ชมพูพิงค์ | ยกเลิก?

1551 Words
ฉันไม่รอช้า ตัดสายและโยนโทรศัพท์ลงเบาะข้างคนขับ ก่อนจะเหยียบคันเร่งออกจากมหาลัยตรงดิ่งกลับบ้าน แล้วเห็นรถตู้สีดำฟิล์มมืดหลายคันจอดอยู่ แน่ ๆ รถลึกลับแบบนี้พวกเงินกู้ของคุณหญิงแม่แน่ ๆ “เฮ้ย ๆ ไปบอกนายดิ มันมาแล้ว!” ฉันยังไม่ลงจากรถโชว์น่องขาว ๆ ของตัวเองด้วยซ้ำ พวกผู้ชายเสื้อดำก็ตะโกนแหกปากชี้มาที่รถฉันแล้ว มัน? ทั้งดุดัน ทั้งโหดร้าย เรียกฉันว่ามันได้ยังไง เกรงใจความแบ๊วของฉันบ้าง! ‘ก๊อก ก๊อก ก๊อก’ “เชิญลงมาครับ คุณพิงค์” รู้ชื่อฉันอีก! หรือคุณหญิงแม่จะไปตกลงเรื่องหนี้แล้ว? ไม่นะ ๆ ฉันยังเรียนไม่จบ อีกแค่สามเดือนเอง ‘ก๊อก ก๊อก ก๊อก’ “คุณพิงค์ครับ ผมจะพูดดี ๆ กับคุณนะครับ นายผมรอคุณข้างใน กำลังจ่อปืนเข้าหัวหมาพุดเดิ้ลของคุณอยู่ ลงมาเถอะครับ” จ่อปืนเข้าหัวมู่ทู่! ทำไมใจดำแบบนั้น นายที่คนพวกนี้พูดถึง เขาไม่ใช่พวกกินหมาใช่มั้ย เอะอะก็เตะหมา เอะอะก็เอาปืนจ่อหัวหมา บ้าจริง ๆ ฉันกำพวงมาลัยรถแน่น และเม้มปากมองผ่านกระจกหน้ารถไปที่ประตูทางเข้า ก่อนจะเห็นสายตาหนุ่ม ๆ ชุดดำทั้งซ้ายและขวากดดันเบา ๆ จนฉันต้องจำใจหยิบกระเป๋าและเปิดประตูลงจากรถ “เอ่อ... เขามีอะไรจะคุยกับฉันคะ?” “กรุณาเรียกคุณอิฐครับ อย่าเรียกว่าเขา” คุณอิฐ? เขาเป็นใคร? มาผิดบ้านรึเปล่า? เจ้าหนี้คุณหญิงแม่ชื่ออัฐไม่ใช่เหรอ? “โทษทีนะคะฉันไม่รู้จัก พวกคุณมาผิดบ้านรึเปล่า?” ฉันถามเอาเรื่อง เพราะเริ่มเห็นผู้ชายชุดดำเดินไปเดินมาสำรวจทุกซอกทุกมุมข้างใน มันผิดวิสัย มันผิดปกติ ปกติเจ้าหนี้คุณหญิงแม่คนแก่ ๆ ชื่อลุงอัฐอะไรนั่น เขาไม่พาลูกน้องมาเยอะขนาดนี้ และมาแต่ละคนก็ยืนนิ่งวางมาดขรึม ไม่ใช่เดินวนทั่วบ้านเหมือนพวกฉีดปลวกฉีดยุง หรือจะมีคนสวมรอย แอบขโมยของในบ้าน? “สงสัยอะไร ยัยโง่” ขณะที่ฉันรอคำตอบกับผู้ชายชุดดำตรงหน้า ก็มีเสียงทุ้มต่ำของใครบางคนดังขึ้นข้างหลัง และเมื่อฉันหันขวับกลับไปมองตามเสียงนั้น ฉันก็ถอยหลังกรูจนชน ‘ปึก’ กับอกล่ำของลูกน้องเขา! ฉันไม่รู้จะตกใจอะไรดี ระหว่างความหล่อ ความคม ความจมูกเป็นสัน กับปืนกระบอกเงาวับ ที่จ่อหัวมู่ทู่อยู่! “คะ คุณเป็นใคร? นั่นมู่ทู่ของฉันนะคุณเอาปืนจ่อหัวมู่ทู่ไม่ได้ สงสารน้อง!” ‘แง่ง แง่ง’ เสียงมู่ทู่ครางหงิง ๆ และพยายามดิ้นออกจากวงแขนใหญ่ เขาตัวโต ตัวสูง ทำเอามู่ทู่หมาพุดเดิ้ลของฉันตัวเล็กไปเลย “ฉันเป็นใครเหรอ? เหอะ เลิกตีหน้าซื่อสักที เธอต้องรู้อยู่แล้วว่าฉันเป็นใคร เพราะเธอคงสืบมาหมด ถึงได้เสนอตัวเป็นเมียพ่อหม้ายอย่างพ่อฉัน” ฉันยืนตัวแข็ง ก้มมองหน้ามู่ทู่แว๊บนึงที่มันเงียบพร้อม ๆ กับฉัน ฉันไปเสนอตัวตอนไหน? พ่อหม้ายที่ว่าคือใคร? เอ๊ะ หรือว่าเขาจะเป็นลูกชายเจ้าหนี้ของคุณหญิงแม่ที่ชื่อลุงอัฐ! “คุณเข้าใจผิด ฉันไม่เคย...” “อย่าพูดมาก! ไม่งั้นฉันจะเป่าหัวหมาเธอ” อะไรของเขา! ฉันจะอธิบายอยู่นี่ไง! สงสารมู่ทู่จัง ใจเย็น ๆ นะลูกแม่กำลังช่วยหนูอยู่ “ฉันแค่จะอธิบาย” “อธิบายเรื่องเอาตัวเข้าแลก? เหอะ! ฉันไม่ฟัง!” “แล้วมาทำซากอะไร? เอ้ย ๆ ไม่ใช่ค่ะ แล้วคุณจะมาทำไม อยากเจอฉัน ทำไมไม่ให้ฉันพูดอะไรเลยคะ?” เขาเงียบและขมวดคิ้วมองหน้าฉัน ก่อนจะลดปืนที่จ่อหัวมู่ทู่ลง และปล่อยเจ้าหมาน้อยลงพื้น ‘ตุ๊บ’ ‘เอ๋ง!’ “กรี๊ด... มู่ทู่” เสียงกรี๊ดร้อยแปดสิบเดซิเบลของฉัน ทำผู้ชายทั้งหลายหันขวับมามองเป็นตาเดียว โดยเฉพาะคุณอิฐโรคจิตอะไรนั่น เขากดตาต่ำมองฉันที่แทบกลิ้งคุกเข่าคลานไปหามู่ทู่ “ชื่ออะไรนะ?” “มู่ทู่ไง คุณน่ะเป็นคนใจร้าย! โอ๋ ๆ มู่ทู่ของมามี๊” “เชี่ยเอ้ย นี่กูมาอยู่ในโรงพยาบาลศรีธัญญาเหรอวะ? หยุดเล่นกับหมายัยสีชมพู! ปล่อยไอ้หมาก้อนขี้นั่นลง แล้วฟังฉัน!” ฉันปล่อยมู่ทู่ลงทันทีและยกมือขึ้นตัวสั่น เพราะอยู่ ๆ ปืนกระบอกนั้น มันก็มาจ่ออยู่ข้างขมับฉันแล้ว! สัมผัสใหม่จริง ๆ สัมผัสใหม่เย็น ๆ โหวงเหวง และได้กลิ่นลูกตะกั่วจาง ๆ กลิ่นมันทำฉันเสียวท้องน้อยวาบ จนฉันค่อยๆลุกขึ้นตัวสั่นมองหน้าเขา “ฟะ ฟัง ฟังแล้ว ๆ พูดมาสิคะ” “ฉันไม่ยอมให้เธอแต่งงานกับพ่อฉันเด็ดขาด! เธอต้องหาเงินมาใช้หนี้แทนแม่เธอทุกบาททุกสตางค์! จะด้วยวิธีไหนก็ช่าง แต่ไม่ใช่เสนอตัวให้พ่อฉัน!” ฉันเงียบและค่อย ๆ เหล่มองปืนที่จ่อขมับ บอกเลยใจฉันสั่น และเต้นโครมครามหนักมาก ฉันกลัวปลายนิ้วเขาจะลั่นอัดลูกปืนเข้าสมองอันน้อยนิดของฉัน ฉันยังไม่อยากตาย เพราะเรื่องหนี้มันไม่เกี่ยวกับฉันด้วยซ้ำ อีกอย่างเรื่องแต่งงานฉันไม่รู้ว่าใครไปคอนเฟิร์มออเดอร์กับลุงอัฐ เขาจะมาโวยวายฉันคนเดียวไม่ได้ เพราะฉันไม่รู้ไม่เห็น ไม่อยากแต่งงานกับใคร เขาควรไปบอกพ่อตัวเอง ให้หยุดคิดเรื่องนี้ต่างหาก! “ฉัน...” “ถ้าไม่ตกลงตามนั้น ฉันจะยิงหัวเธอ” ฮือ... ฉันหลับตาปี๋และรีบยกมือไหว้ เพราะเขาพูดจบ ปลายปืนกระบอกนั้นก็กดแรงขึ้น ๆ เรื่อย ๆ “คุณ คุณควรบอกพ่อคุณมากกว่านะคะ ฉันไม่ได้อยากแต่งหรอก แต่ถ้าคุณกับพ่อมากดดันเรื่องหนี้มาก ๆ คุณหญิงแม่ก็จำเป็นต้องใช้วิธีนี้” “อย่าทำเป็นสอนฉัน!” “ไม่ได้สอนนะคะ ในเมื่อคุณเองไม่อยากให้ฉันแต่ง และฉันเองก็ไม่อยากแต่ง คุณควรไปบอกพ่อคุณให้หยุดเรื่องนี้ ฉันน่ะลำบากมาก ๆ มันไม่ใช่เรื่องของฉันเลย เพราะฉันไม่ใช่ลูกแท้ ๆ ของคุณหญิงแม่ ไม่ได้ใช้เงินที่ท่านไปหยิบยืมใช้หนี้คาสิโนสักบาท อย่าบังคับให้ฉันหาเงินใช้หนี้แทนท่านเลยนะค” เขาขมวดคิ้วและเดินมาหาฉัน ก่อนจะใช้เท้าเขี่ยมู่ทู่ที่นั่งขวางทางให้หลบไป และฉันก็เริ่มบีบน้ำหูน้ำตาให้ไหล ไล่มองชายชุดดำที่เดินมาประกบใกล้ ๆ อย่างหวาดระแวง “เป็นคุณหนูจอมปลอมงั้นสิ หึ! แล้วไง? ไม่ใช่ลูกแท้ ๆ ไม่ใช้เงินสักบาท แต่เธอเอาเงินที่ไหนใช้เรียนหนังสือซื้อกระเป๋าแบรนด์เนม? หรืออาชีพเสริมคือทำไซด์ไลน์?” ฉันเม้มปากแน่น กำมือที่ขนาบข้างตัวมองคนตรงหน้า ถ้าเป็นผู้ชายคนอื่นคงเห็นใจฉันแล้วล่ะ แต่นี่เขากลับเหยียดฉัน และพูดจาหมาไม่รับประทานด้วย! โกรธคือโง่ โมโหคือบ้า อดทนนะชมพูพิงค์ แค่ผู้ชายปากพล่อยคนเดียว เธอต้องปั่นหัวเขาให้ได้ ฉันจึงตัดสินใจก้าวขาไปข้างหน้า เงยขึ้นมองเขา จ้องสายตาที่คมกริบ และปล่อยน้ำตาไหลช้า ๆ ผ่านหางตาตัวเอง เชื่อเถอะ ผู้ชายร้อยทั้งร้อยต้องแพ้ความใสซื่อและน้ำตาผู้หญิง “ฮึก ๆ พ่อคุณไม่อยากได้ฉันเป็นเมียหรอกถ้ารู้เรื่องฉาว ๆ ในบ้านฉัน คุณช่วยฉันหน่อยได้ไหม เพราะฉันพูดเรื่องนี้เรียกร้องอะไรกับคุณหญิงแม่ไม่ได้ ยังไง ๆ ท่านก็จะจับฉันใส่ตะกร้าล้างน้ำ ให้ฉันแต่งงานกับพ่อคุณ” “ตะกร้าล้างน้ำอะไร? อย่ามาปั่นหัวฉัน ยัยเด็กเมื่อวานซืน” ฉันหลับตาลงครู่นึง ให้น้ำตาที่คลอมันไหลออกมาอีก “เรื่องที่ฉันบอกคุณ มันไม่ใช่เรื่องตลกและน่าปั่นใคร มันเป็นเรื่องคาว ๆ ที่ฉันแทบตายทั้งเป็น และฉันก็ไม่เคยบอกเรื่องนี้กับใครด้วย ฮือ ๆ” ได้ยินแบบนั้น เขาก็ค่อย ๆ ลดปืนลง และลอบถอนหายใจเสียงดัง ก่อนจะหันไปพยักหน้าสั่งลูกน้องที่ยืนขนาบข้างสองฝั่ง ให้ถอยออกไป “พูดมา ถ้าเล่นลิ้นกับฉันนะ” คุณอิฐกัดฟันพูด และตั้งลำปืน ‘แกร๊ก’ แต่ฉันไม่แคร์ เชิดหน้าฮึดใจสู้ และบอกเรื่องที่ตัวเองเติมแต่ง เหมือนที่บอกผู้ชายหลายคนที่ผ่านมา “ฉันถูกบังคับให้บำเรอพ่อบุญธรรม มาตั้งแต่อายุสิบห้า ฮือ ๆ” “...” “คุณช่วยบอกเรื่องนี้กับพ่อคุณได้มั้ย ถ้าคุณบอก ฉันเชื่อว่าท่านจะเปลี่ยนใจและยกเลิกเรื่องแต่งงาน เราจะได้วิน ๆ กันทั้งคู่ไง ฮือ ๆ”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD