มีงานรออยู่

1108 Words
ตอนที่5 มีงานรออยู่ การแข่งขันยังดำเนินต่อไปเรื่อย ๆ บรรดาพริตตี้เริ่มรวมตัวกันเป็นกลุ่มรอถึงเวลางานจบ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็สามารถมองเห็นพรลภัสได้อย่างชัดเจนเพราะเธอเด่นตากว่าเพื่อนที่ยืนจับกลุ่มกันมาก “จองโรงแรมหรือจะกลับกรุงเทพฯ” “ยุ่งอะไรกับกู” พิธานยักคิ้วแสยะยิ้มใส่เขาที่ยืนมองคน ๆ หนึ่งอย่างตั้งใจมาสักพัก “หิ้วกลับไปด้วยสิวะ” “มึงไม่ต้องไปยุ่งกับมันหรอก ไปที่เดิมกับกูนี่” ชนะวินทร์รู้ดีว่าที่เดิมคือที่ไหน เพราะพวกเขาจะมาที่นี่ทุกครั้งที่มีแข่ง และมีเด็กประจำอยู่จังหวัดนี้ด้วย “เออ เปิดห้องนอนที่โรงแรมกันดีกว่า ไม่กลับแม่งละเดี๋ยวโทรให้เด็กมานอนด้วย” หมอนพดลไม่ขัดขืนกับสิ่งที่อีกคนวางแผนให้เพราะไหน ๆ ก็หยุดตั้งสองวัน “ไอ้วินทร์มึงจะไปไหน” “มึงสองคนไปด้วยกัน” เขาทิ้งเพื่อนทั้งสองก่อนจะแยกตัวออกมาเมื่อเห็นว่ากลุ่มพริตตี้ในสนามกำลังสลายตัวเพราะการแข่งขันรายการสุดท้ายได้สิ้นสุดแล้ว “เป็นอะไรเห็นทำตัวล็อกแล็กตั้งแต่กลางวันละ” นาราทนท่าทางหวาดระแวงของเพื่อนไม่ได้จึงถามขึ้นขณะที่เดินกลับไปห้องแต่งตัว “ก็ที่เล่าให้ฟังเรื่องค่ารักษาของณัฐไง วันนี้เราเจอเขาที่นี่” “ห๊ะ! ไหนอะอยากเห็น” “จะอยากเห็นเขาทำไมเรายิ่งไม่อยากเจออยู่” พรลภัสกระซิบว่า ก่อนจะเดินเร็ว ๆ เข้าไปในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า ตกลงกันไว้ว่าจะหาห้องพักเล็ก ๆ นอนด้วยกันค่อยนั่งแท็กซี่กลับตอนเช้ามืด “พี่เก้าบอกว่านั่งแท็กซี่ไปอีกสองโลจะมีห้องพักคืนละห้าร้อย” “โอเค” นาราเป็นคนเปิดประตูออกไปก่อน และเธอก็เดินตามติด ๆ แต่ก็ต้องดึงเพื่อนให้หยุดฝีเท้าอยู่ด้วยกันเมื่อเห็นแผ่นหลังของคนที่เจอตอนกลางวัน และเขาก็หันกลับมาเมื่อรู้สึกว่ามีคนอยู่ด้านหลัง “ฉันมีธุระกับพรลภัส” เจ้าของชื่อรู้สึกวูบวาบอย่างบอกไม่ถูกทั้งที่ท่าทางเขาไม่ได้ดูคุกคาม นาราตัวแข็งทื่อเมื่อได้เห็นหน้าคนที่เพื่อนพูดถึงครั้งแรก ‘หล่อขนาดนี้ยังต้องซื้อผู้หญิงอีกเหรอ’ “เอ่อ...” “กลับยังไง” “คะ?” “กลับกันยังไง” “เราจะไปนอนที่ห้องพักรายวันค่ะ เช้าถึงนั่งแท็กซี่กลับ” เป็นพรลภัสที่ควานหาเสียงจนเจอ ส่วนนาราเอาแต่จะมองตาเขาผ่านแว่นจนดูคุกคาม ชนะวินทร์จึงเอากระเป๋าสตางค์ออกมาหยิบเงินให้เพื่อนของเธอสี่พันบาท “ให้นาราทำไมคะ” “คืนนี้นอนคนเดียวได้ใช่มั้ย” นารารับเงินเขามาอย่างงง ๆ ก่อนจะประมวนผลเอาทีหลังว่าเธอควรไปหาที่นอนตัวคนเดียวเพราะเขาจะเอาเพื่อนเธอไป “ดะ..ได้ค่ะ ไว้เจอกันนะ” พรลภัสเม้มปากแน่นดวงตากลมโตหลุกหลิกไปมาเมื่อเหลือตัวคนเดียวที่มีเขายืนอยู่เบื้องหน้า “ตามมา” หญิงสาวตามเขามาจนถึงรถหรูคันหนึ่ง ชนะวินทร์เข้าไปประจำตำแหน่งคนขับแต่พรลภัสยังยืนเก้ ๆ กัง ๆ ไม่กล้าแตะต้องรถของเขา “ยืนรออะไร” “คือ...ให้น้องภัสนั่งตรงไหนคะ” หญิงสาวก้มหน้าลงถามเมื่อเขาลดกระจกลง “นั่งหน้า” “ค่ะ” ชายหนุ่มขับรถออกจากสนามก็เลี้ยวเข้าโรงแรมหรูราวกับรู้แผนที่แถวนี้ดี เธอเดินตามเขาเงียบ ๆ จนแทบจะได้ยินเสียงลมหายใจ “เชิญทางนี้ค่ะคุณผู้ชาย” พนักงานสาวทำหน้าที่นำทางพาขึ้นมาอยู่ที่ชั้นเจ็ด และนำมาหยุดที่หน้าห้องหนึ่งพร้อมบริการเปิดประตูให้เสร็จสรรพ หัวใจของพรลภัสเหมือนลูกโป่งที่เต็มไปด้วยก๊าซ มันจะแตกหรือหลุดลอยก็ยังไม่รู้ เมื่อในห้องเหลือเพียงเธอกับเขาความเงียบก็เข้าครอบคลุม ชายหนุ่มนั่งลงที่โต๊ะทานอาหารเล็ก ๆ ก่อนจะวางกระเป๋าสตางค์ และถอดนาฬิกาข้อมือออกไว้คู่กัน “กินอะไรก่อนมั้ย” “น้องภัสไม่หิวค่ะ” ชนะวินทร์เหลือบสายตามองหญิงสาวร่างเพรียวบางแต่ไม่ได้ดูผอมที่สั่นเกร็งเกินเหตุ “เดี๋ยวมาไวน์มาส่ง เธอเปิดชิมก่อนได้เลย” ชายหนุ่มเดินผ่านเธอที่ยืนใจสั่นไปยังห้องน้ำ ร่างบางหันตามมองเขาอย่างเผลอไผล แต่ก็ต้องสะดุ้งเมื่อถูกสายตาคมหันกลับมามอง “หรือจะอาบด้วย?” “ไม่เป็นไรค่ะ” ซ่า... เสียงน้ำดังขึ้นไม่นานหญิงสาวก็ต้องเปิดประตูมารับเครื่องดื่มที่หน้าห้อง เธอวางมันโต๊ะที่มีของ ๆ เขาวางอยู่ไม่ได้สนใจนาฬิกาที่ไม่รู้มูลค่านั่นเลย “จะอาบน้ำก่อนมั้ย” “อุ้ย!” พรลภัสสะดุ้งหันฉับจนเส้นผมปลิวสยายตาม เขามายืนซ้อนหลังในสภาพที่สวมชุดคลุมเตรียมพร้อม และทำให้เธอกลายเป็นคนตัวเล็กขึ้นมาเพราะศีรษะอยู่แค่ระดับคางของเขา “น้องภัสขออาบน้ำค่ะ” “ให้ช่วยมั้ย” ตึก ๆ ตึก ๆ หัวใจของหญิงสาวเต้นรัวยิ่งกว่าอะไรเมื่อเขาเริ่มจู่โจมเธอด้วยคำพูด ชนะวินทร์หันไปนั่งรินไวน์ดื่มเธอจึงสวนเข้าไปอาบน้ำ และใช้เวลาถึงครึ่งชั่วโมงกว่าจะออกมาในชุดคลุมสีขาวเหมือนกันกับเขา…ไวน์ก็พร่องไปเกินครึ่งแล้ว “มานั่งนี่” ชายหนุ่มตบมือบนหน้าตักบอกที่ ๆ เธอควรใช้มันแทนเก้าอี้ พรลภัสก็ทำตามอย่างว่าง่าย และตัวสั่นสะท้านหนักจนอีกคนรู้สึก “กลัวฉันเหรอ” ชนะวินทร์กระซิบถามข้างแก้มเนียน และมันทำให้หญิงสาวลอบกลั้นหายใจ “ทำตัวตามสบายสิ ฉันไม่ชอบขืนใจใครนะ” “น้องภัส…ตื่นเต้นค่ะ” “ทำเหมือนตัวเองเพิ่งอายุสิบห้าไปได้” “คุณวินทร์อายุเท่าไหร่เหรอคะ” พรลภัสรวบรวมความกล้าถาม นอกจากชื่อก็ไม่รู้อะไรในตัวเขาเลย “สามสิบเอ็ด” “…” ร่างบางบนตักนิ่งกริบเพราะกำลังคำนวณระยะห่าง 'แก่กว่าเธอตั้งสิบปีแหนะ' “คิดว่าฉันแก่หรือไง ฉันแค่แก่กว่าเธอเท่านั้น” พูดจบก็จรดแก้วไวน์ของตัวเองบนกลีบปากของหญิงสาว เธอดูลังเลแต่ก็ยอมกลืนน้ำรสชาติละมุนที่สุดตั้งแต่เคยดื่มไวน์มา “อย่าเมา มีงานรอเธออยู่”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD