3
“อืม...หลิน แม่เจ้า...” น้ำเสียงหวานนุ่มและแหบพร่าดังออกมาจากริมฝีปากอวบอิ่มเป็นระยะ สองมือเล็กเรียวลูบไล้ไปบนกล้ามเนื้อแข็งแกร่งและเต็มไปด้วยมัดกล้าม เรือนกายโปร่งบางขยับเคลื่อนไปตามแรงเคลื่อนไหวที่เป็นไปอย่างนุ่มนวลและอ่อนโยน
รมย์นลินหลงเพลิดไปในเพลิงพิศวาส กายบางเบาหวิวเหมือนลูกโป่งลอยละลิ่วไปบนฟ้ากว้างและแตกกระจายเหมือนกับพลุดวงใหญ่ สายธารร้อนผ่าวเอ่อล้นและซึมหายไปในอุ้งปากกว้าง
“เทพ...เทพ...ได้โปรด” รมย์นลินหายใจหอบฮักเหมือนกับคนวิ่งระยะทางไกลมา เนื้อตัวยังคงเต้นระริกกับความสุขสมที่ไม่เคยคิดว่าจะมากมายถึงเพียงนี้ ดวงตากลมโตเป็นประกายหวานฉ่ำเชื่อม วงหน้าหวานสวยแดงปลั่งเหมือนผลเชอร์รี่และมีหยดเหงื่อไหลซึมเปรอะหน้าส่งยิ้มหวานฉ่ำเยิ้ม
“ต้องการอะไรละจ๊ะหลิน” เทพกานต์ส่งยิ้มตอบกลับ ดวงตาคมกริบมองเข้าไปในดวงตากลมโต ริมฝีปากอุ่นร้อนทาบและหยอกล้อไปบนผิวกายเนียนนุ่ม พร้อมกับมือใหญ่ดึงเอากางเกงออกจากกาย ปลดปล่อยภมรตัวใหญ่ออกมาทักทายเส้นทางกุหลาบฉ่ำหวาน แต่เพื่อไม่ให้รมย์นลินขลาดกลัวกับอาวุธร้ายและใหญ่โตเกินชายทั่วไป เขาจึงจับมือเรียวให้หญิงสาวได้รู้จักกับกายแข็งแกร่งด้วยการนำพามันลากไล้เคลื่อนไหวไปทั่วตัวและหยุดอยู่ใกล้ๆ กับสัญลักษณ์แห่งความเป็นชายชาติอาชาไนย
“อุ้ย!!” รมย์นลินตกใจกับเรือนกายที่ขยายใหญ่และร้อนผ่าว มือเล็กพยายามดึงหนีแต่กลับถูกกดรั้งเอาไว้ด้วยแรงที่เหนือกว่า “ทะ...เทพปล่อยหลินเถอะนะ...” หญิงสาวร้องบอกด้วยน้ำเสียงค่อนข้างไปทางตื่นตระหนก
“ไม่ต้องกลัวนะ เทพทั้งรักทั้งหลงหลินแทบเป็นบ้าอยู่แล้ว หลินจะทิ้งให้คนที่รักต้องทรมานเหรอ รู้ไหมว่าถ้าถูกปฏิเสธคราวนี้ เทพคงจะต้องเป็นบ้าแน่ๆ เลย” เทพกานต์กัดฟันบอกด้วยความปวดร้าวและน้อยใจที่รมย์นลินไม่เชื่อใจเขา
ใบหน้าคมคร้ามแดงคล้ำ ลมหายใจหอบแรง แม้ว่าจะต้องเจ็บปวดกับการที่ยังไม่ได้ฝังร่างในความอบอุ่นและฉ่ำร้อน แต่ก็ยอมตัดสินใจปล่อยมือเล็กเรียวให้เป็นอิสระพร้อมกับหันหลังหนีหญิงสาว ด้วยรู้ดีว่าถึงรมย์นลินจะใจแข็งแค่ไหน แต่ถ้าถูกเขาแสดงออกแบบนั้น หญิงสาวย่อมต้องยอมโอนอ่อนผ่อนตาม
ใบหน้านวลผุดผ่องคลี่ยิ้มพราย เมื่อมือเล็กสอดเข้าระหว่างเอวสอบ วางใบหน้าแนบกับแผ่นหลังกว้าง “ขอโทษ เทพอย่าโกรธหลินเลยนะ” ง้องอนเสียงหวานพร่า “หลินแค่กลัว”
“เทพไม่ได้โกรธหลินนะ แต่โกรธตัวเอง ที่ทำให้คนที่รักกลัว และ...” เทพกานต์พูดเสียงหวานนุ่มทุ้ม และหันกลับมาพร้อมกับคว้ามือเล็กเรียวไปจูบเบาๆ มือใหญ่ลูบไล้บ่ากว้างแผ่วเบาและนุ่มนวล ปลายนิ้วยาวใหญ่ลากไล้ไปบนพวงแก้มอิ่มเต็มและแดงซ่าน
มือเล็กเรียวยื่นไปวางบนริมฝีปากหนาอุ่นร้อน ใบหน้าขาวนวลแดงปลั่งอายจนต้องเสหลบลงมองฟูกที่นั่งอยู่ จึงทำให้ไม่เห็นสายตาแห่งความดีใจและสาสมใจของเทพกานต์ มือเล็กเรียวยื่นไปคว้ามือใหญ่มาบีบและจับเอาไว้
“ขอโทษนะเทพ แต่หลินกลัวจริงๆ ”
“เทพรู้จ๊ะ เพราะรักถึงไม่โกรธไง”
รมย์นลินตื้นตันใจกับคำปลอบโยนหวานหู กายอรชรค่อยๆ เอนตัวลงไปนอนบนเตียงนอนพร้อมกับดึงร่างหนาให้ตามติดมาด้วย มือเล็กค่อยๆ ลูบไล้ไปบนเรือนกายใหญ่อย่างที่ชายหนุ่มสอนไว้เมื่อครู่ และเมื่อถึงเรือนกายซึ่งร้อนผ่าวและขยายใหญ่ แม้จะกระดากอาย แต่เพื่อคนที่รัก เธอก็พร้อมที่จะยอมมอบให้เขาทุกอย่าง สองขาเรียวยาวค่อยๆ แยกออกกว้างให้ร่างหนาใหญ่ได้เข้ามาพักพิงตรงกึ่งกลาง แต่ไฟร้อนผ่าวที่แนบชิดกับเนินสวาทก็ยังทำให้เธอกลัวๆ อยู่
“ไม่ต้องกลัว...เทพรักหลิน เราจะเดินทางไปพร้อมกันนะที่รัก” เพื่อให้หญิงสาวพร้อมพรั่งกับการเดินทางสายพิศวาส เทพกานต์ก็เริ่มต้นปลุกเร้าหญิงสาวใหม่จนรมย์นลินร้อนผ่าวเป็นเพลิงไฟในพริบตา
“เทพ...ได้โปรด...ช่วยด้วย...” สองมือเล็กจิกกดลงไปบนไหล่กว้าง อย่างต้องการระบายลูกไฟร้อนผ่าวที่วิ่งไหลวนไปตามกระแสเลือด ใบหน้าขาวสวยแหงนหงายไปด้านหลัง สองบัวตูมงามเต่งตึงกระเพื่อมไหวและจมหายเข้าไปในปากหนากว้างที่กลืนกินเม็ดบัวสลับกันไปมา
“เจ็บ...เทพเจ็บ...” ร้องบอกเสียงสั่นพร่า เมื่อความแข็งแกร่งและร้อนผ่าวเริ่มเคลื่อนไหวเข้าไปในเรือนกายแม้จะเชื่องช้าและอ่อนโยนแล้วก็ตาม แต่ก็ยังทำให้กุหลาบดอกโตบอบช้ำอยู่ดี สะโพกงามงอนขยับส่ายหนีแต่กลับถูกตรึงเอาไว้ให้รอรับความอลังการที่ยังคงเคลื่อนเข้าหา
“อดทนนิดนะที่รัก อีกเดี๋ยวก็ไม่เจ็บแล้วคนดี” เทพกานต์ปลอบโยนเสียงนุ่ม แม้ว่าตัวเขาจะเจ็บปวดและทรมานกับเรือนกายที่มันค้างคาไปไม่ถึงจุดหมาย แต่ก็ยังพยายามดึงรั้งรมย์นลินออกจากความเจ็บปวดด้วยการตวัดลิ้นหยอกล้อกับเม็ดบัวทั้งสองฝากฝั่ง ขณะมือใหญ่ก็กดคลึงปมเสน่หาและลูบไล้บีบนวดต้นขาสลับกับขยำนวดสะโพกกลมมน พร้อมกับค่อยๆ กดฝังเรือนกายจนจมลึกหายไปในช่อดอกรัก
สองมือเล็กเรียวจิกบนแผ่นหลังกว้างและลากแรงๆ จนกายใหญ่สะดุ้งด้วยความเจ็บแสบและปวดแปลบ ยังจะมีฟันที่ขบกัดลงบนไหล่กว้าง น้ำตาอุ่นร้อนหยดจากสองดวงตาคู่สวย เมื่อความเจ็บร้าวและอึดอัดเคลื่อนเข้าไปฝังอยู่ในเรือนกาย
“หลินไม่เป็นไรใช่ไหมคนดี เทพขอโทษนะที่ทำให้เจ็บ”
“ไม่เป็นไร หลินเข้าใจ” เอ่ยอย่างอึดอัดระคนเจ็บปวดที่ยังคงมีอยู่ สองมือเล็กเรียวจับรั้งใบหน้าคมคร้าม และส่งรอยยิ้มหวานๆ ให้ ศีรษะทุยผงกขึ้นเล็กน้อยพอให้ริมฝีปากสองคนได้ประทับกัน
ลูกศิษย์สาวหัวไวเริ่มต้นจุดประกายไฟปรารถนาบนกายใหญ่ด้วยการมอบจุมพิตหวานฉ่ำเชื่อม ปลายลิ้นเล็กๆ ลากไล้ไปตามเรียวปากหนากว้างก่อนจะใช้ลิ้นเล็กๆ แยกมันออกจากกันและล่วงล้ำเข้าไปในโพรงปากนุ่มและอบอุ่น ปลายลิ้นเล็กลากไล้เที่ยวท่องไปทั่วกระพุ้งปาก ก่อนจะเกี่ยวกระหวัดและดุนดันกับปลายลิ้นสากระคายที่ออกมาต้อนรับและย้ายจากโพรงปากใหญ่มาซอกซอนหาความฉ่ำหวานปานน้ำผึ้งในโพรงปากเล็ก
แขนกำยำสอดรัดกอดร่างนิ่มแนบชิด สะโพกสอบเริ่มเคลื่อนไหวอย่างแผ่วเบาและนุ่มนวลพร้อมกับสังเกตปฏิกิริยาจากแม่สาวเนื้อหวาน และเมื่อเห็นว่ารมย์นลินไม่แสดงความเจ็บปวดออกมาแล้ว กายใหญ่ก็ขยับเคลื่อนตัวด้วยความหนักหน่วง เนิบนาบ ช้าสลับเร็ว มือใหญ่ช้อนขาเรียวยาวให้โอบรอบเรือนกายแข็งแกร่ง เพื่อให้สองร่างได้แนบชิดจนเกือบจะกลายเป็นเนื้อเดียวกัน
“ที่รัก...หลิน...” เทพกานต์ร้องครางขาดเป็นห้วงกับการตอบสนองของรมย์นลิน สะโพกสอบเพรียวขยับเคลื่อนโยกซ้ายย้ายขวา บ้างก็ค่อยๆ เคลื่อนออกมาอย่างเชื่องช้าและถลากลับเข้าไปใหม่อย่างดุดันรุนแรง ที่เพลิงพิศวาสโอบเร้าทำให้เขาทวีความหนักหน่วง จนได้ยินเสียงหวีดร้องเล็กๆ ดังมาจากร่างโปร่งบาง มือและกายใหญ่ทำหน้าที่ประสานกันได้อย่างลงตัว ส่งให้รมย์นลินเดินทางไปบนฝั่งแห่งความฝันครั้งแล้วครั้งเล่า
ใบหน้าคมคร้ามแดงคล้ำและบูดเบี้ยวเหยเก ลมหายใจหอบพร่าและแรงเร็วจนแผ่นอกกว้างไหวกระเพื่อมบดเบียดเสียดสีกับเรือนกายนุ่ม ปลายทรวงสีน้ำตาลเข้มเสียดสีกับปลายยอดถันสีชมพูเข้มยิ่งเพิ่มความปั่นป่วนและเสียวซ่านให้กับสองร่างจนต้องส่งเสียงร้องออกมาพร้อมๆ กัน
สองมือใหญ่เคลื่อนไปตามลำแขนเรียวยาวและสอดเข้ากับสองมือเล็ก “หลินจ๋า...ไปกับเทพอีกครั้งนะ...” ชายหนุ่มเอ่ยพูดเสียงหวานนุ่มและแหบพร่า เส้นทางสวาทบีบกระชับรัดภมรตัวใหญ่ ทำให้เขาร้อนแทบจะระเบิดออกมา สะโพกสอบสะบัดเคลื่อนออกมาและกดลึกจมหายไปในกลีบบุปผานุ่มและอบอุ่นรัวเร็วถี่ยิบ
สองหนุ่มสาวค่อยๆ เกาะเกี่ยวร้อยความปรารถนาเดินทางเคียงคู่กันไปในบนฝากฟ้ากว้าง ชายหนุ่มกดฝังเรือนกายในความอบอุ่นและฉ่ำร้อนแนบสนิทจนกลายเป็นเนื้อเดียวกัน สายธาราอุ่นร้อนจากสองกายาหลอมรวมกันและไหลล้นออกจากกายน้อยๆ พร้อมสองร่างที่ส่งเสียงร้องด้วยความสุขสมออกมาสอดผสานกัน
ยามราตรีเงียบสงบ ค่ำคืนแสนยาวนานที่สองหนุ่มสาวกดกอดและมอบสัมผัสแห่งไฟพิศวาสให้แก่กันและกัน ราวกับคนอดอยากหิวโซที่ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย จวบจนเรือนกายอ่อนล้าจึงได้นอนหลับไปในอ้อมแขนของกันและกัน