ฉันจุกจนพูดไม่ออก
ได้แต่มองหน้าแม่แท้ ๆ ของตัวเองน้ำตาคลอ
“แม่... ทำไมแม่พูดแบบนี้ อีกสามเดือนหนูก็เรียนจบแล้ว และหนี้พวกนี้ไม่เกี่ยวกับเรานะ หนูพอมีเงินเก็บหนูจะลงทุนให้แม่เอง ถ้า...”
“การเริ่มต้นตั้งตัวตอนอายุปูนนี้ มันไม่ง่ายหรอกค่ะ นมเกิดมาเป็นคนใช้ ยังไง ๆ ก็ต้องเป็นคนใช้ ที่ผ่านมาบ้านหลังนี้มีแต่ให้ ให้ที่ซุกหัวนอน ให้ชีวิตใหม่กับนม แถมยังช่วยสามีนมจนวาระสุดท้าย”
สามีเหรอ? ทำไมแม่พูดเหมือนพ่อไม่ใช่พ่อฉันเลย!
สามีที่ว่า ก็พ่อฉัน ถึงท่านจะเป็นแค่คนขับรถ เป็นคนไม่มียศไม่มีศักดิ์ แต่ฉันก็ไม่เคยลืมว่าท่านคือพ่อ!
“แม่ ทำไมแม่พูดแบบนี้?” ฉันถามเสียงสั่นเครือ เพราะทุกอย่างมันชี้ชัดขึ้นเรื่อย ๆ ว่าฉันกำลังจะแพ้
“นมขอร้องนะคะ ถ้ารักนมอย่าเรียกนมว่าแม่อีก คุณหนูตอบแทนบุญคุณคุณหญิงเถอะค่ะ ท่านมีบุญคุณกับเราจริง ๆ”
“ถ้าไม่ได้เบ่งหนูออกมา หนูไม่นับเป็นบุญคุณ จนยอมให้ขายหนูกินหรอก!”
“คะ คุณหนู! มันอาจะดีกว่านะคะ!” ได้ยินฉันพูดแบบนั้น อยู่ ๆ แม่ก็โผงขึ้นมาเสียงดังเหมือนคนลืมตัว
“ดีกว่าอะไร? นี่หนูไม่ได้ว่าแม่นะที่ยกหนูเป็นลูกบุญธรรมคนอื่นเพื่อเอาเงินไปรักษาพ่อ เพราะนั่นมันเหตุสุดวิสัยแม่จำเป็น! แต่คุณหญิงผกาไปเข้าคาสิโนจนเป็นหนี้จำนองบ้าน แม่จะให้หนูทำยังไง? ทั้งชีวิตหนูนะ หนูต้องไปแต่งงานกับคนแก่ ๆ ใช้หนี้ให้คนอื่นเหรอ?”
ทุกอย่างอ่อนลงภายในพริบตา แม้กระทั่งสีหน้าและแววตาแม่ เพราะตอนนี้ท่านกำลังมองฉันแปลก ๆ เหมือนคนอัดอั้นตันใจ กลืนไม่เข้าคายไม่ออกยังไงอย่างงั้น
“แล้ววันนึงคุณหนูจะรู้ค่ะ ว่าที่คุณหนูได้มายืนอยู่ตรงนี้เพราะใคร และทำไมนมถึงอยากให้คุณหนูจำบุญคุณคุณหญิงไว้ คุณอัฐไม่ได้เลวร้าย นมเชื่อว่าคุณอัฐจะรักคุณหนูเหมือนลูกคนนึง”
ยังไง ๆ ก็จะให้ฉันแต่งงานกับลุงอัฐให้ได้สินะ!
“ลูก? นั่นมาเฟียนะแม่ แค่นึกถึงสัจธรรมก็ไม่มีแล้ว! เขาเสียเงินได้หนูมา เขาไม่ปล่อยให้หนูไปลอยหน้าลอยตาในบ้านเขาเฉย ๆ หรอก!”
แม่ไม่ตอบเงียบไปครู่นึง ก่อนจะเหลือบมองซ้ายทีขวาทีพลางกลืนน้ำลายดัง ‘อึก’ และค่อย ๆ ขยับมากระซิบฉัน
“เชื่อนมนะคะ ถ้าคุณหนูอยากเป็นอิสระและไปจากที่นี่อย่างปลอดภัย คุณหนูต้องย้ายไปบ้านคุณอัฐ”
อะไรนะ
แม่พูดอะไร?
แม่พูดกลับไปกลับมา จนฉันรีบหันมองหน้าแม่อีกครั้งเพื่อทวนถาม แต่พอสบตาท่านเท่านั้น ทุกอย่างกลับไวมาก อยู่ ๆ แม่ก็ขยิบตาถี่ ๆ ส่งมาให้ฉันและเหล่ขึ้นไปข้างบน
“ชู่ว... คุณหญิงผกาแอบฟังอยู่ค่ะ” เสียงกระซิบนั้นแหบแห้ง และเบาจนฉันแทบไม่ได้ยิน
แต่ก็ทำฉันนิ่งไปชั่วขณะ
“ทำตัวมีปัญหาเหรอพิงค์ ขึ้นมาหาแม่เดี๋ยวนี้!” ฉันสะดุ้งตกใจกับเสียงตะโกนที่ดังลงมาทันที ซึ่งฉันรู้ดีว่าต่อไปนี้ฉันจะเจอกับอะไร
และมันก็ใช่จริง ๆ
‘เพียะ’
“คิดจะทำอะไร อย่าเนรคุณฉันนะ!”
นี่ล่ะคุณหญิงผกาภริยาเอกอัครราชทูต ที่หลัง ๆ มาเนี่ยกลัวแต่ฉันเนรคุณ กลัวฉันหาย บงการตั้งแต่กับข้าวการกิน ยันเสื้อผ้าที่ใส่ เพราะฉันต้องหุ่นเพรียวแต่งตัวสวย ๆ จับผู้ชายให้ท่าน!
“คุณหญิงแม่” ฉันจับแก้มที่แดงฉานถามเสียงสั่น นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ฉันโดนตบ และโดนตวาดเสียงดัง แต่เป็นครั้งแรกที่คุณหญิงแม่ตบฉันต่อหน้าแม่แท้ ๆ
“คุณหญิงคะ ค่อย ๆ พูดนะคะ พรขอ” แม่ฉันวอนขอเสียงเบาและนอบน้อม แต่นั่นกลับทำคุณหญิงแม่ชี้นิ้วไปที่ประตูทันที
“พรออกไป! ฉันจะคุยกับลูกฉันสองคน”
“คือ...”
“ออกไป!”
“ค่ะ คุณหญิง” คนถูกไล่มองฉันแว๊บนึง ก่อนจะก้มหน้าเดินคอตกออกไป และเมื่อประตูห้องปิดเหลือแค่ฉันกับคุณหญิงแม่ไว้ ท่านก็เดินมากระชากแขนฉันสุดแรง จนฉันเซถลาไปหาท่าน
“พูดกับลูกชายคุณอัฐแบบนั้นได้ยังไง! นังลูกเนรคุณ!”
“พิงค์ไม่อยากแต่งค่ะคุณหญิงแม่ มันไม่ใช่หนี้พิงค์!”
ฉันยืนกรานเสียงดัง ไม่เกรงกลัวอะไรทั้งนั้น
“ต้องแต่ง! เพราะนังพรมันยังทำงานใช้หนี้ที่หยิบยืมไปไม่หมด!”
หนี้?
“หนี้อะไรคะ? หยิบยืมอะไร? มันจบตั้งแต่พิงค์เป็นลูกบุญธรรมแล้วไม่ใช่เหรอ?”
ฉันถามตกใจ และพยายามแกะมือที่จับแขนตัวเองออก ทำไมฉันไม่รู้เรื่องนี้เลย ทุกวันนี้แม่ทำงานให้คุณหญิงผกาฟรี ๆ เหรอ?
มันจะเอาเปรียบกันเกินไปรึเปล่า หนี้รักษาพ่อไม่กี่ล้านเอง
“โอ้ยตาย ไม่หมดหรอก ไหนจะดอกเบี้ย ไหนจะค่าเลี้ยงดูเธอ ฉันคิดหมด!”
พูดจบคุณหญิงแม่ก็กดตาต่ำมองฉันหัวจรดเท้า ก่อนจะเบะปากมองไล่กลับมาที่ประเป๋า และนาฬิกาที่ข้อมือที่ฉันใส่อยู่
“เหอะ เป็นลูกบุญธรรมที่ฉันเวทนาชุบเลี้ยงแล้วยังคิดชั่ว ๆ กับฉันอีกนะ งั้นที่ฉันซื้อให้ทุกอย่าง ฉันก็จะคิดเป็นราคาให้หมด เสียดายนะพิงค์ ที่ฉันหวังดีอยากอัพเกรดลูกคนใช้อย่างเธอให้เป็นลูกคุณหนูมีระดับ แต่เธอทำตัวเอง มันเลยไม่ฟรี!”
“อัพเกรด? ไม่ใช่เพื่อผลประโยชน์และขายหนูกินในอนาคตเหรอ? พอสักทีเถอะค่ะ สรุปหนี้ที่แม่ยืมไปรักษาพ่อเหลือเท่าไหร่? แจกแจงมาสิคะเผื่อหนูมีปัญญาใช้คืน!”
และคุณแม่ก็เอามือปิดปากขำ เหลือบมองฉันเหยียด ๆ
“อิอิ เธอจะไปหาเงินที่ไหนมาใช้ เงินที่ฉันส่งเสียให้ค่าขนมเธอน่ะเหรอ? มันก็เงินที่ฉันยืมคุณอัฐมาหมุนทั้งนั้นแหละ ฉะนั้นใช้หนี้ด้วยกัน แต่งงานกับคุณอัฐซะ!”
“ไม่แต่งค่ะ!”
ฉันยืนยันชัดและหนักแน่น กำมือสองข้างกรอดฟันกรอดใส่คุณหญิงแม่อย่างไม่เกรงกลัว
พูดและทำกับฉันขนาดนี้ อย่าให้นึกถึงบุญคุณเลย มันไม่มีหรอก! ท่านจ้องจะเอาเปรียบแม่ฉันและใช้ฉันหากินตลอดเวลา!
“ไม่แต่งฉันจะแจ้งความ เอาให้แม่เธอเข้าคุกเข้าตะรางไปเลย สัญญาหนี้ที่หยิบยืมฉันมีหลักฐานเป็นลายลักษณ์อักษรนะ และฉันก็หักตามเงินเดือนแม่เธอทุกเดือนตามกฎที่ฉันเขียน แต่เรื่องที่ยกเธอแลกหนี้น่ะมันแค่ลมปาก ไม่มีหลักฐาน ฮ่า ๆ ฉลาดน้อยไร้การศึกษาอย่างแม่เธอน่ะ ไม่ทันฉันหรอกจ้ะ”
ฉลาดน้อยไร้การศึกษา?
นังคุณหญิงมั่นหน้า! ฉันชักจะทนไม่ไหวแล้วนะ!
ฉันยอมรับว่าตัวเองโมโหมาก แต่ฉันต้องมีสติและต้องคิดดี ๆ คุณหญิงแม่ร้ายยิ่งกว่างูพิษ ถ้าฉันบุ่มบ่ามทำอะไรอีก ท่านไม่พอแค่นี้แน่!
หลังเย็นวันนั้นฉันก็ไม่พูดไม่จากับคุณหญิงแม่อีกเลย แม้แต่หน้าก็ไม่อยากเห็น จนฉันหมกตัวในห้องข้าวปลาไม่กิน ไม่ได้ทำเพื่อประชดชีวิตนะ แต่ฉันสะอิดสะเอียนทุกอย่างในบ้านหลังนี้
‘ก๊อก ก๊อก ก๊อก’
“คุณหนูคะ คุณหญิงให้นมมาตามไปกินข้าว”
“...”
“วันนี้คุณอัฐมาทานข้าวด้วยค่ะ”
“...”
“คุณหนู” ฉันไม่สนใจเสียงแม่เรียกหน้าห้อง นอนกอดมู่ทู่บนเตียงเหมือนคนไร้วิญญาณ สองวันแล้วที่ไม่มีอะไรตกถึงท้องฉัน
จนสักพักฉันได้ยินเสียงแม่เปิดประตูเข้ามา และหยุดยืนถอนหายใจ
“เฮ้อ... คุณหนู ไม่เป็นแบบนี้ได้ไหมคะ ต้องกินข้าวนะ”
“ไม่หิวค่ะ”
“ไม่หิวก็ต้องกินค่ะ”
พูดจบแม่ก็ค่อย ๆ คุกเข่านั่งข้าง ๆ ก่อนจะสะกิดไหล่ฉันให้หันมองตาม และแอบหยิบขนมปังจากผ้ากันเปื้อนส่งให้รีบ ๆ
“กินหน่อยนะคะอย่าประชดคุณหญิงเลย”
“ทำไมแม่ต้องเข้าข้าง และชอบพูดเรื่องบุญคุณ หนูเริ่มรำคาญแล้วนะ”
แม่ไม่สนใจยังดันขนมปังที่ห่อกระดาษนั่นให้ฉันอีก
“กินหน่อยนะคะ” ฉันมองขนมปังกับกระดาษแผ่นนั้นอีกครั้ง แต่เมื่อเห็นรอยปากกาจาง ๆ ที่ซึมตามหลังกระดาษ ฉันก็รีบคว้า ‘หมับ’ ซุกมันไว้ใต้ผ้าห่มทันที
ก่อนที่จะกระซิบถามแม่เบา ๆ ว่า...
“อะไรคะ?”
“อ่านเสร็จแล้ว คุณหนูเผาทิ้งเลยนะคะ”
บอกฉันแค่นั้น แม่ก็หยัดตัวลุกขึ้น และหันหลังเดินเปิดประตูออกไป แต่ฉันแอบเห็นนะว่าแม่รีบกดล็อคประตูไว้
และพยักหน้าให้ฉันก่อนดันมันปิด ‘แกร๊ก’
เท่านั้นแหละฉันก็รีบลุกขึ้นจากเตียง คลี่กระดาษโยนขนมปังไว้บนโต๊ะทันที ก่อนที่จะก้มอ่านข้อความที่แม่เขียนไว้
อ่านลายมือของคนไม่รู้หนังสือ ที่เขียนวกไปวนมาซ้ำ ๆ จนได้ความว่า...
เชื่อแม่นะลูก ถ้าอยากออกไปจากบ้านหลังนี้ ลูกรับปากแต่งงานไปก่อน มันเป็นวิธีเดียวที่เราจะปลอดภัย แม่เชื่อว่าคุณอัฐเขาจะช่วยปกป้องพิงค์จากคุณหญิงผกาได้ และมันดีกว่าที่เราจะหนีไปกันเองโดยที่ไม่มีที่ไปแบบนี้ เรื่องล่วงเกินพิงค์อย่าคิดมาก แม่เชื่อว่าท่านจะรักพิงค์เหมือนลูกสาวคนนึง คุณอัฐท่านอยากมีลูกสาวมานานแล้ว แต่ท่านโดนยิงจนมีลูกอีกไม่ได้