“อายุเท่าไหร่แน่” เขาถามพร้อมแบมือขอบัตรประชาชน พริณตาควักบัตรประชาชนจากกระเป๋าสตางค์ใบเก่าให้เขาดู
“อายุสิบแปดวันพรุ่งนี้” พริณตาบอกเสียงเบา เพราะเธอจะครบสิบแปดวันพรุ่งนี้นังแม่เลี้ยงใจร้ายมันก็คิดจะขายเธอทันที
“แล้วไม่มีญาติที่ไหนหรือ” พฤกษ์ยังถาม ระหว่างนั้นเขาก็ส่งรูปบัตรประชาชนของเธอให้กับทนายจัดการเรื่องนี้
“ไม่มีค่ะ” พริณตามองหน้าเขาอย่างชั่งใจ เขาอาจจะหลอกเธอไปขายเหมือนอย่างแม่เลี้ยงของเธอก็ได้แต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไรที่ทำให้เธอเชื่อใจเขา เชื่อว่าเขาจะไม่มีทางทำแบบนั้นกับเธอ
“ฉันกำลังจะย้ายไปทำงานที่เชียงใหม่ เธอจะไปด้วยไหม” พฤกษ์มีแผนจะย้ายไปทำงานที่นั่นตามคำชวนของเพื่อนรุ่นพี่ ตอนนี้เขากำลังเบื่อเมืองหลวงแห่งนี้ อยากไปให้พ้นคนใจดำ
“ไปค่ะ นายให้หนูไปไหนหนูก็ไปหมดค่ะ หนูไม่มีที่ไปแล้วจริง ๆ” น้ำตาของเด็กสาวรื้นขึ้นมา เห็นแล้วพฤกษ์ก็อดสงสารไม่ได้
“รู้ใช่ไหมว่าฉันไม่ได้ใจดีขนาดนั้น ถ้าอยู่กับฉันก็ต้องตอบแทนฉัน ฉันจะเลี้ยงดูส่งเสียเธอจนเรียนจบ ระหว่างที่มีฉันเธอห้ามมีใคร แต่ถ้าเธออยากจะเลิกสัญญานี้ฉันก็พร้อมทุกเมื่อ ถ้าฉันมีคนที่รักฉันจะบอกเธอเองแล้วฉันจะให้เงินเธอก้อนหนึ่งเธอจะไม่ลำบาก” เขาเองก็ไม่ใช่คนดีอะไรถ้าจะต้องเลี้ยงดูคนสักคนเขาก็ต้องได้อะไรตอบแทนบ้าง
“ค่ะ” พริณตาพยักหน้า ขอแค่ให้ได้เรียนเขาจะให้เธอทำอะไรก็ได้ ขอแค่มีความรู้ติดตัว
“เธอไม่มีสิทธิ์อะไรในตัวฉัน ห้ามหึง ห้ามหวง” พฤกษ์อยากขีดเส้นให้ชัดเจนเขาไม่อยากมีปัญหาในอนาคต
“ค่ะหวานเข้าใจ” เธอพยักหน้าเข้าใจ สิ่งที่เขาต้องการสื่อความหมาย ก็เธอไม่ได้เป็นเด็กไร้เดียงสาขนาดนั้น รู้ว่าผู้ชายที่จะเลี้ยงดูเด็กสาวที่ไม่ใช่ญาติ คงเป็นแค่นางบำเรอเท่านั้นแหละที่เขาจะเลี้ยงไว้
“เข้าใจก็ดีแล้ว ฉันไม่อยากมีปัญหาเรื่องหึงหวงในอนาคต”
“ค่ะ”
***
“ยังไม่เคยใช่ไหม” เขาถามอย่างใจเย็น ถึงข้างในจะร้อนเพียงไรก็ตาม ไม่อยากให้เธอคิดว่าเขาช่วยเพราะหวังแต่เรื่องอย่างว่าในตัวเธอ
แต่มึงก็หวังแต่เรื่องอย่างว่าอยู่แล้วไม่ใช่เหรอวะ
ความคิดในหัวที่เถียงออกไป ก็ใช่สิเขาคิดแต่เรื่องอย่างว่ากับเธอทั้งที่ไม่เคยมีความรู้สึกกับคนไข้มาก่อน แต่กับเธอเขากลับมีมากเสียจนอยากจับเธอกระแทกตั้งแต่เธอเดินเข้าห้องมาแล้ว
“อื้อ..” เสียงครางของสาวน้อยวัยแรกแย้มดังขึ้น เมื่อเขาลูบไล้ต้นขาของเธอพร้อมมอบจูบแสนหวานให้เธอ เด็กสาวตื่นเต้นกับรสจูบที่ไม่เคยได้พบเจอ หัวใจของเธอเต้นระส่ำ มือหนาลูบไล้แผ่นหลังของเธออย่างเบามือและเริ่มรุนแรงขึ้นเมื่ออารมณ์ปรารถนากำลังเพิ่มมากขึ้น เมื่อเขาได้สัมผัสผิวกายอ่อนนุ่มของเธอ ความนุ่มนิ่มและสู้มือของทรวงอกคัดแน่นสู้ฝ่ามือของเขา
“อื้อ..เคยช่วยตัวเองไหม” เขาถามออกมาตอนที่กำลังวุ่นวายกับเสื้อของเธอ เสื้อยืดตัวบางถูกดึงออกจากร่างบาง พริณตาส่ายหน้ากับสิ่งที่เขาพูด เธอจะเคยช่วยตัวเองได้ยังไงในเมื่อเธอเป็นเด็กเรียบร้อยเรียนเก่ง อนาคตสดใสแต่ใครจะคิดว่าเพียงอาทิตย์เดียวชีวิตเธอจะเปลี่ยนไปตลอดกาลเพียงเพราะพ่อเธอเสียชีวิต
ถ้าได้เรียนก็ไม่เป็นไร อะไรที่มันจะต้องเสียก็ไม่เป็นไร มันเป็นแค่เรื่องทางกายเท่านั้น ชีวิตคนเราก็ต้องเดินหน้าเธอจะมีความสุขในวันนี้เท่านั้น อนาคตก็ให้ฟ้าลิขิต พริณตาหลุดจากภวังค์เมื่อเขางับปลายยอดถัน เขาดูดจนเธอเจ็บแปลบตรงปลายยอดอก
“อืม อย่ากัด” พริณตาบอกเขาเมื่อเขากัดแรงขึ้นจนเธอรู้สึกเจ็บ
“ขอโทษ มันเขี้ยวมันทนไม่ไหว..อือเธอหอมมาก” พฤกษ์ครางบอกทั้งที่ปากก็ยังดูดเลียยอดอก
“ยกก้นขึ้น ถอดกางเกง” เขาสั่งเสียงกระเส่า เพราะความตื่นเต้นอดด่าตัวเองไม่ได้ว่าจะมาตื่นเต้นทำไมนี่ไม่ใช่ครั้งแรกของเขาสักหน่อย เธอต่างหากที่ต้องตื่นเต้นเพราะครั้งแรกของเธอ
“อ๊ะ” พริณตาพยายามกลั้นเสียงครางเมื่อเขาลูบไล้ส่วนกลางกายของเธอ นิ้วเรียวของเขานวดคลึงติ่งเสียวของเธออย่างชำนิชำนาญ เสียงพริณตาที่อดกลั้นไว้ตอนแรกตอนนี้เธอไม่สามารถอดกลั้นได้แล้ว
“หมอ...หมอ..”
“อะไร...สาวน้อย เสียวเหรอ” พริณตาพยักหน้า เธอไม่รู้ว่าสิ่งนี้เรียกว่าเสียวได้ไหม แต่รู้แค่ว่ามันดีมากจนเธอไม่อาจกลั้นเสียงครางไว้ได้
“หมอเสียว” พริณตาร้องออกมาอย่างที่เธอรู้สึก ตอนนี้ร่างกายของเธอไม่มีสิ่งใดให้ปกปิด ฝ่ามือทาบทับกับกลางกายซึ่งฉ่ำชื้นด้วยความต้องการ หน้าอกของเธอก็คัดแน่นไปด้วยความต้องการไม่ต่างกัน ขาสองข้างถูกยกขึ้นพาดไว้ตรงไหล่กว้าง มือหนาช้อนสะโพกของเธอขึ้น แอ่นอ้ากลางกายให้เขาได้ชิมความหวานของสาววัยแรกแย้ม