ฉันกำลังหาวิธีไล่วาคีนให้กลับไปอยู่ในที่ของเขาค่ะ โดยที่ฉันเองก็ไม่รู้เลยว่าเขาจะกลับไปเมื่อไหร่ ฉันจ้องมองไปที่วาคีนที่เพิ่งเดินออกมาจากห้องน้ำ เขาเงยหน้าขึ้นมามองฉัน เสยผมที่ตกลงมาปิดหน้าผากขึ้นอย่างลวกๆ แล้วยิ้มออกมา ยิ้มที่ฉันไม่ได้เห็นมานานหลายปี ยิ้มที่ฉัน 'เคย' คิดถึง วาคีนเขาเดินเข้ามาหาฉันที่ยืนกัดเล็บตัวเองอยู่ที่โต๊ะอาหาร
"จ จะทำอะไรคะ"
"เปล่าครับ อยู่คนเดียวเหรอ เหงามั้ย"
ไอ้ที่ถามฉันมา ฉันก็พอเข้าใจได้อยู่หรอกค่ะ แต่ว่าไม่เห็นจำเป็นจะต้องใช้สองแขนคร่อมตัวฉันเอาไว้แบบนี้เลย ฉันยิ่งใจไม่ค่อยจะแข็งแรงอยู่ ฉันรีบดันวาคีนให้ออกห่างฉัน แล้วก็เพิ่งจะคิดคำพูดจาว่าร้ายเขาได้อีกด้วย ฉันเก่งใช่มั้ยคะ
"อย่ามาคุกคามฉันนะ"
"คีนยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะครับ"
ทำหน้าซื่อ อยากทุบให้หลังแอ่นเลยจริงๆ ที่คร่อมฉันอยู่นี่คือไม่ได้ทำอะไรจริงๆ ใช่ไหมคะวาคีน แถมตัวเองก็หอมออกปานนั้นฉันจะทนไหวได้ไง เฮ้ย! ไม่ใช่ๆ ฉันหมายถึงฉันจะทนไม่ให้โมโหได้ยังไง ฉันต้องโมโหสิคะ
"อ ออกไปค่ะ เฟิร์นจะพักผ่อนนะคะ"
ฟุบ!
"เหนื่อยจังครับ" อยู่ๆ เจ้าลูกหมาวาคีนก็ฟุบหน้าลงมาใช้หน้าผากของเขาซบลงที่ไหล่ของฉันเล่นเอาฉันสั่นไปหมดเลยล่ะค่ะ ฉันตั้งตัวไม่ทันนี่คะ ฉันต้องทำอะไรสักอย่างแล้วละคะ วาคีนทำแบบนี้ หัวใจของฉันมันทนไม่ได้แน่
"ทำไม..." อะ อะไร ทำไมอะไร ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะ รอยยิ้มนั้นคืออะไร ยิ้มทำไม
"ใจเต้นแรงจัง" รู้ว่าพูดออกมาแล้วคนอื่นจะเขินอายก็ยังจะพูดออกมาอีก อีตาบ้านี่วอนโดนแล้วละ ฉันหลับตาลงค่ะจะได้ไม่เห็นหน้าของวาคีน ฉันรวบรวมเรี่ยวแรงทั้งหมดที่มีดันร่างกายของวาคีนให้ห่างออกไป รอบนี้เขาไม่ขืนตัวเอาไว้นะคะ ยอมถอยห่างออกไปง่ายๆ
"กลับไปได้แล้วค่ะ เดี๋ยวเฟิร์นจะไปข้างนอก"
"ไปข้างนอก?" เขาทวนคำพูดฉันค่ะ แล้วฉันก็พยักหน้าบอกเขา อันที่จริงฉันยังไม่ได้คิดเลยค่ะว่าฉันจะไปไหน ปากมันพลั้งออกไปแล้ว
"ออกไปข้างนอกตอนเก้าโมงเนี่ยเหรอครับ" ฉันตาโตขึ้นอย่างตกใจเมื่ออยู่ๆ
"ถะ ถอดเสื้อทำไมคะวาคีน"
"ก็มันร้อนนี่ครับ" พระเจ้า! ไม่อยากจะเชื่อร้อนอะไรอากาศหนาวจะตายชัก แล้วก็นะที่ฉันเห็นเมื่อกี้มัน มัน ซิกซ์แพ็ก วะ วาคีนมีซิกซ์แพ็กเป็นลูกๆ เลย ค่ะ เหมือนฉันเห็นว่ากล้ามแขนก็มีด้วยนะคะ ไหนว่างานยุ่ง (ฉันดูจากไอจี) แล้วเอาเวลาที่ไหนไปปั้นสิ่งเหล่านั้น หรือวาคีนยังจำได้ว่าฉันแพ้ผู้ชายหล่อหุ่นดี หัวใจจ๋าเธอต้องแข็งแรงเข้าไว้นะ เขาก็แค่เอาหน้าตากับเรือนร่างมาหลอกล่อเธอ
"น้ำลายไหลแล้ว" อะ อีตาบ้านี่!
ฉันเดินหนีไปนั่งที่โซฟาค่ะ ใช้สายตาของตัวฉันเองเนี่ยแหละแอบมองร่างกายของวาคีนในตอนที่เขาเดินไปเปิดตู้เย็นหยิบน้ำขวดขึ้นมาดื่มอย่าถือวิสาสะแล้วพิจารณา เขาดูสมบูรณ์แบบขึ้นจริงๆ นะคะ ร่างกายดูล่ำขึ้น ขาวขึ้น หน้าท้องก็ลีนขึ้น กล้ามแขนดูดี มือก็สวย ต่างจากวาคีนตอนก่อนลิบลับเลยละคะ ตอนนั้นกล้ามแขนพอมีแต่ไม่เท่านี้ กล้ามหน้าท้องก็มีนิดหน่อยแต่ไม่เท่านี้ อ่ะ ให้ตายสิ ฉันกำลังลวนลามร่างกายของแฟนเก่า!
"มาทำอะไรที่นี่เหรอคะ" เขายังดื่มน้ำอยู่ฉันเลยถามขึ้นมา
"มาตามมะ... มาทำงานน่ะ" อ่อ มาทำงานแต่เขาสนใจที่นี่ด้วยงั้นเหรอ ว่าแต่ที่ไหนกันนะ
"แล้วรู้ที่อยู่เฟิร์นได้ไงคะ แอบส่งคนมาสตอล์กเกอร์เฟิร์นเหรอ" ถ้าใช่นะ จะวิ่งไปเอามีดในครัวมาฟันหัวให้ดู!
"ก็เฟิร์นลืมกระเป๋าไว้ที่รถเข็นของซูเปอร์ไง" อ่อ จริงด้วย เพราะคีย์การ์ดของฉันบอกที่อยู่ว่าอยู่คอนโดไหน แต่ไม่ได้บอกชั้นที่พัก แสดงว่ามันคงเป็นเรื่องบังเอิญจริงๆ นั่นแหละ
"แล้วจะกลับไปตอนไหนคะ"
"ทำไมครับ อยู่กับคีนนานอีกสักหน่อยไม่ได้เลยเหรอ" วาคีนเดินมานั่งข้างๆ ฉันค่ะ แถมยังไม่ยอมใส่เสื้อ นี่กำลังยั่วยวนฉันทางอ้อมชัดๆ เลย
"ไม่ได้ค่ะ"
"ทำไมครับ"
"อ่ะ! ย อย่าคร่อมตัวเฟิร์นตามใจชอบแบบนี้สิคีน" เจ้าเล่ห์! นี่มันไม่ใช่หมาน้อยวาคีนแล้ว แต่เป็นหมาป่าวาคีนมากกว่า
"แล้วทำไมไม่ได้ครับ" ไม่ฟังฉันเลยให้ตายเถอะ นี่วาคีนเขาลืมหรือไงคะว่าเราไม่ควรมาคุยกันดีแบบนี้นะ ถึงแม้ว่าคำพูดคำจาของเขาจะเปลี่ยนไปก็ตาม แต่วาคีนลุคนี้มัน...
"เม้มปากทำไมครับ คิดอะไรอยู่"
"ก็... เฟิร์นเกลียดวาคีน"
วาคีนเขาถอนตัวเองออกจากการที่คร่อมฉันอย่างคุกคามเมื่อครู่ สีหน้าของเขาดูเศร้าแปลกๆ แล้วจะมาทำเศร้าทำไมคะเนี่ย ฉันต่างหากที่ต้องเศร้า หนีมาได้ตั้งหลายปียังอุตส่าห์บังเอิญมาเจอกันอีก ที่ออสเตรียนี่ก็มีตั้งหลายรัฐแล้วทำไมวาคีนต้องมาทำงานที่รัฐที่ฉันอยู่ด้วยเนี่ย!
"ร รู้แล้วก็กลับไปได้แล้วค่ะ"
"ขออยู่ต่ออีกแป๊บได้มั้ย คีนเหนื่อย"
ไม่พูดเปล่า เสียเปรียบไม่ได้เลยผู้ชายคนนี้! วาคีนเขาล้มตัวลงมาหมายจะหนุนตักฉันค่ะ ฉันรู้ และก็เพราะว่าฉันรู้ฉันเลยรีบลุกขึ้นยืนทำให้วาคีนทิ้งตัวลงไปที่โซฟาเปล่าๆ แม้แต่หมอนอิงก็ไม่มีให้หนุน สะใจชะมัด
"เหนื่อยก็กลับไปพักโรงแรมตัวเองสิคะ"
"เพราะคีนต้องเอากระเป๋ามาคืนเฟิร์น คืนไม่รู้ว่าที่นี่อะไรอยู่ตรงไหนแผนที่ก็ไม่มี ต้องเดินตามหาไปทีละซอย เฮ้อ..." โถ่ พูดซะน่าสงสารเชียว
"เข้าซอยผิดก็โดนหมาวิ่งไล่ เฮ้อ..." ฉันยืนกอดอกฟังนักท่องเที่ยวที่ไม่คุ้นถิ่นพูดพร่ำ
"กว่าจะเจอเฟิร์นก็เดินจนขาลากเลยนะครับ เฮ้อ... เหนื่อยมากเลย"
วาคีนเขาลุกนั่งเหมือนเดิมเพราะนอนหนุนตักฉันไม่ได้ แล้วเหลือบมองใบหน้าของฉันด้วยแววตาแปลกๆ เหมือนกำลังโกหกอะไรบางอย่าง หรือฉันคิดไปเอง ก็น่าสงสารอยู่หรอกนะคะ ก็เขาไม่คุ้นถิ่นนี่เนอะ
"คีนเดินไปหาอะไรกินในซูเปอร์ พอเห็นเฟิร์นคีนดีใจมากเลยนะ ดีใจที่เราบังเอิญได้กลับมาเจอกันอีก"
"แต่เฟิร์นไม่เห็นดีใจเลย วาคีนจะกลับได้รึยังคะ" ฉันไล่เขาเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ค่ะ แต่ฉันรู้สึกว่า วาคีนเขาเปลี่ยนไปอยู่เหมือนกันนะคะไม่รู้ว่าทุกคนรู้สึกเหมือนฉันมั้ย หรือเป็นเพราะว่าฉันกับเขาเราไม่ได้เจอกันมานานเลยรู้สึกไม่คุ้นชินทั้งๆ ที่เราเคยคุ้นเคยกัน
"เฟิร์นใจร้ายขึ้นเยอะเลยนะ" เขาพูดกับฉันค่ะ ยังมีหน้ามาต่อว่าฉันนะคะ ทีตัวเองละ
"เพราะเฟิร์นได้ครูดีอย่างวาคีนมั้งคะ เลยใจร้ายเป็น" ฉันร้ายกาจใช่มั้ยละ คิก คิก