ที่ห้องทำงานของพรศักดิ์ พรนับพันเอาเอกสารสรุปค่าใช้จ่ายมาให้บิดาเซ็น ก่อนที่เธอจะเดินออกไปเขาก็เรียกเธอไว้เพื่อสอบถามเรื่องของเธอและภัสกร
“เค้ก อยู่คุยกับพ่อก่อนสิ”
เธอเดินกลับไปนั่งลงตรงข้ามกับเขาแล้วยิ้มให้ด้วยรอยยิ้มที่ดูเป็นปกติที่สุด
“เขารังแกลูกหรือเปล่า” พรศักดิ์ถามอย่างระมัดระวัง
“เปล่าเลยค่ะพ่อ เห็นเป็นอย่างนั้นแต่จริงๆ ไม่มีอะไรนะคะ แล้วอีกอย่าง เราก็แยกห้องนอนกันด้วย” เธอบอกบิดาไปตามความจริง
“แล้วเรื่องทายาท..”
“เขาแค่อยากให้เค้กทำความคุ้นเคยกับเขาก่อนค่ะพ่อ อีกอย่างเค้กก็จะได้มีความเป็นส่วนตัวด้วย” เธอพูดให้บิดาสบายใจ
“แบบนั้นก็ดีนะ” พรศักดิ์พูดอย่างเห็นด้วย
“งั้นเค้กขอตัวไปทำงานก่อนนะคะ” เธอบอกแล้วลุกเดินออกไปท่ามกลางสายตาของความห่วงใยของผู้เป็นพ่อ
พอพ้นจากห้องของบิดาเธอก็ทำหน้าสลดลง ก่อนที่จะกำแฟ้มในมือด้วยความรู้สึกเจ็บใจที่ตนเองอ่อนแอและไม่มีอำนาจเหมือนอย่างเขา
ภัสกรเผยความต้องการของเขามาแล้วว่าตั้งใจจะทำให้เธอทุกข์ทรมานเพื่อให้พรศักดิ์เจ็บปวดเวลาเห็นเธอมีความทุกข์ เธอจะไม่ยอมให้มันเกิดขึ้นอย่างเด็ดขาด
************************
“หาเกลเจอหรือยัง” ภัสกรถามเลขานุการที่เปรียบเสมือนมือขวาคนสนิทของตน
“ยังครับนาย ผมเอาข้อมูลของคุณเกลเท่าที่มีไปให้นักสืบเอกชนช่วยตามหาแล้ว น่าจะตามสืบจากข้อมูลของห้องพักไม่นานก็น่าจะทราบที่อยู่ตามทะเบียนบ้านครับ” วาทินรายงานต่อเจ้านายวัยสามสิบหกแล้วมองหน้าของเขาที่ดูเป็นกังวล
“ฉันน่าจะมีข้อมูลของเกลให้มากกว่านี้ จริงสิโรงพยาบาลน่าจะมีข้อมูลเธออยู่”
“เอ่อ เรื่องนั้นผมไปตามสืบมาแล้วครับ แต่ว่าไม่มีชื่อรัตติกาลในการเข้ารักษาในวันนั้น”
“เป็นไปได้ยังไง” ภัสกรตบโต๊ะเสียงดัง เขาไปเธอทันทีในตอนนั้นแท้ๆ จะไม่มีข้อมูลของเธอได้อย่างไร
“จริงๆ นะครับ วันนั้นไม่มีชื่อรัตติกาลเข้ารับการรักษาเลย ผมจึงให้เจ้าหน้าที่ค้นหาประวัติคนไข้ที่แท้งลูกจากอุบัติเหตุในวันนั้น รายชื่อที่ได้มามีคนเดียวเท่านั้น และเป็นหญิงวัยสี่สิบที่ตกบันไดมาครับ” เขารายงานแล้วก้มหน้าลงเล็กน้อย
“แล้วทำไมไม่รีบรายงานฉัน”
“ผมเห็นว่าเรื่องนี้มันแปลก และบางทีผมอาจจะไม่มีความสามารถพอ เลยเล่าเรื่องนี้ให้นักสืบเอกชนฟังแล้วให้เขาช่วยตามสืบเรื่องนี้ให้ด้วย ผมอยากให้มั่นใจกว่านี้ก่อนค่อยรายงานครับ” เลขานุการหนุ่มวัยสามสิบแปดบอกเหตุผลออกไปทำเขาสงบลง
“แล้วเรื่องโรงงานนั่นล่ะ จัดการเรียบร้อยหรือยัง” เขาถามต่อถึงธุรกิจของพรศักดิ์ที่ตอนนี้เป็นพ่อตาของเขา และมีข้อตกลงว่าจะหยุดกลั่นแกล้งทางธุรกิจกับโรงงานนั้น
“ครับ ทำให้ลูกค้ากลับไปแล้ว และสั่งไม่ให้คนไปก่อกวนแล้วครับ”
“ดี ฉันไม่อยากเป็นคนผิดคำพูด” เขาพูดเสียงเรียบ
วาทินรู้ดีว่าตอนนี้นายของตนแต่งงานกับลูกสาวของเจ้าของโรงงานนั้นแล้ว ซึ่งคนที่รู้ก็มีเพียงเขาและองอาจที่เป็นญาติห่างๆ ทางฝั่งพ่อที่ภัสกรให้มาเป็นผู้ใหญ่สู่ขอพรนับพันตามขนบธรรมเนียมตามที่มารดาของเธอขอ ทั้งๆ ที่เขาไม่อยากทำให้เลย แต่ก็ต้องทำให้จบๆ ไป
“แล้วเรื่องการแต่งงาน...”
“ปิดเป็นความลับไปก่อน ฉันยังไม่อยากให้ใครรู้ในตอนนี้” ผู้เป็นนายบอกเสียงเข้ม ก่อนจะเอาตัวพิงเก้าอี้แล้วหลับตาลงให้กับความคิดหลายๆ อย่างที่ประดังประเดเข้ามาพร้อมกันจนน่าปวดหัวไปหมด
“ครับนาย” วาทินรับปากแล้วเดินออกจากห้องไป
ภัสกรเคาะนิ้วที่โต๊ะทำงาน สงสัยเรื่องประวัติของคนรักที่ทิ้งเขาไปแล้วสลัดความคิดนั้นออกไป ก่อนจะมองไปที่กุญแจรถของตัวเอง นิ่งคิดสักพักเขาลุกขึ้นจัดเสื้อสูทให้เข้าที่ ก่อนจะคว้ากุญแจรถออกไปหาภรรยาในนามของตน
************************
พรนับพันเดินตรวจดูเครื่องจักรที่ใช้ในการผลิตลูกชิ้น ก่อนที่จะเดินไปดูเครื่องจักรและพนักงานที่อยู่ในไลน์แพ็กของและจัดเรียงสินค้า พร้อมทั้งให้กำลังใจพนักงานเหล่านั้นด้วยคำชื่นชม
สักพักก็มีพนักงานคนหนึ่งเดินมาบอกเธอถึงเรื่องการมาของแขก
“คุณโชคมาถึงแล้วเหรอ นัดไว้อีกตั้งครึ่งชั่วโมงมาเร็วจัง”
“เปล่าค่ะคุณเค้ก พี่ถามแล้วแต่เขาก็ไม่ยอมบอกชื่อค่ะ แต่หล๊อหล่อนะคะ อย่างกับพระเอก” พนักงานสาวบอกแล้วยิ้มเขิน ทำให้เจ้านายสาวส่ายหน้าแล้วเดินไปดูด้วยตนเอง
พอไปถึงห้องประชุมเล็กที่เขานั่งรออยู่ พรนับพันก็ถึงกับตกใจ เมื่อภัสกรมาถึงที่นี่แล้วห่วงว่าเขาจะทำให้พ่อของเธอไม่สบายใจ
“คุณมาที่นี่ทำไมคะ”
“แล้วผมไม่มีสิทธิ์มาหรือยังไง” เขาถามเสียงเรียบแล้วเดินสำรวจห้องทำงานของเธอ
“อีกสักพักฉันจะมีแขก รบกวนมีอะไรค่อยไปคุยกันที่บ้านนะคะ” เธอบอกเขาเสียงอ่อนกลัวว่าเขาจะมาสร้างปัญหาให้ที่นี่
“จะเที่ยงแล้ว ผมจะรอทานมื้อเที่ยงกับคุณก็แล้วกัน” เขาพูดแล้วถือวิสาสะนั่งที่เก้าอี้ทำงานของเธอ
“แต่ว่า...”
“หรือจะให้ผมเดินไปชวนพ่อคุณไปทานข้าวด้วยกัน” เขาถามเสียงเรียบ ยกยิ้มเจ้าเล่ห์กดดันให้เธอลำบากใจเท่าที่จะทำได้
“ค่ะ งั้นฉันจะรีบคุยธุระให้เสร็จแล้วออกไปทานอาหารกับคุณ” เธอพูดเสียงเบา ยอมอ่อนข้อให้เขาเพราะไม่อยากต่อล้อต่อเถียงด้วย
“เค้ก” เขาพูดชื่อเธอขึ้นมา ทำให้หญิงสาวขานรับด้วยความสงสัย เพราะเป็นครั้งแรกที่เขาเรียกชื่อเธอ
“คะ?”
“เรียกแทนตัวเองว่าเค้ก” เขาบอกเธอเสียงเรียบ
พรนับพันมองหน้าเขาคิดอยากจะสู้แต่ก็ไม่กล้าต้องยอมแพ้สายตาที่น่ากลัวนั้นแล้วยิ้มหวานอย่างประชดประชันเล็กน้อย
“ได้ค่ะ เค้กจะแทนตัวเองว่าเค้กก็ได้ค่ะ” เธอพูดเสียงหวานแล้วหยิบแฟ้มเอกสารที่จะคุยงานกับลูกค้า กอดแฟ้มแนบอกหันหลังให้เขา เธอเปลี่ยนสีหน้าเป็นลดยิ้มลงแล้วเดินออกจากห้องไป
“เหมือนจะอ่อนแอแต่ก็ไม่ใช่ เหมือนจะยอมง่ายๆ แต่ก็ไม่เชิง เธอนี่น่าสนใจดีนะ พรนับพัน” เขาพึมพำออกมาแล้วมองดูรูปถ่ายของเธอกับครอบครัวที่วางอยู่บนโต๊ะ
“แก้แค้นตรงๆ กับคุณมันจะไปสนุกอะไรล่ะ สู้ทำกับลูกสาวสุดที่รักคนเดียวไม่ได้” เขาพึมพำเจตนาของตนเองที่ตั้งใจอยากเอาความแค้นของตนไปลงกับพรนับพัน
แม้ลึกๆ จะรู้สึกว่าเป็นความผิดของตนเองที่ดูแลคนรักได้ไม่ดีพอ แต่เขาหยิ่งในศักดิ์ศรีเกินไปที่จะยอมรับมัน แล้วคิดว่าปลายเหตุอย่างพรศักดิ์ต่างหากที่ทำให้เขาสูญเสียเลือดเนื้อเชื้อไขไป
ภัสกรมองรูปถ่ายนั้นอีกครั้งแล้วคว่ำมันลงไปเพราะไม่อยากเห็นหน้าพรศักดิ์และรอยยิ้มที่มีความสุขของเขา
************************