูหลับ ลุงเลยไม่ได้เอาของฝากมาให้"
"ไปทำงานแท้ๆ มีของฝากให้น้ำด้วยเหรอคะ" หญิงสาวยิ้มกว้าง ช่วงนี้เป็นฤดูเก็บเกี่ยวมันสำปะหลัง มีการส่งออกไปขายในปริมาณที่มากๆ จึงมีคนที่ไว้ใจด้วยติดตามไปในครั้งนี้ด้วย และคนคนนั้นก็คือลุงพัฒน์
"นี่เลยครับ น้ำผึ้งแท้ๆ หวาน อร่อย เก็บไว้กินได้นานเลยล่ะครับ"
"ขอบคุณค่ะ ลุงพัฒน์กับป้าหมอนใจดีกับน้ำตลอดเลยค่ะ"
"คุณภาสเธอดีกับลุงครับ หนูเองก็คอยทำอาหารอร่อยๆ เผื่อแผ่ลุงอยู่บ่อยๆ ขอบคุณหนูน้ำด้วยนะ เหมือนว่าตอนนี้หนูจะสดใสกว่าตอนนั้นเยอะเลย"
"พี่ภาสใจดีค่ะ เขาน่ารักมากกว่าที่น้ำคิดในตอนแรกค่ะ"
"เห็นใครต่อใครเรียกพี่ว่าเสี่ย เลยคิดว่าพี่จะเป็นเสี่ยแก่ๆ สินะ" เสียงที่ดังจากทางด้านหลังส่งผลให้คนตัวเล็กหันขวับ พบสามีของเธอที่กำลังเดินออกมา
ท่อนแขนแกร่งเกี่ยวเอวคอดกิ่วเข้าไปโอบกอด ยามที่ปลายจมูกโด่งฝังลงมาบนแก้มขาวผ่องส่งผลให้ใบหน้าสวยร้อนผ่าว ใครจะคิดว่าเขาจะทำแบบนั้นต่อหน้าคนอื่นเล่า
ฟอด~
"รักเมีย"
"อายลุงพัฒน์ค่ะ" รอยยิ้มกรุ้มกริ่มผุดขึ้นบนมุมปากหนา เวลาที่เห็นแก้มเนียนๆ ของภรรยาสาวเปลี่ยนเป็นสีแดงเรื่อ หัวใจแกร่งมักพองโต
"ลุงพัฒน์ไม่มองหรอกครับ ขอหอมอีกข้างนะ"
"พี่ภาส ลุงมองค่ะ"
"ฮ่าๆ ตามสบายเลยครับ ลุงตาไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พักนี้มองอะไรไม่ค่อยชัดหรอก ฮ่าๆ" เจ้าของคำพูดหัวเราะร่า รู้สึกว่าตั้งแต่ที่หนูคนนี้มาอยู่ที่นี่ เจ้านายที่เขารักเหมือนลูกเหมือนหลานดูมีชีวิตชีวาและมีความสุขขึ้นเยอะเลย
"วันนี้พี่จะเข้าไปดูนาข้าวหน่อย ช่วงสายอากาศร้อน ช่วงบ่ายพี่จะมารับน้ำนะ"
"ช่วงเที่ยงมารับก็ได้ค่ะ เดี๋ยวน้ำทำกับข้าวใส่ปิ่นโตรอ"
"เมียผมน่ารักขนาดนี้ไม่ติดเมียนี่ไหวเหรอลุง" เจ้าของคำพูดหันไปยิ้มและขยิบตาให้ลุงซึ่งเป็นสามีของแม่บ้านอย่างมีความสุข
"แบบนี้ไม่นานหรอกครับ" ลุงพัฒน์โต้ตอบ มองสองหนุ่มสาวด้วยความรู้สึกดีที่ไม่ต่างกัน
"ไม่นานอะไรครับลุง"
"ไม่นานก็มีลูกไงครับคุณ" หญิงสาวเพียงคนเดียวในกลุ่มสนทนาถึงกับใบหน้าร้อนเห่อคล้ายกับคนที่จับไข้ คนที่แทบไม่เคยรู้สึกเวลาที่ถูกแซว ในตอนนี้หัวใจเธอมันกำลังเต้นแรง