ตอนที่ 10 โดนทิ้ง
ไม่กี่วันถัดมา ริสาเกิดป่วยจนต้องหยุดเรียน นัชชากับปลายฟ้า จึงชวนกันมาเยี่ยมริสาในตอนเลิกเรียน
ทันทีที่มาถึงหน้าอพาร์ทเม้นท์ นัชชาก็ต้องเบ้ปาก เมื่อได้เจอกับกลุ่มของเตชิน ที่กำลังเดินเข้ามาเหมือนกัน
“อ้าว พวกมึงก็อยู่หอนี้?” เตชินเอ่ยทักปลายฟ้า เพราะเห็นนัชชาที่ทำเมินหน้าไปทางอื่น แถมไม่ยอมมองแม้แต่หน้าของเขา อีกอย่างเขาเคยไปส่งนัชชาที่บ้านจึงรู้ว่าไม่ใช่เธอแน่ ๆ ที่อยู่หอนี้
“เปล่า พวกเรามาเยี่ยมริสา ว่าแต่พวกนาย จะย้ายมาอยู่ที่นี่เหรอ” ปลายฟ้าตอบพลางถามกลับ
“ไอมาวินคนเดียว อยู่ ๆ มันบอกขี้เกียจขับรถกลับบ้านไกลเลยขอที่บ้านมาพักหอใกล้ มหา’ ลัย”
“อ่อ ริสาก็พักที่นี่เหรอ กูเพิ่งรู้นะเนี่ย” มาวินเดินเข้ามาก่อนจะยกยิ้มที่มุมปากให้สองสาว เขาทำเหมือนไม่ตั้งใจ แต่ที่จริง…
จะบังเอิญไปไหม ที่เขาได้ห้องพักอยู่ชั้นเดียวกันริสา แม้จะห่างกันไม่กี่ห้อง
“บังเอิญจัง อยู่ชั้นเดียวกันด้วย ห้องริสาอยู่ทางโน้น พวกเราไปก่อนนะ” ปลายฟ้าชี้ไปทางห้องของริสา ส่วนนัชชายังคงเมินและทำหน้าตึงใส่เตชินไม่เลิก เตชินได้แต่เหล่มองตามยิ้ม ๆ
เขาในตอนนี้ เป็นเหมือนคนที่เจอของเล่น ที่อยากจะเอาชนะให้ได้
ทันทีที่เข้ามาในห้องใหม่ของมาวิน เตชินมองสำรวจไปรอบห้องที่มีขนาดเล็กแบบไม่เชื่อสายตา ว่าเพื่อนของเขาจะยอมอยู่ห้องเล็กขนาดนี้
“ยังไงวะ ไอวิน มึงบอกกูมาตรง ๆ เหอะ มึงย้ายตามริสามาใช่ไหม ลงทุนมากเลยนะมึงอะ”
“กูเนี่ยนะ จะย้ายตามเพื่อ” มาวินยังคงปฏิเสธหน้าตาย
“เพราะ มึงจะจีบริสา” กฤชตินเอ่ยเสียงเรียบแบบรู้ทัน
“กูเปล่า กูแค่อยากหาอะไรทำสนุก ๆ” มาวินยักไหล่ก่อนหันไปหาเตชิน “มึงล่ะ ว่าไง ไอชิน”
“กูไม่ได้อยากทำเชี้ยไรสนุก ๆ แบบมึง แต่กูอยากปราบพยศมากกว่า” เตชินนึกไปถึงวันที่โดนนัชชาต่อยจนหน้าหันวันนั้น นึกแล้วยังไม่ได้ชำระความเธอเลย
“เห้อ เชิญพวกมึงตามสบาย กูรอสมน้ำหน้าพวกปากดี” กฤชตินส่ายหน้า
“พอ ๆ ไปเอาเหล้ามา ตั้งโต๊ะ เปลี่ยนเรื่องคุย”
สามหนุ่มชวนกันเปลี่ยนเรื่อง พากันนั่งกินเหล้าอยู่ภายในห้อง จนเกือบสามทุ่มกว่า เตชินตั้งใจจะลงไปซื้ออะไรเพิ่ม แต่พอเปิดประตูออกมา เขาเห็นนัชชากับปลายฟ้าที่ยืนหน้าห้องริสาทำท่าเหมือนจะกลับกันพอดี
“เห้ย ไอตินกลับกัน” เขารีบหันไปตะโกนเรียกกฤชตินพร้อมชวนกลับทันที
“กลับไรตอนนี้วะ เพิ่งสามทุ่มครึ่ง” มาวินทำสีหน้างง ก่อนหน้านี้ยังกินกันติดลม แล้วเตชินเพิ่งจะบอกออกไปซื้อเหล้ามาเพิ่ม อยู่ดี ๆ จะกลับกะทันหัน
“เออ กูนึกขึ้นได้มีธุระ กูกลับก่อนนะ” เตชินรีบวิ่งมาหยิบกุญแจกับโทรศัพท์ที่วางไว้ ก่อนจะรีบออกไปอย่างรีบร้อน ทิ้งมาวินกับกฤชติน มองตาม
“อะไรของมันวะ”
“เออว่ะ เป็นบ้าอะไรของมัน”
ที่หน้าหอ เตชินกึ่งเดินกึ่งวิ่งมาจนทันนัชชากับปลายฟ้า ก่อนร้องเรียกพวกเธอ
“นัช ปลาย จะกลับกันแล้วเหรอ มาดิไปส่ง”
“ไม่ต้อง กลับเองได้” นัชชารีบตอบแบบไม่ต้องคิด
“กลัวสิท่า?” เตชินเลิกคิ้วมองนัชชาแบบท้าทายที่รู้ว่าเธอทำท่าเหมือนจะกลัวเขา
“กลัวไร ไม่ได้กลัว”
“ไม่ได้กลัว ก็ตามมาที่รถ วันนี้กูเอาอีกคันมาไม่ใช่รถสปอร์ตไปกันหมดอยู่ เดี๋ยวไปส่ง”
นัชชายังคงทำหน้างอไม่ยอมเดิมได้แต่ส่งสายตามองดุใส่เตชิน
“แค่ทางผ่านน่าอย่าคิดเยอะ เดี๋ยวหน้าแก่” เตชินเดินผิวปาก ทำท่าอารมณ์ดี เขาใช้มือควงกุญแจก่อนเดินนำไปที่รถ
ปลายฟ้าที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวที่เกิดขึ้นของเตชินกับนัชชาได้แต่เห็นดีเห็นงามด้วย ที่จะได้กลับรถฟรีไม่เสียค่า Taxi ได้แต่เดินตามไปอย่างไม่คิดอะไร ผิดกับนัชชาที่เดินกระแทกเท้าแบบไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่นัก
“ปลายฟ้าบ้านอยู่ไหน”
“อ๋อ กม.14”
“โอเค งั้นกูส่งมึงก่อน ค่อยไปส่งนัช เพราะบ้านนัชเป็น ทางผ่านใกล้บ้านกูพอดี” เตชินเอ่ยด้วยสีหน้าเรียบเฉย นัชชาที่เพิ่งจะดันตัวให้ปลายฟ้าไปนั่งหน้ากับเตชิน ต้องเปลี่ยนมานั่งข้างหลังแทนเพราะบ้านปลายฟ้าถึงก่อน
นัชชาจำต้องนั่งหน้ารถไปกับเตชินอย่างไม่ค่อยพอใจ เพราะลึก ๆ เธอยังคงโกรธที่เขาจูบเธอในวันนั้น
แม้จนเตชินขับรถส่งปลายฟ้าถึงบ้านไปเรียบร้อยแล้ว นัชชาก็ยังทำหน้าเมินเขา มองออกไปที่ข้างนอกหน้าต่าง เธอมองทางไปเรื่อย ๆ แต่สักพักเริ่มแปลกใจ เมื่อไม่รู้ว่าไม่ใช่ทางไปบ้านของเธอ
“นายจะไปไหนเตชิน!!” นัชชาอดไม่ได้ที่จะหันไปตวาด
“ก็มึงไม่บอกทาง กูจะจำได้ไหม ไปส่งแค่ครั้งเดียว”
“แล้วทำไมนายไม่ถามเล่า”
“เอ้า ก็เหมือนมึงไม่อยากพูดกับกู กูเลยลองขับไปมั่ว ๆ ดู เผื่อจะยอมพูดด้วย” เตชินยิ้มยั่วแต่สายตายังคงจ้องมองไปที่ถนน
นัชชาได้แต่ทำเสียงหายใจฮึดฮัดแบบไม่สบอารมณ์ เมื่อรู้ว่าเขากำลังจงใจแกล้งเธอ
“จะบอกได้ยัง ตกลงไปทางไหน”
“จอดข้างหน้านั่นแหละ ฉันจะกลับ Taxi”
“แต่ซอยนี้มันเปลี่ยวมากเลยนะ แน่ใจนะว่าจะลง”
“แน่ใจ เดี๋ยว Taxi ก็มา อยู่กับนายน่ากลัวกว่า”
“จริงดิ”
“เออ จอด จอดตรงนี้แหละ”
เตชินนึกขำในความอวดดีของนัชชา ที่ผ่านมาไม่เคยมีใครกล้าอวดดีใส่เขาเลยสักคน เขาตัดสินใจหยุดรถข้างหน้าโดยทันที พร้อมปลดล็อคให้นัชชาลงจากรถ
คราวนี้เอง นัชชาถึงเริ่มตระหนักว่า ถนนเส้นนี้เป็นทางลัดเชื่อมไปต่อหลาย ๆ ซอย และแน่นอนว่า เปลี่ยวอย่างที่เตชินบอก
แต่…มาถึงขั้นนี้แล้ว เธอจะยอมแพ้ไม่ได้ นัชชารีบเปิดประตูรถแล้วลงไปทันที พอ ๆ กับเตชินที่ขับรถออกไปเลยเช่นกัน
นัชชาได้แต่ยืนเหวอ เพราะไม่คิดว่าเธอแค่ท้า แล้วนายเตชินจะขับรถทิ้งเธอไปแบบนี้ เธอได้แต่มองเขาอย่างโมโห เมื่อเห็นว่าตรงมุมกำแพงตึกร้างนั้นมีซอยทางลัดอยู่ รถเขาก็เลี้ยวหายลับสายตาไปทันที