ความจริงที่เธอไม่มีวันรู้

1843 Words
อRen's Part หนึ่งสัปดาห์ก่อนหน้า ในชีวิตของเหริน เจนทัต ผมไม่ค่อยสนใจในเรื่องของความรักมากเท่าไหร่ เพราะปกติจะสนใจเรื่องเรียนและการทำกิจกรรมเสียมากกว่า สมัยมัธยมหรือกระทั่งช่วงปีหนึ่งผมเองเคยมีแฟนมาบ้าง คบกับสาวๆ หลายคนแต่สุดท้ายเจ้าหล่อนพวกนั้นก็ไม่ใช่คนที่ใช่ มีหลายเรื่องที่เป็นสาเหตุของการเลิกกัน ทั้งทัศนคติไม่ตรงบ้าง บางคนบอกว่าผมน่าเบื่อไปบ้าง เอาแต่เรียนไม่สนใจแฟนบ้าง ซึ่งผมก็ไม่คิดแก้ตัวเพราะตัวผม็เป็นแบบนั้นจริงๆ สุดท้ายแล้วเราก็เลิกรากันไป เลิกดีบ้างไม่ดีบ้างตามอัตภาพและความเข้าใจในตอนนั้น ไม่คิดเหมือนกันว่าหลังจากที่เลิกกับแฟนคนล่าสุดไปเมื่อช่วงต้นเทอมสองของปีหนึ่ง จู่ๆ ผมจะได้มาเจอกับเธอ ซินซิน เกณิกา สาวน้อยคณะนิเทศศาสตร์ตัวเล็กๆ ขาวๆ ที่มาพร้อมรอยยิ้มสดใสเสมอ ในตอนนั้นผมสีดำขลับสุขภาพดีของเธอยาวเฟื้อยถึงเอว ด้านหน้าตัดเป็นหน้าม้าตรงส่งให้ดวงตากลมโตของเธอยิ่งดูโดดเด่น เธอดูเหมือนตุ๊กตาบลายที่เคยฮิตในหมู่สาวๆ อยู่พักหนึ่ง เรียกได้ว่าทุกอย่างตรงสเป็คไปหมด ผมเผลอมองเธอนิ่งค้างเสียนานจนเพื่อนยังจับสังเกตได้ บอกตามตรงว่าถูกตาต้องใจเธอตั้งแต่แรกเห็น ทว่ายังไม่ทันจะได้ทำความรู้จักก็ได้รู้ว่าซินซินมาที่ตึกของคณะภาพยนตร์ก็เพราะมีแฟนเรียนอยู่ที่นี่ แฟนของเธอเองก็เป็นเพื่อนร่วมคณะที่ผมรู้จักเพราะเรียนอยู่ในคลาสเดียวกัน เพราะอย่างนั้นคนแอบมองแต่ไม่ได้เป็นแฟนเธออย่างผมจึงต้องเก็บกลืนความรู้สึกของตัวเองลงคอไป ผมถือคติไม่ยุ่งกับคนมีแฟน แต่ถึงจะเป็นแบบนั้นความรู้สึกที่มีให้เธอกลับไม่ลดน้อยลงเลย ทุกครั้งที่ซินซินมาหาไอ้แชมป์ที่คณะ ทุกครั้งที่บังเอิญเจอกันที่คณะของเจ้าตัวผมก็จะยิ่งชอบเธอมากขึ้น และมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งที่รู้ว่าเธอมีแฟนแล้วแถมรักแฟนมาก มากถึงขั้นหมดหวังที่จะรอให้สาวเจ้าถอดถอนใจ แต่สุดท้ายผมที่ตัดใจเลิกชอบเธอไม่ได้เสียที จึงเลือกที่จะเฝ้ามองซินซินในฐานะเพื่อนมานานเกือบสองปี เดาว่าเธอเองก็คงพอจะรู้สึกได้ว่าผมคิดมากกว่านั้น เพราะมันไม่มีทางที่ซินซินจะไม่เห็นว่าผมมองเธอด้วยสายตาแบบไหน แต่ถึงอย่างนั้นเราทั้งสองคนก็ยังคงมีระยะห่างซึ่ฃกันและกัน เธอรู้ว่าควรวางตัวอย่างไร ส่วนผมก็รู้ดีว่าตัวเองควรอยู่ในจุดไหน ถึงใจจะไม่บริสุทธิ์เสียเท่าไหร่ แต่คนอย่างเหริน เจนทัต ก็ยังตระหนักได้ว่าคนสวยมีแฟนแล้วแถมรักไอ้เวรนั่นมากเสียด้วย เพราะอย่างนั้นจุดที่ผมยังคงยืนได้โดยที่ยังสามารถมองเธอเติบโตได้ ก็คือพื้นที่ตรงนี้ นอกจากนั้นผมเองก็ไม่ได้อยากให้ใครมองซินซินไม่ดี ไม่อยากให้เธอต้องกลับไปทะเลาะกับแฟนโดยที่มีตัวผมเป็นสาเหตุ ไม่อยากให้เธอต้องรกหูรกใจเรื่องแบบนี้ เพราะมันไม่ใช่ความผิดเธอเลยที่มีคนอย่างผมไปชอบพอ ผมเสียอีกทีผิด ที่รู้ทั้งรู้ว่าเธอไม่โสดแต่ก็ยังเผลอไปให้ความสนใจเธอในเชิงนั้น แถมผิดมากที่รู้ดีอยู่แก่ใจแต่ก็ยังหาเรื่องให้ตัวเองได้อยู่ในสายตาของเธอบ้าง ไม่ว่าจะเป็นการขอเลี้ยงน้ำเลี้ยงขนมในบางครั้งบางคราว อาสาไปส่งที่คณะยามที่พบว่าเธอต้องเดินท่ามกลางอากาศร้อนระอุในมหาวิทยาลัย หรือกระทั่งอาสาช่วยเหลือในบางเรื่องเมื่อรู้ว่าเธอต้องทำอะไรสักอย่าง "มองเขาเหมือนหมาตลอด ชอบเขาขนาดนี้ทำไมไม่จีบล่ะวะ อย่างมึงสู้ไอ้แชมป์ได้อยู่แล้ว" แต่เหมือนว่าไอ้มิณทร์เพื่อนของผมมันจะไม่คิดอย่างนั้น ว่ากันตามตรงหากคิดแบบเลวๆ ทุกอย่างมันก็เป็นแบบที่ไอ้มิณทร์พูดจริงๆ นั่นแหละ คนอย่างไอ้แชมป์ไม่มีอะไรสู้ผมได้เลย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องหน้าตา นิสัยใจคอ ฐานะทางบ้าน หรือเรื่องความมีอนาคต แต่เรื่องที่มันสู้ได้คือซินซินรักมัน และเรื่องนั้นก็เป็นเรื่องที่ตัวผมเองก็ควรยอมรับความจริง "สู้ห่าอะไรล่ะ เขายังไม่เลิกกับแฟนมึงจะให้กูไปแย่งมาหรือไง" ผมไม่อาจปล่อยให้เพื่อนพูดไปมากกว่านี้ อย่างที่บอกว่าผมไม่อยากให้ใครมองเธอไม่ดี ที่ผ่านมาเหตุผลที่ยอมอยู่แค่ตรงนี้ก็แค่อยากให้เธอได้สบายใจ แค่ได้คอยช่วยเหลือบางเรื่องเท่าที่พอช่วยได้มันก็เพียงพอให้ผมได้สุขใจแล้ว แต่หากวันไหนเธอกลับมาโสดอีกครั้งมันก็อีกเรื่อง "แต่แฟนเขาคือไอ้แชมป์ไง มึงไม่สงสารเขาเหรอวะ เรียนมาด้วยกันก็รู้อยู่ว่าไอ้แชมป์แม่งทั้งเหี้ยทั้งเจ้าชู้แค่ไหน" “มันไม่ใช่เรื่องที่กูจะไปคิดแทนเขาไง ของแบบนี้เขาต้องตัดสินใจเองสิวะ” ถึงผมจะสงสารที่ซินซินตัดใจมูฟออนจากคนแบบนั้นไม่ได้สักที แต่หากจะให้ผมไปแย่งเธอมาผมคงทำไม่ได้และไม่คิดจะทำด้วย ตราบใดที่ยังรักมันถ้าเธอยังจะอยากอยู่ในความสัมพันธ์ คนนอกคิดไม่ซื่ออย่างผมจะไปพูดอะไรได้ ไอ้มิณทร์ได้ฟังอย่างนั้นก็มองหน้าผมยิ้มๆ คล้ายกับรู้ทันบางอย่าง “เออครับ แล้วมึงจะไม่รู้สึกอะไรหน่อยเหรอ วันก่อนก็เห็นซินซินทะเลาะกับไอ้แชมป์นี่ ไอ้เหี้ยนั่นแม่งทิ้งเขาเอาไว้ตรงนั้นไม่ได้สนใจจะพากลับหอไปด้วยกันเลยด้วยซ้ำ” แย่มากที่ไอ้นี่มันรู้ว่าผมกำลังคิดอะไรอยู่ เพราะเป็นเพื่อนกันมานานผมถึงปิดอะไรมันไม่ได้สักอย่าง แม้กระทั่งเรื่องนี้ “ทำไมกูจะไม่รู้สึกล่ะ กูอยากให้ซินซินเลิกกับมันจะตาย แค่คิดว่ามันไม่ใช่หน้าที่ของกูที่จะไปพูดหรือทำให้เขาเลิกกัน ยิ่งให้เข้าไปแย่งมากูคงทำไม่ได้เพราะกูรู้ว่าซินซินรักมัน มึงคิดว่าจะมีสักกี่เหตุผลที่ผู้หญิงจะทนคนอุบาทว์ ที่แม้แต่ผู้ชายด้วยกันอย่างกูกับมึงยังขยะแขยงได้วะ มันก็เพราะความรักทั้งนั้น” “มึงก็เลยจะทำตัวเป็นพระเอก เป็นไหล่ให้ซบตอนที่เขาทะเลาะกับแฟน หลังจากนั้นก็มานั่งหมาหงอยแบบนี้น่ะเหรอ” ผมล่ะเกลียดไอ้เพื่อนเวรนี่จริงๆ แต่ละคำที่มันพูดออกมาผมเถียงไม่ออกเลยแม้แต่คำเดียว เพราะมานั่งเป็นหมาหงอยจริงอย่างที่มันว่า “ตราบใดที่เขายังมีแฟนอยู่ ต่อให้กูจะชอบแค่ไหนมึงคิดว่ากูทำอะไรได้มากไปกว่านี้เหรอ” “แต่ทรงนี้กูว่าไม่นานหรอก มึงก็เห็นว่าช่วงนี้ไอ้แชมป์สนิทกับมินนี่ขนาดไหน คนเจ้าชู้แบบมันน่ะเหรอจะคิดแค่เพื่อน แทบจะนั่งขี่กันตลอดเวลาขนาดนั้น” ไอ้มิณทร์ว่าพลางพยักเพยิดไปที่กลุ่มของไอ้แชมป์ที่เพิ่งเดินเข้ามานั่งในโรงอาหาร ซึ่งเป็นคนละฝั่งกับที่กลุ่มของซินซินนั่งอยู่ ระยะห่างระหว่างไอ้แชมป์กับมินนี่มันน้อยนิดจริงอย่างที่เพื่อนของผมว่า และใช่ว่าจะมีแต่มันที่มองออกว่าระหว่างสองคนนี้ไม่ใช่เพื่อนกันธรรมดาๆ ทุกคนเขาก็มองออกกันทั้งนั้นว่าอะไรเป็นอะไร แต่พอทะเลาะกันเพราะซินซินรับไม่ได้ที่แฟนไปถึงเนื้อถึงตัวกับผู้หญิงคนอื่น ไอ้แชมป์กลับเลือกกล่าวหาว่าเธอที่เป็นแฟนนั้นงี่เง่าเกินเหตุ นอกจากนั้นก็ยังไม่ยอมห่างกับมินนี่เลยทั้งที่เป็นเรื่องที่ควรทำ ยิ่งเห็นแบบนั้นจู่ๆ ผมก็ชักจะอยากลืมสิ่งที่คิดอยู่ก่อนหน้านี้ไปให้หมด แล้วแย่งซินซินมาดูแลเองเสียตั้งแต่ตอนนี้ “กูว่าไม่นานมันจะต้องนอกใจซินซินอีกแน่” มิณทร์มองท่าทีของผมนิ่งก่อนจะหันไปมองไอ้แชมป์กับมินนี่ที่ยังคงนั่งหยอกล้อใกล้ชิด แล้วหันไปมองกลุ่มของซินซินที่นั่งอยู่ไกลออกไป ผมมองตามสายตาของมันก็เห็นว่าเธอนั่งมองสองคนนั้นนิ่ง แต่ขนาดนั่งกันไกลขนาดนี้ยังเห็นเลยว่าเธอเจ็บปวดขนาดไหน “แล้วแบบนี้มึงจะยังทำตัวเป็นพระเอกได้อยู่อีกเหรอวะ ดีไม่ดีตอนนี้กูว่าพวกมันอาจจะทำไปแล้วก็ได้ ไม่งั้นมินนี่ไม่ดูสนุกขนาดนั้นหรอก” นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ซินซินโดนไอ้แชมป์นอกใจ และถ้ามันทำอีกผมคงทนเห็นเธอเสียใจต่อไปอีกไม่ได้แน่ “ที่กูยังไม่ทำเพราะกูเคารพการตัดสินใจของเขา แต่ถ้าคราวนี้ไอ้แชมป์ทำซินซินหลุดมือเมื่อไหร่ กูเสียบแน่” “ต้องอย่างนี้ดิวะ” มิณทร์มองหน้าผมขณะตบเข่าฉาดและหัวเราะอย่างถูกใจ ก่อนที่จะโน้มใบหน้าเข้ามาหา “มึงจำแนทเด็กเขียนบทได้ไหม คนนั้นเรียนคลาสเดียวกับมินนี่และเห็นว่าเคยเป็นเพื่อนห้องเดียวกันกับซินซินตอนมัธยม ถ้ามีเรื่องอะไรกูว่าเขาช่วยมึงได้นะ” “แนทเหรอ” ถึงจะไม่ได้สุงสิงกับเด็กเขียนบทมาก แต่ก็พอจะได้มีโอกาสร่วมคลาสและร่วมงานกันอยู่บ้าง ผมพอจะจำเธอได้เพราะไอ้เดคเพื่อนอีกคนในกลุ่ม เคยพูดว่าสนใจจะให้เธอเข้ามาร่วมเขียนบทงานที่จะส่งประกวดอยู่เหมือนกัน “ใช่ มึงอาจจะคิดว่าไม่อยากแย่ง แต่การทำให้เขาตาสว่างเพราะแฟนเขาเหี้ยมากมันก็ไม่ใช่การแย่งหรือเปล่าวะ” และวันนั้นก็นับเป็นวันแรกที่ผมยื่นมือเข้าไปยุ่งในเรื่องของเธอ โดยที่ซินซินเองก็ไม่ได้รู้เนื้อรู้ตัว
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD