ตอนที่ 6 ไม่เป็นไปตามแผน

2309 Words
หากไม่ได้รับรู้ถึงแผนการมาก่อน นางคงได้แต่คิดว่าหญิงชราผู้นั้นใจดำยิ่งนัก ถึงขนาดที่ทิ้งนางไว้อย่างไม่ใยดีเช่นนี้ได้ แต่ดีที่นางได้สืบทราบมาก่อนแล้วว่านี่เป็นแผนการยิงปืนนัดเดียวได้นกสองต่อของผู้เป็นแม่สามี ที่คิดจะกำจัดนางและมอบฮูหยินเอกคนใหม่ให้กับบุตรชายให้ไร้ซึ่งขวากหนาม ทุกอย่างนางสามารถจัดการได้อย่างหมดจด หากในวันนี้หญิงสาวถูกโจรป่ากลุ่มนี้ทำให้เสื่อมเสียเกียรติแล้ว ยังจะมีหน้าดำรงตำแหน่งเป็นฮูหยินเอกได้เช่นไร เมื่อหญิงสาวคิดมาถึงแผนการทั้งหมดอย่างถ่องแท้ก็ได้แต่หรี่ดวงตาให้แคบลง มีหรือที่นางจะยอมให้หญิงชราผู้นั้นสมหวังได้โดยง่าย...คิดทำสิ่งใดกับนางไว้นางจะเอาคืนทบต้นทบดอกในเมื่อกล้าลงมือกับนางได้อย่างร้ายกาจถึงเพียงนี้ ต่อจากนี้ก็คงไม่จำเป็นต้องถนอมน้ำใจกันอีกต่อไปแล้ว "จัดการเสียให้เรียบร้อย" หานหลินปิงหันไปสั่งการกับคนของตนเองด้วยท่าทีที่สุขุม โดยไร้ซึ่งท่าทีหวาดกลัวกับสถานการณ์อันตรายเช่นนี้แต่อย่างใด เพียงไม่นานเสียงนกหวีดก็ได้ดังขึ้น ผู้คนที่ไม่ทราบว่าโผล่มาจากทิศทางใด มากมายอย่างไม่มีทีท่าว่าจะสิ้นสุด เหล่าทหารองครักษ์มากฝีมือ เข้ามาจัดการเหล่าโจรป่า ที่กำลังล้อมรถม้าอยู่อย่างรวดเร็ว โดยที่พวกมันไม่ทันได้ตั้งตัว "แย่แล้ว…!!! นี่พวกมันโผล่มาจากที่ใดกันแน่ เหตุใดถึงได้มีมากมายเช่นนี้เล่า" ผู้เป็นหัวหน้ากลุ่มโจร ได้แต่ ทอดสายตามองไปที่เหล่าองครักษ์มากฝีมือเหล่านั้นด้วยอาการสั่นเทา การถูกว่าจ้างมาให้จัดการกับสตรีผู้นี้มิได้เป็นเรื่องง่ายอีกต่อไป ไหนสาวใช้ผู้นั้นกล่าวว่าเป็นแค่เรื่องง่ายๆ เหยื่อเป็นสตรีที่ไร้ซึ่งคนคุ้มกันไม่ใช่หรือแล้วสิ่งที่เขาเห็นอยู่นี้คืออันใด กลุ่มคนเหล่านี้เทียบเท่ากับราชองครักษ์ที่คอยคุ้มกันในวังหลวงก็มิปาน มิใช่ว่าพวกตนได้เอาชีวิตมาทิ้งกับงานในครั้งนี้แล้วกระนั้นหรือ ฉึก! ฉึก! ฉึก! เสียงธนูพุ่งแหวกอากาศออกมามากมาย เหล่าสมุนนับ 30 คนของเขา ล้มตายลงไปเรื่อยๆ ดั่งใบไม้ร่วง อ๊า!!! แม้แต่ตัวของเขาเองก็ยังไม่สามารถรอดพ้นไปจากเงื้อมมือของเหล่าองครักษ์เหล่านั้นได้ เพียงไม่นานร่างกายของผู้เป็นหัวหน้าโจรป่า ก็ถูกธนูปักเข้าหลายดอกแต่ก็ยังห่างจุดอันตรายเพราะในตอนนี้โจรป่าผู้นี้ยังถือว่ามีประโยชน์ เพื่อเป็นพยานปากเอกในภายภาคหน้า "จับพวกที่ยังมีชีวิตที่เหลือไปสอบสวนเสีย และให้พวกมันเขียนคำสารภาพเอาไว้เป็นหลักฐานอย่างละเอียด ข้าจำเป็นต้องใช้มัน" "ขอรับ" หานหลินปิงทอดมองไปยังกลุ่มโจรป่าเหล่านั้น ด้วยสายตาที่ยากว่าผู้ใดจะเข้าใจในความคิดของนาง หากเป็นเจ้าของร่างคนเก่าถูกกระทำถึงเพียงนี้ นางจะทำเช่นไรนะ…? ยอมให้เรื่องนี้ผ่านไปโดยง่าย ดังเช่นที่ผ่านมา หรือจะยอมลุกขึ้นมาสู้เพื่อตนเอง เหตุใดสตรีผู้นี้ถึงได้โง่เขลาถึงเพียงนี้ ถูกกระทำครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ก็ไม่เคยคิดเจ็บแค้น นี่ไม่ใช่ครั้งแรกในความทรงจำของเจ้าของร่าง ที่นางถูกเล่นงานให้เสื่อมเสียเกียรติเช่นนี้ ในอดีตนางก็เคยถูกวางแผนกำจัดเช่นนี้หลายต่อหลายครั้ง จนเกือบทำให้เสื่อมเสียเกียรติ แต่ด้วยความที่มีผู้มีฝีมืออยู่รายล้อมจึงทำให้รอดมาได้เสียทุกครั้ง ครั้งนี้ถือว่าหนักสุดแล้ว ที่ใช้โจรป่ามากถึง 30 คนมาคอยกำจัดนาง แต่ไม่เป็นไร...ต่อจากนี้หานหลินปิงคนใหม่ผู้นี้ จะเป็นผู้คิดบัญชีที่ผ่านมาทั้งหมดให้เอง ถึงแม้นเจ้าของร่างเดิมจะต้องการหรือไม่ แต่นางเจ็บแค้นแทนจะให้ทำเช่นไรได้ "เราจะตามขบวนของฮูหยินผู้เฒ่าจ้าวไปเลยหรือไม่ขอรับ" จูเฉิงหนิงหันมากล่าวถามผู้เป็นนายหลังจากที่จัดการกับเหล่าโจรป่ากลุ่มนั้นเสร็จเรียบร้อย "ยังก่อน… ข้าได้เตรียมของขวัญชิ้นพิเศษให้กับพวกนางเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แม่สามีของข้ารักและโปรดปรานบุตรสาวของนางมากไม่ใช่หรือ หากบุตรีเพียงคนเดียวที่นางรัก ถูกกระทำอย่างเช่นที่นางต้องการให้ข้าโดนกระทำแล้วไซร้ นางจะรู้สึกเช่นไรเล่า" "ฮูหยิน…!!!" จูเฉิงหนิงตาเบิกกว้างอย่างตกใจ เขามิคาดคิดว่าผู้เป็นนายจะเปลี่ยนแปลงไปได้มากถึงเพียงนี้ หากเป็นเช่นที่เขาคิด จากประโยคเมื่อสักครู่นี้คุณหนูใหญ่จ้าวเฝิงยู่ร์ ที่ไม่เคยมองว่านายของตนเป็นพี่สะใภ้ และมักจะดูถูกดูแคลน คอยเอารัดเอาเปรียบ หานหลินปิงอยู่เรื่อยมาผู้นั้น แค่เพียงคิดว่า เพียงไม่กี่อึดใจต่อจากนี้ สตรีผู้มีจิตใจไม่ดีนางนั้น จะมีชะตากรรมเช่นใด เขาก็ได้แต่รู้สึกสาแก่ใจแล้ว หากจะโทษก็โทษที่มารดาของเจ้าเถิด ที่มีจิตใจคอชั่วช้าจนผลกรรมนั้น มันได้มาตกที่ตัวบุตรสาวเพียงคนเดียวของนาง ผู้ใดจะคาดคิดล่ะว่า ขบวนรถม้าที่เร่งฝีเท้ามาอย่างสุดกำลังของตระกูลจ้าว จะถูกดักปล้นโดยโจรป่าอีกกลุ่มหนึ่ง ที่ถึงแม้นว่าเหล่าข้ารับใช้และผู้คุ้มกันตระกูลจะออกมาช่วยเหลือกันมากมายเพียงใด ก็มิสามารถต่อสู้กับกลุ่มโจรป่าเหล่านี้ได้ พวกมันนำของมีค่าทั้งหมด และยังจับตัวอี้เหนียงทั้งสองกับคุณหนูใหญ่จ้าวเฝิงยู่ร์ไปด้วย ท่ามกลางเสียงกรีดร้องขอความช่วยเหลือของฮูหยินผู้เฒ่าจ้าว หาได้มีผู้ใดยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือไม่ เพราะในบริเวณแห่งนั้น เป็นเส้นทางเปลี่ยวไร้ซึ่งผู้คนสัญจรไปมา "ข้าบอกให้พวกเจ้าลุกขึ้นไปช่วยเฝิงเอ๋อร์อย่างไรเล่า พวกเจ้าไม่ได้ยินที่ข้าสั่งหรืออย่างไร" เสียงแหบแห้งของหญิงชราพยายามที่จะตะโกนบอกคนของตน ที่นอนหมดสติอยู่ที่พื้นให้ลุกขึ้นมาอย่างบ้าคลั่ง ในตอนนี้นางคล้ายกับคนเสียสติ ที่เอาแต่ตะโกนร้องโวยวาย โดยมีเหล่าข้ารับใช้ที่เหลือ นั่งร้องไห้อยู่ด้านข้างอย่างไม่กล้าสู้หน้า แต่ก็ไม่รู้ว่าจะปลอบใจผู้เป็นนายให้ใจเย็นลงเช่นไร "เฝิงเอ๋อร์ เฝิงเอ๋อร์ของข้า ใครก็ได้ช่วยบุตรสาวของข้าที" ฮูหยินผู้เฒ่าจ้าวแทบจะกระโจนออกไป เมื่อได้ยินเสียงของรถม้าผ่านมายังเส้นทางแห่งนั้น นางวิ่งออกไปร้องขอความช่วยเหลือ ด้วยสภาพที่ดูกระเซอะกระเซิง สภาพของนางในตอนนี้ช่างดูอเนจอนาถใจไร้ซึ่งความน่าเกรงขามอย่างเช่นที่ผ่านมา "ท่าน...ได้โปรดเถิด บุตรสาวของข้าถูกโจรป่าจับตัวไป ได้โปรดส่งคนไปช่วยเหลือนางด้วยเถิด นางเป็นเพียงสตรีไร้เดียงสา ที่น่าสงสารและอายุยังน้อย หากท่านยอมช่วยเหลือข้าจะมอบทรัพย์สมบัติที่มีทั้งหมดนี้ไปให้กับพวกท่านทั้งหมด" ด้วยความดีใจ และไม่ได้พิจารณาให้ดี แค่เห็นเพียงรถม้าผ่านมา นางจึงกระโจนไปร้องขอความช่วยเหลือ แต่เมื่อผู้เป็นเจ้าของรถม้าเปิดผ้าม่านออกมา ดวงตาทั้งสองข้างของหญิงชราก็แทบจะถลนออกมาจากเบ้าด้วยความตื่นตระหนกตกใจ "เหตุใดท่านแม่ถึงได้มีสภาพเช่นนี้ได้" หานหลินปิง ใช้สายตาดูแคลนทอดมองฮูหยินผู้เฒ่าจ้าวตั้งแต่หัวจรดเท้า สายตาที่เต็มไปด้วยความสาแก่ใจนั้นแสดงออกมาอย่างไม่ปิดบัง "นี่เจ้า…!!! เหตุใดเจ้าถึงได้มาอยู่ที่นี่ได้" นางกล่าวออกมาอย่างกระท่อนกระแท่น คล้ายกับไม่เชื่อสายตาของตนเอง "ทำไมหรือ…? ท่านตกใจมากหรือ ที่เห็นข้าอยู่ที่นี่ ท่านควรจะดีใจเสียด้วยซ้ำไม่ใช่หรือเจ้าคะ ที่เห็นว่าข้ายังปลอดภัยดีอยู่" หานหลินปิงกวาดสายตามองไปโดยรอบ พร้อมกับประเมินสถานการณ์ นางนั่งลงไปประคองฮูหยินผู้เฒ่าจ้าวขึ้นมาจากพื้นด้วยความใส่ใจ "ท่านแม่เกิดอะไรขึ้น เล่ามาให้ข้าฟังเถิด เผื่อว่าข้าจะสามารถช่วยได้ ทหารพวกนี้ผ่านทางมาพอดี จึงได้ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือข้าก่อนที่โจรพวกนั้นจะได้ลงมือทำสิ่งใดกับข้าไป และพวกเขาก็ขันอาสาที่จะไปส่งข้ายังเมืองหลวงให้อย่างปลอดภัย" "เป็นเช่นนั้นหรือ...ดียิ่ง" ฮูหยินผู้เฒ่าจ้าวเมื่อได้ยินว่ามีกลุ่มทหารยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ และกำจัดโจรป่าก่อนหน้านี้ไปจนหมดสิ้น นางก็ไม่ได้ฉุกคิดสิ่งใดมากไปกว่านั้น เพราะด้วยความที่เป็นห่วงบุตรสาว หญิงชราพุ่งตรงไปที่เหล่าราชองครักษ์เหล่านั้น พร้อมกับ มอบของมีค่าที่ตนเองมีไปให้กับพวกเขา เพื่อหวังว่าทหารเหล่านี้จะสามารถช่วยตนเองออกตามหาบุตรสาวได้ "ได้โปรดช่วยข้าด้วยบุตรสาวของข้าถูกโจรป่าลักพาตัวไป เมื่อหนึ่งเค่อที่ผ่านมา และพวกมันยังจับอนุภรรยาของบุตรชายข้าไปอีก 2 คน แต่หากพวกท่านตามไป โปรดช่วยบุตรสาวของข้าก่อน นางเป็นสตรีที่ยังมิได้ออกเรือน หากเรื่องนี้ถูกแพร่งพรายออกไป เกรงว่าชื่อเสียงของนางคงจะป่นปี้ไม่มีตระกูลดีๆ ใดต้องการแต่งนางเข้าไปเป็นแน่" กล่าวมาทั้งหมดก็ยังไม่พ้นความเห็นแก่ตัวที่แสดงออกมา ถึงขนาดที่ไม่ว่าอย่างไร ก็ให้ช่วยเหลือบุตรสาวของตนเองก่อน ด้วยความที่เป็นมารดา ชื่อเสียงของบุตรสาวจะมีอันใดสำคัญไปกว่าเรื่องนี้อีกเล่า หานหลินปิงพยักหน้าให้กับเหล่าองครักษ์เหล่านั้นโดยที่ไม่มีผู้ใดได้ทันสังเกตให้ไปปฏิบัติตามคำร้องขอของฮูหยินผู้เฒ่าจ้าวเสีย มีเพียงนางที่รู้ดีเป็นที่สุด ต่อให้ออกตามหาจนสุดหล้าฟ้าเขียว โดยใช้คนมากกว่านี้ ก็เกรงว่าคงจะไม่สามารถค้นพบเบาะแสใด หากนางไม่ต้องการให้เจอ เมื่อเวลาผ่านไปหลายชั่วยาม เหล่าทหารองครักษ์เหล่านั้นก็ไม่มีทีท่าว่าจะกลับมา ฮูหยินผู้เฒ่าจ้าวเดินกระวนกระวายไปมาด้วยความร้อนรน บวกกับเมื่อไม่กี่ชั่วยามก่อน คนของทางการ ก็ได้เดินทางมาถึง และออก ตามล่าเหล่าโจรป่าพวกนั้น ด้วยเช่นกัน แต่ก็ยังไร้ซึ่งวี่แววใดๆ "ท่านแม่ข้าว่าเรากลับกันก่อนดีหรือไม่ หากมีข่าวอันใด พวกเขาจะต้องไปแจ้งเราที่จวนตระกูลจ้าวอย่างแน่นอน" เมื่อรั้งอยู่หลายชั่วยาม ก็ยังไร้ซึ่งวี่แวว นางจึงได้เอ่ยชวนฮูหยินผู้เฒ่าจ้าวออกไป "นี่เจ้าจะให้ข้ากลับไป แล้วทิ้งเฝิงเอ๋อร์ ให้เผชิญเรื่องราวเลวร้ายเหล่านี้เพียงลำพังกระนั้นหรือ นี่เจ้าเป็นพี่สะใภ้ประสาอะไร น้องสามีของเจ้าหายตัวไปทั้งคน แต่กลับไม่มีซึ่งท่าทีห่วงใย เจ้านี่มันเป็นสะใภ้ที่ไม่เคยได้เรื่องอันใดเลย" "หึ… แล้วท่านจะรอพวกเขาอย่างไร้จุดหมายอย่างนี้หรือ นี่ก็หายไปหลายชั่วยามแล้ว หากพวกโจรป่าเหล่านั้นกลับมา และมาพบกับพวกเราในตอนนี้ ท่านคิดว่าด้วยสถานการณ์เช่นนี้ จะเป็นการดีสำหรับพวกเราหรืออย่างไร มิสู้ไปรอฟังข่าวอยู่ที่จวนเพราะถึงอย่างไร ก็ไม่สามารถช่วยเหลืออันใดได้แล้วไม่ดีกว่าหรือ" "นี่เจ้า!!!... กล้าพูดจาอัปมงคลในสถานการณ์เช่นนี้ได้อย่างไร ช่วยเหลืออันใดไม่ได้ๆ อย่างไร ข้ามั่นใจว่าเฝิงเอ๋อร์จะต้องปลอดภัยอย่างแน่นอน ถึงอย่างไรข้าก็จะคอยฟังข่าวเฝิงเอ๋อร์อยู่ที่นี่" หานหลินปิงได้แต่ยกคิ้วขึ้น โดยไม่ได้ให้ความสนใจกับคำกล่าวนั้นมากนัก นางหันหลังเดินขึ้นไปนั่งบนรถม้าของตนเอง พร้อมกล่าวออกมาเสียงดัง "หากท่านแม่ต้องการเช่นนั้น ก็แล้วแต่ท่านเถิด แต่ข้าจะกลับและนำคนของข้าไปด้วย เพียงคนหยิบมือที่ท่านมีในตอนนี้และอาศัยอยู่ในป่าแห่งนี้อีกไม่กี่ชั่วยามก็พลบค่ำแล้ว หากท่านคิดว่าที่นี่ปลอดภัยก็เชิญตามสบาย" "เจ้า…!!!" ฮูหยิน ผู้เฒ่าจ้าวกำมือแน่นด้วยความเดือดดาล แต่เมื่อคิดให้ถี่ถ้วนแล้ว ก็เป็นจริงดังที่หานหลินปิงว่า หากนางยังคงดื้อรั้นรั้งรออยู่ที่นี่ต่อไปด้วยคนเพียงหยิบมือที่ตนเองมีในตอนนี้ เกรงว่าแม้แต่ชีวิตของตนเอง ก็คงจะไม่สามารถรักษาเอาไว้ได้ นั่นจึงทำให้นางจำใจยอมขึ้นรถม้าของตนเองกลับไป ด้วยความไม่พอใจนัก หานหลินปิงเมื่ออยู่ในรถม้าเพียงลำพัง นางก็ได้แต่เกิดความสงสัย เหตุใดจ้าวฝูหมิงถึงมิได้ตามมา อย่างที่นางได้วางแผนเอาไว้เล่า หลังจากที่นางได้ส่งคนไปบอกเรื่องราวแก่เขาทั้งหมดแล้ว เขาควรจะรีบเร่งมายังที่แห่งนี้มิใช่หรือๆ ว่าจะมีสิ่งใดเกิดขึ้น นอกเหนือจากแผนการของนางกัน...
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD