อดีตที่ขื่นขม

1211 Words
“สรุปว่า อีมินนี่ที่แกเคยเล่าให้ฉันฟังว่ามันสนิทกันเกินเหตุ คือคนที่ไอ้แชมป์มันนอกใจด้วยเหรอ” สิ้นประโยคคำถามของสาริศา เกณิกาก็พยักหน้าตอบรับว่าสิ่งที่เพื่อนเข้าใจนั้นถูก ผู้หญิงที่ไอ้แชมป์นอกใจด้วยครั้งนี้คือคนเดียวกันกับที่เธอเคยปรับทุกข์ให้เพื่อนฟังช่วงประมาณเดือนที่แล้ว มันสองคนทำทีว่าเป็นเพื่อนที่สนิทกัน ทำงานในโปรดักชั่นด้วยกัน หยอกล้อถึงเนื้อถึงตัวกันแบบเกินขอบเขต ทำเรื่องอุบาทว์ถึงขนาดนั่งตัก กอดคอ หอมแก้มกัน ซ้อนท้ายไปไหนมาไหนด้วยกัน แต่พอเธอพูดออกมาว่าไม่ชอบก็กลับกลายเป็นว่างี่เง่าไม่มีเหตุผล กลายเป็นคนที่เรื่องอกุศลเอง ทั้งที่มันสองคนทำกันถึงขนาดนั้น เกณิกาทุกข์ใจกับเรื่องนี้มากจนต้องเอาไปปรึกษาสาริศา กระนั้นก็ยังไม่ได้ฟังคำเตือนของเพื่อนที่บอกให้เลิกกับผู้ชายเลวๆ มากนัก เพราะตอนนั้นเธอยังทำใจไม่ได้ที่จะต้องทิ้งความสัมพันธ์หกปีไป คิดเพียงว่าไอ้แชมป์ยังไม่ได้ทำ ตัวเธออาจจะคิดมากไปเองจริงๆ ก็ได้ ไม่คิดเหมือนกันว่าทุกอย่างจะเป็นไปอย่างที่สาริศาพูดเอาไว้แบบเป๊ะๆ หลังจากที่เธอปรึกษาเพื่อนเพียงไม่กี่วัน มันสองคนก็เริ่มมีอะไรกันลับหลังเธอโดยใช้คำว่าเพื่อนมาอ้าง ส่วนเพื่อนผู้ชายในกลุ่มของไอ้แชมป์ก็รู้เรื่องและช่วยกันปกปิด เลวทั้งหญิงทั้งชาย ทั้งเพื่อน เลวหมดทุกคน “เหรินรู้จักผู้หญิงคนนี้ไหมคะ” สาริศาที่นั่งอยู่เบาะหลังหันไปถามเจนทัตที่นั่งเงียบมาตั้งแต่แรก เหตุผลคงเป็นเพราะตัวเธอเองก็ไม่ได้รู้อะไรเกี่ยวกับผู้หญิงคนนี้ขนาดนั้น รู้ผ่านเพื่อนที่รู้จักกันมาเล่าให้ฟังว่ามินนี่คือเพื่อนที่อยู่ในคณะเดียวกันกับไอ้แชมป์ เพราะแบบนั้นเธอจึงไม่มีอะไรไปเล่าให้เพื่อนฟังมากนัก ชายหนุ่มเพียงคนเดียวทั้งยังทำหน้าที่เป็นสารถีพยักหน้ารับ ท่าทางเจนทัตดูไม่ค่อยอยากพูดถึงเรื่องนี้เท่าใดนัก ทว่าเมื่อสาริศาเอ่ยถามแบบนั้นสุดท้ายแล้วอีกฝ่ายก็ยอมเปิดปาก หลังจากที่นั่งฟังเธอกับเพื่อนคุยเรื่องนี้กันตั้งแต่ขับรถออกมา “รู้จักครับ มินนี่เรียนสาขาเขียนบท แต่ก็มีช่วงที่ต้องร่วมงานกับเด็กโปรดักชั่นอยู่บ่อยๆ” “พอได้ร่วมงานก็ร่วมเพศไปเสียด้วยเลย ชั่วจริงๆ รู้ทั้งรู้ว่าผู้ชายมีแฟนอยู่แล้ว ไอ้ควายแชมป์ก็เหมือนกัน ทำตัวได้เหี้ยเสมอต้นเสมอปลาย” สาริศาด่าขึ้นมาอย่างโมโห พาให้เกณิการู้สึกเกรงใจเจนทัตที่ทั้งต้องมาช่วย ทั้งต้องมานั่งฟังเพื่อนเธอด่าแฟนเก่าเสียงดังลั่นรถแบบนี้ “ขอบคุณนะเหริน ไม่มีเธอมาช่วยซินกับเพื่อนคงลำบากกว่านี้” เพราะอย่างนั้นหญิงสาวจึงหันไปกล่าวกับอีกฝ่าย รู้สึกขอบคุณจากใจจริงที่เขาซึ่งไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับเรื่องนี้เลย แต่กลับอุตส่าห์มีน้ำใจมาช่วยเหลือเธอ “ไม่เป็นไรครับ ถือว่าช่วยๆ กันเถอะซิน เหรินเต็มใจ” อีกฝ่ายว่าเสียงเบาก่อนที่จะหักพวงมาลัยเลี้ยวเข้าไปจอดด้านหน้าล็อบบี้คอนโด ก่อนจะลงจากรถแล้ววิ่งเข้าไปติดต่อกับใครสักคนที่นั่งรออยู่ด้านใน “ฉันว่าเหรินเขาก็ดีนะซิน ลองเปิดใจให้คนใหม่ๆ บ้างก็ดีนะ แกทนดักดานกับไอ้แชมป์มาตั้งนาน” ทว่าทันทีที่ประตูฝั่งคนขับปิดลง สาริศาที่นั่งอยู่ด้านหลังกลับหันมากระซิบกระซาบท่าทางจริงจัง ได้ยินอย่างนั้นเกณิกาก็ทอดถอนหายใจก่อนจะเปิดประตูลงจากรถไป ใช่ว่าเธอจะไม่รู้ว่าเจนทัตคิดกับตัวเองในแง่ไหน เพราะรู้ถึงไม่อยากเจออีกฝ่ายในช่วงเวลาที่กำลังอกหักรักคุดแบบนี้ อย่างน้อยหากเธอจะเปิดใจให้เขาอย่างที่เพื่อนพูดจริงๆ ก็ควรได้ผ่านช่วงเวลานี้ไปให้ได้เสียก่อน “ฉันเพิ่งเลิกกับไอ้เวรแชมป์มานะซิด ฉันอยากพักก่อน” เหรินเป็นคนดีมากเท่าที่เธอเคยได้สัมผัสมา และเพราะมันเป็นแบบนั้นเกณิกาถึงไม่อยากใช้เขาเพื่อเป็นตัวแทน หรือกระทั่งใช้เพื่อลืมใคร บอกตามตรงว่าต่อให้ไอ้แชมป์มันจะเลวชาติระยำหมาขนาดไหน แต่ความผูกพันธ์ในช่วงระยะเวลาหกปีนั้นก็ใช่ว่าจะตัดไปได้ในเวลาอันรวดเร็ว เธออยากแน่ใจก่อนว่าลืมได้แล้วจริงๆ ถึงจะเปิดรับใครอีกคนเข้ามา โดยเฉพาะผู้ชายที่ดีพร้อมทั้งหน้าตา ฐานะทางบ้าน ผลการเรียน และนิสัยใจคอน่าคบหาอย่างเจนทัต เขาไม่ควรต้องมานั่งตั้งคำถามว่าเธอลืมคนเก่าได้แล้วหรือยัง “ฉันก็พูดไปงั้นแหละย่ะ คบกันมาตั้งแต่อนุบาลฉันรู้ว่าแกเป็นคนยังไง แค่อยากให้ลองมองคนอื่นดูบ้าง ผู้ชายดีๆ แบบเหรินไม่ได้มีมาให้ตกถึงท้องกันบ่อยๆ นะซิน เกิดแกทิ้งช่วงนานไปแล้วเขาดันถอดใจขึ้นมามันก็น่าเสียดายไง” “...” “อย่าลืมนะว่าเหรินชอบแกมาตั้งแต่ตอนที่ยังคบกับไอ้แชมป์ และนั่นน่ะเกือบสองปีแล้วนะฉันไม่เห็นว่าเขาจะมีใครเลย” เพราะแบบนั้นแหละ เธอถึงคิดว่าอยากจะลืมแฟนเก่าได้ร้อยเปอร์เซ็น เพราะหากวันหนึ่งที่เปิดใจให้เจนทัตเข้ามา แล้วหัวใจไม่รักดีกับสมองโง่ๆ ของเธอดันยังคิดถึงไอ้แชมป์อยู่ เธอคงทำลายความรู้สึกของคนดีๆ คนหนึ่งไป และนั่นไม่ใช่เรื่องที่เกณิกาอยากให้มันเกิดขึ้นเลยสักนิด “ไปกันเถอะครับ เรานัดเจ้าของห้องเอาไว้ให้แล้วเธอจะได้เข้าไปพักเลย” ทว่าขณะที่พวกเธอกำลังพูดคุยอยู่นั้น เหรินที่เพิ่งกลับมาก็กล่าวขึ้นก่อนจะเดินไปเปิดประตูท้ายรถ แล้วยกกระเป๋าใบเขื่องออกมาให้โดยที่เธอกับเพื่อนยังไม่ทันได้ทำอะไร เห็นแบบนั้นเกณิกาก็ยิ่งรู้สึกเกรงใจอย่างบอกไม่ถูก แค่นี้เขาก็ช่วยเหลือเธอมาหลายเรื่องแล้ว ทั้งไปพาออกมาจากที่นั่น ทั้งเป็นธุระเรื่องที่พักใหม่ให้ ค่าประกันห้องแรกเข้าอะไรเธอก็ไม่ต้องจ่ายเพราะเจ้าของห้องเป็นเพื่อนของอีกฝ่าย นี่ยังต้องมาให้เขาช่วยถือกระเป๋าหนักอึ้งที่มีแต่ข้าวของของเธอแบบนั้นอีก มันมากเกินไป เกณิกาไม่อยากรับความช่วยเหลือจนมันอาจกลายเป็นการที่เธอหลอกใช้ความรู้สึกของเขาเข้า
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD