ตอนที่ 8 เกมส์กำลังจะเริ่มต้น
ริสาวางหนังสือลงบนโต๊ะแม้จะหันมายิ้มให้เพื่อน แต่แววตายังคงดูเศร้า ทำให้นัชชาและปลายฟ้า อดเป็นห่วงไม่ได้ หลังจากที่ได้ยินข่าวไม่ค่อยดีกับเรื่องการล้มละลายของบ้านริสา
“ไหวไหม ริสา” ปลายฟ้าเข้ามาถามเพื่อนด้วยความเป็นห่วง เธอรู้ว่าริสาที่เคยเป็นลูกคุณหนูและรวยมาก พอบ้านเธอมีปัญหากลับโดนคนจับกลุ่มนินทาและดูถูก แถมยังมองเธอด้วยสายตาแปลกๆ
“อย่าไปสนใจพวกปากหอยปากปูเลย เดี๋ยวเราฝึกงาน อีกหน่อยคงไม่เจอคนพวกนี้” นัชชาเข้ามาปลอบริสาอีกคน
“ฉันไม่ถือสาหรอก ช่างมันเถอะ ชิวๆ สบายใจได้ ขอบคุณที่เป็นห่วง ว่าแต่นัช ตัวเองหายดีแล้วเหรอ เป็นไงบ้าง” ริสาถามกลับนัชชาด้วยความเป็นห่วงไม่แพ้กัน ที่รู้ว่าเพื่อนหยุดเรียนเพราะได้รับอุบัติเหตุ
“เราดีขึ้นแล้ว ไปเจอเรื่องแย่ ๆ ที่ทำงานพิเศษมานิดหน่อย เลยคงต้องเปลี่ยนหางานใหม่” นัชชายิ้มแห้งแต่ไม่กล้าเล่ารายละเอียดดีเทลว่าพี่ชายตัวเองไปสร้างเรื่องอะไรไว้
“อ้าว นัชเพิ่งทำงานเองนี่นา ออกเลยเหรอ” ปลายฟ้าเองก็ยังอดแปลกใจไม่ได้ที่รู้ว่าเพื่อนไม่ได้ทำงานแล้ว
“ใช่ออกแล้ว อีกอย่างงานนั่นก็คงไม่เหมาะกับเรา เลิกดึกแถมต้องมีเรียนเช้าต่อ ก็เลยออกอ่ะ”
“อืม เราก็ว่าจะหางานพิเศษ นี่เพื่อนที่คณะนิเทศ ก็จะจ้างให้ไปถ่ายแบบ แต่ถ้าใครมีงานพิเศษดี ๆ อะไร ก็แนะนำมาได้นะ ตอนนี้เค้าทำได้หมด”
ริสาตอบพลางถอนหายใจ เธอเพิ่งเจอเรื่องราวแย่ ๆ ที่พ่อแม่เธอล้มละลายแถมหนีหายไปด้วยกันทั้งคู่ เมื่อบ้านที่อยู่โดนยึด เธอจึงต้องกำเงินส่วนเหลือมาเช่าอพาร์ทเม้นท์ ที่สำคัญเงินที่เหลืออยู่ไม่มาก ทำให้เธอต้องพยายามหาทางเอาตัวรอดใช้ชีวิตนักศึกษาในปีสุดท้ายให้จบ แต่เธอเองด้วยความเป็นลูกคุณหนู ไม่เคยทำงานอะไรเลย ได้แต่นึกว่าจะหาทางทำงานมีรายได้ของตัวเองได้ยังไงกัน
นัชชาเองก็ไม่ต่างกัน ช่วงนี้พ่อป่วยเข้าโรงพยาบาลเป็นเดือน แม่เลยต้องออกงานไปเฝ้าพ่อ เงินเก็บของที่บ้านก็ร่อยหรอ พ่อของเธอเป็นพนักงานขับรถTaxi แน่นอนว่าไม่มีประกันสังคม พอเจ็บป่วยขึ้นมานอกจากบัตรประกันสุขภาพถ้วนหน้าที่ทำให้ช่วยเหลือได้บ้าง แต่ค่าใช้จ่ายอย่างอื่นก็คงต้องมีบ้าง ดีว่านัชชาเป็นเด็กเรียนเก่งที่ได้รับทุน จนได้เข้าคณะที่มหาวิทยาลัยนี้ได้กับเพื่อน ๆ ไม่งั้นเธอเองก็คงลำบากที่จะหาเงินที่ไหนมาจ่ายค่าเทอม ถึงกระนั้นสำหรับ นัชชาแล้วจึงอยากช่วยแบ่งเบาภาระทางบ้าน การทำงานพิเศษเพื่อช่วยเหลือตัวเอง จึงเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด
ถึงจะได้เงินปลอบขวัญมาจากผับแองเจิล และเงินเก็บของเธอที่พอมีอยู่บ้าง นัชชาก็ยังคิดจะหางานทำอื่นอยู่ดี
ไม่ไกลออกไป กลุ่มของเตชิน ที่นั่งอยู่กับกลุ่มเพื่อนของเขา มีมาวิน หนุ่มหล่อพ่อรวยจอมกะล่อน และกฤชติน หนุ่มหล่อพูดน้อยที่ดูเคร่งขรึม กำลังนั่งจ้องมองกลุ่มของนัชชาที่เอาแต่จับกลุ่มคุยกัน
เตชิน อดยิ้มไม่ได้เมื่อนึกถึงท่าทางน่ารักที่เขินอายแต่แกล้งทำเป็นไม่สนใจของนัชชาไม่ได้ ยิ่งรู้ว่าเธอไม่เหมือนผู้หญิงคนอื่นๆ ที่เอาแต่วิ่งเข้าหา ยิ่งรู้สึกน่าสนใจ ทั้งที่เมื่อก่อนไม่เคยเห็นนัชชา อยู่ในสายตาเลยด้วยซ้ำ ถ้าไม่บังเอิญขับรถเฉี่ยวเธอจนล้มวันที่ดอกชมพูพันธ์ทิพย์ร่วงหล่นเต็มถนนในวันนั้น คงไม่รู้เลยว่า นัชชาเองก็น่ารักไม่เบา เสียอย่างเดียวที่เธอดูจะเมินเขา และแน่นอน คนอย่างเตชิน มีอะไรที่อยากได้แล้วไม่ได้
“น่ารักดีวะ” เตชินยกมือขึ้นลูบริมฝีปากตัวเอง เขาเผลอพูดเสียงเบาออกมาไม่รู้ตัว ตอนลอบมองนัชชาที่พยายามหลบตาเขาอยู่
“พูดพึมพำเชี้ยไรของมึงวะ ไอชิน” มาวินพิงตัวเองกับเก้าอี้ก่อนหันไปมองหน้าเพื่อนที่พูดพึมพำ และเมื่อกี้เขาได้ยินไม่ถนัด
“ห๊ะ กูพูดไร อ่อ เออกูแค่ถามว่า มึงได้ข่าวที่บ้านยัยริสายังวะ ไอวิน” เตชินแกล้งเปลี่ยนเรื่อง เพราะไม่อยากให้เพื่อนล้อเรื่องเขากำลังแอบมองสาว
“เออ กูรู้ล่ะ ข่าวแม่งดัง”
“น่าสงสารนะ คนเคยรวยอยู่ดี ๆ ต้องมาจนลงในพริบตา” กฤชตินเอ่ยขึ้นอย่างเห็นใจ เขามองริสาอย่างเงียบๆ มาตั้งแต่ปีหนึ่ง เธอเป็นผู้หญิงที่สวยมาก แต่เธอกลับดูหยิ่ง ๆ และไม่เคยสนใจใคร
“สงสารทำไมวะ ก็พ่อแม่มันโกงเงินคนอื่น ลูกก็มาต้องมารับกรรมแบบนี้แหละ บ้านกูยังโดนไปหลายล้าน มึงจะสนใจทำไมไอติน” มาวินพูดเพราะเขาจำได้ว่า ตอนปีหนึ่ง ริสาเคยมากับพ่อแม่ของเธอเพื่อมากู้เงินพ่อเขา ตอนนั้นเขาปิ๊งเธอตั้งแต่เห็นหน้า เขาได้แต่แอบมองอยู่ไกล ๆ แต่ไม่กล้าออกมาเจอ
พอรู้ว่าได้มาเรียนมหาวิทยาลัยเดียวกันอีก ยิ่งทำให้เขาหลงเสน่ห์ริสาไปกันใหญ่ ความมั่นหน้าของตัวเองจนเข้าไปสารภาพรักกับเธอ จนโดนเธอเมินต่อหน้าทุกคน เล่นเอาเขาเสียความรู้สึก ถึงกับไปบอกพ่อว่าถ้าเมื่อไหร่บ้านเธอไม่ใช้หนี้ให้เอาเธอมาแต่งงาน
นั่น..เป็นความคิดแบบเด็ก ๆ ตอนปีหนึ่งของเขา แต่หลังจากนั้นเมื่อโดนแหกหน้า มาวินก็ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับเธออีก จนมาวันนี้เกือบสี่ปีที่รู้ว่าบ้านเธอมีปัญหาอีกครั้ง
“พ่อแม่ส่วนพ่อแม่สิวะไอวิน ลูกไม่เกี่ยว แล้วพวกมึงอะ กูมองมึงสองคนมานานละ มึงสองคนจ้องมองกลุ่มนั้นมานาน สนใจเหรอ”
กฤชตินทำหน้านิ่งมองเพื่อนทั้งสองคนแบบรู้ทัน
“คนอย่างกูเนียะนะ ห๊ะ ไอตินจะสนใจ ยัยกลุ่มนั้น” เตชินโวยวาย
-คนอย่างเขาเนี่ยนะจะสนใจใครก่อน ไม่มีทาง- เตชินกำลังบอกตัวเองแบบนั้น แม้จะค่อนข้างตรงข้ามกับสิ่งที่กำลังเป็นอยู่ก็ตาม
“เออ คนอย่างกูด้วย มึงอย่าลืมสิ กูเคยจีบยัยริสานั่น แล้วโดนหน้าแหกกลับมาต่อหน้าคนเป็นร้อย กู ไม่เอาเป็นแฟนหรอก หยิ่งชิบหาย” มาวินส่ายหน้า นี่ก็สายกลบเกลื่อนอีกคน เขาแอบชอบเธอมาตั้งแต่ปีหนึ่ง แต่ด้วยเพราะความที่เคยโดนเธอหักหน้า เลยจำต้องปากแข็งเอาไว้ก่อนเพื่อรักษาฟอร์มของตัวเอง
“หึ ไอชินก็ไม่สน ไอวินก็ไม่สน เออ เออ พวกมึงแน่ใจว่ามึงสองคนไม่สน แล้ว กูจะคอยดู ว่าจะหอนกันไหม” กฤชตินยิ้มมุมปาก ก่อนส่ายหน้าเบา ๆ ให้เพื่อนทั้งสองคน
“เออ ว่าแต่ กูได้ข่าวริสา แม่งจะไปสมัครงานพิเศษเป็นนางแบบ” เตชินเอ่ยขึ้น
“งั้น มึงไปบอกคนรู้จักมึงเลย ทำยังไงก็ได้ห้ามรับ ไม่ว่ามันจะไปสมัครหรือทำงานที่ไหน ก็อย่าให้มันได้ทำงาน” มาวินรีบตอบ
“เห้ย ไอวิน ไหนมึงบอกไม่สนใจไงวะ แบบนี้มันจะไม่แกล้งกันเกินไปหน่อยหรือวะ” กฤชตินปราม แม้จะเป็นเพื่อนสนิทกันทั้งสามคน แต่นิสัยก็แตกต่างกันอย่างชัดเจน
มาวิน เถื่อน ดิบ ค่อนข้างเอาแต่ใจ เพราะเป็นลูกชายคนเดียว แต่เรื่องเรียนเขากลับหัวดีมากเป็นอันดับต้น ๆ ของคณะ
เตชิน ชายหนุ่มเสเพล ชอบกะล่อน ฟันผู้หญิงไปเรื่อยและไม่ชอบจริงจังกับใครเลย
ส่วนกฤชติน ชายหนุ่มผู้เงียบขรึมและพูดน้อยแต่ไม่ค่อยถนัดเรื่องผู้หญิง
สามคนเพื่อนรักที่คบกันมานานตั้งแต่ปีหนึ่ง เรื่องความหล่อทั้งสามคนเรียกว่าเป็นตัวท็อปของคณะ มีสาวๆ เข้ามาไม่ได้ขาด คุณสมบัติรูปหล่อ บ้านรวย แบบนี้มีหรือใครจะไม่อยากได้
จะมีก็แต่กลุ่มของนัชชา ที่ไม่ถูกชะตากับพวกเขา เรียกว่าที่ผ่านมาแทบจะอยู่คนละมุมโลกเลยก็ว่าได้
“เออ กูหมั่นไส้ความหยิ่งยัยริสามานานละ หาอะไรทำเล่นสนุก ๆ ดีกว่า ไอชิน มึงหาอะไรทำสนุก ๆ กับกูไหม” มาวินยิ้มเจ้าเล่ห์
“ก็ดีนะ” เตชินยิ้มสายตายังจับจ้องไปที่นัชชา
“พวกมึง อย่าเอาความรู้สึกใครมาล้อเล่นดิวะ ระวังเหอะ คนที่เล่นเกมกับความรู้สึกคนอื่น จะกลายเป็นผู้โดนเล่นซะเอง” กฤชตินอดไม่ได้ที่เตือนสติเพื่อน ๆ
“มึงละติน ไม่เอาด้วยเหรอ” เตชินหันไปโอบบ่าเพื่อน
“กูไม่เหี้ยเหมือนพวกมึงวะ ครับ” กฤชตินยิ้มให้สองเพื่อนรัก พร้อมกับส่ายหน้าเบา ๆ แบบเอือมระอา
———————