Ep.6 เชื่อใจ

2732 Words
พชิรา Say :: นิยายอะไรเนี่ยวางไม่ลง สรุปอ่านมันยันเช้า ฮ้าววววว ง่วงจัง แต่ก็ยังไงก็ต้องฝืนขึ้นมาทำงานอยู่ดี ทำยังไงถึงจะทำให้คนที่อ่านนิยายฉันวางไม่ลงบ้างนะ วันนี้เป็นวันที่การทำงานราบเรียบจนอยากจะแอบหลับ แอบหลับได้ไหมนะ ยังไงเจ้านายก็ไม่เข้านิ แต่เขาจ้างเรามาทำงานนะชิ ทนอีกหน่อยก็เลิกงานแล้ว ยังไงนี่มันก็บ่ายสามแล้วนิ แต่มัน ฮ้าวววววว ง่วง!!! จัง “มานั่งหาวอะไรกัน หึ...บอกให้อะไรให้นะ รองพื้นราคาถูก ๆ พอตกบ่ายมันก็จาง ร่องรอยที่ปิดไว้มันก็ไม่ถูกปิดอีกแล้ว มันน่ารังเกียจ ไปส่องกระจกดูสิ ว่ารอยแดง ๆ นั่นมันปิดไม่มิด มันเสียภาพลักษณ์รีสอร์ตรู้ไหม” คนชื่อออยเดินเข้ามาพูดกับฉันที่นั่งหาวอยู่ที่เขาท์เตอร์ของล็อบบี้ ทำให้ฉันตกใจรีบเอามืดปิดคอของตัวเองไว้ แล้วรีบไปส่องกระจกในห้องน้ำทันที เพื่อดูรอยแดงที่คอ รองพื้นมันเลือนแล้วจริงด้วย “ออยพูดแบบนี้ไม่ดีเลยนะ ความรักมันเป็นเรื่องธรรมชาติ การแสดงความรักด้วยการสร้างร่องรอยบนร่างกาย ก็ถือว่าเป็นการแสดงความรัก แต่การที่มีคนรัก แล้วยังออกไปกับผู้ชายในกลางดึกมันไม่ดีหรอกนะ ใช่ไหมออย” บทสนทนาของคนที่ชื่อเพลง ทำเอาฉันต้องจุกขึ้นมาน้อย ๆ ฉันจะไปไหน ไปกับใครมันก็เรื่องของฉันเปล่าวะ “มันน่ารังเกียจไงเพลง แล้วยิ่งเป็นพนักงานใหม่ด้วย ไม่รู้จักละอายรึไง” หวานเพื่อนสาวอีกคนเอ่ยพูดขึ้นมา พร้อมกับชายตามองมาที่ฉัน เจ็บจนจุกเลย แทบจะกลั้นน้ำตาไม่อยู่เลย ฉันได้แต่กัดฟัน แล้วมองคนพวกนั้นด้วยรอยยิ้ม “เมื่อคืนไปไหนกับพี่ทีของฉันมาห๊ะ แกอ่อยพี่ทีของฉันใช่มะ ทำไมเขาถึงต้องมาส่ง” คนชื่อออยตะคอกใส่ฉันอีกครั้ง ตะคอกใส่ฉันทำไม พวกนี้เป็นอะไร หมาเฝ้าบ้านรึไง ถึงมาขู่ฉันเอา ขู่ฉันเอา คนพวกนี้นี่มันยังไงกัน ยิ่งหงุดหงิดเพราะง่วงอยู่นะ อย่ามาทำให้หงุดหงิดจะได้ไหม “อย่าสิออย เด็กใหม่กลัวแย่แล้ว เขาจะอาจจะแค่ไปธุระก็ได้ ใช่ไหมจ๊ะ” คนชื่อเพลงหันมายิ้มให้ฉัน นางฟ้าในหมู่มารหรอ มีแต่มารเท่านั้นแหละ ถึงคบกับพวกมารได้ “นั่นสิพี่ที เขาคงไม่ลดตัวมายุ่งกับเด็กใจแตก ที่เดินโชว์รอยดูดไปทั่ว ทำตัวไม่ต่างอะไรจากโสเภณี” ทนไม่ไหวแล้วโว้ยยยยยย ฉันมองไปรอบ ๆ ตัวเพื่อหาอะไรที่จะหยุดปากคนพวกนี้ได้ จนไปเจอถังที่เต็มไปด้วยน้ำถูพื้น ก่อนจะยกมันสาดไปที่คนพวกนั้น ซู่ววววววว !!!! “กรี๊ดดดดดดดดด!!!! สกปรก!!!” “ปากสกปรก ก็เหมาะกับอะไรที่สกปรก โสเภณีแล้วยังไง ก็ยังมีคนเอา ดีกว่าพวกที่ตากแดดจนแห้ง ยังไม่มีใครคิดจะแตะ คิดว่าตัวเองเป็นเมียเจ้าของที่นี่รึไง จะมาคุมทุกย่างก้าวของฉัน จำไว้ฉันไม่ใช่พวกที่จะยอมให้มารังแกง่าย เก็บปากไว้ดูดส้วมไป เหม็นพอกัน อย่ากินมันเลยข้าวอะ อ่อ...ไอ้รอยดูดพวกนี้ ตอนแรกก็เกลียดนะ ตอนนี้เริ่มภูมิใจกับมันแล้วสิ เพราะจู่ ๆ ก็ทำให้พวกหมาเห่าได้ตั้ง 3 ตัว” ฉันยิ้มคืนให้พวกนั้นบ้าง “อีนี่มากไปแล้ว” คนชื่อออยเดินเข้ามาจะดึงผม พร้อมกับคนที่หวานที่จะเข้ามาตบ แต่เพราะแรงกระชากจากผมทำให้แว่นของฉันมันหล่นไปหาย ภาพที่เคยชัดมันก็มัวจนมองไม่เห็น “พอแล้วทุกคนอย่าทำอีกเลย” เสียงของคนที่ชื่อเพลง ยังคงคอยห้าม ทำไมไม่โดนตบสักที ใครเข้ามาพี่ลี่หรอ ทำไมทุกคนถึงเงียบไป มีอะไรอะ แว่นฉันอยู่ไหน ภาพที่ฉันเห็นมันมัวจนมองหน้าใครเป็นใครไม่ออก “ไปพบผมที่ห้องทุกคนเลย” เสียงแบบนี้คุณปฐพีหรอ เขาจะต้องไล่ฉันออกแน่ ๆ วันนี้ฉันก่อเรื่องอีกแล้ว ฉันทำงาน 2 วัน มีเรื่องสองวันเลย แต่ถึงจะบอกให้ไปที่ห้องแต่แว่นฉันล่ะ แว่น...แว่นฉันอยู่ไหน แล้วจู่ ๆ ก็มีคนหยิบแว่นตาขึ้นมาสวมให้ฉัน “ไปเถอะ ให้นายรอนาน ระวังเขาจะโมโหนะ” ภาพชายตรงหน้าที่ใส่แว่นให้ฉันมันก็ชัดเจนขึ้น “ขอบคุณค่ะ” ฉันรีบก้มขอบคุณพี่ที ที่เก็บแว่นให้ฉัน แต่แว่นของฉันมันแตกหมด แม้จะทำให้มองเห็นแต่ก็ไม่ได้เหมือนเดิม แน่สิ ก็มันแตกนิ ฉันรีบเดินไปที่ห้องผู้จัดการทันที ก่อนที่พวกนั้นจะใส่ไฟฉันไปมากกว่านี้ พอเปิดเข้าไปในห้อง การตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จ ก็เริ่มขึ้น โดยมีผู้พิพากษา ที่มองฉันเหมือนฉันเป็นคนผิด เฮ้อ คนเล่าก่อนย่อมได้เปรียบสินะ “พวกเราแค่เข้าไปเตือนเพื่อนดี ๆ ว่ารอยที่คอของเธอมันเริ่มชัดขึ้นแล้ว แต่เธอก็ยังทำกับเราแบบนี้อะค่ะ เอาน้ำถูพื้นมาราดใส่เราจนเปียก” “ทำจริงรึเปล่า พชิรา” เสียงของคนเป็นเจ้านายถามฉันด้วยความราบเรียบ “จริงค่ะ” ฉันรับออกไปแมน ๆ ก็ฉันผิดจริงอะเรื่องนี้ ฉันสาดน้ำใส่พวกนั้นจริง “โทษทะเลาะวิวาทที่นี่คือไล่ออก” เสียงเรียบ ๆ ของคนเป็นเจ้านาย ทำเอาฉันขึ้นปี๊ดดดด “แต่ถ้าอย่างงั้น พวกเธอก็ต้องโดนด้วย ฉันไม่ใช่คนเริ่มก่อน พวกเธอด่าฉันโสเภณีบ้างล่ะ บอกฉันอ่อยพี่ทีของเธอบ้างล่ะ จะให้ฉันทนก็ใช่เรื่อง คุณต้องให้ความเป็นธรรมฉันด้วย” ฉันยืนเถียงคนเป็นเจ้านายต่อหน้าทุกคนที่เงียบ อึ้ง อยู่ในห้องนั้น “ฉันบอกแล้วใช่ไหม ถ้าใครถามจนวุ่นวาย ให้บอกว่าฉันเป็นคนทำ” คำพูดของคนเป็นเจ้านายทำเอา 3 คนที่ถูกเรียกมาสอบสวนถึงกับตกใจ “ใครจะไปอยากบอก คุณนั่นแหละทำให้เรื่องนี้เกิดขึ้น ไล่ตัวเองออกเลยไป” แว่นก็แตก อย่าแหย่ฉันนะ ยิ่งอารมณ์ไม่ดีอยู่ จะเอาเงินไหนไปซ่อม จะเอาเงินไหนไปซื้อใหม่ แต่คนที่โดนเถียงกลับยิ้มออกมาแล้วเดินมาหาฉัน พร้อมกับแฟ้มเอกสารในมือ แล้ว โป้กกก!! สันแฟ้มเคาะที่หัวฉัน จนฉันต้องสะดุ้ง ถอยหลังไปติดกำแพง “กล้ามาก กล้าได้กับทุกคนยกเว้นฉัน ถ้าฉันเห็นอีกครั้ง เธอจะได้เห็นดีกับฉันแน่ จำเอาไว้” “ทราบค่ะ” ถึงกับต้องตีหัวกันเลยหรอ ดีนะที่ไม่เจ็บเท่าไหร่ ฉันเอามือถูที่หัวเบา ๆ ก่อนจะก้มหน้าลงสำนึกผิด “ดีที่ยังเป็นที่ห้องน้ำพนักงาน ถ้าแขกมาเห็นภาพแบบนี้จะเป็นยังไง รีสอร์ตจะเสียงภาพลักษณ์มากแค่ไหน ครั้งนี้ผมจะหักเงินเดือนพวกคุณ 20% 3 เดือน อ่อ...อย่าร้องขอความเป็นธรรม เพราะสิ่งที่พวกคุณทำ มันทำให้ผมไล่คุณออกได้ทันที ต่างคนต่างไปทำงานได้แล้ว อย่าให้ผมเห็นเหตุการณ์แบบนี้อีก” เสียงราบเรียบ ทำให้เราทุกคนต้องก้มหน้ายอมรับผิด แล้วเดินออกจากห้องไปแบบไม่มีข้อโต้แย้ง แม้มันจะยังขัดใจฉันก็เถอะ พอทุกคนออกไป ฉันกลับไม่ได้ออก เพราะโดนพี่ทีเอาตัวมาขวางประตูไว้ ตัดสินคดีของฉันแล้วนิ ไม่เห็นจะเป็นธรรมสักนิ สายตาที่มองว่าฉันเป็นคนผิดแบบนี้มันอะไรกัน อยู่ที่ไหนก็ไม่เคยเป็นธรรมสำหรับฉัน ไม่ว่าที่บ้าน หรือที่นี่ ถึงฉันจะพูดอะไรก็ไม่มีใครเชื่อฉันอยู่แล้ว ฉันก็ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรต่อแลัว “แค่สองวัน ก็มีปัญหาขนาดนี้ เธอยังอยากอยู่นี่จริง ๆ หรือเปล่า” คำถามของคนเป็นเจ้านายที่ถามฉัน มันบอกได้ชัดเจนว่าเขาไม่ได้เชื่อฉัน จู่ ๆ น้ำตามันก็ไหลออกมา ไหลออกมาจากตาของคนที่พูดอะไรก็ไม่มีใครเคยฟัง ไม่มีใครเคยเชื่อ “อยากค่ะ แต่พวกนั้นมาหาเรื่องฉันก่อน ฉันแค่ป้องกันตัวเองนะ ฉันผิดหรอคะ ฮึก ฮึก” ฉันรีบปาดน้ำ เพราะกลัวว่ามันจะเป็นการเรียกร้องความสงสาร “คนเก่งที่ตอกกลับพวกนั้นไปไหน ร้องไห้ทำไม เก่งไม่จริงนิ ทำเป็นเก่งที่จริงข้างในก็อ่อนปวกเปียก อวดเก่ง ตั้งแง่ มีอะไรดีบ้าง ทำงานก็ไม่เป็น ไอ้ที เอาแว่นไปซ่อม ต่อไปถ้าเสียเปรียบแบบนี้ก็ไม่ต้องไปสู้” ฉันรีบเอามือจับแว่นเอาไว้ทันที ถ้ายอมให้เอาไปซ่อม ฉันอาจจะต้องเสียตัง และใช้ชีวิตลำบาก “คุณเชื่อที่ฉันเล่า แล้ว ๆ ๆ...แล้วทำไม....” “ไม่มีทำไม ถ้าฉันตัดสินเข้าข้างเธอ พวกนั้นก็จะมาตามวุ่นวายกับเธออีก ฉันทำแบบนี้ ฉันคิดว่าดีกับทุกฝ่าย เรื่องนี้เธอก็ผิด แม้จะไม่ได้เริ่มก่อน แต่ก็ไม่ได้แปลว่าเธอไม่ผิด” คนเป็นเจ้านายพยายามพูดให้ฉันเข้าใจ แต่ประเด็นมันไม่ได้อยู่ตรงนั้นอีกแล้ว มันอยู่ตรงที่เขาเชื่อที่ฉันพูค “ฮื้อออออออ คุณเชื่อฉัน คุณพูดสิว่าเชื่อฉัน ฮึก ฮึก” เพียงแค่รู้ว่ามีคนเชื่อฉัน เชื่อในสิ่งที่ฉันพูด น้ำตามันก็ไหลออกมามากมาย ตั้งแต่เด็กยันโต ฉันต้องทน ทนอยู่กับความผิดที่ไม่ได้ทำ แล้วถึงพูดก็ไปก็ไม่มีใครเชื่อ “ฉันเชื่อเธอ” ปฐพี Say:: จู่ ๆ ยัยแว่นก็ร้องไห้ออกมาไม่หยุด ที่ผมเชื่อเพราะผมได้ยินเหตุการณ์ทุกอย่าง ที่ผมถามเพราะผมอยากรู้ว่าใครจะโกหก ขนาดโดนเขาว่าขนาดนั้น ก็ไม่ยอมออกไปว่ารอยบนตัวนั่นผมเป็นคนทำ แล้วนี่จะหยุดร้องไห้เมื่อไหร่ เสียตัวยังไม่เห็นร้องไห้ขนาดนี้ “ขอบคุณค่ะ ฮึก ฮึก” สภาพตอนร้องไห้ดูไม่ได้เลย น้ำตาน้ำมูกไหลจนหมดความเป็นผู้หญิงไปเลย ตลกชะมัด ผมส่งผ้าเช็ดหน้าให้เธอเพราะทนความสกปรกนี้ไม่ได้ แต่คนตรงหน้าไม่กล้ารับอีก ผมเลยโยนผ้าเช็ดหน้าลงบนโต๊ะนั่นแหละ ก่อนมือที่ขาว ๆ จะยื่นมาหยิบมันไป “ขอบคุณค่ะ” จะขอบคุณซ้ำทำไม เฮ้ออออ จัดการเรื่องน้องสาวเสร็จ ต้องมาเจอความวุ่นวายนี่อีก ใครไม่เป็นผมจะไม่รู้เลย วันหนึ่งผมต้องเจออะไรบ้าง “อื้ม ไปเถอะ พวกลี่จะจัดงานเลี้ยงต้อนรับเธอนิ ไปได้แล้ว ผ้าเช็ดหน้าไม่ต้องเอามาคืนนะ เอาไปเลย” จะให้ผมเก็บมาใช้ ก็ใช้ไม่ลงอะ ทั้งน้ำมูกน้ำตา “ฉันขอถอนคำพูด ที่ว่าคุณนิสัยไม่ดีนะคะ เหลือแค่เอาแต่ใจพอค่ะ” ประโยคของเธอ ทำให้ไอ้ทีที่ยืนอยู่หน้าประตูหัวเราะออกมาเบา ๆ จนผมต้องหันไปตวัดสายตาดุ ๆ ใส่มัน เพื่อให้มันเงียบ หึ เรื่องเอาแต่ใจยอมรับก็ได้ ผมรอจนยัยแว่นนั่นออกจากห้องไป ก่อนจะทิ้งตัวลงกับพนักพิงของเก้าอี้ทำงาน เรื่องวุ่นวายนี่เกิดจากพวกผู้หญิงจริง ๆ “พิเศษหรอครับ” คำถามของไอ้ที ทำเอาผมหงุดหงิด “แกก็รู้ ฉันอาจจะต้องแต่งกับพอใจ จะไปรู้สึกพิเศษกับใครได้ยังไง แล้วฉันจะไม่เอาผู้หญิงมาทำให้ชีวิตฉันวุ่นวายหรอก” ผมทอดสายตามองออกไปนอกหน้าต่าง ผมไม่ได้ชอบพอใจ แต่มันเป็นไปได้สูง ที่ 1 ในลูกชายอาจจะต้องเป็นผม จะให้ผมคิดอะไรกับใครมันเป็นไม่ได้เลย เพราะผมจะไม่สร้างเรื่องให้ตัวเองต้องมาแก้แน่นอน “แล้วนายไม่กลัวเธอโดน 3 คนนั้นรังแกหรอครับ” “อยากปกป้อง ก็ไปเองสิ” ผมจะช่วยเธอบ่อยไม่ได้หรอก จะทำให้มันเป็นความสัมพันธ์ไม่ได้ ให้มันเป็นแค่เจ้านายกับลูกน้องแบบนี้ดีแล้ว อย่าให้ชีวิตผมต้องวุ่นวายไปกว่านี้เลย “งั้นผมตามไปดูสักหน่อยดีกว่า เผื่อมีอะไรจะได้ช่วยทัน” ผมยอมปล่อยให้ไอ้ทีไปแต่โดยดี ผมไม่ได้รู้สึกพิเศษกับเธอจริง ๆ นอกจากความรู้สึกผิด แล้วเธอก็ไม่ใช่ผู้หญิงแบบที่ผมรำคาญสักเท่าไหร่ แต่ก็ไม่ใช่ผู้หญิงในแบบที่ผมชอบเช่นกัน คงต้องภาวนาให้เธอรีบแต่งนิยายให้จบ ผมกับเธอจะได้จบ ๆ กันไป ผมพยายามชดเชยในสิ่งที่ผมควรจะทำแล้ว หลังจากเคลียร์งานที่ทำเสร็จ ผมเลยตัดสินใจแวะไปดูที่บ้านพักพนักงานหน่อย ป่านนี้คงกำลังสนุกกันน่าดู แต่พอผมมาถึงทุกคนสนุกจริง แต่เจ้าของงานไม่อยู่ รวมทั้งไอ้ทีด้วย ผมรีบออกมาจากตรงนั้นก่อนจะโดนลากไปร่วมวงด้วย บอกเลยผมเข็ดกับคำว่าสุรามาก เมาทีไร เป็นอันได้เสียทุกที ว่าแต่ทั้งคู่ไปไหน คนอยู่เยอะขนาดนั้น ไม่มีทางพากันเข้าไปในห้องแน่ พากันออกไปที่ไหน ไว้ใจเขาขนาดนั้นแล้วรึไง รถของผมยังอยู่ที่ลานจอด แสดงว่าไอ้ทีก็ยังไม่กลับนิ ผมเลยตัดสินใจเดินเช้าไปในสวน แต่มืด ๆ แบบนี้คงไม่มีใคร แต่...มันดันมี เงาตะคุ่ม ๆ ของคนสองคน กำลังทำอะไรบางอย่างอยู่ คนหนึ่งนอนราบ อีกคนกำลังนั่งอยู่ เดี๋ยว ๆ จะมาทำกลางสวนเลยรึไง ผมทนไม่ไหวต้องรีบเดินเข้าไปดูให้เห็นกับตา “ชู่ววววว หลับนาย มีกลิ่นเหล้าด้วย คงจะเมาจนหลับไปแล้ว ผมไม่รู้จะอุ้มยังไงไม่ให้ตื่น นอนแบบนี้ยุงหามแน่ ๆ” ที่แท้ก็เมาหลับงั้นหรอ ผมเดินเข้าไปสะกิดคนที่หลับ “ม้ายกินแล้วค่าาา หนูมาวววว” แว่นก็แตก ยังจะใส่อีก เศษกระจกเข้าตาทำยังไง ทนความใช้ชีวิตมักง่ายของเธอไม่ไหวจริง ๆ ผมจัดการถอดแว่นของเธอออก แล้วโยนให้ไอ้ที “เอาไปจัดการให้ที แล้วไปเอาคีย์การ์ดห้องฉันมา ขืนอุ้มกลับห้องเธอตอนนี้เป็นเป้าสายตาตายเลย จะปล่อยให้นอนตรงนี้ แขกตกใจแย่อีก เอาไปเก็บก่อน จนกว่าจะส่างแล้วให้กลับไปเองแล้วกัน” “ครับนาย” ผมอุ้มร่างของคนเมาขึ้นจากพื้นหญ้า แล้วเดินกลับไปที่ห้องพักของผม เมาแล้วทำไมไม่กลับไปนอนในห้อง มานอนที่สวนทำไม “งื้ออ พ่อขาา ชิรักพ่อจังเลย” แล้วคนที่พูดก็หอมแก้มผมดังฟอดดดดดด !!!!! ยัยนี่ชักจะมากเกินไปแล้วนะ คิดจะเนียนหลอกลวนลามฉันงั้นหรอ!!!! ผมหยิบกระเป๋าตังค์ขึ้นมาสแกนคีย์การ์ด ก่อนจะโยนเธอลงไปบนเตียงอย่างแรง แต่เธอก็ไม่ยักจะตื่น หลับหรือตายเนี่ย “เธอเรียกฉันว่าพ่อ 2 ครั้งแล้วนะ ยัยแว่น” = “เอ้า!!! มีคีย์การ์ดอยู่แล้ว ให้เราไปเอาทำไมวะ ไหนบอกไม่พิเศษไง หึ” ทียืนมองหน้าห้องที่ตอนนี้เปิดไฟอยู่แล้ว สลับกับคีย์การ์ด ที่เจ้านายให้เขาวิ่งไปเอา
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD