ตอนที่7 ผู้หญิงของฉัน
หญิงสาวกอดตัวเองในชุดคลุมแน่นเดินออกมาจากห้องน้ำหลังเข้าไปทำใจนานหลายสิบนาที คนที่เพิ่งทำเรื่องแบบนั้นกับเธอกำลังคุยโทรศัพท์กับใครสักคนเสียงติดความเย็นชา ก่อนที่สายตาคมเข้มนั้นจะมองมาที่เธอ
“อืม” ชนะวินทร์วางสายเมื่อเห็นหญิงสาวยืนอยู่ เธอเอาสายตาไปมองทุกอย่างยกเว้นเขา ต่างฝ่ายต่างเงียบนานนับนาทีเสียงหวานจึงเอ่ยขึ้น
“คืนนี้...น้องภัสกลับได้เลยมั้ยคะ”
“ไหว?” พรลภัสพยักหน้าทั้งที่ยังไม่เจ็บแสบใจกลางความสาวไม่หาย แต่คิดว่าคงจะไหวอยู่
“เตียงตั้งกว้าง ฉันไม่ใจดำขนาดนั้นหรอก”
“...”
“ไปนอนสิ หรือจะทำต่อ” ร่างบางยิ่งกำชับชุดคลุมแน่นกว่าเดิมเมื่อเห็นสายตากวาดมองเรือนร่างของเธอที่ไม่ได้ล่อแหลมเลยสักนิด พรลภัสยืนคิดอย่างช่างใจจนเสียงทุ้มต่ำดังขึ้นกดดันอีกรอบ
“เอาไง ต่อมั้ย”
“น้องภัสนอนก็ได้ค่ะ” ชนะวินทร์คลี่ยิ้มเมื่อเป็นผู้ชนะ หญิงสาวขึ้นไปนอนบนเตียงที่เขาเพิ่งใช้มันเป็นสนามเชือด ชายหนุ่มทิ้งไวน์ก้นขวดให้อยู่อย่างนั้นก่อนจะเอาตัวเองขึ้นไปอยู่บนเตียงเดียวกันกับเธอ
ดวงตากลมโตลืมขึ้นมองเขาเล็กน้อยก่อนจะแสร้งทำเป็นหลับลงเมื่อเห็นท่อนบนที่เปลือยเปล่าอยู่ใกล้หน้า
“เธอคงไม่ได้หลับจริง ๆ”
“…”
“แย่เลยที่ฉันต้องทำมันทั้งที่เธอหลับ”
พรึ่บ
พรลภัสลืมตาขึ้นเมื่อถูกจับให้นอนหงาย เขาไม่อธิบายเป็นคำพูดว่าทำไมถึงทำแบบนี้ แต่บอกเธอด้วยการกระทำที่เริ่มใช้นิ้วซุกซนกราดกรายกลางร่องแดงเถือกจากฝีมือของแท่งเนื้อที่ขนาดมันไม่เหมาะกับคนตัวเล็ก ๆ อย่างเธอ
“คุณจะใช้งานน้องภัสอีกกี่ครั้งเหรอคะ อ๊า...”
“บอกไม่ได้เหมือนกัน”
“คุณวินทร์คะ…” เธอเอ่ยชื่อเขาแผ่วเบาเมื่อกลีบปากหนาหยักสวยได้รูปขยับมาใกล้กับเรียวกับปากของเธอ ลมหายใจเขาเริ่มถี่มากขึ้นไม่ต่างกับตอนที่ทำกันก่อนหน้านี้
“อีกรอบเถอะนะพรลภัส”
“น้องภัส…”
“ถ้ายังไม่ไหวก็ทำมันด้วยปากสิ ทำให้ดีกว่าตอนแรก” เขาไม่บังคับ ออกจะอ้อนวอนเธอเสียด้วยซ้ำ มือหนาเริ่มเลื่อนชุดคลุมออกจากลาดไหล่มนและตามด้วยไล่สัมผัสด้วยลิ้นอุ่นร้อนแตะตามผิวของเธอเบา ๆ เขาชอบกลิ่นหอมอ่อน ๆ ของครีมอาบน้ำบนเนื้อตัวหญิงสาวจนแทบอยากจะกัดด้วยความมันเขี้ยว เมื่อใบหน้าคมคายอยู่เสมอระดับเดียวกับยอดอกเต่งตึงชายหนุ่มก็ไม่ลังเลที่จะตวัดปลายลิ้นถี่ ๆ แต่กลับบดขยี้อีกฝ่ายให้อ่อนยวบราวของแข็งที่กลายเป็นของเหลวในชั่วพริบตา
“อ๊า…คุณวินทร์…”
แทนที่ผู้หญิงที่จ่ายเงินซื้อมาควรจะปรนเปรอให้เขา กลายเป็นชนะวินทร์ต้องตักตวงหาความสุขจากเธอเสียนาน ๆ จะเจอของใหม่แกะกล่อง เขาก็ไม่ติดอะไรที่ต้องนำพาคนไม่เป็นงานให้ถึงปลายทางด้วยกัน...ครั้งแล้วครั้งเล่าให้สมกับที่ไม่ได้ปล่อยมาหลายวัน
.....
เช้าวันใหม่
ชนะวิทร์แต่งกายด้วยชุดเดิมเรียบร้อยยืนสวมนาฬิกาข้อมือตรงโต๊ะที่เขานั่งดื่มไวน์เมื่อคืน ส่วนพรลภัสนั่งจ้องหน้าจอมือถืออย่างใส่ใจเกินเหตุเหมือนกลัวว่าจะบังเอิญมาจ้องตากับเขาเข้า
“กลับยังไง”
“เดี๋ยวนารานั่งแท็กซี่มารับค่ะ”
“เพื่อนชื่อนารา?” หญิงสาวพยักหน้าหงึก ก่อนจะแอบชำเลืองช้อนสายตาขึ้นมองแต่ก็ต้องก้มหลบอีกครั้งเมื่อปะทะกับดวงตาคมเข้มเข้าอย่างจัง
“เป็นอะไร”
“เปล่าค่ะ”
“เธอไม่ได้มีคนรักอยู่ใช่มั้ย” ‘ถามหลังจากที่ขึ้นเตียงกันไปแล้วเนี่ยนะ’ พรลภัสแอบคิดในใจ ซึ่งเธอก็ควรสงสัยเขาก่อนจะเกิดเรื่องเหมือนกัน
“คุณวินทร์...”
“ถ้าฉันอยากให้เธอรู้จักฉันแค่ไหน จะพูดเอง” หญิงสาวที่ต้องรวบรวมความกล้าที่จะถามกลายเป็นต้องกลืนคำถามลงคอเพราะถูกสะกัดไว้แล้วเรียบร้อย
“แต่ฉันต้องรู้จักเธอ”
“น้องภัสยังไม่ได้มีแฟนค่ะ”
“ยังไม่ได้มีก็ดี และมันต้องเป็นแบบนั้นระหว่างที่เธอยังเป็นของฉัน” หัวใจของพรลภัสเหมือนตกจากตึกสูง คำว่าของฉันนั้นมันมาจากการที่เขาซื้อเธอ...
“งานที่ทำได้เงินเดือนเท่าไหร่”
“น้องภัสไม่มีเงินเดือนค่ะ แล้วแต่ว่าเดือนไหนรับกี่งาน”
“เฉลี่ยแล้วเดือนละเท่าไหร่”
“สามหมื่นค่ะ” พรลภัสก้มหน้าตอบ ถึงเขาจะดูนิ่ง ๆ แต่เธอดันคิดว่ากำลังถูกเขาดุ โดยที่เจ้าตัวเขาเองก็ยังไม่รู้ว่าไปทำอะไรให้เธอกลัว
“เมื่อคืนฉันซาดิสม์กับเธอเหรอพรลภัส”
“ไม่ค่ะ”
“แล้วกลัวอะไรฉัน” หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมองเขาเต็ม ๆ ตาเป็นครั้งแรกของเช้านี้ เขายังโชว์แผงอกที่ไม่ได้ติดกระดุมเสื้อเชิ้ตปิดมันเสียที
ติ๊ง
“รออยู่หน้าโรงแรมแล้วนะ”
“เพื่อนมารอแล้วค่ะ”
“อืม” เขาตอบรับสั้น ๆ ก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้ พรลภัสจึงทำตัวลีบ ๆ เดินออกมาจากห้องที่อยู่ด้วยกันมาทั้งคืน ต้องทำตัวปกติให้ได้แม้ว่าขาจะแอบสั่นระริก
“ภัส! ทางนี้” นาราเลื่อนกระจกของรถแท็กซี่ลงเพื่อเรียกเธอที่ยังเดินอย่างมึน ๆ งง ๆ ออกมาจากโรงแรม มันจุกกลางลำคอ มันหน่วงใจอย่างบอกไม่ถูก
นาราไม่ถามถึง เธอก็ไม่อยากพูดถึง ใครจะอยากพูดเรื่องแบบนี้ของตัวเอง...
ติ๊ง
Chanawin เพิ่มคุณเป็นเพื่อนจากหมายเลขโทรศัพท์...
แค่เสียงแจ้งเตือนเบา ๆ ก็ทำเอาพรลภัสสั่นหวิว ให้เธอรู้จักได้เท่าที่เขาอยากให้รู้จัก แต่ทำไมเหมือนเขาจะรู้จักเธอมากมายถึงมีได้เบอร์มือถือแล้วเพิ่มเพื่อนไลน์เข้ามา
“ฉันเอง” มือเผลอไปกดอ่านอย่างไม่ได้ตั้งใจ ขณะที่เธอว้าวุ่นแต่อีกคนกลับเรียบนิ่งเหมือนรูปปั้นหินไร้ชีวิตจิตใจ
.....
“มึงอยู่ที่ไหนครับเพื่อน”
“โรงแรมแกรนด์”
“อ่อ ที่เดียวกันกูอยู่ชั้นสิบเอ็ดมึงอยู่ชั้นไหน”
“มีอะไร”
“เอ้า ก็ไม่กลับกรุงเทพฯหรือไง หรือมึงยังกกน้องพริตตี้คนนั้นไม่หายอยาก” เขาถอนหายใจเพราะไม่ชอบให้ใครพูดถึงเรื่องส่วนตัวแม้จะเป็นเพื่อนที่สนิทกันมาเกินครึ่งชีวิต
“ทำไมมึงไม่กลับพร้อมไอ้หมอ”
“ไอ้หมอมันไปตั้งแต่ตีสี่ใครจะตื่นทัน กว่าจะได้นอนก็ตีสามเข้าไปแล้วมาทั้งทีต้องเอาให้คุ้มสิวะ”
“อืม งั้นมึงก็อยู่ที่นี่ให้คุ้มไปเลย”
“เดี๋ยว! ไอ้วินทร์มึงอย่าทิ้งกู!” เขาตัดสายพร้อมกับบล็อกเบอร์พิธานชั่วคราวเพื่อสั่งสอนที่มันบังอาจอุ้มเขามาที่นี่ด้วย ถึงแม้รถที่เขาขับกลับจะเป็นรถของมันเอง