เปิดใจอีกครั้งดีไหม

1126 Words
“ซินถือเองดีกว่าค่ะ แค่นี้เหรินก็ช่วยมาเยอะแล้ว” “ไม่เป็นไรครับ เธอเข้าไปข้างในกับซิดนีย์ก่อนเถอะ เดี๋ยวตรงนี้เราจัดการเอง” ถึงอย่างนั้นเจนทัตก็ยังไม่ยอมให้เธอลากกระเป๋าเข้าไปเองอย่างที่อยากทำ อีกฝ่ายยืนยันขันแข็งว่าจะช่วยไปให้ตลอดรอดฝั่ง เพราะแบบนั้นเกณิกาก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากรับความหวังดีนั้นเอาไว้ “ขอบคุณมากนะคะ” และหวังว่าตัวเองจะเลิกโง่ สามารถเปิดรับอีกฝ่ายเข้ามาอย่างไร้ข้อกังขาได้ในสักวัน ที่สำคัญก็หวังว่าเธอถึงวันนั้นเขาจะยังอยู่ตรงนี้ไม่ถอดใจไปเสียก่อน “ค่ะแม่ หนูเลิกกับมันแล้ว” “ครั้งนี้ไม่ไหวแล้วจริงๆ ค่ะ ที่จริงก่อนหน้านี้มันก็นอกใจหนูมาหลายรอบมากๆ แล้ว แต่หนูไม่อยากให้แม่เป็นห่วงเลยไม่ได้เล่าให้ฟัง” “ตอนนี้ก็โอเคแล้วค่ะ หนูก็ทำใจเรื่องนี้มาสักพักแล้ว พอรู้เรื่องหนูก็เก็บเสื้อผ้าเลย” “ใช่ค่ะ เพื่อนหนูมาช่วยพาย้ายห้อง ตอนนี้ก็ไม่มีอะไรแล้วค่ะ” “ค่ะแม่ งั้นเดี๋ยวหนูจัดห้องก่อนนะคะ แล้วพรุ่งนี้หนูจะโทรหาใหม่” มือเล็กกดวางสายผู้เป็นแม่ ก่อนจะโยนโทรศัพท์ซึ่งปรากฏมิสคอลของคนที่เพิ่งจะได้เป็นแฟนเก่าหมาดๆ ลงบนที่นอน เธอจ้องมองโทรศัพท์เครื่องบางสั่นอยู่สักพัก ก่อนจะตัดสินใจกดเข้าไปในหน้าแชทของอีกฝ่ายที่ส่งข้อความมาด่าทออย่างเสียๆ หายๆ เพราะย้ายของออกจากห้องแบบไม่บอกกล่าว ไล่อ่านข้อความหยาบคายไปได้เพียงสองบรรทัด ความโกรธที่คุกรุ่นในอกอยู่แล้วก็กลับยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น สุดท้ายเธอจึงส่งหลักฐานไอจีสตอรี่ของผู้หญิงคนนั้น ที่วานให้เพื่อนผู้หญิงในคณะของไอ้แชมป์อีกคนช่วยสืบกลับไปให้มัน ก่อนจะส่งข้อความด้วยถ้อยคำที่ไม่เคยใช้แม้แต่กับเพื่อนที่คบมานานอย่างสาริศาส่งตามไปอีกที ‘กูเลิกให้แล้ว มึงก็ไปคบกับมันให้สบายใจเถอะ ไม่ต้องเป็นห่วงว่ากูจะไปตามหึงระหว่างมึงกับมันอีก แล้วก็ไม่ต้องส่งข้อความมาด่ากูด้วย’ ‘ถ้ายังรังควานไม่เลิก ระวังกูจะบอกให้พ่อส่งลูกน้องไปกระทืบมึง’ ‘ไอ้สารเลว’ เมื่อเห็นว่ามันกดอ่านแล้วเธอจึงรีบกดบล็อกทุกช่องทาง ก่อนจะวางโทรศัพท์มือถือลงบนที่นอนอีกครั้ง ในยามที่ได้กลับมาอยู่กับตัวเอง จู่ๆ ความคิดที่ว่าตัวเธอก็ไม่ใช่ลูกตาสีตาสา แม่เป็นถึงนักธุรกิจแบรนด์เครื่องสำอางชื่อดัง ส่วนพ่อเป็นถึงนายหัวภาคใต้ที่มีอิทธิพลและมีพรรคพวกมากมาย แต่เธอกลับมาเสียเวลาอยู่กับไอ้เวรนี่ ไม่เคยบอกพ่อแม่เลยว่าต้องเจอกับอะไรบ้างตลอดหกปีนี้ ยอมให้มันลากเธอลงต่ำ ยอมให้มันทำลายความมั่นใจไปแทบทั้งหมด ทั้งที่เธอก็ไม่ได้สวยน้อยไปกว่าใครเลย ลืมแม้กระทั่งว่าไม่ต้องโทรไปรบกวนเพื่อนก็ได้ ไม่จำเป็นต้องรบกวนเจนทัตเพราะแค่ยกหูโทรหา พ่อแม่ก็สามารถประเคนสิ่งที่เธอจำเป็นต้องใช้ได้ทุกอย่าง เธอลืมไปหมดแล้วว่าชีวิตมีทางเลือกมากมาย แค่เพราะยอมให้มันกรอกหูอยู่ทุกวันว่าคลาดจากมันไป ก็คงจะไม่มีใครทนคนน่าเบื่ออย่างเธอได้ เธอจะไม่มีวันเจอคนดีๆ เพราะตัวเธอนั้นนิสัยเสียและเลวเกินบรรยาย พอได้มาตั้งสติดีๆ แบบนี้ เกณิกาก็ยิ่งรู้สึกว่าพลาดเรื่องที่ดีที่ควรเกิดขึ้นในชีวิตไปมากมาย ในยามที่หัวโล่งแล้วเธอก็พลันนึกถึงคำพูดของสาริศาขึ้นมาได้ ‘แกควรให้โอกาสตัวเองบ้างนะซิน เจอเรื่องแย่ๆ มามากพอแล้ว’ เดิมทีเกณิการู้สึกเหนื่อยกับการมีความสัมพันธ์มากจนอยากจะเบรกทุกอย่างเอาไว้ก่อน อยากพักใช้ชีวิตโสดให้แน่ใจสักหน่อยก่อนจะเปิดรับให้เขาเข้ามา แต่พอลองคิดตามคำพูดของซิดนียย์ตัวเธอเองก็เจอเรื่องแย่ๆ มามากพอแล้วจริงๆ จะประวิงเวลาที่จะได้เจอเรื่องดีๆ แล้วกักขังตัวเองอยู่ในความรู้สึกแบบนี้ไปทำไมในเมื่อโอกาสมาเกยถึงที่ หรือเธอควรให้โอกาสตัวเองอย่างที่เพื่อนพูด คิดไปคิดมาในหัวก็พลันนึกถึงคนที่อาศัยอยู่ในคอนโดเดียวกัน และเป็นธุระให้มาโดยตลอด เธอควรไปขอบคุณเจนทัตที่เขาช่วยเหลือขนาดนี้ แม้จะยังฟันธงไม่ได้เรื่องความรู้สึกของเขาเพราะเราไม่เคยคุยกับเป็นกิจจะลักษณะ แต่ถึงอย่างนั้นชายหนุ่มก็ยังเป็นเพื่อนที่ดีมาก ยินดีช่วยเหลือโดยไม่ปริปากอะไรเลยสักคำ ยิ่งนึกถึงเรื่องนี้ก็ยิ่งนึกย้อนไปถึงเหตุการณ์ในอดีตที่อีกฝ่ายมักหาเรื่องดูแลเธอในเรื่องเล็กๆ น้อยๆ บางทีสาริศาอาจพูดถูก เธอควรคว้าโอกาสดีๆ เอาไว้ตอนที่ยังมีโอกาส ก่อนที่มันจะหล่นหายไปแล้วตัวเธอจะต้องมานั่งเสียดาย ก๊อก ก๊อก ก๊อก หากแต่ยังไม่ทันที่จะได้ลุกขึ้นจากเตียงเพื่อไปทำตามสิ่งที่ตั้งใจ จู่ๆ ประตูห้องก็ถูกเคาะจากด้านนอกหยุดความคิดที่กำลังล่องลอยของเธอได้อย่างอยู่หมัด ยามที่ลุกขึ้นเดินออกไปส่องตาแมวดูก็พบว่าคนที่เพิ่งนึกถึงกำลังยืนรออยู่ด้านนอก ในมือถือถุงบรรจุกล่องอาหารเอาไว้ เกณิกาขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจเล็กน้อย แต่ก็ยังปลดล็อคก่อนจะเปิดประตูบานใหญ่ออกกว้าง รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าหล่อเหลาของเขาพาให้หัวใจของเธอเต้นสั่นขึ้นมาอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เธอไม่เคยสังเกตเห็นเลยว่าเจนทัตหล่อขนาดนี้ หน้าตาอย่างกับพวกพระเอกซีรีย์จีนอย่างนั้นแหละ “เห็นซิดนีย์บอกว่าเธอไม่ได้ทานข้าวเย็น เหรินเลยคิดว่าเธอน่าจะหิว” และถ้าครั้งนี้เธอไม่มัวแต่ลังเลจนคนตรงหน้าหลุดมือไป ยัยเพื่อนสนิทคนสวยเองก็คงจะดีใจที่ครั้งนี้เธอเชื่อคำแนะนำเสียที “ขอบคุณค่ะ ซินกำลังคิดว่าจะไปชวนเหรินทานข้าวอยู่พอดีเลย”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD