Chapter 10 ช้านม่ายมาวววว
“เกรงใจจัง แต่ขอเยอะๆ เลยนะคะ หิวจนแสบท้องไปหมดแล้ว”
บัวบูชาทำหน้าละห้อย กะพริบตาปริบๆ อย่างออดอ้อน ร่างที่บัวบูชาอาศัยอยู่เป็นเซียนที่ขึ้นชื่อเรื่องความงามเหนือหล้า พอมาทำแก้มป่อง กะพริบตาโตอย่างโลกที่เธอเพิ่งจากมากำลังนิยม จึงทำให้นางกำนัลถึงกับยืนเคลิ้ม
“พะ...พระชายาทำหน้าน่ารักเหลือเกิน ถ้าองค์รัชทายาทมาเห็นต้องรักหลงมากเป็นแน่เพคะ”
“ถ้าอย่างนั้นขออาหารแบบจัดหนักเลยนะคะ” พูดพลางขยิบตา ส่งจูบ แล้วนอนเอกเขนก มือข้างหนึ่งลูบพุงไปมาอย่างรอคอย
“เพคะพระชายา”
ไม่กี่อึดใจต่อมาอาหารมากมายก็ถูกจัดเรียงละลานตา บัวบูชาน้ำตาปริ่ม ยกมือขึ้นทาบอก ก่อนจะเลื่อนขึ้นไปปิดปากที่สั่นระริกด้วยความตื้นตันใจ
“แม่จะแดกไม่ยั้งเลยคอยดู!”
หญิงสาวประกาศเจตนารมณ์อันมุ่งมั่น ก่อนจะยื่นมือไปจับไก่ทั้งตัวขึ้นมากัดกินด้วยความหิวโหย
“อื้อหืม...”
หลับตาพริ้ม ทำหน้าเคลิ้ม เมื่ออาหารรสชาติถูกปาก จนทำให้ไก่ทั้งตัวหายลงท้องในชั่วพริบตา แต่ยังไม่พอ! เธอคว้าตะเกียบคีบเนื้อปลาที่ราดด้วยน้ำซุปเหนียวข้นโรยด้วยขิงและผักอีกหลายชนิดที่เธอไม่รู้จัก จากนั้นจึงหันไปซัดหมั่นโถวอีกสองลูก
และยัง! เธอหันไปมองหม้อตุ๋นทางฝั่งซ้ายด้วยประกายตาระยับ คีบเนื้อที่ตุ๋นจนเปื่อยเข้าปากอย่างไม่รีรอ
“โอ๊ย! สวรรค์ชัดๆ นุ่มจนแทบละลายในปากโดยไม่ต้องเคี้ยว นี่เนื้ออะไรเหรอคะอร่อยจังเลย”
นางกำนัลที่ยืนตะลีตะลานด้วยความตกใจ เพราะไม่เคยเห็นพระชายาผู้เย่อหยิ่ง ตะกละตะกลามสวาปามอาหารเข้าปากดั่งยาจกเข็ญใจเช่นนี้มาก่อน ปกติแล้วท่านเซียนไป๋เหลียนมักกินเพียงผลไม้ไม่กี่ผล อีกทั้งยังไม่นิยมกินอาหารคาวครั้งละมากๆ เช่นนี้
“อะ...เอ่อ เนื้อแกะภูเขาตุ๋นเหล้าท้อเพคะพระชายา เมนูนี้ทานน้อยๆ น่าจะดีกว่านะเพคะ เพราะใส่เหล้าในปริมาณมาก”
“อร่อยมากฉันชอบบบ”
ดูเหมือนบัวบูชาจะไม่ได้ยินคำเตือน จึงยกหม้อซดจนน้ำซุปที่เข้มข้นหวานละมุนหมดหม้อ ก่อนจะสะอึกแรงจนตัวโยน อีกทั้งยังเกือบจะเรอออกมาแทบจะพร้อมๆ กัน เธอรีบยกมือขึ้นปิดปาก หัวเราะแหะๆ ด้วยความอาย
“โถวอีบัว... กินจนลืมอาย กินแบบนี้เขาก็รู้กันพอดีว่าเรายาจก”
เมื่ออิ่มแล้วจึงเห็นว่าอาหารมากมายบนโต๊ะอันตรธานหายไปแทบไม่เหลือซาก กินประหนึ่งปอบลงก็ไม่ปาน ก็แหม...เกิดมาไม่เคยกินอาหารหรู รสชาติอร่อยเหาะแบบนี้มาก่อน
บุญปากของอีบัวจริงๆ
บัวบูชาพยายามสะบัดหน้าแรงๆ รู้สึกมึนเวียนศีรษะแปลกๆ หรืออาจเป็นเพราะเธอยัดอาหารเข้ากระเพาะมากไป ร่างกายที่แสนบอบบางของเซียนท่านนี้คงต้านทานการกินราวกับผีปอบไม่ไหว จึงประท้วงด้วยการวิงเวียนมึนงง คล้ายคนเมาชอบกล
“ล้างมือก่อนเถอะเพคะพระชายา”
นางกำนัลถืออ่างไม้ลอยด้วยกลีบดอกกุหลาบและมะนาวฝานบางๆ เพื่อลดกลิ่นคาวของอาหารเข้ามา
“อยู่ที่นี่ก็ดีเหมือนกันนะ อาหารอร่อย มีคนคอยดูแล อยากได้อะไรก็แค่บอก ชีวิตดี๊ดี”
บัวบูชาหัวเราะหน้าระรื่น เมื่อล้างมือเสร็จนางกำนัลอีกคนก็รีบนำผ้าสีขาวสะอาดมาซับมือให้ทันที
เอิ๊ก! เอิ๊ก! เอิ๊ก!
บัวบูชาสะอึกรัวๆ จนนิ่วหน้า ปกติเธอจะสะอึกแบบนี้เมื่อดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ แต่นี่ก็แค่ซัดไก่ ปลา แกะ ไม่ได้ดื่มแอลกอฮอล์เลยสักอึก
‘นี่สินะ! ผลกรรมจากความตะกละตะกลาม กินไม่บันยะบันยัง’
หญิงสาวส่ายหน้า ความคิดมากมายที่วิ่งวุ่นอยู่ในสมองขี้เลื่อยเริ่มเลือนหาย เหล้าท้อทั้งหม้อที่เธอกระดกลงท้องเริ่มแผลงฤทธิ์
บัวบูชาเริ่มหัวเราะอย่างเสียสติ แค่แมลงบินผ่านยังชี้ชวนให้นางกำนัลดู แก้มแดงปลั่งราวกับแก้มเด็ก ดวงตายิ้มหยีเดินโซซัดโซเซไปทั่วห้อง
“พื้นห้องมันเอียงแปลกๆ พวกเธอเล่นมายากลอะไรอีก บอกมานะ!”
บัวบูชาโวยวาย เดินแอ่นหน้าแอ่นหลังสภาพน่าเอน็จอนาถใจ นางกำนัลทำได้เพียงถอนหายใจเฮือกใหญ่ ตั้งแต่เช้าจวบจนเพลานี้ท่านเซียนไป๋เหลียนดูทีคล้ายวิกลจริต พูดจาไม่รู้เรื่อง แถมยังมีท่าทางแปลกๆ ชอบพูดกับตนเองด้วยภาษาที่ฟังเข้าใจยาก แล้วยังดื่มเหล้าท้อจนเมามาย เช่นนี้พวกนางรับมือไม่ไหวแน่
“เจ้ารีบไปกราบเรียนองค์รัชทายาทให้รีบมาดูอาการพระชายาเถิด เดี๋ยวทางนี้ข้าจะคอยรับมือ ประวิงเวลาไปก่อน”
“ได้ ข้าฝากเจ้าด้วย”
หลานหลินรับคำพลางมองหน้าเหม่ยเหมยอย่างเห็นอกเห็นใจก่อนจะรีบสาวเท้าออกจากตำหนักมู่ชิงไปอย่างรวดเร็ว
เหม่ยเหมยสูดลมหายใจเข้าปอดลึก รวบรวมความกล้าปราดเข้าไปคว้าแขนเซียนไป๋เหลียนเอาไว้
“พระชายาเพคะ ท่านเมามากแล้ว นอนพักสักตื่นเถิดเพคะจะได้สร่างเมา”
“มาว มาวอะไรกาน ช้านม่ายได้กินเหล้าช้านจะเมาได้ยางงาย เอิ๊ก! เอิ๊ก!”
พูดไปสะอึกไปแล้วปัดมือนางกำนัลอย่างไม่ยี่หระ
“ถ้าอย่างนั้นเช็ดหน้าเช็ดตาเสียหน่อยเถิดเพคะ จะได้รู้สึกดีขึ้น” เหม่ยเหมยไม่ละความพยายาม รีบนำน้ำใส่ถังไม้ปราดเข้ามา จุ่มผ้าแพรสีขาวลงไปแล้วบิดหมาด วิ่งไล่ต้อนพระชายารอบห้อง
“ม่ายเช็ด ม่ายเช็ด”
บัวบูชาขึ้นชื่อเรื่องคออ่อนที่สุดในซอย สมัยเพิ่งแตกเนื้อสาวเธอเคยลิ้มลองสุรากับเหล่าเด็กวัดรุ่นก่อนที่พวกเขาจะแยกย้ายออกจากวัดไปมีครอบครัวกันหมดแล้ว แค่ได้จิบไม่ถึงครึ่งแก้ว ก็อาละวาดโวยวาย เพราะโดนล้อเลียนว่าเป็นแก้วหน้าม้า จึงโมโหหน้ามืดไล่เตะเด็กวัดจนวงแตก เสียงดังเอะอะมะเทิ่ง จนเจ้าอาวาสจับได้ว่ามาแอบซ่องสุมดื่มน้ำเมากันหลังป่าช้า
กลายเป็นว่าเด็กวัดทั้งกลุ่มโดนไม้เรียวฟาดก้นเรียงตัว เว้นบัวบูชาที่เจ้าอาวาสละไว้เพราะเป็นผู้หญิง แต่ท่านก็เทศน์ตักเตือนไปยกใหญ่ เรียกได้ว่าโดนเทศน์จนขี้หูเต้นระบำเลยทีเดียว
‘เป็นผู้หญิงอย่าริลองน้ำเมา เพราะมันจะนำภัยมาสู่ตนเองนะโยมบัว อาตมาขอเตือนด้วยความหวังดี’