ตอนที่ 6 น่าสนใจ
ไม่ช้าเมื่อมาถึงที่โรงพยาบาล
นัชชาฟื้นขึ้น พบว่าตัวเองนอนอยู่ที่โรงพยาบาลและถูกทำแผลเรียบร้อย เห็นพี่ชายตัวเองนอนอยู่ที่โซฟาใกล้ๆ
“พี่น๊อต นัชมาอยู่ที่นี่ได้ไง” นัชชาหยัดตัวลุกขึ้นนั่งก่อนมองไปรอบ ๆ
“พี่พาแกมาดิ ถามได้ก็แกเป็นลมนิ”
“แล้วพวกนั้นอ่ะ ที่มันจะทำร้ายพีี่”
“เจ้านายพี่เคลียร์ให้ล่ะ”
“เจ้านายพี่?”
“เออ ถามมากว่ะ มันเป็นเรื่องเข้าใจผิดนิดหน่อย ขอบใจนะเว้ย ที่วิ่งเอาตัวมาขวางไว้ แต่ที่หลังอย่าทำแบบนี้นะมันอันตราย” น๊อตเดินตรงมาที่ข้างเตียงพร้อมยกมือขึ้นพร้อมยีหัวน้องสาวด้วยความเป็นห่วง
“ก็พี่โดนพวกมันมัดไว้นี่ ถ้าโดนฟาดไม่เต็ม ๆ เลยเหรอ”
“แล้วถ้าแกโดนก็เต็ม ๆ เหมือนกัน ยัยบ้า”
“เออ แต่ทำไม มันไม่ฟาดล่ะ”
“โชคดี เจ้านายพี่กับน้องชายเขาเปิดประตูเข้ามาพอดี มันเลยชะงักก่อน พอแกเห็นไม้แกก็ช็อกเลยเป็นลมล้มพับ ป๊อดนี่หว่า ห๊ะ”
“เหอะ ไอพี่บ้า เจอลากตัวมาห้องมืดแถมเจอพี่ในสภาพนั้นไม่ช็อกตายก็ดีเท่าไหร่ละ” นัชชาเบ้ปากทำท่างอน
“เออ รอดมาก็ดีแล้ว แล้วแกไม่ต้องไปทำงานแล้วนะ”
“หา ให้ออกเลยเหรอ ทำไมอ่า”
“ไม่ใช่แต่ให้ออกธรรมดาเว้ย แต่...เค้าให้เงินค่าทำขวัญแกมา 30,000 ด้วย พี่ยืมเลยด้วย 10,000 นึง” น๊อตยิ้มกริ่ม
“แล้วจู่ๆ จะมาให้ทำไม นัชเพิ่งทำได้สามวัน”
“ก็เกิดเรื่องที่ผับเค้า แถมคนที่จะทำร้ายแกก็คนรู้จักเค้า เค้าก็เลยให้เงินทำขวัญแกมั้ง”
“หูย ไรเนี่ย ทำงานสามวันได้เงินสามหมื่น เอาจริง นี่นัชก็กะทำงานแค่เดือนเดียว เดี๋ยวเดือนหน้าฝึกงานก็ไม่ทำงานล่ะ กะเก็บเงินไว้ใช้ช่วงฝึกงาน”
“เออนั่นละ เขาให้มาก็รับไว้ ดีแล้ว แกไม่ต้องไปทำล่ะ อันตรายว่ะ ยังไงก็เอาตามนี้ละกัน คุณเอริคเขาใจดีมาก นี่ค่าห้องค่ารักษาพยาบาลเค้าก็จ่ายให้หมด”
“หูย... ใจดีเนอะ แต่เอาจริงถ้าเจ้านาย ไม่ช่วยพี่กับนัช ป่านนี้ เราสองคนตอนนี้จะเป็นไง ไม่รู้เนอะ พี่อย่าบอกให้แม่รู้นะ เดี๋ยวแม่เป็นห่วง”
“ไม่หรอก ใครจะกล้าบอกว่ะ เกือบทำให้แกเจ็บตัวเพราะพี่แบบนี้”
“ใช่ ใช่เลย เห็นม่ะ นัชเกือบโดนไปด้วยแล้วเนี่ย ว่าแต่เมื่อไหร่พี่จะเลิกก่อเรื่องสักทีห๊ะ เลิกเล่นเหอะพนันบอล พนันออนไลน์ นัชไม่เห็นใครได้ดี เพราะการพนันสักคน”
“เออ พี่ไม่เล่นแล้วน่า ยิ่งตอนที่เห็นแกเอาตัวมาขวาง จนเกือบโดนฟาดเพราะพี่แล้วแกเป็นลมล้มพับ ก็ไม่คิดจะยุ่งเกี่ยวกับพนันอีกล่ะละ ถ้าตอนนั้นแกเป็นอะไร จะบอกพ่อกับแม่ไงวะ”
“ดีแล้ว ที่คิดได้ ให้มันจริงเถอะ พี่น๊อตเป็นพี่ชายคนเดียวที่นัชมีนะ”
“เออ แกก็เป็นน้องสาวคนเดียวของพี่เหมือนกัน ทีหลังอย่าทำอะไรแผลง ๆ เอาตัวมาขวางใครแบบนี้อีกรู้ไหม แกมันเป็นแบบนี้ตลอด คิดถึงแต่คนอื่นมากกว่าตัวเอง บอกให้อยู่บ้านจะตามมาทำงานทำไมก็ไม่รู้”
น๊อตลูบหัวน้องสาวเบา ๆ อย่างเห็นใจ จนนัชชาเองน้ำตาคลอ
“รู้ละน่า นัชก็แค่อยากแบ่งเบาภาระของทุกคน ว่าแต่พี่ก็ด้วยเหมือนกัน รับปากนัชด้วย ห้ามเล่นพนันอีก”
“เออรับปาก ตกลงแกเป็นน้องสาวหรือเป็นแม่กันแน่เนี่ย”
สองพี่น้องมองตากันยิ้มมีความสุขที่ปรับความเข้าใจกันได้
~ที่หน้าห้อง~
เตชินที่ยืนฟังสองพี่น้องคุยกันหน้าห้อง เขาเลยตัดสินใจไม่เข้าไป ปล่อยให้สองพี่น้องได้คุยกัน อดนึกขำไม่ได้ ที่นึกว่าดีเจนั่นเป็นแฟนเธอ ที่ไหนได้กลับกลายเป็นแค่พี่ชาย
-ผู้หญิงคนนี้ใจกล้าชะมัด ยอมเอาตัวเข้าไปขวางเพื่อช่วยพี่ชาย ทั้งที่ตัวเองยังเจ็บอยู่-
ยิ่งตอนที่เขาพาเธออุ้มออกมาจากที่ผับตอนที่ไม่ได้สติ ใบหน้าใกล้กันแค่เอื้อม ยิ่งสัมผัสถึงความน่ารักของนัชชา เธอน่ารักมากกว่าที่เขาคิดไว้เยอะ ไม่น่าเชื่อว่าเขาไม่เคยสนใจเธอเลยถึงสี่ปี แถมนัชชาชอบทำเมินใส่เขาบ่อย ๆ ไม่เหมือนกับผู้หญิงทั่วไปที่ชอบวิ่งเข้าหา
เตชินยกยิ้มที่มุมปาก นึกหาอะไรทำสนุก ๆ ก่อนจะหันหลังเดินจากไป
เตชิน เดินกลับออกมาในช่วงเช้า โดยที่ไม่ได้กลับเข้าไปเยี่ยมนัชชาอีกครั้ง
ภายในใจยังนึกถึงใบหน้าสวยหวานของนัชชาตอนที่เธอหลับอยู่บนเตียง ก่อนที่พี่ชายของเธอจะเข้ามา
-น่ารักดี- เขาคิด
น๊อตเฝ้านัชชาจนอาการดีขึ้น เมื่อหมอมาตรวจอาการเธออีกครั้ง พบว่าเธอไม่ได้เป็นอะไรมากแล้ว สองพี่น้องจึงพากันออกจากโรงพยาบาล ส่วนค่ารักษาพยาบาล ทางโรงพยาบาลแจ้งว่า คนของผับแองเจิลจ่ายค่ารักษาพยาบาลและค่าห้องไว้หมดเรียบร้อยแล้ว
“คุณเอริคจ่ายให้ทั้งหมดจริงๆ เหรอพี่น๊อต ใจดีมากๆ เลยเนอะ” นัชชายังอดไม่ได้ที่จะถาม เพราะไม่เข้าใจว่าทำไมเอริคถึงยอมช่วยเธอกับพี่ชายขนาดนั้น
“ให้น้องชายมาจัดการแทนมั้ง ไม่รู้อะ เห็นน้องชายเขามาจัดการให้” น๊อตตอบเพราะเขาไม่รู้ว่าเตชินเป็นเพื่อนกับนัชชา
“น้องชาย?”
“งั้นมั้ง น้องชายคุณเอริค อายุรุ่นๆ แกแหละ”
“อ่อ ใจดีทั้งพี่ ทั้งน้องเลยเนอะ ไว้ต้องหาโอกาสขอบคุณ” นัชชายิ้มก่อนจะเอามือคล้องแขนพี่ชายราวกับอ้อน ก่อนพากันออกจากโรงพยาบาล สุดท้ายเธอเลยขอหยุดเรียนไปอีกหนึ่งวันก่อนที่จะไปเรียนในวันปกติในวันรุ่งขึ้น
~ที่มหาวิทยาลัย~
“เป็นไงวะ นัช หายเจ็บแล้วเหรอมาเรียนได้”
นัชชาที่ยังคงเดินกะเผลกนิดหน่อย หันไปมองตามเจ้าของเสียง ก่อนจะทำหน้าแปลกใจ เมื่อเห็นเป็นเตชินที่ยืนพิงกำแพงอยู่ตรงทางขึ้นบันได
“เจ็บสิ ถามแปลก”
“เจ็บแล้วทำไม ไม่หยุด”
“ยุ่งอะไรด้วย” นัชชาไม่เข้าใจที่เขามาถามเธอทั้งที่ไม่ได้สนิทอะไรกันขนาดนั้น หรือที่เขาถามเพราะเขาสำนึกผิดที่เป็นต้นเหตุขับรถเฉี่ยวเธอยังงั้นหรือ
“อ้าว ถามดี ๆ ไหงตอบแบบนี้ล่ะ”
“ก็นายจะใส่ใจทำไม ไม่ใช่เรื่องของนาย”
“ใจดำเนอะ คนอุตส่าห์ถามดี ๆ ดูตอบดิ ว่าแต่นี่ มึงจะไม่ขอบคุณกันสักนิดเลยเหรอวะ” เตชินกอดอกสายตาเหล่มองนัชชาที่ไม่เอ่ยขอบคุณเขาสักนิดเรื่องที่เป็นคนช่วยเหลือเธอในคืนนั้น แต่นัชชาที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย ได้แต่ทำหน้างง
“ขอบคุณเรื่องไร เรื่องที่นายฝากฉันกับหัวหน้างานที่ผับอะนะ ไม่ต้องล่ะ เพราะฉันโดนให้ออกจากงานแล้ว”
สิ่งที่นัชชาคิดออก ก็มีแต่เรื่องนี้ที่เธอจำได้ว่าคุยกับเขาตอนอยู่กับหัวหน้า
เตชินถึงกับชะงัก ที่นัชชาไม่รู้เรื่องที่เขาเอาเงินส่วนตัวใช้หนี้ให้เธอ จนไม่ต้องโดนขัดดอก ทั้งที่พี่ชายเขาเอริคก็ไม่ได้คิดจะรับเงินจากเขาอยู่แล้ว แต่เตชินก็ยังยืนกรานจะจ่ายหนี้ให้เอง
แต่ตอนนี้ นัชชา กลับพูดคุยกับเขาราวกับไม่รู้เรื่องที่เขายังเป็นคนอุ้มพาเธอไปโรงพยาบาลแม้แต่น้อย
“มึงว่าอะไรนะ”
“ก็หมายความตามที่บอก ฉันโดนให้ออกจากงานแล้ว”
-เห้อ...ดูเหมือนยัยนี่ท่าจะไม่รู้เรื่องอะไรเลย-
เตชินถอนหายใจ
~ช่างมันเถอะ เรื่องแค่นี้เล็กน้อยสำหรับเขา~
“เออ ออกก็ดีแล้ว จะได้ไม่ต้องทำงาน” เตชินเอ่ย นี่ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่เขาขอพี่เอริคเอาไว้ให้นัชชาออกจากงานเป็นเพราะเขาสงสารไม่อยากให้นัชชาต้องลำบากทำงานทั้งที่ยังเจ็บแผลอยู่
“ใช่ ก็ดี ไม่ต้องไปทำงาน แล้วจะได้ไม่ต้องไปเจอลูกค้าวีไอพีกวนประสาทอย่างนาย”
“ลูกค้าวีไอพี?”