ร้านหมูกระทะสี่แยกคีรีวง
ประมาณครึ่งชั่วโมงต่อมาน้าบุญรวยก็ขับรถพาพวกเรามาจนถึงร้านหมูกระทะที่ซันนี่เคยรีวิวให้ฟังเมื่อก่อนหน้านี้ว่าทั้งถูกและอร่อย
"เอาแดงสไลด์ไม่ติดมันใช่ไหม" เมื่อเห็นว่าแฟนกดหน้าลงเชิงตอบรับแล้วฉันจึงตักหมูเนื้อแดงสไลด์ไปให้เขาหนึ่งจาน โดยที่เขาเองก็กำลังตักน้ำแข็งใส่แก้วไปเผื่อพวกเราทุกคนอยู่
"เดี๋ยวฉันทำให้" บอกหน่อยได้ไหมว่าคนโสดเขากินหมูกระทะกันยังไง แล้วมีใครคอยอย่างหมูย่างหมึกให้กินแบบฉันบ้างไหมนะ ถ้าไม่มีก็รีบหานะจ๊ะ อิอิ
"กุ้งครับ"
"ขอบคุณค่ะ" ฉันส่งยิ้มหวานๆ ไปให้แฟนของตัวเองหนึ่งครั้งก่อนจะยื่นมือไปรับกุ้งเผาที่เขาทำการแกะเปลือกให้เรียบร้อยแล้วมารับประทาน
"อิ่มจัง" ประมาณหนึ่งชั่วโมงเศษผ่านไป และฉันที่ไม่สามารถจะเติมอะไรลงท้องไปได้อีกแล้วก็พิงตัวเข้ากับสีข้างของแฟนที่นั่งอยู่ใกล้กัน โดยที่มีมือใหญ่นุ่มนั้นคอยลูบท้องที่ป่องขึ้นอย่างเห็นได้ชัดอย่างแผ่วเบาอยู่เป็นระยะ
"คิดเงินเลยดีกว่าเนอะ" เขาเอ่ยถามฉันที่ส่งเสียงในคอกลับไปเป็นคำตอบ "พี่ครับ...คิดเงินโต๊ะสี่ด้วยครับพี่"
ก่อนฉันจะได้ยินว่าเขาได้ออกปากร้องเรียกพนักงานหญิงคนหนึ่งที่บังเอิญเดินผ่านมาพอดิบพอดี
"อีเจี๊ยบ!" เสียงเอะอะโวยวายของเพื่อนที่ดังขึ้นพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมายนั้นทำเอาฉันที่กำลังจะเคลิ้มหลับไปในอ้อมกอดของแฟนถึงกับสะดุ้งโหยง ก่อนที่อาการง่วงหาวหนาวนอนของฉันจะหายเป็นปลิดทิ้งในทันทีที่ได้เห็นว่าพนักงานผู้หญิงคนนั้นก็คือกระเจี๊ยบที่ขาดการติดต่อไปนานถึงสองปีด้วยกันและสำคัญไปกว่านั้นก็คือเหมือนนางจะกำลังท้องอยู่ด้วย...
"เธอ!" แต่ก่อนที่พวกเราทุกคนจะได้ทำอะไรมากไปกว่านั้น ก็ได้ยินเสียงของจอนนี่ที่ร้องตะโกนออกมาเสียงดัง ในขณะที่กระเจี๊ยบเองก็รีบวิ่งหายออกไปเมื่อมันเห็นว่าเป็นจอนนี่ ซึ่งจอนนี่เองก็ได้วิ่งตามมันออกไปทันทีเช่นเดียวกัน...
"หึ" ฉันหันกลับมามองหน้าแฟนที่กำลังฉุดรั้งมือของฉันไม่ให้ตามสองคนนั้นไป สิ่งที่ฉันพอจะทำได้ในตอนนี้ก็เลยมีแค่นั่งลงตรงเก้าอี้ของตัวเองตามเดิมที่
"นายรู้เรื่องอะไรมา บอกฉันมาเดี๋ยวนี้นะ!"
"ก็...พอรู้"
"ก็มันเรื่องอะไรกันเล่า! ตอบฉันมาเซ่ตาคนบ้า!" ฉันเผลอตีไหล่เขาค่อนข้างแรงเพราะเกลียดในท่าทีของเขาที่เหมือนกับว่าจะปิดบังอะไรบางอย่างไม่ให้ฉันได้รับรู้
"ฉันพูดไม่ได้หรอกนะเสน่ห์ เพราะเรื่องนี้มันถือว่าเป็นเรื่องละเอียดอ่อนสำหรับจอนนี่มัน และฉัน...ก็คงจะพูดได้แค่ว่าเธอต้องรอให้มันรู้สึกพร้อมมากพอและเมื่อถึงตอนนั้นมันก็คงจะออกปากบอกเธอด้วยตัวของมันเอง" เขาเลือกที่จะมองไม่เห็นท่าทางกระฟัดกระเฟียดของฉันและเลือกที่จะร้องเรียกพนักงานอีกคนให้มาคิดเงินแทน...
เกือบครึ่งชั่วโมงต่อมาน้าบุญรวยก็ขับรถมาส่งฉันจนถึงที่บ้านโดยสวัสดิภาพ โดยที่เมื่อก่อนหน้านี้ในตอนนี้นั่งรถกลับก็ไม่มีใครเลยที่จะมีความกล้ามากพอในการตั้งคำถามที่ตัวเองรู้สึกสงสัยออกมา ในขณะที่ฉันเองอยากจะถามแทบตายแต่แฟนของฉันเขาก็ห้ามเอาไว้ไม่ให้ฉันพูด
นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันแน่นะ...
เพราะข่มตาหลับไม่ลงฉันจึงเลือกที่จะเดินลงมาชั้นล่างเพื่อลดความรู้สึกฟุ้งซ่านข้างในหัวใจตัวเอง...
"เหม่อมาเชียวลูกสาวแม่...เป็นอะไรรึเปล่าลูกเสน่ห์... หรือว่าทะเลาะกันกับอั๋นเขามาอีกแล้ว หืม..."
"เปล่าค่ะคุณแม่" เพราะไม่รู้ว่าจะเริ่มเรื่องมาตั้งแต่ตอนไหน ฉันก็เลยเลือกที่จะปกปิดเรื่องราวในวันนี้เอาไว้ในใจของตัวเองแทน
"บอกแม่ได้นะลูก...หรือว่า... ลูกท้องอย่างนั้นนะเหรอเสน่ห์! แม่กำลังจะมีหลานอย่างนั้นใช่ไหม!"
"คุณแม่... พูดอะไรคะเนี่ย หนูพึ่งจะอายุสิบแปดปีเองนะคะ" ฉันที่ได้ยินแบบนั้นก็ถึงกับหลุดหัวเราะออกมาจนเผลอหลงลืมสิ่งที่ทำให้ฟุ้งซ่านไปได้ครู่หนึ่ง
"ก็แล้วมันเรื่องอะไรละคะลูกสาว... ว่าไงเอ่ย พอจะบอกคุณแม่คนนี้ได้ไหมคะว่าลูกสาวของแม่กำลังคิดมากในเรื่องอะไร หืม..."
"แม่... แม่พอจะ...จำกระเจี๊ยบได้ไหมคะ"
"อืม.. คนที่เรียบร้อยอ่อนหวาน ไม่ชอบเที่ยวเล่นรึเปล่าลูก" แม่ทำท่าคิดอยู่ประมาณหนึ่งนาทีก่อนที่จะเอ่ยถามฉันออกมาเพื่อความแน่ใจ
"ใช่ค่ะคุณแม่ คือ...หนูพึ่งจะมีโอกาสไปรับรู้มาว่า... ว่ากระเจี๊ยบท้องค่ะ หนูบังเอิญไปเจอกระเจี๊ยบที่เป็นพนักงานของร้านหมูกระทะในวันนี้ค่ะแม่..."
"แล้วหนูแปลกใจอะไรเอ่ย... แม่ว่าบางทีหนูกระเจี๊ยบเธออาจจะกำลังหารายได้เสริมเพื่อหาเงินไปฝากท้องก็ได้นะคะ"
"ก็...จอนนี่อะคะแม่"
"แล้วจอนนี่เขามาเกี่ยวอะไรกับเรื่องที่กระเจี๊ยบท้องคะลูกสาว หนูกำลังทำให้คนแก่คนนี้งงนะ..."
"คือ... ในตอนที่จอนนี่มันเห็นกระเจี๊ยบ มัน...ก็เสียงดังเหมือนกับคนที่กำลังตกใจอ่ะคะ แล้ว...พอกระเจี๊ยบหันมาเห็นจอนนี่มันก็วิ่งหนีไปเลย ก่อนที่ทั้งคู่จะวิ่งตามหลังกันไป"
"แล้วอะไรที่มันส่งผลให้ลูกสาวของแม่ไม่สบายใจคะ? เป็นห่วงเพื่อนหรือโกรธจอนนี่..."
"แม่คะ... คือ...คือหนูแค่คิดว่ากระเจี๊ยบก็คงจะไม่ได้ท้องกับจอนนี่หรอกใช่ไหมคะแม่" ยอมรับก็ได้ว่าฉันใจไม่ดีเพราะเรื่องนี้มันข้องเกี่ยวทั้งกับแนนซี่และกระเจี๊ยบ เพราะสองคนนั้นเป็นเพื่อนของฉัน...เพื่อนที่ฉันรัก
"เสน่ห์คะ... ฟังแม่นะคะลูกสาว แม่เองก็พอจะรับรู้อยู่บ้างว่าจอนนี่น่ะเป็นผู้ชายเจ้าชู้ แต่แม่ก็มั่นใจมากๆ เลยว่าถ้าหากคนที่เป็นภรรยาของเขากำลังตั้งท้อง คนอย่างเขาไม่มีวันที่จะยอมปล่อยให้ภรรยาของตัวเองต้องแบกท้องโตไปทำงานแน่นอนจ้ะ แม่เชื่ออย่างนั้นนะ..."
"แต่แม่คะ.."
"แม่ว่าหนูขึ้นไปนอนดีกว่าจ้ะเสน่ห์ พรุ่งนี้หนูมีเรียนแต่เช้านะหนิ จริงไหม?"
แม่ว่าอย่างตัดบทก่อนจะเดินนำฉันขึ้นไปบนชั้นสอง ปล่อยให้ฉันยืนจมกับความสงสัยกับเรื่องราวที่พึ่งพบเจอมาอยู่กับตัวเอง...
เอาแล้วเจ้าจอห์น ใจคอแกมันคิดจะกินทั้งแก๊งเลยใช่ไหมนั่นนะ