เสียงประตูห้องเปิดออก หญิงสาวรีบถอดแหวนเก็บในกระเป๋าถือใบเล็ก ผู้จัดการเดินหน้าตาแป้นแล้นเข้ามา จิกสายตามองหล่อนเหยียดๆ จนไม่อยากจะสบสายตาหมิ่นแคลนนั่นเลย....
"อยากรู้จริงๆ หล่อนเอาใจป๋อหลินท่าไหน เขาถึงได้หลงนัก... นี่ออดอ้อนขอไปออกทริปเรือสำราญด้วยแถมยังได้เงินก้อนโต หล่อนนี่มันเก่งจริงๆ"
ผู้จัดการคงรู้แล้ว เพราะชานป๋อหลินต้องให้คนติดต่อเจ้าของร้านเพื่อให้เขาสั่งการให้ผู้จัดการมาดูแลคิวงานพิเศษของหล่อนและคิวงานของร้านอีกทอดหนึ่ง คงเป็นเพราะรู้ว่าหล่อนได้เงินมากและเขาไม่ได้เงินส่วนแบ่งเลยค่อนแคะได้ตลอด
"อยากเก่งก็ไปแปลงเพศมารับแขกสู้กับฉันสิ" ปรายตามองอย่างหมดความอดทนแล้วเดินจากไป อีกไม่นาน มันก็จบ บอกกับตัวเอง แม้จะไม่ใส่ใจฟังเสียงนกเสียงกาที่ไม่รื่นหู แต่กระนั้นก็ยังได้ยินเสียงลอยมาตามลม...
"โธ่เอ๋ย เขาแค่หลงก็ทำเป็นอวดดี... ระวังเถอะเขาเบื่อแล้วเขี่ยทิ้งเมื่อไหร่ ได้มาชงเหล้ามือเปื่อยมือพองเหมือนเดิมอยู่ดีนั่นล่ะว้า... อย่าทำตัวเป็นกิ้งก่าได้ทองให้น่าหมั่นไส้นักเลย"
ขาที่ก้าวของอลินชะงัก เปลือกตาปิดลงอย่างข่มกลั้น...
มันจะจบแล้วอลิน อีกไม่นาน มันจะจบ...
บอกกับตัวเอง ก่อนจะก้าวขาเดินต่อไปเพื่อนำพาร่างกายและใจอันแสนเหนื่อยล้าของตนเองไปพักผ่อนเพื่อให้ห้วงนิทรานำพาหล่อนลืมเรื่องอัปยศที่เกิดวันนี้ให้หมดสิ้น
นึกหวังไว้ในใจ ว่าอย่าให้เพื่อนรักตกที่นั่งอย่างหล่อนเลย...
อลินนั้นไม่รู้เลยว่าที่ห้องวีไอพีอีกห้องหนึ่งเกิดอะไรขึ้นบ้าง เพราะถ้ารู้ หล่อนอาจจะผิดหวังในตัวเองที่แนะนำงานเช่นนี้ให้เพื่อน....
ทันทีที่ย่างก้าวเข้ามายังห้องวีไอพี มุกลดาซึ่งอยู่ในชุดเซ็กซี่ตามแบบฉบับของสาวในสถานบันเทิงตัวสั่นเทาเล็กน้อยเมื่อเห็นสายตาของผู้ชายห้าหกคนที่นั่งอยู่...
ทุกสายตามองหล่อนเป็นจุดเดียว
โดยเฉพาะวีไอพีหมายเลขสอง ที่หล่อนต้องมาดูแล มีเขาเพียงคนเดียวที่ไม่ได้นั่งอยู่กับผู้หญิงของร้าน
ร่างสูงโดดเด่นในสูทอาร์มานี่สีดำสนิท ส่งเสริมให้ดวงหน้าหล่อคมที่คงเกิดจากส่วนผสมของฝั่งเอเชียและยุโรปของเขานั้นโดดเด่น... แนวคางบึกบึนที่มีไรหนวดนิดๆ นั้นขยับเล็กน้อยเมื่อเขายิ้มให้ เหมือนคนจอมเย่อหยิ่งจะผายมือเชิญหล่อนให้นั่งที่ว่างเคียงข้างเขา...
เควิน สตีเฟน เฉิน เขาทำให้หล่อนอึดอัดเพียงแค่เห็นหน้าครั้งแรก ไม่ใช่เพราะความหล่อเหลาและดูดีเหมือนเทพบุตรที่เดินออกมาจากนิตยสารนายแบบยุโรปที่ทำให้ประหม่า แต่ทำตัวไม่ถูกเพราะว่าสายตาที่ทอดมองมานั้นเหมือนจะกลืนกินหล่อนไปทั้งตัวต่างหากที่ทำให้หายใจไม่ทั่วท้อง
แต่เอาเถอะน่า ตอนดีลงานผู้จัดการก็บอกเป็นมั่นเป็นเหมาะว่าแค่เพียงงานชงเหล้าและเป็นเพื่อนคุยกับเขา เพียงไม่นาน หากหล่อนไม่เต็มใจจะไม่มีงานนอกเหนือจากนั้น อลินเพื่อนที่หล่อนเชื่อใจได้ก็บอกว่างานเช่นนี้ปลอดภัยไม่มีอะไรแอบเเฝง แต่เเลกด้วยเงินก้อนโตที่หล่อนต้องการ...
ขยับกายลงไปนั่งข้างๆ ด้วยหัวใจสั่นระรัวเมื่อเผลอสบตากับเขาในระยะใกล้...
ดวงตาหล่อนเบิกกว้างเมื่อแขนของเขาตวัดมาโอบบ่า...
"กรุณาอย่าแตะต้องตัวฉันค่ะ ฉันมาเพื่อเตรียมเครื่องดื่มให้คุณเท่านั้น" บอกเสียงเบา... คิ้วหนาเป็นปื้นสีน้ำตาลอ่อนของเขาเลิกขึ้น ก่อนเขาจะยักไหล่แล้วยกมืออุ่นๆ จนทำให้ขนอ่อนลุกทั้งร่างไปจากบ่าเปลือยของหล่อนอย่างว่าง่าย
"เธอชื่ออะไร"
"มุกลดา"
เขาย่นคิ้ว...
"เรียกฉันว่าเพิร์ล ชื่อฉันมีความหมายว่าอย่างนั้นค่ะ ไม่ทราบว่าท่านต้องการดื่มเครื่องดื่มอะไรคะ"
“มาร์การิต้า"
หญิงสาวงงเล็กน้อยเมื่อเขาสั่งค็อกเทลรสยอดนิยมของผู้หญิงแทนที่จะเป็นเหล้าแรงๆ แต่ก็นั่นล่ะ บางทีพวกคนที่รวยมากๆ ก็มีรสนิยมแปลกประหลาด หล่อนจัดการกับส่วนผสมที่จัดเรียงกันเป็นอย่างดีอยู่ตรงหน้าโดยไม่ปริปากถาม
แก้วค็อกเทลวางตรงหน้าเขา นึกว่าเขาจะดื่มแต่ก็ต้องชะงักเมื่อเขาสั่งให้หล่อนรินวิสกี้เพิ่มอีกหนึ่งแก้ว หญิงสาวยิ้มให้เขา ทำตามอย่างว่าง่าย สายตาไม่ได้สนใจคนคู่อื่น เพราะสนใจงานตรงหน้าและตั้งใจจะทำให้ดี...
"เธอต้องดื่มเป็นเพื่อนฉัน มาร์การ์ริต้านั่นคือของเธอ ฉันไม่รู้หรอกว่าเธอชอบดื่มหรือเปล่า แต่ผู้หญิงที่เคยรู้จักมาทั้งหมด ก็ดื่มได้"
มือหนายกแก้ววิสกี้ราคาแพงที่หล่อนรินให้มาชูเหมือนพร้อมชนแก้วกับหล่อน... หญิงสาวเบิกตา
"ฉันไม่ดื่มค่ะ"
"เธอแพ้แอลกอฮอล์งั้นเหรอ"
อึกอักเล็กน้อย หลบตาเขาวูบหนึ่งแล้วก็พยักหน้ารับ ตอบเสียงเบา...
"ใช่ค่ะ ฉันแพ้"
"เคยมีคนบอกเธอหรือเปล่าว่าเธอโกหกไม่เก่ง ค่าจ้างของฉันมันน้อยนักหรือไง เวลาเธอจะทำอะไรให้ถึงได้ดูไม่เต็มใจสักอย่าง..."
น้ำเสียงเข้มทำให้หล่อนอึดอัดหันรีหันขวาง... หล่อนนั้นมือใหม่เหลือเกินสำหรับงานนี้... เอาใจคนไม่เก่ง พูดหวานไม่เป็น แต่ก็อยากได้ค่าตอบแทนสูงๆ ที่เขาให้...
"ฉันขอโทษค่ะ" ก้มมองมือตัวเองที่บีบกันแน่น... "ฉันไม่ได้แพ้ แต่ไม่อยากดื่มเพราะฉันคออ่อน กลัวว่าเมาแล้วจะดูแลคุณไม่ได้"
เขาฟังแล้วก็หัวเราะ...
"ช่างเถอะ ถ้าเธอจะเมาเพราะเหล้าแก้วนี้ ฉันก็ไม่ว่าหรอก ฉันเบื่อ ต้องการเพื่อนดื่มไม่ได้ต้องการคนดูแล" แก้วค็อกเทลที่มีเกลือเกาะขอบแก้วอยู่ถูกยัดเยียดใส่มือหล่อน หญิงสาวรับมาอย่างเงอะงะ ก่อนจะชนกับเขาอย่างที่เขาสั่งและจิบทีละน้อย...
ตอนเรียนชงเหล้าหล่อนต้องชิมและความคออ่อนทำให้เพื่อนต้องแบกหล่อนกลับบ้านหมดสภาพจึงพยายามจะจิบน้อยๆ แต่เควินก็สั่งแกมบังคับให้ชนแก้วบ่อยครั้งเหลือเกิน เผลอครู่เดียวเครื่องดื่มในมือหล่อนก็หมดหนึ่งแก้ว ในขณะที่หล่อนเติมให้เขาไปแล้วถึงสามแก้ว
"ฉันไม่ดื่มอีกแล้วนะคะ... เริ่มมึนแล้ว มาค่ะ ฉันรินให้คุณดีกว่า" ในขณะที่เริ่มสัมผัสได้ว่าร่างกายมีปฏิกิริยาต่อแอลกอฮอล์ หญิงสาวก็กล้าพอที่จะบอกปฏิเสธ และชวนเขาคุยเรื่องอื่น
หากแต่เควินก็แสนเอาแต่ใจ เขาบังคับให้หล่อนดื่มเป็นเพื่อนเขาไปอีกสองสามแก้ว
"ฉันต้องตายแน่ๆ" หญิงสาวพึมพำ เสียงอ้อแอ้เมื่อจิบแก้วที่สี่ แก้วที่เขาเป็นคนชงให้หล่อน เพราะหล่อนทำเองไม่ไหว หนำซ้ำมือที่ถือแก้วยังถูกประคองด้วยมืออุ่นๆ ของเขาผู้ซึ่งมานั่งแนบชิดตัวหล่อนนับแต่ดื่มแก้วที่สามหมด...
"ไม่มีใครตายเพราะเมาหรอกน่า..." เสียงกระซิบบอกอยู่ข้างหู... ลมหายใจร้อนผ่าวของเขาเป่ารินรดอยู่ข้างๆ จนต้องเอี้ยวคอหนี...
แต่ให้ตายสิ ดูเหมือนหนีเขาเท่าไหร่ก็ไม่พ้น ไปทางไหนเขาก็ตามติด จนเหนื่อย เอียงซ้ายเอียงขวาไปทางไหนเขาก็ยังรังควานในความรู้สึก
ความเมานี้มันแปลก หัวจะรู้สึกหนัก หากแต่ตัวกลับเบาเหมือนลอยได้ มือไม้ก็อ่อนแรงเหมือนว่าไม่เคยมี...
แต่ก็ยังต้องจิบเหล้า เพราะเขาคะยั้นคะยอเหลือเกิน... งานสบายเงินดีมันคงไม่มีจริง นอกจากจะลำบากใจเรื่องต้องมาบริการเครื่องดื่มแล้วยังต้องมาลำบากกายที่จะต้องดื่มเหล้าเข้าปาก หล่อนบอกกับตัวเองว่าจะรับงานนี้เป็นงานสุดท้ายแล้ว ขอออกแรงร้องเพลงให้คอแห้งแลกกับเงินอันน้อยนิดเพื่อเก็บเป็นก้อนใหญ่ยังจะดีกว่า
"ฉะ ฉันจะ ริน เหล้า ให้ นะคะ" บอกเสียงยานคาง มือเล็กๆ ที่เอื้อมจะคว้าขวดบรั่นดีที่เผลอทำหล่นพื้นไปก่อนหน้านี้สองรอบได้ถูกรวบเอาไว้โดยมือของเควิน เขาช้อนตัวหล่อนมานั่งตัก หญิงสาวตัวอ่อน และพิงแผงอกแกร่งของเขาโดยอัตโนมัติ แต่หล่อนไม่ได้อยู่นิ่งเพราะพยายามคว้าเหล้าให้เขา...
"พอเถอะ ฉันไม่อยากดื่มเหล้าแล้ว..." เควินดึงมือหล่อนมาสู่อ้อมอกแกร่งอีกครั้ง ริมฝีปากเขาแตะแก้มหล่อนยามที่กระซิบบอก มืออ่อนปวกเปียกของหล่อนปัดป้องอย่างไม่จริงจังนัก
"งั้น ก็แปลว่า จะกลับแล้ว ฉันกลับได้แล้วใช่ไหมคะ"
เอ่ยถามในตอนที่กำลังพยายามลุกหนีจากความแนบชิดที่หล่อนก็ยังไม่ได้รู้สึกว่ามันอันตราย...
คนรอบข้างที่มีแต่แรกนั้นหายไปหมด เหลือหล่อนกับเขาเพียงสองคนตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่ทราบได้สติรับรู้ของหล่อนแทบจะไม่หลงเหลือพอแล้วตอนนี้
"เอ๋... ปล่อยฉันก่อนค่ะ ห้ามจับตัวฉัน ฉันแค่ชงเหล้าให้คุณดื่มเท่านั้นนะ" เสียงบอกคนที่กำลังกอดและซบหน้าหล่อเปี่ยมเสน่ห์กับร่องอกอวบอิ่มของหล่อน...
เควินยิ้มที่ความรู้สึกของหล่อนช้าเหลือเกินที่เพิ่งจะมาสั่งห้ามเขาตอนที่หล่อนอยู่บนตัวเขาได้เป็นนาน จนเขากอดรัดฟัดเหวี่ยงกับร่างแน่งน้อยของหล่อนไปถึงไหนต่อไหน...
"ต้องย้อมใจอีกสักแก้วหน่อยไหมสาวน้อย... ถึงจะได้เลิกเล่นตัว" บอกพึมพำ ก่อนจะกระดกบรั่นดีในแก้วเข้าปากก่อนจะโน้มดวงหน้าสวยของหญิงสาวเข้าหาเขา เพื่อบรรจงจูบหล่อน ร่างบอบบางถูกรั้งให้นอนลงไปพร้อมกับบรั่นดีขมแสบร้อนคอที่ส่งผ่านเรียวปากของเขาถูกกลืนไปในลำคอจนแทบสำลัก...
หลังจากนั้น...
ความรู้สึกล่องลอยเหมือนฝันที่วาบหวามก็บังเกิด...
ผิวกายสัมผัสได้ว่ามีมือร้อนที่ไล้ลากไปตามผิวกายทุกตารางนิ้วนั้นหญิงสาวไม่ได้รับรู้ได้ชัดว่า คือความฝันหรือความจริง... รู้เพียงแต่ว่าหล่อนดิ้นพล่านเร่าร้อนทรมาน ภายใต้ริมฝีปากเจือกลิ่นแอลกอฮอล์และฝ่ามือร้อนรุ่มของเควินที่สำรวจนวดเคล้นไปทั่วทั้งกาย
จะว่าเขากำลังโรมรันหล่อนแต่มันก็ดูรางเลือนจนแทบแยกไม่ออกว่านี่คือความจริงหรือความฝันกันเเน่...
รู้แต่ว่าหล่อนกำลังเมามันและวาบหวามยิ่งกว่าเมารสเมรีเสียอีก มุกลดาภาวนาด้วยสติที่เหลืออยู่เพียงน้อยนิดว่าให้สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นนี้เป็นเพียงแค่ความฝัน แม้ความเจ็บปวดยามที่เขาทำให้เกิดบนใจกลางร่างกายสาวนั้นจะทรมานจนเหมือนจริงมากมายนักก็ตามที