บทที่2
เวลาผ่านไปหลายชั่วโมงปฏิภาณซึ่งอยู่ในสภาพวิญญาณไม่สามารถหาทางออกให้กับตัวเองได้เลยเขาได้แต่เฝ้าดูภาพของแพทย์และพยาบาลซึ่งวนเวียนเข้ามาดูร่างไร้สตินั้นแต่หลังจากตรวจร่างอันแสนบอบช้ำทุกคนก็ล้วนส่ายหน้า
“รูม่านตาไม่ตอบสนอง ผมว่าเขาคงไม่พ้นคืนนี้แน่”
“ไม่นะหมอ ผมจะตายไม่ได้ ผมต้องดูแลหลานแล้วยังลูกน้องในบริษัทอีกหลายชีวิต ช่วยผมซิรักษาผมเร็วเข้าโว้ย”
“ดูคนไข้ให้ดีหน่อยนะคุณพยาบาล ถ้ามีอะไรเปลี่ยนแปลงต้องตามผมทันที่เข้าใจไหม คืนนี้ผมคงนอนที่นี่ ไม่กลับไปนอนบ้านหรอก”
“คุณหมอจะอยู่เฝ้าคนไข้ที่โรงพยาบาลหรือคะ” พยาบาลถาม น้อยครั้งที่หมอวิวัฒน์จะค้างคืนที่นี่เขาเป็นแพทย์เฉพาะทางด้านศัลยกรรมระบบประสาท หลังจากผ่าตัดเอาเลือดคั่งในสมองของปฏิภาณออกเมื่อคืนวานเขาก็ไม่ได้กลับบ้านแต่เฝ้าอยู่ที่นี่อย่างใกล้ชิด อาจเป็นเพราะปฏิภาณเป็นคนไข้พิเศษของโรงพยาบาลชายหนุ่มเป็นคนมีชื่อเสียงและร่ำรวยมากธีรพันธ์คนสนิทของเขาก็กำชับกับเจ้าหน้าที่ทุกคนในโรงพยาบาลให้ดูแลคนไข้รายนี้อย่างดีเสียค่าใช้จ่ายเท่าไรไม่ว่า แถมนักข่าวหนังสือพิมพ์ยังจ้องตามติดข่าวของเขาผิดกับคนไข้อีกคนซึ่งนอนอยู่เพียงลำพังในห้องไอซียูข้างๆ
“ใช่ ผมยังสังหรณ์ใจอยู่ว่าอาจจะไม่พ้นคืนนี้” ถ้าเป็นเมื่อก่อนปฏิภาณคงกระชากคอเสื้อหมอหนุ่มคนนี้แล้วชกๆ ให้คว่ำแต่ตอนนี้เขาเป็นแค่วิญญาณ จึงได้แต่ทรุดตัวลงบนเก้าอี้อย่างอ่อนแรงสำนึกบางอย่างทำให้เขาอดใจหายไม่ได้เขาไม่อยากตาย เพราะมีสิ่งมากมายที่ต้องทำเขายังมีห่วง และห่วงที่เขากังวลที่สุดก็คือหลานสาวคนเดียว แกจะอยู่ยังไงในเมื่อญาติพี่น้องไม่มีสักคน หรือแม้แต่เขาเองก็มีพี่ชายคนเดียวเขาเป็นคนสุดท้อง พอพี่ชายพี่สะใภ้ตายก็ทิ้งลูกสาวคนเดียวให้เขาดูแล ถ้าเขาตายเสียคนหลานสาวเขาจะอยู่ได้ยังไง
“ไม่ได้ ใครก็ไม่มีสิทธิ์เอาชีวิตฉันไปฉันต้องสู้ ฉันจะไม่ยอมแพ้เด็ดขาด” วิญญาณของชายหนุ่มพยายามหาทางออกจากห้อง เขาจะต้องหาคนที่จะช่วยเขาให้พ้นจากตรงนี้ให้ได้ วูบหนึ่งเขาคิดถึงใครบางคนขึ้นมา ควงหน้าหวานล้อมกรอบด้วยเส้นผมสีน้ำตาลสิ่งที่เขาจำได้ดีคือ ดวงตาวาววับคู่นั้นแก้มสองข้างที่แดงเรื่อยามเธอโกรธจัดใช่แล้ว..แพทย์หญิงตุลยา
“อาการคนไข้เป็นยังไงบ้างคะพี่หมอ” แพทย์หญิงตุลยาเดินเข้ามาในห้องไอซียูพร้อมคุณหมอสาวอีกคน
“อ้าวตุ๊ก มาได้ไง ตุ๊กรู้จักคนไข้ด้วยหรือ”
“ก็นิดหน่อยค่ะ เขาเป็นอาของคนไข้ตึกเอง อาการเขาเป็นยังไงบ้าง ดีขึ้นบ้างไหมคะพี่หมอ” วิวัฒน์ส่ายหน้า
“ไม่ดีเลย รูม่านตาขยายกว้างไม่ตอบสนองคิดว่าคงไม่พ้นคืนนี้” ปฏิภาณบอกตัวเองว่า เขาเกลียดหมอหนุ่มคนนี้จับใจ ทำไมไม่รู้จักพูดสิ่งที่มันเป็นมงคลบ้างนะดีแต่ส่ายหน้าแถมยังแช่งคนไข้ให้ตายอีก
“ทำไมเป็นแบบนี้ล่ะ ไหนผู้อำนวยการบอกว่าอาการคุณปฏิภาณไม่หนักมากไม่ใช่หรือ”
“ก็ใช่ แต่บังเอิญเราตรวจพบว่าคนไข้มีเลือกคั่งในสมองด้วยแถมยังฐานกะโหลกร้าวคนไข้มีน้ำไขสันหลังรั่วออกมาทีละน้อย ช่วงแรกเลยดูเหมือนไม่มีอาการ แต่ตอนนี้สมองบวมมาก”
“พี่หมอต้องช่วยคนไข้ให้ได้นะคะ ตุ๊กสงสารน้องจ๋า เอ้อ เด็ก หลานสาวเขาน่ะค่ะ น้องจ๋าไม่มีใคร เหลือก็แต่อาคนนี้คนเดียวเท่านั้น” วิวัฒน์กับอุมาพรมองหน้ากันประหลาดใจ
“ไม่ต้องห่วงหรอก คืนนี้พี่จะอยู่เฝ้าที่นี่ จากนั้นก็ต้องช่วยกันภาวนา"
“เออ...ตุ๊กพรไปก่อนนะ เดี๋ยวจะไปตรวจคนไข้ที่ตึกสาม พี่หมอไปด้วยไหมคะ” หมอหนุ่มพยักหน้า
“เดี๋ยวตุ๊กอยู่อีกแป๊บจะตามไปนะคะ” อุมาพรกับวิวัฒน์พยักหน้าแล้วก็ออกไปจากห้องไอซียูเหลือเพียงหมอสาวกับคนไข้ หญิงสาวยืนนิ่งอยู่หน้าร่างของชายหนุ่มซึ่งตอนนี้เกือบจะไม่เหลือเค้าเดิมแม้แต่น้อย ผู้ชายซึ่งเคยมีแต่ความเย่อหยิ่งมีแต่คำพูดร้ายกาจแถมยังมีความคิดเลวร้ายอย่างที่สุด ตอนนี้กลับนอนนิ่งอย่างไร้ความหวังอยู่บนเตียง หญิงสาวทรุดตัวลงนั่งข้างเตียงแล้วโน้มตัวไปจนชิดปฏิภาณพยายามเอียงหน้าเข้าไปใกล้เพื่อฟังว่าเธอพูดอะไร
“ฉันอโหสิให้คุณนะคะคุณปฏิภาณ ถ้าสิ่งศักดิ์สิทธิ์มีจริงขอให้คุณผ่านคืนนี้ไปได้ น้องจ๋ายังเล็ก ฉันเห็นแกร้องไห้แล้วอดสงสารไม่ได้คุณต้องสู้นะคะสู้เพื่อตัวคุณเองและเพื่อน้องจ๋า” น้ำตาหยดหนึ่งหยดบนแก้ม ความเปียกชื้นบนผิวกายส่งความรู้สึกไปยังวิญญาณซึ่งยืนมองอยู่ด้านหลัง
“คุณตุ๊ก เอ่อ คุณหมอ...” หญิงสาวเงยหน้าขึ้น ก่อนที่จะรีบเดินออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว
“อาการคุณปฏิภาณเป็นยังไงบ้างครับหมอ” ธีรพันธ์ซึ่งกลับจากการพาน้องจ๋าไปส่งที่บ้าน แวะกลับมาที่โรงพยาบาลอีกครั้งตามคำสั่งของคุณหมอ ข้างกายเขาคือหญิงสาวคนหนึ่ง
“ยังทรงตัวอยู่ครับ รูม่านตายังไม่ตอบสนองเหมือนเดิม สมองคนไข้คงได้รับการกระทบกระเทือนมากต้อง ดูอาการวันต่อวัน แต่จาประสบการณ์ผม อาการแบบนี้ทางบ้านควรทำใจไว้บ้าง”
“ไม่ได้นะครับหมอ”
“ไม่ได้นะคะ คุณหมอจะปล่อยให้เขาตายไม่ได้นะคะอุษณีย์คงอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีเขา เราสัญญาจะแต่งงานกันนะคะ ส่วนน้องจ๋าเราก็จะรับแกเป็นบุตรบุญธรรมค่ะ” คำพูดของหล่อนทำให้ธีรพันธ์หันไปมอง เขาทราบดีว่าอุษณีย์นั้นเป็นแค่คู่นอนของเจ้านายเท่านั้นไม่ใช่แค่อุษณีย์คนเดียวแต่มีผู้หญิงหลายคนที่เป็นคู่นอนของปฏิภาณแต่เจ้านายหรือเพื่อนของเขาไม่เคยสนใจและยอมแต่งงานกับใครเลยเพราะทราบดีว่าทุกคนล้วนแต่รักเงินของเขาเท่านั้น
“คุณณีย์ครับ ผมว่าเรื่องนี้เราไม่ควรจะมาพูดที่นี่นะครับ อะไรเป็นอะไรคุณก็ย่อมทราบดี”
“คุณธี คุณไม่ต้องมาขัดขวางฉันกับเขาหรอกนะ”
“คุณครับ ที่นี่เป็นโรงพยาบาลนะครับ กรุณาเบาๆ หน่อย” หมอวิวัฒน์หันไปตำหนิหล่อนและพอจะมองเห็นเค้าว่าหล่อนเป็นใครที่แท้ก็นักแสดงสาวนางอิจฉาที่ดีบทแตกกระจุยนี่เองแต่อาทิตย์ก่อนมีข่าวคลิบฉาวกับคนไข้รายนี้
“ขอณีย์ไปดูเขาได้ไหมคะ ณีย์อยากให้กำลังใจเขาค่ะหมอ ถ้าเขาเห็นหน้าณีย์บางที่อาจจะหายวันหายคืนก็ได้นะคะ” หมอวิวัฒน์จำต้องเดินนำทั้งคู่เข้าไปในห้องไอซียูเมื่อถึงประตูก็สวนทางกับตุลยาซึ่งยืนนิ่งอยู่หน้าห้องฉุกเฉินเธอบังเอิญได้ยินบทสนนานั้นโดยไม่ตั้งใจ
“เชิญทางนี้ครับ อ้าว ตุ๊ก เยี่ยมคนไข้เสร็จแล้วหรือ”
“ค่ะพี่หมอ ตุ๊กขอตัวนะคะ” ธีรพันธ์ก้มศีรษะให้หญิงสาวเล็กน้อยเพราะเขาจำหมอสาวสวยคนนี้ได้เพราะน้องจ๋าก็เคยเอ่ยถึง
“สวัสดีครับคุณหมอ ผมธีรพันธ์ ผู้ช่วยคุณปฏิภาณครับไม่ทราบว่าคุณหมอจำผมได้หรือเปล่า”
“จำได้สิคะ น้องจ๋าไม่มาด้วยหรือคะ”
“มาแล้วกลับไปแล้วครับ ผมเพิ่งพาไปส่งบ้านเมื่อครู่นี้เอง งอแงแทบแย่ กว่าจะอุ้มขึ้นรถไปได้ จะอยู่กับคุณอาท่าเดียว ร้องไห้จนตาบวมไม่ยอมกินอะไร”
“น่าสงสารนะคะ คงเสียขวัญที่จู่ๆ คุณอาก็เป็นแบบนี้ ถ้ายังไงพรุ่งนี้พาแกมาหาดิฉันหน่อยได้ไหมคะ เผื่อแกจะยอมพูดกับดิฉัน”
“ดีครับ น้องจ๋ายังพูดถึงคุณอาหมอคนสวยเลยครับผมเองก็กลุ้มใจอยู่เหมือนกัน ไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใครไม่เคยดูแลเด็กเสียด้วย เออ วันนี้คุณอุษณีย์มาขอเยี่ยมคุณปฎิภาณครับ"