ใจหาย

1529 Words
หลายวันผ่านไปเด็กใกล้สอบเสร็จแล้ว ฮันน่าหญิงสาวลูกติดในวัยย่างสี่สิบ เธอกำลังนั่งเหม่ออยู่ที่ระเบียงบ้านในตอนเย็น เพื่อรอเด็กๆเลิกเรียน ซึ่งในเวลานี้หล่อนกำลังทำใจ ถึงเรื่องที่กำลังจะย้ายกลับไปกรุงเทพฯ และไม่รู้ว่าถ้าหากบอกลูกๆ เด็กทั้งสองจะเข้าใจในความจำเป็นที่ต้องเดินทางไปตั้งหลักปักฐานที่อื่นหรือไม่ แล้วไหนจะสิงโต ความรู้สึกของเขาคงอ้างว้าง เมื่อหนุ่มน้อยมีความผูกพันกับกันยาและตุลาเป็นอย่างมาก เนื่องจากพวกเขาไม่เคยพรากจากกันเลยตลอดระยะเวลาสิบกว่าปีที่ผ่านมา “สวัสดีค่ะคุณแม่ มานั่งทำอะไรอยู่ตรงนี้ค่ะหรือว่ามานั่งรอลูกสาวกลับบ้าน พรุ่งนี้ก็จะสอบเสร็จแล้วนะคะ ที่สำคัญกันยาคิดว่าคงจะท็อปหลายวิชาเลยทีเดียว หรือไม่ก็อาจจะกวาดเกรดสี่มาเรียบ คุณแม่ดีใจหรือเปล่าคะ" กันยาพนมมือขึ้นไหว้ผู้เป็นมารดา ก่อนจะวิ่งเข้าไปสวมกอดฮันน่าด้วยความรู้สึกรักสุดหัวใจ เมื่อเธอขาดบิดาแต่มารดาก็ไม่เคยทำให้หญิงสาวรู้สึกมีปมด้อยเลยสักนิด “ลูกสาวแม่เก่งอยู่แล้ว ตุลากับสิงโตละจ๊ะ อย่าบอกนะว่าพากันเดินไปท้ายไร่แล้ว" ฮันน่าชะเง้อชะแง้มองลงไปด้านล่าง แต่ก็ไม่พบคนทั้งสอง เพราะตั้งแต่สิงโตและตุลาเริ่มโตเป็นหนุ่มก็มักจะไปขลุกอยู่แต่บ้านท้ายไร่ “ใช่แล้วค่ะแม่ สองคนนั้น เดินตรงไปที่บ้านท้ายไร่ ป่านนี้คงถึงแล้วมั้ง ถ้าอย่างนั้นกันยาขอไปเปลี่ยนชุดก่อนนะคะแม่" “เดี๋ยวก่อนกันยา ไปเรียกตุลากับสิงโตมาพบแม่ทีซิ... บอกกับสองคนนั้นว่าแม่มีธุระสำคัญจะคุยด้วย" ขณะที่กันยากำลังจะเดินเข้าไปในบ้าน ฮันน่ารีบฉุดแขนลูกสาวเอาไว้ เพราะอยากให้กันยารีบไปรีบกลับ เนื่องจากเธอกลัวมันจะมืดค่ำเสียก่อน แม้ว่าทุกคนที่ไร่จะรู้จักกันยาดี แต่คนงานผู้ชายที่นี่เพิ่งรับเข้ามาใหม่ก็มีหลายคน “เอาไว้วันหลังไม่ได้เหรอคะแม่ พรุ่งนี้ต้องสอบอีกหนึ่งวิชา กันยาจะไปอาบน้ำ และต้องไปติววิชานี้ให้กับสิงโตแล้วก็ตุลาด้วยทั้งสองคนบอกว่าไม่รู้เรื่อง พรุ่งนี้กลัวทำข้อสอบไม่ได้” เธอทำหน้าอ้อนผู้เป็นมารดา จนฮันน่าเริ่มใจอ่อนและกำลังคิดว่าควรให้เด็กๆ สอบเสร็จก่อน แล้วค่อยบอกความจริงกับพวกเขา เพราะถ้าบอกวันนี้อาจจะมีใครคนใดคนหนึ่งไม่ยอมไปสอบเลยก็ได้ “ถ้าอย่างนั้นก็ได้ รีบไปอาบน้ำเลย แล้วก็รีบไปติวให้สองคนนั้น จะได้กลับมากินข้าวกินปลานอนพักผ่อน สมองจะได้ปลอดโปร่ง พรุ่งนี้จะได้ทำข้อสอบได้ทุกข้อโอเคไหมจ๊ะ อ้อ... ตอนกลับให้สิงโตหรือตุลามาส่งที่บ้านด้วยล่ะ ห้ามเดินมาคนเดียวเข้าใจไหมกันยา" ฮันน่ารีบพูดดักลูกสาวขึ้นเพราะกลัวว่ากันยาจะไปนอนค้างที่บ้านท้ายไร่ เพราะถึงยังไงตอนนี้เธอก็โตเป็นสาวแล้ว แม้ว่าสิงโตจะมองเธอเป็นเพียงแค่พี่น้องก็ตามที แต่ความเป็นจริงทั้งสองก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกันทางสายเลือด ยังไงเสียการที่กันยาจะไปนอนค้างอ้างแรมกับผู้ชายแบบนั้น มันก็ไม่เหมาะสมอยู่ดี “แม่ค่ะ...คืนนี้กันยาขอนอนที่บ้านท้ายไร่นะคะ...ขอบคุณค่ะ แม่ใจดีที่สุดในโลกเลย จุ๊บ!" กันยาไม่รอให้ผู้เป็นมารดาตอบรับหรือปฏิเสธหญิงสาวพูดเองเออเองออกมาทั้งหมด พร้อมกับจุ๊บแก้มมารดา ด้วยท่าทางที่น่ารัก ก่อนจะรีบวิ่งเข้าไปในบ้าน เพื่ออาบน้ำเปลี่ยนชุดให้เรียบร้อย “เด็กเอ๋ยเด็กน้อย ทำไมลูกของแม่ ถึงได้น่ารักร่าเริงสดใสมองโลกในแง่ดี ถ้าแม่พาหนูออกไปจากไร่นี้ ลูกทั้งสองจะโกรธแม่หรือเปล่านะ" น้ำเสียงที่แผ่วเบาของหญิงสาว บ่งบอกให้รู้ว่าเธอกำลังคิดหนัก กับการที่ต้องพาลูกๆ ออกไปจากไร่นี้ แต่เธอก็เชื่อว่ากันยาและตุลาโตมากพอที่จะรับฟังเหตุผลของเธอ “มานั่งเหม่ออีกแล้ว คิดดีแล้วเหรอที่จะไปจากที่นี่ เปลี่ยนใจตอนนี้ยังทันนะคะพี่ฮันน่า" น้ำเสียงของขวัญข้าว ทำให้ฮันน่าถึงกับสะดุ้ง ทั้งที่หญิงดาวนั้นพูดออกมาเบาๆ “อย่าเสียงดัง กันยาอยู่ในห้อง พี่ยังไม่กล้าบอกกลัวว่าพรุ่งนี้เด็กๆ จะไม่มีสมาธิในการสอบ" น้ำเสียงของฮันน่าทำให้ขวัญข้าวสัมผัสได้ถึงความรู้สึกของเธอ หญิงสาวรู้ดีว่าเธอคงไม่อยากจะไปจากที่นี่ ถ้าไม่จำเป็น เพราะฮันน่ากับลูกๆ ก็คงจะผูกพันกับไร่กวางกมลไม่น้อย "ขวัญว่ากันยากับตุลาน่าจะเข้าใจเหตุผลของพี่ฮันน่านะคะ แต่เจ้าสิงโตนี่สิ ขวัญไม่รู้จะอธิบายให้ลูกเข้าใจยังไงดี เพราะทั้งสามมักจะไปไหนมาไหนด้วยกันเสมอ เจ้าสิงโตคงอ้างว้างและเหงาน่าดู ถ้าหากว่าไม่มีกันยาและตุลาอยู่ที่ไร่กวางกมล" คราวนี้ใบหน้าและแววตาของขวัญข้าว กลับเต็มไปด้วยความกังวลแทนฮันน่า เมื่อเธอนึกภาพของลูกชาย ที่กำลังเสียใจและคงจะใช้เวลาในการปรับตัวอีกนาน “พี่ขอโทษนะขวัญ ที่อยู่ต่อไม่ได้ ความจริงพี่ก็ไม่อยากจะกลับกรุงเทพฯ เลยสักนิด แต่โดนสถานการณ์บีบบังคับ เพราะพี่เรจะพาลูกสาวย้ายไปเรียนต่างประเทศ เลยไม่มีใครดูร้านให้ และพี่ก็อยากให้ลูกๆ ไปเรียนที่โน่น เพราะหลังจากเลิกเรียน หรือว่าวันหยุดกันยากับตุลาก็คงจะช่วยงานที่ร้านได้มาก" ในเวลานี้ฮันน่าทำได้เพียงแค่ส่งยิ้มบางๆ ให้กับขวัญข้าวเท่านั้น ทั้งที่ภายในใจของเธอก็เจ็บช้ำ แต่ก็ฝืนยิ้มจนสุดกำลัง เพื่อไม่ให้ขวัญข้าวคิดมาก เมื่อเธอกำลังจะประสบปัญหาเรื่องการเงิน “ยังไงขวัญกับพี่เสือก็เคารพการตัดสินใจของพี่ค่ะ เดี๋ยวเราจะแวะไปเยี่ยมบ่อยๆ ก็แล้วกัน" เมื่อมันคือความประสงค์ของฮันน่า ก็คงไม่มีใครห้ามได้ขวัญข้าวเองก็ปรารถนาที่จะให้เธอมีกิจการเป็นของตัวเองเช่นกัน และก็หวังอยากจะให้พี่สาวคนนี้มีชีวิตที่ดี “แม่ค่ะกับข้าวในปิ่นโต กันยาถือไปเลยนะ อ้าว! สวัสดีค่ะแม่ขวัญ" เมื่อเดินออกมาจากห้อง กันยาก็พบกับแม่ขวัญข้าวที่กำลังสนทนาอยู่กับมารดาของเธอ หญิงสาวจึงกล่าวทักทายแล้วยกมือขึ้นพนมไหว้อย่างนอบน้อม “สวัสดีจ้า แล้วนั่นกันยาจะไปไหน ทำไมถึงได้สะพายกระเป๋าเป้หนังสือ หรือว่าจะไปติวให้กับสองคนนั้น" ขวัญข้าวรีบทำใบหน้าให้ยิ้มแย้ม ก่อนจะทำก่อนจะถามกันยาออกไป เพื่อกลบเกลื่อนในเรื่องที่เธอกำลังสนทนาอยู่กับฮันน่าในเวลานี้ “กันยาจะไปติวหนังสือให้ตุลาแล้วก็สิงโต คืนนี้ขอไปนอนที่นู่นนะคะแม่ นะค๊า" กันยาเริ่มทำหน้าอ้อนอีกครั้ง “แม่ขวัญอนุญาตให้ไปนอนได้ รีบไปสิเดี๋ยวมืดค่ำเสียก่อน" “ขอบคุณค่ะแม่ขวัญจะดีที่สุดในโลกเลย ไปแล้วนะคะแม่" กันยาฉีกยิ้มแฉ่งออกมาด้วยความดีใจ จากนั้นเธอก็รีบเดินลงบันไดไปในทันที ปล่อยให้แม่ฮันน่าและขวัญข้าวมองตามหลังด้วยใบหน้าที่สงสารจับใจ เพราะอีกไม่กี่วันก็จะได้ออกไปจากไร่นี้กันแล้ว หลังจากที่กันยาเดินลงจากบ้านมา ใบหน้าของเธอเริ่มเศร้าหม่นลงไปทันที เด็กหญิงหน้าแป้นแล้นเธอได้แม่มาเต็มๆ ไม่ได้ฝรั่งจ๋าเหมือนผู้เป็นบิดา เวลานี้หยดน้ำตากำลังไหลออกจากดวงตาคู่สวยของเธอ เมื่อกันยาแอบได้ยินบทสนทนาของมารดากับแม่ขวัญข้าว อีกไม่กี่วันเธอจะต้องจากบ้านเกิดเมืองนอนไป ไร่แห่งนี้แม้จะไม่ใช่เจ้าของ เธอก็รู้สึกผูกพันราวกับว่ามันเป็นดินแดนของตัวเอง “อุ้ย! น้องกันยา ใกล้ค่ำแล้วทำไมมาเดินคนเดียว จะไปไหนเหรอ" ชายหนุ่มหน้าตาดีเดินเข้ามาทัก กันยาเริ่มทำหน้าเหลอหลาด้วยความแปลกใจเพราะเธอไม่รู้จักเขามาก่อน “ไปท้ายไร่ ขอตัวนะคะ" กันยาเกลียดแววตาของผู้ชายตรงหน้าเหลือเกิน มันช่างแฝงไปด้วยความเจ้าเล่ห์และน่ากลัวสำหรับเธอมาก เด็กหญิงจึงก้มหน้าหลบสายตาคมนั่น แล้วรีบเดินตรงไปยังท้ายไร่ทันที โดยที่ไม่รู้ว่าชายร่างกำยำกำลังสะกดรอยตามเธอไป
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD