พิธีการต่าง ๆ ถูกจัดเรียบร้อยขาดเพียงขั้นตอนเดียวนั่นคือการเปิดผ้าคลุมหน้าของเจ้าสาว ดรุณีน้อยในชุดเจ้าสาวสีแดง นั่งหน้าแดงปลั่งเมื่อจินตนาการไปถึงการเข้าหอระหว่างชายหญิง ที่ได้อ่านจากตำราที่เสด็จป้าฮองเฮานำมาให้เมื่อตอนเข้าไปฝึกหัดทำอาหารในวัง แต่จนแล้วจนรอดเจ้าบ่าวเช่นฮ่องเต้โม่อี้หยาง ก็ยังคงนั่งจิบน้ำชาจนค่อนคืน
“เออ ไม่เปิดผ้าเหรอเพคะ”
ไป๋หลี่ฮวาจำต้องเอ่ยขึ้นมา นางรอมาจนค่อนคืนก็ยังคง นิ่งเฉยและไม่คิดจะทนอีกแล้ว // นานเกินไปจนข้าง่วงแล้วนะ ไหนท่านแม่บอกว่ารอแค่ครู่เดียวอย่างไรเล่า
“มารดาเจ้าสอนให้ถามข้าเช่นนี้หรือ”
ฮ่องเต้ตรัสด้วยน้ำเสียงดุดันนึกไม่พอพระทัยฮองเฮา ของตนนัก นางช่างกล้าหาญมาสั่งเขาให้เปิดผ้าคลุมหน้านางคิดว่าตนเองเป็นใครกัน มิรู้จักที่ต่ำที่สูง
“เปล่าเพคะ หม่อมฉันเห็นว่านานแล้วทำไมยังไปเปิดอีก”
วาจาหวานไพเราะไม่ได้ทำให้พระทัยฮ่องเต้เย็นลงแต่กลับเพิ่มโทสะให้มากขึ้น
“สั่งข้าเช่นนั้นหรือ”
พระองค์ตรัสนิ่ง ๆ พยายามคิดในพระทัยว่าอย่างไรเสียนางก็เป็นบุตรของจ้าวเหมยฮวาสตรีที่พระองค์รักดุจดั่งน้องสาว จะพยายามลืม ๆ ไปว่าบิดาไป๋หลี่ฮวานั้นเป็นศัตรู
“ทรงคิดมากไปแล้วเพคะ หม่อมฉันจะไปสั่งเสด็จพี่ ได้อย่างไรกันหม่อมฉันเป็นเพียงภรรยานะเพคะ ตอนนี้เห็นว่า ดึกมากแล้วควรพักผ่อนนะเพคะเสด็จพี่”
ฮองเฮาป้ายแดงพยายามข่มจิตข่มใจไม่ให้ลุกขึ้นไปจับถ้วยน้ำชาสาดใส่สามีเอาแต่ใจ
“ใครสั่งให้เจ้าเรียกข้าเช่นนี้ ต่อไปเรียกฝ่าบาท”
พระองค์ปรายตามองเพียงเล็กน้อยก่อนจะสั่งเสียง เฉียบขาด นางเป็นบุตรสตรีที่เคยรักก็จริงแต่นิสัยกลับไปเอาจากบิดาของนางที่เป็นศัตรูพระองค์มากมายเหลือเกิน ดื้อรั้น เจ้าเล่ห์ ร้ายกาจ วาจานั้นแสบสันเกินสตรีล้วนรวมอยู่ในตัวนางทั้งสิ้น ไหนจะมารยาจากมารดาของนางอีกเล่า หากพระองค์เผลอใจ ไปกับนางวังแห่งนี้มิต้องปั่นป่วนเลยหรือ
“ไม่เอาหรอก เรียกแบบนั้นมันไม่น่ารักเลยนะเพคะ เสด็จพี่”
คำศัพท์ประหลาดหลุดจากปากกระจับสีชมพูระเรื่อ น่าลิ้มลอง แต่ฮ่องเต้ก็ละความสนใจเมื่อทรงนึกขึ้นได้ว่ามารดา ของนางก็มักเอ่ยคำประหลาดออกมาบ่อยครั้ง
“ข้าสั่ง ภรรยาที่ดีต้องทำตาม”
ฮ่องเต้ให้เหตุผล
“เอ๊ะ เสด็จพี่นี่ชักจะเอาแต่พระทัยตัวเองมากไปแล้วนะ เพคะ งั้นเรียกเสด็จลุงเห็นจะพอพระทัย”
อารมณ์ขุ่นมัวที่ต้องรอนานทำให้ฮองเฮากล้าแสดงอาการฮึดฮัดไม่พอใจออกมา ด้วยปกติแล้วถูกตามใจเสียจนเคยชินทั้งจากบิดามารดาและเสด็จลุงเสด็จป้าผู้ครองแคว้นรวมถึงองค์รัชทายาทเหยี่ยหมิงและองค์หญิงเสี่ยวหลงหลี่ นางจึงไม่ใช่คนที่ชอบ ถูกขัดใจนัก
“หลี่ฮวา!!! นั่นเจ้าคิดจะทำสิ่งใด”
พระองค์มองร่างยวนตาปลดชุดคลุมด้านนอกทิ้งไป ตามด้วยพาตนเองขึ้นไปนั่งบนแท่นบรรทมของฮ่องเต้
“ไม่เปิดก็อย่าเปิด นี่หม่อมฉันง่วงจนทนไม่ไหวแล้ว นะเพคะ”
กล่าวจบผ้าคลุมหน้าเจ้าสาวก็ถูกแขนเล็กสะบัดทิ้งไปอย่างไม่ไยดี