อาการนี้ที่เรียกว่า... หึง 3

945 Words
พอถึงบริษัท โดมินิคต้องขอตัวกลับก่อน เพราะไม่อยากทำให้เพื่อนเครียดมากไปกว่านี้ เอาไว้ให้อารมณ์ดีจึงจะคุยกันเรื่องจีบอาทิตยาอีกครั้ง ไม่สิคุยเรื่องทำงานต่างหากเล่า ส่วนเบนจามินกลับเข้ามาทำงานตามเดิม เพิ่มเติมคือไม่คุยกับใคร ก๊อก!!! ก๊อก!!! ก๊อก!!! เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้นเพื่อขออนุญาต ขณะที่เบนจามินนั่งพิงเก้าอี้ กอดอกแล้วทำสีหน้าเครียด ๆ พอได้ยินเสียงเคาะเขาก็ช้อนสายตามองไปที่ประตูเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยปากอนุญาต “เชิญครับ” เบนจามินเอ่ยด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำแต่สุภาพ จากนั้นประตูจึงเปิดเข้ามาพร้อมกับเจ้าของร่างบาง ซึ่งในมือถือถาดเครื่องดื่มเข้ามาด้วยอย่างรู้หน้าที่ และทันทีที่ได้เห็นหน้าเลขาคนงามเท่านั้นแหละเขาก็พอยิ้มออกมาได้ “มีอะไรจ๊ะ” เบนจามินถามอย่างเป็นกันเอง ก่อนจะโน้มตัวมาค้ำที่แขนศอกบนโต๊ะทำงาน “น้ำขิงค่ะ” อาทิตยาตอบเสียงหวาน พร้อมกับวางถ้วยน้ำขิงให้เขา “เพื่อ?” เขาถามสั้น ๆ ประหนึ่งจะถามหาคุณประโยชน์ของน้ำขิงอย่างนั้นแหละ “แก้ท้องอืด แก้ไมเกรน ลดน้ำตาลในเลือดค่ะ” อย่างหลังนี่เขาแทบจะหลุดขำออกมา “ฮ่า ๆ ๆ ท่าทางพี่เหมือนคนเป็นเบาหวานหรือไง” “คนเป็นเบาหวานไม่จำเป็นต้องมีอายุ หรือว่าอ้วนนี่คะ แต่ก็นะ คุณบี๋มีอายุแล้ว ดื่มนะคะมันดีต่อสุขภาพ” เธอพูดว่าเขามีอายุ ให้ตายสิ อยู่ด้วยกันมาสองปีเธอเพิ่งจะกล้าพูด “แล้วท้องอืดกับไมเกรนล่ะเกี่ยวอะไรอีก” “ก็ซันเห็นตอนทานมื้อเที่ยงเสร็จทำหน้าเหมือนท้องอืด สักพักเหมือนไมเกรนกำเริบ” พูดแบบนี้เธอกวนประสาทเขาสินะเนี่ย “โอเค ดื่มก็ดื่มขี้เกียจเถียงด้วย แต่เรื่องที่บอกว่าพี่มีอายุ ยังไม่จบนะ” “ไม่ยอมรับเหรอคะปีหน้าก็จะสี่สิบแล้ว นี่เขาเรียกว่ามีอายุ ประเดี๋ยวความดันก็ถามหา” เธอจะย้ำไปทำไมให้เขางอนเนี่ย เขาคิด ทว่าก็ยังคงอมยิ้มอยู่ “เดี๋ยวเหอะ เดี๋ยวเจอดี” พูดจบเบนจามินก็ยกถ้วยขิงขึ้นจิบทีละนิด เพราะมันร้อนอยู่ อาทิตยาก็มองตามเพื่อลุ้นว่าเขาจะดื่มให้หมดหรือเปล่า ขณะที่เขาช้อนตามองพลางยักคิ้วเล็กน้อย “มีอะไรไม่สบายใจคุยกับซันได้นะคะ ถ้ามันไม่ใช่ความลับ” ทันทีที่อาทิตยาพูดจบ เขาก็วางถ้วยน้ำขิงลงบนโต๊ะตามเดิมทันที “ไม่มีจ้ะ” เบนจามินตอบสั้น ๆ และยิ้มบาง ๆ แต่เธอกลับสังเกตได้ว่ารอยยิ้มแบบนี้แหละที่กำลังมีปัญหา “สีหน้าแบบนี้เหรอคะที่บอกว่าไม่มี น่าเชื่อ” “หึ ๆ คิดว่าพี่โกหกอย่างนั้นเหรอ อย่าทำเป็นรู้ดี ไปทำงานได้แล้วแม่คนเก่ง” เขาหัวเราะในลำคอเบา ๆ พลางออกปากไล่เสียเลย เพราะไม่อยากให้เธอจับพิรุธได้ว่ากำลังไม่สบายใจกับเรื่องบางอย่างที่โดมินิคเป็นคนจุดขึ้นมา “ดื่มให้หมดนะคะ แล้วซันจะชงมาให้ดื่มอีก” เธอบอกยิ้ม ๆ ก่อนจะเอี้ยวตัวแล้วเดินไปยังประตู และทำท่าว่าจะเปิดออกไป ทว่าเขาเรียกเอาไว้เสียก่อน “ซันชายน์!!!” เสียงเรียกของเขาทำให้เธอชะงักฝีเท้าก่อนจะหันกลับมา “ขา” เธอขานรับเสียงหวาน หน้าตาก็สดใสซึ่งต่างกับตอนที่มีโดมินิคอยู่ ทำให้เขาเผลอจ้องนาน “เอ่อ... เอ่อ... ลืมเลย ออกไปก่อนไป ถ้าพี่จำได้แล้วจะบอกก็แล้วกัน” ความรู้สึกบางอย่างสะท้านเข้ามาถึงหัวใจทำให้เขาไม่กล้าที่พูดอะไรออกมา “อ้าว มีงี้ด้วย งั้นถ้าคิดออกก็ส่งเสียงออกไปก็แล้วกันนะคะ” “จ้ะ” เมื่อเบนจามินรับคำแล้วเธอจึงเปิดประตูออกไปทันที จากนั้นเบนจามินต้องลอบถอนหายใจไล่ความรู้สึกแปลก ๆ ซึ่งก็แปลกแบบนี้มานานสองปีแล้ว บอกไม่ถูกว่ามันคืออะไร แต่ที่แน่ ๆ วันนี้ที่โดมินิคมา มันทำให้ใจเบนจามินว้าวุ่นได้ไม่น้อย โดมินิคเป็นหนุ่มลูกครึ่งอเมริกันเหมือนกับเขา ครอบครัวอยู่ต่างประเทศ รู้จักกันเมื่อตอนเรียนเมืองนอกตั้งแต่ไฮสคูล กระทั่งเมื่อเบนจามินขึ้นมาดำรงตำแหน่งประธานบริษัทอยู่นานหลายปี โดมินิคจึงคิดที่จะกลับเมืองไทยเพื่อทำงานด้วย ทว่าจุดประสงค์หลักของโดมินิคเปลี่ยนไปเสียแล้ว นั่นคือจีบเลขาหน้าห้องของเบนจามิน และนี่แหละที่ทำให้หวั่นใจอย่างบอกไม่ถูก แถมยังพูดจาแทงใจดำเสียจนจุก “ถ้าแกจริงจังที่จะจีบซัน ฉันจะไม่ว่าอะไรสักคำ แต่ถ้าจะเล่น ๆ ล่ะก็ฉันไม่ยอมแน่” เบนจามินบอกอย่างมาดมั่นนั่นก็เพราะว่าเขาไม่อยากเห็นอาทิตยา อกหักและเสียใจเขาคงทนไม่ได้ ตอนนี้หากจะเป็นพ่อสื่อให้ใครก็ต้องคิดให้มาก เพราะนั่นก็เท่ากับว่าส่งเนื้อเข้าปากเสือ ทว่าคิดเรื่องของอาทิตยายังไม่เครียดพอ ยังคิดเรื่องของตัวเองให้ปวดหัวอีก ให้ตายสิ “เฮ้อ!!! ไอ้โดมเอ๊ย ฉันอุตสาห์ลืมไปแล้วเชียว” ลืมเรื่องราวเมื่อสิบปีก่อน เป็นสิบปีที่จำไม่ลืม จนทำให้เขาขยาดความรักและไม่กล้ารักใครเลย หากจะลองเปิดหัวใจให้รักอีกสักครั้งก็กลัวเหลือเกินที่จะเจ็บปวด
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD