วันนี้ฉันมาทำงานที่รักและมีความสุขกับมันมาก~ มีความสุขสุด ๆ เพราะวันนี้โชคดีพี่เอเจนซี่ใจดีเห็นความสามารถจนยื่นงานใหญ่ให้ฉัน ปกติก็เป็น MC ต๊อกต๋อย เป็นเบอร์เล็ก ๆ ตามไซต์นั่นแหละมั้ง ฮ่า ๆๆ แต่เมื่อวานช่วงบ่ายก่อนหน้าแม่ซีแนมคนงามจะเข้ามาวีนพี่เอเจนซี่ก็โยนงานใหญ่มาให้ฉันตอนแรกก็ดีใจมากแต่พอรู้ว่าปาดหน้าเอางานยัยซีแนมมาฉันก็เซ็งนิดหน่อยเพราะเดี๋ยวนางต้องไปป่าวประกาศไปทั่วว่าอีเพลงแย่งงานแน่นอน และถึงแม้ใคร ๆ จะรู้ดีว่ามันไม่จริงแต่ฉันก็รู้สึกรำคาญอยู่ดี
เพลงเป็นคนค่ะไม่ใช่แม่ชี และไม่ใช่นางเอกแสนดีอะไรทั้งนั้น เป็นแค่คนคนหนึ่งที่รัก โลภ โกรธ หลง มีอารมณ์กับทุกสิ่งที่เข้ามาสร้างความวุ่นวายในชีวิต
จริงสิลืมแนะนำตัวใช่ไหมคะ ฮายค่ะซิส~ น้องชื่อเพลงขวัญนะคะ เป็นนักศึกษาปีสี่ เป็นคนสวยและรวยอารมณ์ ไม่ใช่รวยอารมณ์ขันนะคะรวยหลายอารมณ์ต่างหาก แหะ ๆ ฉันเป็นสาวสวยหวานลูกครึ่งพะเยา-ระยอง พ่อพะยองแม่ระเยา บ้า! ฮ่า ๆๆ แม่เป็นคนพะเยา พ่อเป็นคนระยองค่ะ ^^
อันที่จริงบ้านฉันก็พอมีกินมีใช้ไม่ขัดสนแต่ก็อยากมีเงินใช้แบบสบายใจไม่ต้องคอยแบมือขอเงินพ่อแม่ฉันก็เลยมาเป็นพริตตี้ตามคำชักชวนของเพื่อน เพลงเป็นคนสวยค่ะแต่ยังเกรงใจพ่อแม่ก็เลยไม่ค่อยสู้กับหลาย ๆ งานที่ต้องโชว์เนื้อหนังมังสาจนเกินงาม เป็นพริตตี้ตั้งแต่ปีสองเทอมสองจนตอนนี้เรียนปีสี่เทอมสองแล้วก็ยังคงเป็นพริตตี้โนเนมอยู่เหมือนเดิมทั้งที่เพื่อนร่วมอาชีพที่เริ่มทำงานพร้อมกันเขาได้ดิบได้ดีกันหมดแล้ว
“พร้อมไหมเพลง” พี่สตาฟเดินเข้ามาเรียกฉันก็เลยพยักหน้ารับแล้วก็รีบลุกขึ้น ได้เวลาเริ่มงานแล้วค่ะเพลงขวัญ หลังจากเป็นพริตตี้ MC งานอีเว้นท์เด็กมานานวันนี้ได้เป็นพริตตี้ MCงานใหญ่กันสักที ไปค่ะเพลงขวัญไปแจ้งเกิดกันดีกว่า!
ฉันขึ้นไปทำหน้าที่ได้อย่างไม่มีติดขัดเพราะเมื่อวานทำการบ้านมาอย่างหนักแล้ว แต่! สิ่งที่ทำให้งานของฉันแทบจะล้มเป็นเพราะผู้บริหารของที่นี่ต่างหากค่ะ หล่อมาก ขาวมาก ออร่ามากเวอร์ด้วยทำฉันตะลึงไปเกือบสามสิบวินาที ติดแค่หน้าเขาดูไม่ค่อยเอ็นจอยกับการที่มีน้องเพลงยืนอยู่บนเวทีก็เท่านั้น ซึ่งฉันก็ดูงง ๆ กับท่าทางของเขานะ แต่ก็ช่างเถอะบางทีเห็นหล่อ ๆ แบบนี้แต่เมินคนสวยได้น่าตาเฉยก็คงไม่พ้นเป็นเพื่อนสาวนั่นแหละ แก้มป่อง ๆ ของเขามันเหมาะกับการเป็นสาวน้อยอยู่เบา ๆ เหมือนกัน อิอิ
หลังจากดำเนินงานไปเรื่อย ๆ ทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดีตอนนี้งานก็เลิกเรียบร้อยแล้ว ฉันเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้วแต่กำลังพักเหนื่อยอยู่ วันนี้ใส่รองเท้าคู่ใหม่แล้วมันกัดเท้าเลยยังไม่อยากเดินออกไปขอนั่งพักก่อนสักนิดเพราะอย่างน้อยด้านนอกก็ยังมีพี่ ๆ ทีมงานจัดอีเว้นท์กำลังจัดการเคลียร์สถานที่อยู่
ฉันนั่งจนอาการดีขึ้นก็เลยเดินเลี่ยงออกมาด้านหลังโชว์รูมเพราะท่าทางวันแกรนด์โอเพนนิ่งแบบนี้จะมีลูกค้าที่ยังดูรถต่อเยอะพอตัว อย่าไปเกะกะด้านหน้างานรบกวนลูกค้าคือสิ่งที่ดีที่สุด
“ไงครับคุณ MC” หือ? เสียงหล่อที่ดังขึ้นมาทำให้ฉันหยุดชะงักระหว่างทางที่จะออกไปประตูด้านหลังโชว์รูม เสียงคุ้น ๆ เหมือนเพิ่งได้ยินและพอเห็นกลับไปมองที่ต้นเสียง คุณพระ! คุณฟรังซ์สุดหล่อคนนั้นที่เพลงค่อนข้างมั่นใจว่าเขาจะต้องเป็นอาเจ้แน่นอนกำลังยืนมองเพลงอยู่
“สวัสดีค่ะ” ฉันหันไปทักทายด้วยความงงเพราะไม่รู้ว่าควรจะทักทายเขาว่ายังไงดี ไม่รู้จักกันนี่คะ แต่ทำไมสายตาที่เขามองมาที่ฉันมันแปลก ๆ เหมือนกำลังเหยียดยังไงชอบกล หรือว่ายัยเจ้ฟรังซ์นางหมั่นไส้ความงามของน้องเพลงเหรอคะซิส?
“ทำไมถึงได้มาเป็น MC งานนี้” อืม~ พูดจาโคตรไร้หางเสียง เป็นเกย์ที่ทรามเรื่องมารยาทมาก
“มีความสามารถมั้งคะพี่ที่เป็นออแกไนซ์ก็เลยเลือกมาทำ วันนี้ฉันทำหน้าที่ไม่สมบูรณ์เหรอคะ” ฉันตอบกลับและถามออกไปตรง ๆ เพราะพี่ทีมออแกไนซ์บริษัทนี้ชมฉันเยอะมากก็เลยค่อนข้างมั่นหน้าว่าทำงานดี เพราะถ้าไม่ดีพี่เขาก็เรียกไปติตรง ๆ ต่อหน้า ช่วงแรกที่เข้ามาทำงานฉันเคยร่วมงานกับบริษัทนี้ค่ะโดนเรียกไปดุหนักเลยล่ะ บอกตรง ๆ ว่าหลอนจนไม่กล้ารับงานเป็นเดือน ๆ
“มีความสามารถ? อื้มมีจริง ๆ นั่นล่ะ” เขาหรือเธอคนนี้กำลังตั้งใจจะมาคุยอะไรกับอีเพลงขวัญกันแน่คะ แต่ที่แน่ ๆ ฮีหรือชีไม่ได้มาดีชัวร์
“คุณ...มีอะไรก็พูดตรง ๆ ดีกว่าค่ะ อย่าอ้อมเลยฉันทำอะไรให้คุณไม่พอใจรึเปล่าคะ ถ้าการทำหน้าที่ของฉันวันนี้มันดีไม่พอฉันก็พร้อมรับคำตำหนิจากลูกค้าค่ะ” ฉันไม่ใช่คนใจเย็นแล้วก็ไม่ใช่คนชอบการอ้อมค้อมสักเท่าไหร่พอเจอใครที่ทำท่าเหมือนจะมาร้ายฉันก็เลยไม่คิดที่จะไม่อ้อมค้อมอ้อมโลกเหมือนกัน
“ไม่มีอะไรหรอกผมแค่จะมาชมที่คุณทำงานได้ดีมาก” เขายืนเอามือล้วงกระเป๋าแล้วก็ชมฉันแบบ...นี่หรือคือคำชม?
“ขอบคุณค่ะ” แต่ถึงยังไงเขาก็เป็นลูกค้านี่คะ ลูกค้ามาชมฉันก็แค่ขอบคุณก็คงจบใช่ไหมล่ะถึงแม้ว่าเขาจะชมพร้อมกับเบ้ปากเหยียดนิด ๆ ก็ตามเถอะ
“แต่จะดีกว่านี้ถ้าได้งานมาโดยที่ไม่ได้ไปแย่งงานของใครมาด้วยวิธีการ...” เฮ้อ! ว่าแล้วว่าท่าทางฮีหรือชีคนนี้มันดูแปลก ๆ คงรู้จักกับยัยซีแนมมาก่อนสินะ
“แย่งงานเหรอคะ อืม แล้วซีแนมบอกคุณรึเปล่าคะว่าฉันใช้วิธีไหนแย่งงานยัยนั่นมา” ถึงจะเป็นลูกค้าก็ตาม แต่อีเพลงคนนี้ก็ไม่ได้โง่ยอมให้ลูกค้ามาว่ามาดูถูกได้ตามสันดานหรอกนะ ลูกค้าที่ปิดจ๊อบไปแล้วก็คือคนธรรมดาบนโลกใบนี้นั่นแหละ ถ้าอยู่ดี ๆ ก็มากัดเราก็แค่เอาไม้หน้าสามไล่ฟาดปากให้สิ้นเรื่อง
“เธอรู้ไหมว่างานนี้ฉันบรีฟเองว่าให้เอาซีแนมเป็น MC แต่สุดท้ายซีแนมกลับโดนปลดทั้งที่อีกแค่วันเดียวก็ถึงวันงาน”
“เฮ้อ! ติ่งร่องนมของซีแนมนี่เอง” ฉันฟังเขาพูดจบก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่ด้วยความรำคาญ
“เธอว่ายังไงนะ?” เขาขยับตัวมาใกล้ฉันแล้วก็ถามเสียงแข็ง
“บอกว่า ติ่ง ร่อง นม ของ ซี แนม ค่ะ” ฉันย้ำคำพูดให้ฟังชัด ๆ จนไอ้คุณฟรังซ์ที่ตอนนี้เพลงขวัญมั่นใจแล้วว่าเป็นบอยไม่ใช่ยานแม่แน่นอนได้ฟังแล้วเลือดขึ้นมาแบบที่เห็นได้โคตรชัด
“เธอเก่งฉันยอมรับ แต่ใช้เส้นเจ้าของบริษัทแย่งงานคนอื่นมันไม่โอเคว่ะเพลงขวัญ” เขาพูดแล้วก็มองเหยียดฉัน แต่พูดว่ายังไงนะ ใช้เส้นเจ้าของบริษัทแย่งงานคนอื่นงั้นเหรอ อีซีแนม! อีคนหน้าด้านใส่ร้ายคนอื่นได้ไม่อายปาก! นี่ก็ไม่รู้ว่ายัยนั่นไปใส่ไฟอะไรฉันอีก
“ทีหลังถ้ากลัวแฟนโดนแย่งงานก็จัดการเองสิคะ จัดงานเองไปเลยไม่ต้องจ้างบริษัทให้เขาทำให้ แฟนคุณจะได้ไม่โดนปาดหน้าเค้กไง” ฉันตอกกลับแล้วก็หมุนตัวกลับเพราะขี้เกียจต่อล้อต่อเถียงคนยิ่งเหนื่อย ๆ อยู่ด้วย ไหนจะรองเท้าส้นสูงที่ใส่อยู่มันก็โคตรกัดเท้าเลย กัดจนหนังจะเปิดอยู่แล้ว
“ว้าย!” ฉันหันหลังแค่แป๊บเดียวยังไม่ทันก้าวเท้าเดินหนีเขาก็จับไหล่แล้วดึงฉันให้หันกลับไปเผชิญหน้ากับเขาจนฉันเสียหลักแทบล้มลงไปกองที่พื้น แล้วมันก็ทำให้ข้อเท้าฉันพลิกนิดหน่อยถึงจะไม่ถึงขั้นเท้าแพลงแต่มันก็แรงพอที่จะทำให้ขอบรองเท้าที่กัดส้นเท้าถูแผลเดิมจนฉันคิดว่ามันเป็นแผลหนักกว่าเดิมแล้วแน่นอน
“เธอแม่งโคตรน่าด้านเลยว่ะ เป็นเด็กเสี่ยเงินมันไม่พอใช้เหรอฉันได้ข่าวว่าไอ้พอร์ชมันเลี้ยงเด็กมันดีทุกคนนี่ ไม่น่าจะปล่อยให้ขัดสนจนต้องมาแย่งงานคนอื่นแบบนี้” โอ้โห! มีคุณพอร์ชมาเกี่ยวข้องด้วย อีซีแนม~ มึงลากยันเจ้าของบริษัทออแกไนซ์มาเล่นงานกูเลยเหรอ ไอ้คนตรงหน้านี่ก็บ้าบอไปเชื่อทุกคำพูดของยัยร่องลึกนั่น!
“หืม~ คุณนี่นอกจากจะติ่งร่องนมได้ไร้สติมากก็ยัง...โคตรโง่อีกนะคะ”