HAWK ON
Rrrrr
“อืมม ใครวะโทรมาตอนนี้”
โทรศัพท์แม่งมีตีนเดินได้หรือไงวะผมถึงหยิบแม่งไม่เจอซะที
(กูเอง!! หายหัวไปจะสองเดือนแล้วนะ
งานมึงไม่มีทำหรือไง!!) แม่งเอ๊ย!
ไม่น่ารับสายเลย วางสายตอนนี้ก็ไม่ทันแล้วด้วย
“กูลาไว้ไงมึงจำไม่ได้เหรอครับเจ้านาย” ผมหันไปมองนาฬิกาที่ข้างฝาก็ปรากฏว่ามันตีสองกว่านี่มันจะโทรมาปลุกผมทำห่าอะไรวะเนี่ย
...เมียก็มีแล้วยังจะมาวุ่นวายอะไรกับเขาอีก
(มึงลาแค่เดือนเดียว!! ...แรดไปแดกเหล้าไกลนักนะ)
“หึ! แต่กูไม่ลามาสิบปี!! ...แล้วมึงรู้เรื่องกูได้ไงไอ้บาร์ตันบอก?”
(มึงไม่ลาเองช่วยไม่ได้ ...มึงเจอมันด้วยเหรอ? ฝากบอกมันให้กูด้วยว่าเมียมันจะมีผัวใหม่แล้ว) น้ำเสียงไม่เดือดร้อนอะไรของสิงห์นี่มันทำให้ผมหงุดหงิดอยู่ไม่น้อยเหมือนกันนะ
“ไม่ฝาก! ไม่ใช่ธุระกู”
(เรื่องไอ้บาร์ตันแล้วแต่มึง ...แต่เรื่องนี้มึงต้องทำพ่อกูสั่งมา) ให้ตายเถอะว่ะ เข้าใจคำว่าลาพักร้อนกันมั้ยวะเนี่ย!!!!!
แต่ผมบ่นไปก็เท่านั้นเพราะยังไงก็ต้องทำอยู่ดี
...ไม่ใช่ไม่อยากทำนะแต่ผมแค่อยากมีชีวิตส่วนตัวสักครั้งก่อนจะกลับไปวนลูปเดิมกับไอ้สิงห์น่ะ
“งานอะไรก็บอกเลยเหอะ กูง่วงจะตายห่า”
(ไม่ได้ฆ่าใครหรอก ...แค่ไปงานเลี้ยงของบ้านมาเฟียท้องถิ่นแถวที่มึงอยู่นั่นแหละ
พ่อกูอยากให้ไปดูลาดเลาว่าพวกพันธมิตรเขาจะมางานนี้กันหรือเปล่า)
“คุณท่านกลัวโดนหักหลัง?” ผมพอเข้าใจนะถ้าท่านกลัวเพราะเจ้าของโรงฝึกนักฆ่าที่มีอิทธิพลขนาดนี้ย่อมตกเป็นเป้าของคนที่อยู่ต่ำกว่าเป็นธรรมดา
(ไม่เชิงหรอก ...เอาเป็นว่างานจะเริ่มในครึ่งชั่วโมงชุดมึงแขวนอยู่หน้าห้อง
...บาย)
“เดี๋ยว!! เฮ้ยย
วางสายเร็วเกินไปป่ะวะ แล้วงานเลี้ยงห่าอะไรมาจัดตอนตีสองวะเนี่ย
ว่างมากมั้ง” ผมได้แค่บ่นเท่านั้นแหละครับพอถึงเวลาจริงๆก็ต้องทำอยู่ดี
...นี่วันพักผ่อนที่สงบสุขจริงๆ!!!!
HAWK OFF
NUB ON
“คุณหนูครับเชิญที่ห้องจัดเลี้ยงครับ” ตามทางเดินมีแต่ลูกน้องของริโอยืนคุมอยู่เกือบยี่สิบคน
ทางหนีไฟก็ปิดไว้ชั่วคราว
...ไม่ใช่เพราะกลัวใครมาทำร้าย
แต่ปิดไว้เพราะกลัวฉันหนีมากกว่า!!
“เธอสวยนะตอนที่ใส่ชุดนี้” บางทีฉันก็อยากจะไม่สนใจคำพูดชมของพี่ชายฉันบ้างนะ
เขาเอาแต่พูดอะไรที่มันทำให้ฉันรู้สึกว่าเราไม่ใช่พี่น้องกัน
“ถ้าไม่หยุดพูดนับจะได้กลับขึ้นไปบนห้อง ...โอ๊ย ปล่อยแขนเดี๋ยวนี้นะ”
แทนที่ริโอจะทำตามที่บอกเขากลับเอาแขนฉันไปคล้องแขนตัวเองไว้แล้วพาเดินเข้างานแบบหน้าด้านๆ
“ผู้หญิงของพี่อยู่ข้างหลังโน่น ปล่อยแขนนับเดี๋ยวนี้นะ”
“ผู้หญิงของพี่มีแค่เธอเท่านั้น” ให้ตายสิ คำพูดหวานเลี่ยนกับสายตาหวานเยิ้มนั่นมันอะไรกัน
น่าขนลุกเกินไปแล้ว
“อย่าพูดแบบนี้นับไม่ชอบ!”
“หึ อีกหน่อยก็ชิน” ริโอพูดไว้แค่นั้นก่อนจะลากฉันเข้าไปในงานแล้วพาไปแนะนำตัวกับคนแปลกหน้าที่เธอไม่เคยรู้จักแม้แต่คนเดียว
“สวยอย่างที่ร่ำลือเลยนะคะ ...ยินดีด้วยนะจ๊ะ”
“สวยแบบนี้มิน่าไม่มองสาวอื่นเลย ...ยินดีด้วยนะครับ”
“พวกคุณยินดีกันเรื่องอะไรคะ?” ฉันถามโพล่งออกไปเพราะความคาใจมันเยอะมาก
ริโอเองก็ไม่ยอมอธิบายอะไรให้ฉันฟังเลย
“ก็งานหมั้นของพวกคุณทั้งคู่ไงครับ” เหมือนฟ้าผ่าลงที่กลางหัวของฉันตัวมันชาวาบ ก่อนที่ฉันจะรู้ตัวฉันก็วิ่งหนีออกมายืนอยู่ที่หน้าห้องน้ำ
“แฮ่กๆ เรื่องบ้าอะไรเนี่ย”
หมับ!
“เธอวิ่งหนีมาทำไม?” ริโอคว้าแขนฉันให้หันไปคุยกับเขา
แต่ตอนนี้ฉันเองยังไม่รู้ว่าจะต้องเริ่มคุยจากตรงไหน
...ในเมื่อคนที่ฉันคิดว่าเขาเป็นพี่ชายมาตลอดยี่สิบปีจะอยากให้ฉันเป็นภรรยาของเขา!!
**พรึ่บ**
“อย่ามาจับ! ...อธิบายเรื่องเมื่อกี้มาเดี๋ยวนี้นับไม่เข้าใจพี่ริโอกำลังทำอะไรกันแน่”
สิ่งเดียวที่ฉันอยากจะให้เขาทำตอนนี้คือขอโทษและบอกว่ามันคือเรื่องจัดฉาก
แต่สิ่งที่เห็นตรงหน้าคือแววตาของผู้ชายคนนึงที่เปลี่ยนไป
เขาไม่ได้มองฉันในฐานะน้องสาวอีกต่อไปแล้ว
“...ตั้งแต่เมื่อไหร่ พี่คิดแบบนั้นกับนับตั้งแต่เมื่อไหร่” ฉันถามออกไปเสียงแผ่วเบาก่อนจะจ้องลึกไปในตาของริโอ
“ตั้งแต่แรก ...พี่ไม่เคยคิดว่าเธอเป็นน้องตั้งแต่แรก
ทำดี ดูแล
ให้ทุกอย่างแต่เธอไม่เคยเห็นพี่อยู่ในสายตาเลยสักครั้ง
...พี่ไม่ดีตรงไหนเหรอถึงรักพี่อย่างที่ผู้หญิงจะรักผู้ชายคนนึงไม่ได้”
น้ำเสียงของริโอทั้งอ้อนวอนและท้อใจ
“พี่คิดแบบนี้ได้ยังไง ...เราเป็นพี่น้องกันนะ!
ไม่ว่ายังไงนับก็ไม่ยอมให้พี่มาทำเรื่องทุเรศแบบนี้เด็ดขาด!!”
ฉันตะโกนใส่หน้าเขาไปพร้อมกับผลักให้ริโอพ้นทางก่อนจะหาทางหนี
“เธอไม่มีทางหนีฉันพ้นหรอกนับ!!! ไม่มีวัน!!!” เสียงประกาศิตตะโกนไล่หลังตามมาแต่ฉันไม่เสียเวลาที่จะหันไปมองแน่ๆ
ถ้าเผื่อเขาวิ่งตามมาทันฉันก็ต้องซวยสิ
ผลัก! ตุ้บ!
“โอ๊ย!! / โอ๊ย!!”
เวลารีบๆแบบนี้ยังจะมาซุ่มซ่ามอีกนะนับ!!
“ขอโทษค่ะ ฉันขอโทษ”
ฉันช่วยพยุงเขาให้ลุกขึ้นก่อนจะรวบชุดกรุยกรายของตัวเองอุ้มไว้
เพราะที่ชนกับเขาเมื่อกี้ก็เพราะสะดุดไอ้ชุดบ้านี่แหละ
“ระวังหน่อยดิวะ ...เธออีกแล้วเหรอเนี่ย!”
หะ! เขาเป็นใครอีกเนี่ย แล้วชี้หน้าฉันแบบนี้รู้จักฉันด้วยเหรอ
“ทางไหนวะ! ตามหาให้ทั่ว”
ตายแล้ว!! เสียงของพวกลูกน้องริโอแน่ๆ
“เฮ้ยๆดันเข้ามาในห้องทำไมวะ ...ล็อคกลอนแบบนั้นคิดจะทำอะไร” ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่าไอ้ผู้ชายที่ตัวโตกว่าฉันเกือบเท่านึงจะทำท่าสะดิ้งได้อ้อนเท้าขนาดนี้
“โอ๊ย! ฉันไม่ปล้ำคุณหรอก
ตัวสูงใหญ่เป็นเปรตแบบนี้ใครจะทำอะไรได้! ...ขอหลบแปปเดียว” ฉันมองลอดใต้ประตูก่อนจะพบว่าพวกลูกน้องของริโอวิ่งผ่านไปแล้ว
“คุณช่วยอะไรหน่อยได้มั้ย?”
“ช่วยอะไรของเธออีกอ่ะ ...ทำไมวันนี้มีแต่คนรบกวนเวลากูวะ”
ประโยคหลังเขาบ่นงึมงำไม่รู้ว่าพูดอะไรแต่หัวเสียไม่น้อยเลย
“ช่วยลักพาตัวฉันที ...พาฉันไปจากที่นี่ที
ได้โปรด”
“อะไรนะ!!!”