5

1736 Words
“นี่คุณกล้าแช่งผมหรือ” “เปล่า ฉันไม่ได้แช่ง ก็แค่พูดไปตามเนื้อผ้า อาการของคุณหนักมากรูม่านตาไม่ตอบสนอหมายความว่าสมองคุณอาจตายไปแล้วก็ได้ ถึงคุณจะฟื้นก็อาจเป็นเจ้าชายนิทรา” “ไม่จริง คุณโกหก โรงพยาบาลคุณมันห่วย มากับผมเดี๋ยวนี้” มือเรียวเอื้อมมาคว้าข้อมือหญิงสาวแต่กลับไม่สามารถสัมผัสเธอได้เขาคว้าซ้ำอีกครั้งด้วยความโมโห แต่ก็ล้มเหลวเช่นเคย “อย่าพยายามเลยค่ะคุณปฏิภาณ เราอยู่ในรูปแบบที่ต่างกัน ถ้าฉันเป็นคุณคงพยายามไปนั่งสงบสติอารมณ์ทำใจให้สบายมากกว่าขืนคุณยังทุรนทุร่ายแบบนี้มีแต่จะทำให้จิตไม่สงบวิญญาณจะไม่ไปสู่สุขคติ” “แต่ผมทำไม่ได้ คุณน่าจะเห็นใจผมบ้าง ผมเป็นห่วงหลานห่วงกิจการของผม งานที่บริษัทผมรอไม่ได้ คนยิ่งจ้องๆ จะฮุบบริษัทอยู่คุณจะให้ผมอยู่เฉยๆ โดยไม่ทำอะไรเลยงั้นหรือ” “งั้นก็ไปทำงานของคุณสิคะ มาวุ่ยวายกับหมอห่วย ๆ อย่างฉันทำไม” “คุณคงน้อยใจผมละสิไม่ต้องห่วงนะ ถ้าคุณช่วยผมได้ผมจะให้ค่าตอบแทนสักล้านเป็นไง หรือไม่ก็ออกค่าทัวร์ไปรอบโลกพร้อมพ็อกเกตมันนี่ดีไหม หรือผมจะยอมให้คุณควงสักเดือน เอาแบบไหนล่ะ” มือบางกำแน่นอย่างโกรธจัดถ้าไม่ติดว่าเขาอยู่ในสภาพโปร่งแสง หญิงสาวคงจะชกเขาหรือตบหน้าสักฉาด “คุณ...” “บอกมาเลยไม่ต้องเกรงใจอย่าเล่นตัวน่าคุณหมอไม่ต้องมากระบิดกระบวนโก่งราคาเลยเรื่องเงินเราตกลงกันได้ เท่าไหร่ผมไม่เกี่ยง ไปแต่งตัวเร็วแล้วรีบไปโรงพยาบาลจัดการเรื่องให้จบ ๆ ผมเองก็เบื่อเต็มที่แล้ว” “ฉันขอย้ำอีกครั้งนะคุณปฏิภาณ ฉันไม่รู้จะช่วยคุณยังไง ฉันไม่รู้เรื่องวิญญาณอะไรนั่นเลย” “แต่คุณเป็นคนเดียวที่ได้ยินผมแถมยังเห็นผมแล้วจะใจดำไม่ช่วยได้ยังไง” “ฉันมีซิกเซนส์ค่ะ และมันก็ไม่ใช่สิ่งที่ฉันอยากมีแต่ฉันเลือกไม่ได้เชิญคุณออกไปเถอะค่ะ” “ผมไม่ออก มีอะไรไหม” “นี่คุณ ออกไปเดี๋ยวนี้นะ” “ไม่ไป คุณเป็นหมอประสาอะไรทำไมถึงใจร้ายใจดำแบบนี้คนเขาอุตส่าห์มาขอความช่วยเหลือ แต่คุณปฏิเสธแบบไม่มีเยื่อใย ไม่มีจรรยาบรรณเลยเรียนจบหมอมาได้ยังไง” “นี่คุณ ขอร้องล่ะ ฉันเป็นหมอเด็ก ฉันเรียนแพทย์ศาสตร์นะคะไม่ใช่ไสยศาสตร์ “คุณจะไม่ช่วยผมแน่ใช่ไหม ได้ผมจะยืนเฝ้าคุณอยู่ตรงนี้ทั้งวันทั้งคืน จะตามคุณไปทุกที่ เวลาเข้าห้องน้ำเวลาคุณไปนอนผมก็จะเฝ้ามองคุณ เอาให้ไม่ต้องอยู่เป็นสุข ดูซิว่าระหว่างคุณกับผมใครจะหมดความอดทนก่อน” “ก็ตามใจ คุณอยากทำอะไรก็เชิญ ฉันจนปัญญาที่จะช่วยคุณจริง ๆ จะตามไปไหนก็เชิญ” หญิงสาวเดินเลี่ยงไปมุมแต่งตัว ดึงผ้าม่านปิดรีบเปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างรวดเร็ว จากนั้นเดินออกไปจากห้อง “นี่คุณกลับมาก่อน ผมยังพูดไปจบเลย เฮ้ย กลับมา ไม่ได้ยินหรือไง” ปฏิภาณในสภาพวิญญาณยืนเคว้งคว้างไม่รู้จะทำอย่าง ไรต่อ “ทำไมอาบน้ำนานจังลูก แม่น้อยเตรียมทุกอย่างให้ลูกแล้ว” “ขอโทษค่ะ ตุ๊กแช่น้ำนานไปหน่อย” “ไม่เป็นไรหรอกลูก รีบทานเลยนะ” บิดาเลื่อนอาหารจานโปรดให้ลูกสาว ต่างคนต่างก็รับประทานอาหาร “คนอะไรใจดำ” “เอ๊ะ..” “มีอะไรหรือลูก” “เอ่อ...ปละ...เปล่าค่ะพ่อ ทานเถอะค่ะ วันนี้พ่อทำอะไรบ้างคะ” “ก็ปลูกต้นไม้แล้วก็ให้อาหารปลา คนแก่ก็แบบนี้ อยู่บ้านมันเหงา ก็หาเรื่องทำโน่นทำนี่ให้หมดไปวันๆ” มือบางยื่นมากุมมือหนาเอาไว้ ส่งสายตาเศร้าๆ ให้บิดา “พ่อคงเหงาใช่ไหมคะ ตุ๊กขอโทษที่ไม่มีเวลาให้พ่อเลย ต่อไปตุ๊กจะพยายามกลับบ้านให้เร็วกว่านี้” “ไม่ต้องห่วงพ่อหรอก พ่อแค่บ่นเล่นๆ ไปอย่างนั้นความจริงแถวนี้ก็พอจะมีเพื่อนบ้าง อย่าคิดมาก ขมวดคิ้วแบบนี้แก่เร็วไม่รู้นะ” หญิงสาวยิ้มแต่แล้วก็ต้องทุบลงเมื่อได้ยินคำพูดของชายอีกคนแทรกขึ้นมา “รับเงินผมสิแล้วก็พาพ่อคุณไปเที่ยวต่างประเทศสักเดือนพ่อคุณต้องไม่เคยไปแน่ คราวนี้ท่านก็จะไม่เหงา คุณก็จะได้เป็นลูกกตัญญ” “เงียบไปเลยนะคุณ” ตรัยหันมาเมื่อได้ยินเสียงพึมพำของลูกสาว “ตุ๊กพูดอะไรหรือเปล่าลูก” “เอ่อ...เปล่าค่ะพ่อ” หญิงสาวรวบช้อนแล้วรีบลุกขึ้นตรัยมองตามอย่างสงสัย “อิ่มแล้วหรือ แล้วข้าวเหนียวมะม่วงล่ะจะกินเลย ไหม” “ไม่ดีกว่าค่ะตุ๊กอิ่มแล้วให้ป้าน้อยใส่ตู้เย็นไว้ทานพรุ่งนี้ก็ได้" “นึกหรือว่าจะหนีผมพ้น ถ้าคุณไม่ทำตามที่ผมสั่งผมก็จะตามรังควานแบบนี้เวลาของผมมีเหลือเฟือ ว่าแต่คุณเถอะจะทนได้สักกี่น้ำ” “เอ๊ะ...คุณนี่” “คุณก็ดื้อเหมือนกัน ชอบให้บังคับใช่ไหม” “แต่ฉันทำไม่ได้ๆ ไม่เข้าใจหรือไง” หญิงสาวขึ้นไปบนห้องเธอเหลือบเห็นบิดามองตามด้วยความสงสัยแต่หญิงสาวไม่มีเวลาอธิบาย สิ่งที่เธอต้องการตอนนี้คือ ขึ้นไปบนห้องและจัดการวิญญาณชั่วร้ายนี้ให้สาสมตลอดเวลาที่กินข้าว ถ้าไม่แลบลิ้นปลิ้นตาก็พูดสอดแทรกเธอกับบิดาอยู่เรื่อยเขาไม่รู้หรือไงว่าทำความรำคาญให้คนอื่นมากแค่ไหน ชั่วชีวิตของผู้ชายคนนี้เคยพูดเพราะ ๆ กับคนอื่นเขาบ้างไหม “คุณจะเอายังไง เปลี่ยนใจแล้วสิ” “ไม่ ฉันไม่เปลี่ยนใจ ฉันบอกแล้วไงว่าฉันไม่รู้ๆๆๆ จะให้บอกกี่ครั้งก็ยังยืนยันคำเดิมคุณจะมาบังครับฉันทำไม” “แต่ผมไม่มีใคร มีคุณคนเดียวที่เห็นผม ดังนั้นคุณต้องรับผิดชอบ เราเป็นเพื่อนกันไม่ใช่หรือ” “เพื่อนหรือคะ” หญิงสาวทวนคำ ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเขาเหมาะกับคำว่าคู่แค้นมากกว่า “ใช่ช่วงหลัง ๆ นี่ผมคุยกับคุณบ่อยที่สุด คุณไม่สงสัยหรือว่า ทำไมมีแต่คุณที่ได้ยินผม แสดงว่าชะตาเราต้องกัน” “คุณต้องบ้าไปแล้วแน่ ๆ ทะเลาะกันแทบทุกคำเนียนะเรียกว่าเพื่อน” “ผมให้เกียรติคุณมากแล้วนะ ผู้หญิงแทบทุกคนอยากเป็นเพื่อนกับผมจะตายถือว่าคุณได้สิทธิพิเศษกว่าคนอื่นยังไม่สำนึกอีก” “คุณปฏิภาณ” หญิงสาวเค้นเสียงพูดด้วยความโมโหใบหน้านวลแดง...พยายามสะกดอารมณ์อย่างเต็มที่ ขืนเธอโวยวายเสียงดังมีหวังบิดาต้องรีบวิ่งขึ้นมาที่นี่หรือไม่ท่านก็อาจคิดว่า เธอทำงานหนักจนเพี้ยนไปแล้วก็ได้ “เรียกทำไม” “ฉันไม่รู้จะทำยังไงกับคนหัวดื้อแบบคุณดี คุณมันน่ารังเกียจ ทุเรศที่สุด เห็นแก่ตัวที่สุดเท่าที่ฉันเคยเจอ” “ผมจะถือว่านั่นคือคำชมในโลกใบนี้คนที่นิสัยแบบนี้เท่านั้นที่จะอยู่รอดได้คุณไม่รู้หรือไงหรือว่าพ่อคุณไม่เคยสอน”หญิงสาวอ้าปากค้างแล้วถอนหายใจยาว ไม่สงสัยเลยสักนิดว่านิสัยแย่ๆ ของอาจารีมาจากใคร เด็กที่ไม่มีพ่อแม่แต่กลับมีอาที่มองโลกประหลาดๆ คงไม่มีทางเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดีได้แน่ ๆ บางทีอาจจะเป็นลิขิตของสวรรค์เพื่อให้เขาปรับปรุงตัวและทำทุกอย่างให้ดีขึ้นแต่ใครล่ะจะเป็นคนสอนเขา ต้องไม่ใช่เธอแน่ ๆ “คุณเข้าใจผิดแล้วคุณปฏิภาณ ฉันไม่รู้ว่าใครเป็นคนสอนเรื่องทำนองนี้กับคุณ ถึงโลกเราจะมีบางมุมที่โหดร้ายแต่เราก็ไม่จำเป็นต้องทำตัวอย่างที่คุณคิดหรอกแค่ประพฤติตนอยู่ในกรอบศีลธรรมก็พอแล้ว”พูดจบเธอก็ถอนหายใจเป็นรอบที่ร้อย ผู้ชายตรงหน้าที่ดูเหมือนจะเก่งแสนเก่งแต่สุดท้ายกลับเหมือนบัวใต้น้ำไม่ว่าเธอจะพยายามสักเท่าไรก็ไม่สามารถพูดให้ชายหนุ่มเข้าใจได้ตุลยาทิ้งตัวลงนอนอย่างหมดแรง ส่วนเขาก็นอนบนหมอนใบเดียวกับเธอ แม้จะเป็นเพียงกลุ่มของพลังงานแต่กลับทำให้ใจของหญิงสาวเต้นแรงใบหน้าคมสันอยู่ใกล้แค่เอื้อมยิ่งเขาทำเหมือนจะโอบเธอเธอก็ยิ่งใจแกว่ง “นี่คุณ ทำอะไร ถอยออกไปนะจะบ้าหรือไง” ร่างบางหดตัวหนีไปอยู่อีกฟากของเตียง “กลัวทำไม” “ก็.ฉะฉันไม่ได้กลัวแต่ไม่ชอบ ออกไปนะ” “ผมไม่ออก บอกแล้วไงคุณไม่ช่วยผมก็จะตื้อไปเรื่อย ๆ แบบนี้ล่ะดีเหมือนกันได้นอนกอดคุณทั้งคืน เสียดายนะที่จมูกผมไม่ได้กลิ่นแต่ผมก็ได้เห็นทรวงทรงองค์เอวคุณ หน้าอกเอย สะโพกเอยในระยะใกล้ชิดเหมือนแฟนคุณไง” “จะบ้าเหรอ ฉันยังไม่มีแฟน”ชายหนุ่มกลั้นยิ้มเมื่อเห็นสีหน้าแดงเรื่อของหมอสาว “งั้นผมก็เป็นคนแรกดีเลย ผมไม่ชอบเป็นที่สองของใคร” “นี่คุณ” “นอนสิ นอนให้หลับทั้ง ๆ ที่มีผู้ชายอยู่ในห้อง แล้วพรุ่งนี้ก็อาบน้ำให้มีความสุขวิญญาณอย่างผมจะได้มีอาหารตา”สายตาโลมเลียมที่กวาดไปทั่วร่าง ทำเอาเธอโมโหสุดขีดมือบางเอื้อมไปตบหน้าร่างนั้นด้วยความโมโหแต่กลับสัมผัสความว่างเปล่า" ตบไม่ได้ เสียใจด้วยนะครับคุณหมอแสนสวยเมื่อไม่สามารถทำอะไรเขาได้ หญิงสาวจึงดึงผ้าห่มมาคลุมโปง เธอต้องนอนให้หลับ พรุ่งนี้พอตื่นขึ้นทุกอย่างก็จะเป็นแค่ฝันร้าย บางทีนี่อาจเป็นแค่ความฝัน เธออาจละเมอร่างบางนับหนึ่งถึงสิบในใจพยายามข่มใจให้หลับ + + + + + + +
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD