7

1290 Words
ก่อนตอนนี้ผมสังหรณ์ใจยังไงไม่รู้ ผมห่วงหลานผมมาก” “ฉันเป็นหมอ ยังไงก็ต้องดูแลแกอยู่แล้วไม่ต้องห่วงหรอก” หญิงสาวเอ่ยแล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่ เธอรู้สึกสงสารหนูน้อยที่สุดในเวลานี้ อาก็มาเป็นแบบนี้ หลานก็ไม่มีที่พึ่งเธอได้แต่นึกเวทนา... เขานั่งหมดอาลัยตายอยาก ตุลยารีบโทรศัพท์หาธีรพันธ์ให้มาหาเธอในตอนเย็น และเขาก็มาตามนัดและเมื่อหญิงสาวเล่าเหตุการณ์ให้ฟังและพาเขาไปดูเด็กหญิงตัวน้อยที่เวลานี้เธอได้ให้นอนพักผ่อนตามเนื้อตัวมีแต่รอยช้ำสีม่วง ธีรพันธ์รู้สึกตกใจที่เห็น เขาขอคำแนะนำจากหญิงสาวตุลยาบอกว่าให้หาพี่เลี้ยงใหม่แม้ว่ามันจะยากและเธอจะช่วยดูแลเด็กน้อยในระหว่างนี้เอง ทำให้ธีรพันธ์เบาใจแต่ก็หนักใจเรื่องบริษัทที่ตอนนี้มีหลายคนได้ทราบข่าวของปฏิภาณต่างก็หวังผลจากบริษัทดีแต่เขาพยายามถ่วงเอาไว้เสียก่อน “ฉันอยากจะแนะนำคุณนะคะคุณปฏิภาณ ถ้าคุณเอาแต่โกรธมันไม่เกิดประโยชน์หรอก ฉันอยากให้คุณทำจิตใจให้สงบ พรุ่งนี้ลุงฉันจะมาแต่เช้า” “มันเกี่ยวอะไรกับผมกับคุณลุงคุณ” “ก็ไม่เกี่ยว แต่ท่านเคยบวชเรียนมาอาจจะแนะนำอะไรคุณได้บ้าง ถ้าคุณจะยอมฟังท่าน” “ก็ได้” เขารับปากเสียงท้อแท้ คุณหมอสาวสวยตั้งใจว่าจะพยายามหาทางช่วยเขาให้มากที่สุดแสงอาทิตย์แรกของวันสาดส่องลงมา เสียงนกร้องขณะออกหากิน พระสงฆ์สามรูปเดินมาหยุดตรงหน้า ตุลยาถอดรองเท้าไว้ข้างตัวและประนมมือไหว้เขาทำตามเช่นกัน เขามองหญิงสาวตักข้าวใส่ลงไปในบาตรพระก่อนจะหยิบถุงกับข้าวตามส่งไปแล้วประนมมือไว้เมื่อตักบาตรเสร็จเธอก็ดาเขาไปนั่งใต้ต้นไม้เธอกรวดน้ำท่องบทอุทิศส่วนกุศลให้เขา วิญญาณของเขาประนมมือรับ เสียงรถยนต์แล่นมาจอดหน้าบ้านชายสูงวัยหน้าตาอิ่มเอิบในชุดขาวเดินลงมา “ลุงบดี มาแต่เช้าจังนะคะ" หญิงสาวเอ่ยทักพร้อมกับทำความเคารพ “แต่ก็ยังสายกว่าหลาน ตักบาตรเสร็จแล้วหรือลูก” ลุงบดีดึงร่างบางมากอดเพราะรักเหมือนลูกเหมือนหลานคนหนึ่ง เธอหันไปหยิบถาดเปล่าเดินเข้าบ้าน “ค่ะ พระท่านเพิ่งไปเมื่อครู่ เข้าบ้านก่อนไหมคะลุง” “ดีสิ” ปฏิภาณเดินตามทั้งคู่เข้าบ้านอย่างเหงาๆ ลุงบดีทรุดตัวลงนั่งระเบียงบ้าน หลังจากทักทายกับบิดาของเธอแล้ว หญิงสาวขอตัวไปยกอาหารเช้าออกมาเลี้ยง ปฏิภาณนั่งเหม่อมองไปในสวนห่างจากชายสูงวัยเพียงที่คืบ “ทำไมพ่อหนุ่มถึงมาอยู่ที่นี่” เสียงทุ้มที่ดังขึ้นทำให้เขาเบิกตากว้าง เขาไม่ได้หูฝาดใช่ไหม ผู้ชายคนนี้กำลังพูดกับเขา “ละ ลุงเห็นผม ลุงเห็นผมใช่ไหม” เขากระเถิบจนชิดด้วยท่าทางดีใจสุดขีด นอกจากหญิงสาวแล้วก็มีชายคนนี้มองเห็นเขาชีวิตในร่างวิญญาณช่างเงียบเหงาเหลือเกินได้แต่เฝ้ามองทุกอย่างในโลกหมุนเวียนเปลี่ยนไปโดยไม่สามารถทำอะไรได้ “ใช่ ว่าไงพ่อหนุ่ม ยังไม่ตอบว่าทำไมมาอยู่ตรงนี้” “รถผมเกิดอุบัติเหตุ วิญญาณเลยออกจากร่าง” “คุณคงใจร้อนรีบลงมาโดยที่ยังไม่ถึงเวลามากกว่า” ลุงบดีดักคอ เขาเคยนั่งวิปัสสนากรรมฐานจนพลังแก่กล้า เคยเรียนรู้เกี่ยวกับโลกของจิตวิญญาณมาบ้าง เขาคือหนึ่งในวิญญาณที่ไม่ทำตามกฏ “ลุงรู้ ถ้างั้นลุงต้องรู้ใช่ไหมว่าจะทำให้ผมกลับเข้าร่างได้ยังไง บอกผมหน่อย ผมเบื่อจะแย่แล้ว ช่วยผมด้วย” “ใจเย็น ๆ สิ พ่อหนุ่ม ผมไม่ได้รู้ทุกเรื่องหรอก ผม “แค่เดาเอา” “แต่ลุงก็มองเห็นผม ที่ลุงพูดก็ถูกทุกอย่างก่อนที่ผมจะมานี้ก็มีคนบอกว่ายังไม่ถึงเวลาของผม แต่ตอนนั้นผมใจร้อนอยากลงมาหาหลาน” “คุณต้องทำจิตให้สงบกว่านี้ขึ้น คุณยังใช้พลังงานไปมากๆ ไม่ถึงเจ็ดวันวิญญาณของคุณจะสลายไปหมด” “ผมไม่กลัว วันนี้คุณหมอทำบุญกรวดน้ำให้ผมแล้วผมรู้สึกดีขึ้นเยอะ” “คุณนี้ซื้อจริงๆ เลยนะพ่อหนุ่ม” ลุงบดีหัวเราะแต่ก็แนะนำให้เขาทำจิตใจให้สงบและบริสุทธิ์ ไม่ใช่เอาแต่โมโหให้เขานั่งสมาธิและท่องคาถามตามที่บอกปฏิภาณไม่มีทางเลือกอีกอย่างเขาอยากจะกลับเข้าร่างให้ได้จึงทำตามที่ลุงบดีแนะนำทุกอย่างแม้ว่าจะยากสักหน่อยสำหรับเขา “ลุงบดีคะ อาหารเช้าพร้อมแล้วค่ะ เชิญข้างในเลย”ลุงบดีคลี่ยิ้ม กำลังจะสอนต่อแต่หญิงสาวเดินออกมาเรียกเสียก่อน “ไปเถอะบดีวันนี้แม่น้อยกับยายตุ๊กช่วยกันทำอาหารให้เราสองคนกินกัน” หญิงสาวเดินนำหน้าชายสองคน ลุงบดีหันมาบ่นพึมพำ “จะตามเข้ามาหรือรอที่นี่ล่ะ ผมคงต้องไปกินข้าวกับน้องชายและหลานสาวไว้กินเสร็จผมจะค่อยมาสอนต่อ”หญิงสาวเบิกตากว้างมองลุงบดี ถ้าเธอเข้าใจไม่ผิดลุงของเธอกำลังพูดกับปฏิภาณ “พี่พูดกับใครพี่บดี” ตรัยถามพี่ชาย “อ๋อ เปล่าหรอก เราเข้าไปกันเถอะ” “ผมรอที่นี่ดีกว่า เชิญพวกคุณตามสบาย” ลุงบดียิ้มให้หลานสาวเมื่อได้ยินคำพูดของชายหนุ่มทั้งคู่จึงไม่ได้สนใจเขาอีก หลังจากกินข้าวเสร็จและได้อยู่ตามลำพังกับลุงบดีหญิงสาวก็ถามขึ้น “ลุงเห็นหรือคะ” “เขามาอยู่กับหลานที่นี่กี่วันแล้ว” “ก็หลายวันแล้วค่ะ รถของคุณปฏิภาณประสบอุบัติเหตุร่างของเขาตอนนี้นอนโคม่าอยู่ในห้องไอซียู ส่วนวิญญาณก็อย่างที่ลุงเห็นแหละค่ะ ตุ๊กก็ไม่รู้จะช่วยยังไง” “คนธรรมดาอย่างเราๆ คงช่วยไม่ได้หรอก” “ถ้างั้นใครล่ะคะลุงที่จะช่วยได้ ตุ๊กสงสารเขาเขามีหลานสาวตัวเล็ก ๆ อีกคนค่ะ เป็นคนไข้ของตุ๊กเอง นั่นพ่อแม่ก็เสียชีวิตมีแต่อาคนเดียวเท่านั้น” “ลุงว่าจะพาพ่อหนุ่มคนนี้ไปหาหลวงพ่อที่วัด” “ถ้างั้นก็ดีสิคะ” ลุงบดีพยักหน้า “ลุงว่าท่านอาจแนะนำพ่อหนุ่มใจร้อนคนนี้ได้ดีกว่าพวกเรา บอกตามตรงขึ้นเราสองคนสอนไปพ่อหนุ่มก็คงฟังไม่เข้าหูหรอก ใจเร็วเป็นรถด่วนแบบนั้น” หญิงสาวอมยิ้ม ดีที่เขานั่งเล่นอยู่นอกระเบียง มิเช่นนั้นมีหวังโมโหแน่ “ถ้าลุงช่วยได้ก็ช่วยเขาเถอะค่ะ จะไปกันวันไหนคะ” “วันนี้เลยเป็นไงลุงเองก็อยู่ว่างๆ พ่อหนูก็อยากไปวัดอยู่แล้ว ตุ๊กจะไปด้วยกันไหม” “ไม่ดีกว่าค่ะวันนี้ตุ๊กต้องไปโรงพยาบาลจะไปดูหลานสาวของเขาสักหน่อย ป่านนี้คงอยากกลับบ้านใจจะขาดแล้วแต่ไม่รู้ว่าหาพี่เลี้ยงคนใหม่ได้หรือยัง” หญิงสาวได้แต่ภาวนาและขอให้ได้คนที่มีจิตใจรักเด็กจริงๆ เถอะ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD