ว่านยืนมองหน้าคนที่บอกว่าเป็นเพื่อนของหลินอยู่สักพักซึ่งมันก็มองกลับอย่างไม่ยอมแพ้แถมยังกำมือแน่นคล้ายว่าจะต่อยอีกด้วยแต่น่าจะไม่กล้าเปิดก่อน
"มึงเองเหรอคนที่เป็นแฟนหลิน?"
"อืม"
"หลินคุยกับกูอยู่มึงไม่รู้เหรอห่ะ คนอย่างมึงคงมีดีแค่เงินไม่งั้นหลินก็คงไม่มาหากู"
"อะไรมามั่นใจว่ากูมีดีแค่เงินห่ะ มึงมันก็แค่ของเล่นแก้เหงาในช่วงที่กูไม่ว่างเฉยๆแถมยังได้แค่คุยอีกด้วย นี่อย่าบอกนะว่ามึงมโนคิดว่าจะได้ใจหลินไป…ปัญญาอ่อน!"
"ไอ้…"
"อย่ามายุ่งกับคนของกูอีกเพราะกูไม่ใจดีบ่อยระวังฟื้นโรงพยาบาลไม่รู้ตัวละ!"
"มึงขู่กูเหรอ!?"
เขาไม่ได้ตอบอะไรมากนอกจากยักไหล่แสยะยิ้มมุมปากแล้วเดินออกไปจากตรงนี้เพราะมันเป็นจุดสนใจเกินไป
หลินกล้าบอกกับทุกคนว่าเขาเป็นใครแต่พอเขาเอ่ยปากถามเองก็มักจะบอกว่าเป็นพี่น้องเสมอ เขาไม่รู้ว่าเธอคิดอะไรอยู่แต่การแสดงความรู้สึกทั้งหมดออกมาคงไม่ดีแน่กับคนใจโลเลหวั่นไหวง่ายกับทุกคนแบบเธอ
หลินเริ่มไม่พอใจที่เขาจะตีตัวออกห่างขนาดยอมเลิกคุยกับทุกคนที่เข้ามาจีบแล้วยังยื้อด้วยการชวนไปเที่ยวในคืนนี้ เขาเองก็ควรจะผูกมัดเธอไว้ไม่ให้ไปซุกซนจนรถไฟชนกันแบบนี้อีกเพราะเขาควรจะเป็นรถขบวนเดียวของเธอ
ถ้ามีเขาคนเดียวไม่ได้ก็จบกันตอนนี้เลย!
ว่านขับรถไปทำงานไม่ลืมจะโทรไปจองโต๊ะผับที่เราจะไปเที่ยวในคืนนี้ ตอนนี้หลินคงจะวุ่นวายกับการเรียนเห็นว่าในช่วงบ่ายมีสอบด้วยคงจะเครียดไม่น้อยดังนั้นเขาจะทำให้เธอคลายเครียดในวิธีสุดแสนจะโรแมนติกปนเร้าร้อนให้ไม่กล้าจะเกเรไปยุ่งเกี่ยวกับใครอีก
ปล่อยอิสระมาปีครึ่งมันก็มากเกินพอแล้ว!
...ถึงเวลาเป็นเมียเขาแล้ว
"ไงมึงนั่งเคลิ้มอะไรวะ?" ชานถามเพื่อนที่นั่งยิ้มคนเดียว
"มึงเคาะประตูเป็นไหมเนี่ยแล้วเลขากูไม่อยู่รึไงวะ!?" เพื่อนมาตอนไหนแล้วมาทำไงงงมาก
"มึงไม่อ่านไลน์เหรอวะ?" ปรกติคนติดโทรศัพท์อย่างมันต้องเห็นดิว่าคุยอะไรกันบ้าง
"กูงานยุ่งมึงก็เห็นแล้วมาทำส้นตีนอะไรวะ?" ไอ้ชานมันทำหน้าชั่วอีกแล้วไม่รู้ว่าแม่งคิดอะไรอยู่แล้วคุยอะไรกันบ้าง
เขาจำเป็นต้องหยิบโทรศัพท์มาเปิดอ่านข้อความในกลุ่มแล้วอยากจะกระโดดถีบยอดหน้าไอ้คนก่อเรื่องมาก
"ไอ้เหี้ยน่าน!" มันไปมีเรื่องอีกแล้ว
"กูแค่มารับมึงไปแดกข้าวเที่ยงเฉยๆพอดีว่ามากินใกล้ที่นี่ คนอื่นรอที่ร้านแล้ว"
"มึงมาบังคับกูให้ไปมากกว่าเถอะไอ้เลว!"
"งั้นก็ไปกัน งานมึงก็ไม่ได้ยุ่งมากนี่กูถามเลขามึงมาแล้ว"
"ถามเลขากู!?"
"เออดิ ตกใจเหี้ยไรวะ!"
"อนาคตกูต้องเปลี่ยนเลขาแน่เลย!"
“แคกูเข้ามาในห้องมึงง่ายๆถึงกับต้องเปลี่ยนเลขาเลยเหรอวะ? มึงแม่งใจร้ายกว่าไอ้น่านอีก!”
นี่เป็นการรวมตัวกันที่เรียกได้ว่าบ่อยเกินไปถึงปรกติจะเจอกันแทบทุกวันแต่ไม่ใช่แทบทุกคนไง
เพื่อนบางคนก็แทบจะหายไปกับผู้หญิงที่แอบรักในขณะที่บางคนก็ทำตัวโสดเที่ยวอ่อยไปเรื่อยและเขาที่ไม่รู้อะไรแน่ชัดเลยสักนิดว่าจะโสดหรือมีแฟนกันแน่
สถานะพี่น้องค้ำคออยู่นี่ไง!
"สรุปคือมึงก็ยังเป็นพี่ชายหน้าส้นตีนอยู่ใช่ป่ะไอ้ว่าน?" น่านถามด้วยสีหน้านิ่งเฉย
"กูก็ไม่ต่างจากมึงหรอกมั้งไอ้น่าน พวกมึงก็ด้วย!" โดนเพื่อนด่าเรื่องนี้นับครั้งไม่ถ้วนแต่ตอนนี้สถานการณ์ของพวกมันแต่ละคนก็ไม่ค่อยจะต่างกันเท่าไร
"เกี่ยวอะไรกับกูวะ?"
"มึงก็มีคู่หมั้นไงแต่คู่หมั้นไม่รักหาเรื่องถอนหมั้นตลอดส่วนไอ้ฟีฟ่าก็ชอบลูกสาวหุ้นส่วนที่เสน่ห์โคตรแรงไม่ใช่เหรอแล้วมึงไอ้ตัวดีไอ้น่าน มึงแอบรักเลขามาตั้งสองปีเสือกทำเหี้ยอะไรไม่ได้แม้แต่ปลายเล็บจนคนอื่นเขาจะคาบไปแดกแล้ว" เขาพูดความจริงถึงสถานการณ์จริงของเราในตอนนี้
เหี้ยละ! เพื่อนจ้องตาเขม็งเลย
ตุบ!
"โอ๊ย! ไอ้เหี้ยน่าน!!"
"อินวาเป็นของกูคนเดียว!!"
"พวกมึงเลิกตีกันแล้วแดกข้าวเถอะ!"
"แม่งกระทืบตีนกูซะแรงเลยนะไอ้สัตว์ กูพูดแทงใจดำนิดเดียวเอง!" เขาพูดเรื่องจริงแต่แม่งรับไม่ได้ส่วนเพื่อนคนอื่นก็แค่ทำหน้าเซ็งๆแค่นั้นเอง
ไอ้เหี้ยน่านปากว่าตีนถึงตลอด!
"มึงคืนนี้กูไม่ว่างนะกูนัดกับหลินไว้" บอกก่อนเผื่อพวกแม่งจะชวนไปแรดที่ไหนอีก
"น้องสาวที่มึงอยากเยน่ะเหรอ?" ชานถาม
"บางทีคืนนี้กูอาจจะได้มาเป็นเมียเลยก็ได้ กูเหนื่อยแล้ว" ใครไม่เป็นเขาไม่มีทางรู้หรอกว่าเหนื่อยแค่ไหนกับสถานะพี่น้องเฮงซวยส้นตีนอะไรเนี่ย
คืนนี้ถึงเวลาที่เราจะเปิดใจคุยกันแล้วถ้าหลินคิดแบบเดียวกันเรื่องของเราก็จะเดินต่อไปแต่ถ้าเธอไม่คิดอะไรเขาคงต้องตัดใจจบดีกว่าอยู่เป็นคนแก้เหงาให้เด็กแบบนี้
หมดเวลาซุกซนถึงเวลาซุกไซ้ซะที!
ว่านกลับมาทำงานในช่วงบ่ายเร่งเคลียร์งานของวันพรุ่งนี้ให้จบจนใกล้ถึงเวลาที่นัดไว้ถึงได้ขับรถออกไปรับหลิน
เขาจำเป็นต้องกะเวลาเผื่อการจราจรติดขัดด้วยเพราะมันไม่มีอะไรแน่นอนเลยสักวัน เกิดเขาออกไปตรงเวลาแล้วไปติดแหง็กอยู่กับที่หลายสิบนาทีขึ้นมาหลินก็รอแย่เลย
เขากลัวว่าเธอจะแอบคุยกับใครมากกว่า!
ทุกครั้งที่ไปรับเขามักจะไปถึงก่อนเวลาแต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหาเพราะเขาสามารถทำอย่างอื่นระหว่างรอได้เสมออย่างเช่นเล่นเกม ดูหนัง อ่านบทความต่างๆพอเธอมาก็แค่เปิดประตูขึ้นรถแค่นั้นและครั้งนี้ก็ไม่ต่างจากทุกครั้ง
"วันนี้หล่อจัง"
"ปากหวาน!"
"เสี่ยเคยลองแล้วเหรอ?"
"หื้ม...พูดอย่างนี้ไม่ดีนะหลิน"
"เอ้า! ก็พูดจริงนี่ เสี่ยว่านบอกว่าหลินปากหวานแต่ยังไม่เคยลองเลยสักครั้ง"
"หึ! เดี๋ยวจะโดนอะไรอุดปากละ!"
"เสี่ยว่านหมายถึง…"
"ไม่ใช่จูบหรอกหลินแต่เป็นอย่างอื่น"
"...!" อย่างอื่นของเขามันหมายถึงอะไรก็ไม่รู้แต่สายตามันเบนไปทางหัวเข็มขัดและจุดต่ำกว่านั้นแล้วแหละ!
เธอไม่เคยคิดว่าการพูดหยอกเล่นจะทำให้รู้สึกใจเต้นแรงขนาดนี้แล้วยังร้อนผาวไปทั้งหน้าอีกด้วย เขาเปิดเพลงป๊อปตามปรกติแล้วหันมายิ้มให้แต่แววตากลับแปลกมากกว่าทุกวัน
เธอรู้สึกเหมือนกำลังถูกแทะโลมทั้งที่เขาไม่ได้ทำอะไรเลยแต่กลับเป็นเธอต่างหากที่เผลอคิดไปถึงเรื่องคืนนี้แล้ว
ความจริงต้องย้อนไปตอนเช้าหลังจากที่เกือบจะมีเรื่องรถไฟขบวนใหญ่สายหลักชนกับรถไฟขบวนเล็กที่กำลังจะโละทิ้ง เธอถูกเพื่อนซักถามอย่างหนักแล้วบางคนยังแซวไม่หยุดเพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เสี่ยว่านเดินลงจากรถให้เพื่อนเธอได้เห็นเขา
หลายคนบอกว่าเธอแต้มบุญสูงมาก!
...เธอก็คิดอย่างนั้นแหละ!!
แต่ด้วยสถานะของเรามันยังไม่มีอะไรชัดเจนเลยสักนิดแล้วก็ไม่รู้ด้วยว่าเขารู้สึกอะไรอยู่ เธอปรึกษาเพื่อนสนิทมันก็เลยบอกให้ลากขึ้นเตียงเอากันให้จบๆจะได้มีผัวเป็นตัวตนสักที
เพื่อนแนะนำติดตลกไม่จริงจังเท่าไรคงเพราะแซวเธอด้วยแหละแต่ปัญหาคือเธอนี่สิดันคิดจริง
ครั้งนี้เสี่ยว่านจะทิ้งเธอไม่ได้อีกแล้ว!
เธอไม่รู้หรอกนะว่าเขาจะจริงจังรึเปล่าเพราะเดี๋ยวมาเดี๋ยวหายจนงงว่าถูกทิ้งรึยัง แล้วบางครั้งก็ทำเหมือนหึงแต่บางครั้งก็เหมือนคนไม่รู้สึกอะไรเลยแล้วใครจะไปตามความรู้สึกเขาทันได้ละในเมื่อเธอก็ไม่ได้เก่งอ่านใจคนด้วย
เป็นผู้ชายที่เดาอารมณ์ยากคนหนึ่งเลย!
"แอบมองเสี่ยทำไมมีอะไรรึเปล่า?"
"ก็...คืนนี้ไปเที่ยวกันสองคนเลยรู้สึกแปลกๆ"
"แปลก?"
"ไม่ได้คิดว่าจะไม่สนุกนะแต่ว่าเราไม่เคยไปเที่ยวกันแบบนี้นานมากแล้ว"
"งั้นก็ทำความเคยชินไว้ซะนะ"