ชมพูพิงค์ | กดดัน

1513 Words
ถ้าแนะนำตัวพร้อมเรื่องเฮงซวยทั้งหมดในชีวิต ชีวิตฉันคงเหมือนนางเอกในละครน้ำเน่า แต่ชีวิตฉันมันเป็นแบบนั้นจริง ๆ นะ และฉันก็อยากจะป่าวประกาศให้คนทั้งโลกรู้ ถึงความจอมปลอมของคนหน้าใหญ่ใจถึงพวกคุณหญิงคุณนาย ที่ทำตัวเองดูดีตีกระบังออกงานสังคม แต่หนี้ถมแทบจะท่วมหัว ถมจนให้นังชมพูพิงค์คนนี้มารับกรรม เห็นชื่อแบบนี้ชีวิตฉันไม่ได้หวานแหววโรยด้วยกลีบกุหลาบ มันมีแต่ขวากหนาม และเรื่องเฮงซวยตั้งแต่ฉันเกิด ฉันเป็นลูกคนใช้ในบ้านเอกอัครราชทูตประจำกรุงแคนเซล (ประเทศxx) ที่ถูกคุณหญิงผกาชุบเลี้ยงตั้งแต่เด็ก เนื่องจากแม่ฉันมีเหตุผลจำเป็นต้องใช้เงิน พ่อป่วย ควายที่บ้านนอกตาย ยายเป็นอัมพาต ชนิดที่ว่า ฉันเกิดมาทุกอย่างแย่ลงปุบปับ เหมือนนรกส่งมาจองล้างจองผลาญแม่ จนแม่ฉันขายฉันมาเป็นลูกบุญธรรมคนอื่น อยู่สุขสบายเป็นลูกคุณหนู ซึ่งแรก ๆ ทุกคนก็ดีกับฉัน พาออกงานสังคัง เอ้ย! สังคมเป็นทางการ ว่าฉันคือลูกสาวเอกอัครราชทูตที่แตกสาวพร้อมจะออกเรือนแล้ว! ใช่ การออกงานสังคมที่ว่า คุณหญิงแม่แค่ต้องการให้ฉันไปจับผู้ชายในงาน ลูกไฮโซ ลูกเจ้าของธุรกิจพวกอสังหาริมทรัพย์ ใครก็ได้ที่รวยมหาศาลพอที่จะใช้หนี้สี่สิบล้านให้ท่านได้ แต่เรื่องอะไรฉันจะยอมให้คนดี ๆ พวกนั้นมารับกรรมที่ไม่ได้ก่อ ทุกคนที่คุณหญิงแม่ทาบทามและดันหลังฉันกระโจนหาเขา เขายังหนุ่มยังแน่นยังเอ๊าะ ๆ กันทั้งนั้น ฉันจึงยอมดิสเครดิตตัวเอง บอกว่าเป็นผู้หญิงเละเทะสำมะเลเทเมา เน่ายิ่งกว่าน้ำในคลองแสนแสบ เพื่อให้ตัวเองรอด และทุกคนรอดวิน ๆ ยกตัวอย่างเช่น “ฮึก ๆ พี่เหม อย่าบอกใครนะคะ พิงค์ไม่ใช่ลูกแท้ ๆ ของคุณหญิงแม่หรอกค่ะ พิงค์เป็นลูกคนใช้ และพิงค์ก็เคยถูกคุณหญิงเรียกไปบำเรอสามีตัวเอง ฮือ ๆ มันทุเรศมาก ๆ พิงค์เกลียดตัวเอง” ใครได้ยินแบบนี้ก็หน้าถอดสีทั้งนั้น แม้กระทั่งอีกสองสามคนที่คุณหญิงแม่ยัดเยียดให้ มีพี่เต้ พี่พัท พี่ดล ฉันบอกทุกคน แต่พี่ ๆ ไม่ได้ขยาดฉันหรือผลักไสไล่ส่ง ทุกคนสงสาร อยากให้ฉันหลุดจากวงจรอุบาทว์นี้มากกว่า แต่ฉันไม่ได้ขอเงินพี่ ๆ หรือยืมเขามาใช้หนี้หรอกนะ ฉันแค่อยากเอาตัวรอดจากการคลุมถุงชน ที่คุณหญิงแม่เห็นฉันเป็นผักเป็นปลาเอาไปใช้หนี้นอกระบบ และหลอกคนอื่น “รอดแล้วแก เฮ้อ พี่เหม พี่เต้ พี่พัท พี่ดล ทุกคนเซย์กู๊ดบายฉันแล้ว” และตอนนี้ฉันก็วางกระเป๋าชาเนลบอยลงบนโต๊ะม้าหินอ่อนใต้ต้นมะยม ก่อนจะหยิบลูกมันที่หล่นเป่าฝุ่น ฟู่ว ๆ แล้วยัดเข้าปาก อ๊าย... เปรี้ยวจี๊ดน้ำตาเล็ดเลย “อี๋~ ดีแล้วที่หนุ่ม ๆ พวกนั้นเซย์กู๊ดบาย แกทำตัวไม่เหมือนลูกคุณหนูเลย กินไปได้ยังไงเนี่ย สกปรก” พู่กันเบะปากใส่ฉัน และเขี่ยลูกมะยมที่เหลือบนโต๊ะทิ้งทันที ก่อนที่ฉันจะรีบจับมือเธอไว้ เพราะฉันจะกินต่อ จะบอกอะไรให้ พู่กันคือเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของฉัน ย้ำชัด ๆ นะ ว่าคนเดียว ก่อนหน้านี้ปีหนึ่งสองสาม ก็มีมากล้นโต๊ะอยู่นั่นแหละ แต่สุดท้ายก็ไม่มีใครจริงใจกับฉันเลย จนเวลามันดีดคนพวกนั้นออกไปทีละคนสองคน เพราะรู้ความจริงและรับไม่ได้ที่ฉันเป็นลูกคนใช้ มีแต่พู่กันคนเดียวเข้าใจ และไม่เคยทิ้งฉันไปไหนเลย พู่กันเป็นคนสวยหมวยอินเตอร์ ขาว อึ๋ม ตาชั้นเดียวแต่บางวันก็สองชั้นนะ เพราะเธอติดสติ๊กเกอร์ เอาเถอะแบบไหนก็สวย เพื่อนฉันสวยที่สุด “ว่าแต่แกไปทำอีท่าไหน หนุ่มไฮโซพวกนั้นถึงลาขาด ไม่เอาแกเป็นเมีย” “ฉันบอกว่าฉันโดนบังคับ ให้บำเรอพ่อบุญธรรม” พูกันที่กำลังก้มเปิดกระเป๋าเงยขึ้นมองฉัน และตาเบิกกว้างเท่าไข่ห่าน เมื่อเห็นฉันพูดเรื่องนี้หน้าระรื่น “ห๊ะ? แกจะบ้าเหรอ? แกพูดแบบนั้นได้ไง ไม่ใช่แกคนเดียวนะที่เสีย พ่อบุญธรรมแกก็เสียด้วย” ฉันชะงัก และหยุดเคี้ยวลูกมะยมทันที ก่อนที่จะหัวเราะหึ! ออกมา ที่บ้านหลังนั้นไม่มีใครดีสักคน ปลอมเปลือกกันทั้งนั้น พ่อบุญธรรมถ้าไม่อยู่เมืองนอกเมืองนา ป่านนี้คงจับฉันเป็นเมียอีกคนไปแล้ว “ปล่อยไป เขาก็ไม่ใช่คนดีอยู่แล้ว ฉันต้องเอาตัวรอดจากบ้านเฮงซวยนี้ให้ได้ ตอนนี้ก็ปีสี่เทอมสุดท้าย ฉันคิดว่าเรียนจบฉันจะพาแม่หนี และทุกอย่างจะจบ!” พู่กันเริ่มกุมขมับนวดเบา ๆ กับความคิดฉัน ซึ่งฉันคิดว่ามันน่าจะเข้าท่า และโอเคที่สุดแล้ว ก็หนี้พวกนั้นคุณหญิงแม่เป็นคนก่อ เล่นการพนัน โลภมาก ทำไมฉันต้องแต่งงานจับผู้ชายมาใช้หนี้ให้ท่านด้วย รู้ว่ามีบุญคุณกับฉัน แต่ฉันขอตอบแทนด้วยวิธีอื่นเถอะ ให้ฉันไปร่วมหอลงโลงกับคนที่ฉันไม่ได้รัก ฉันทำไม่ได้หรอก “แกคิดว่าแกจะหนีรอดเหรอ? แกเคยบอกฉันฉันจำได้! ถึงหนุ่ม ๆ ไฮโซไม่เอาแก ก็มีเจ้าหนี้แก่ ๆ ของแม่แกรอเครมแกอยู่” พอได้ยินพู่กันพูดถึงสิ่งที่ฉันกลัว และอยากลบมันทิ้งออกจากหัว ฉันก็หลับตาลงควบคุมอารมณ์เดือดปุด ๆ ของตัวเอง นี่ล่ะคือสาเหตุ ที่ฉันอยากเรียนจบเร็ว ๆ และรีบหนี เพราะถ้าคุณหญิงแม่จนมุม ท่านก็จะเอาฉันขัดดอกให้ได้ ไม่ว่าหนุ่มเล็กหนุ่มใหญ่ท่านไม่เคยสน ขอแค่ท่านหลุดพ้นจากหนี้สี่สิบล้านก็พอ “นี่ไงแก เรียนจบ ฉันต้องรีบหนี” “รีบ? ก็ใช่ แต่แกคุยกับแม่แท้ ๆ แกรึยัง? การหนีพวกมีอิทธิพลทั้งด้านมืดอย่างเจ้าหนี้แก และด้านขาวอย่างพ่อเอกอัครราชทูต ฉันว่ามันต้องวางแผนต้องรอบคอบนะ ไม่งั้นแกถึงทางตันแน่ ๆ อ่ะ แต่ละคนธรรมดาที่ไหน” ฉันมองหน้าพู่กันทันที วันนี้ฉันอุตส่าห์โล่งและมาบอกข่าวดีกับเธอแท้ ๆ แต่พู่กันดันหาปริศนาให้ฉันแก้อีก ถ้าฉันหนีไม่ทันจะทำยังไง? โอ้ย... ต้องเป็นเมียคนแก่คราวพ่อ หนักกว่าพี่ ๆ ที่ฉันดิสเครดิตตัวเองอีกเหรอ? อ้วกแตก! “ฉันค่อยคิดไม่ได้เหรอ? แค่แผนหนีไฮโซหนุ่ม ๆ ฉันก็เสียไม่รู้จะเสียยังไงแล้ว” “เฮ้อ แกมีเวลาสามเดือนเองนะที่แกจะเรียนจบ ถ้าแกไม่รอบคอบและมีแผนวางไว้เนิ่น ๆ แกคิดเหรอว่าจะปลอดภัย? ไหนจะหนีเจ้าพ่อปล่อยเงินกู้ ไหนจะแม่บุญธรรมแกอีก เขาเลี้ยงแกมาตั้งนาน แค่มองตาก็รู้แล้วมั้งว่าแกจะไปไหน” ฉันคายเม็ดมะยมทิ้ง และนั่งนิ่งฉุกคิดตาม มันก็จริงอย่างที่พู่กันพูด ฉันควรวางแผนเนิ่น ๆ ว่าจะหนีไปที่ไหน? ไปยังไง? ใช้เงินเท่าไหร่? สามเดือนนี้ฉันจะได้เตรียมตัวไว้ และถลุงตังค์คุณหญิงแม่ให้ได้มากที่สุด หลังจากคุยกับพู่กันและกลับมาเครียดอีก เข้าเรียนคลาสบ่ายฉันก็มีเหตุสุดวิสัยต้องรีบกลับบ้าน เพราะอยู่ ๆ แม่แท้ ๆ ก็โทรมาร้องไห้กับฉัน บอกว่ามีชายฉกรรจ์บุกเข้าไปในบ้าน และทำลายข้าวของทิ้งหลายอย่าง แถมข่มขู่ท่านด้วย MOM | CALLING (คุณหนูคะตอนนี้คุณหญิงไม่อยู่ ที่บ้านไม่มีใครอยู่เลย ไม่รู้จะทำยังไงดี นมกลัวของพังมาก ๆ ค่ะ เขาบอกบ้านหลังนี้เป็นของเขา และเขาต้องการเจอตัวคุณหนูด้วย) ไม่ว่าฉันจะกำชับแม่แค่ไหน ว่าอย่าเรียกฉันว่าคุณหนู ๆ ท่านก็ไม่เคยฟัง หลังจากคุณหญิงผการับฉันมาเลี้ยง แม่แท้ ๆ ฉันก็พูดจาห่างเหินมาก สายตาที่มองฉันก็เหมือนกัน มองเหมือนฉันสูงส่งและไม่ใช่ลูกสาวท่านอีกแล้ว แต่ช่างเถอะ เรื่องนั้นไม่สำคัญ ที่สำคัญคือคนที่บุกเข้าไปในบ้าน ต้องการเจอฉันทำไม? “เขาบอกมั้ยคะว่าต้องการเจอหนูทำไม?” ฉันถามปลายสาย และรีบเปิดประตูขึ้นรถสตาร์ท (มะ ไม่บอกค่ะ แต่เขาใช้ปืนขู่มู่ทู่ และเตะมู่ทู่ด้วยค่ะ) เตะมู่ทู่? กรี๊ด... ทำไมต้องเตะหมาฉันด้วย!
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD