“เป็นไง ถ่ายไม่ออกหรือไง” ขจรทักขึ้นเมื่อเห็นสีหน้าเพื่อนรัก เคร่งเครียดต่างจากขาไปอีกแล้ว “แล้วนี่จะกินต่ออีกไหม กินไปได้นิดเดียวเองนิ”
“ไม่ หมดอารมณ์” ตอบคำถามแต่สายตามองข้ามเลยไปทางด้านหลัง ขจรหันมองตามสายตา กลุ่มชายหญิงสี่คน เหมือนกำลังเตรียมตัวลุกขึ้นออกจากร้าน
“รู้จักพวกเขาหรือ จ้องเอาๆ” หันกลับมาถามเพื่อนรัก อีกฝ่ายยิ้มแสยะ
“หึ น้องแม่เลี้ยงทำไมจะไม่รู้จัก”
“หะ?” ขจรทำตาโต หันกลับไปอีกครั้งอย่างไว“คนไหนฉันจำหน้าไม่ค่อยได้” ท่าทางลุกลี้ลุกลนและหันไปมองทั้งตัว ทำเอาราเชนทร์เบ้หน้า มั่นไส้เพื่อนขึ้นอย่างอดไม่ได้
“เคยเห็นไม่ใช่หรือ” ‘เห็น’ที่ว่า คือเห็นรูปภาพถ่ายคู่พี่สาวและพ่อของเขาที่เป็นข่าวลงหน้าหนังสือพิมพ์นั้นเอง
“เห็น แต่นั้นมันในรูป นี้ตัวจริง ขอมองให้ชัดเจนหน่อยเถอะ” ปากเอ่ยบอกแต่สายตารี่แคบ เพื่อโฟกัสหน้าตาให้แน่ชัดระหว่างหญิงสาวสวยทั้งสองคนที่อยู่โต๊ะห่างออกไป
คนหนึ่งรูปร่างเล็ก ไม่ใช่แน่ ขจรมั่นใจ จึงเบนสายตาไปยังหญิงสาวรูปร่างสูงโปร่งใบหน้าเรียวรูปไข่ภายใต้เสื้อเชิ้ตสีชมพูเข้ารูปกางเกงยีนเนื้อดีโดยผมยาวสลวยถูกรวบไว้กลางศีรษะเน้นรูปหน้า เข้ากับสัดส่วนรูปร่างให้ดูเด่น สะดุดสายตาผู้พบเห็น
ขจรไม่แปลกใจที่หญิงสาวหนีไม่พ้นสายตาเพื่อนรัก... ขจรยิ้มในหน้า “สวยอย่างนี้นี่เอง” เสียงทุ้มนุ่มเอ่ยเหมือนเพ้อพร้อมกับหันมาหาเพื่อนรัก เมื่อกลุ่มคนที่เขาพยายามมอง เดินออกจากร้านไป ราเชนทร์ถลึงตาใส่ ขจรนึกได้เอามืออุดปาก
“สวยแต่รูป” ไม่วายค้อนขอด ให้ตายยังไง เขาไม่มีทางหลงรูปสองพี่น้องเหมือนคนเป็นพ่อ
แม้จะผ่านผู้หญิงมามาก แต่ส่วนน้อย ที่หญิงสาวพวกนั้นจะหวังเงินในกระเป๋าเขา ก็เพราะมีข้อตกลงระหว่างกัน คือความสุขที่ต่างฝ่ายต่างต้องการและเขาไม่ใช่เป็นฝ่ายเรียกร้องเดินไปหา พวกหล่อนต่างหากที่เดินเข้ามา เพื่อหวังให้เขาเชยชมเรือนร่าง และสนองความต้องการทางธรรมชาติ เมื่อสมใจปรารถนาต่างคนต่างแยกย้ายไม่ได้เกาะติดเป็นปลิงอย่างสองพี่น้องนั่น!
“จ่ายตังค์ แล้วออกเดินทางกันเถอะ เสียเวลา” น้ำเสียงขุ่นเอ่ยขึ้น รู้สึกบรรยากาศเริ่มร้อน ทั้งที่จริงลมพัดโกรกสบาย ด้วยบรรยากาศรอบร้านมีต้นไม้สูงให้ร่มเงาอย่างดีโดยรอบ ส่วนด้านข้างๆเป็นรัวไม้ระแนงตีเป็นฉากกัน
“อ้าว แล้วนี่นายจะไม่กินข้าวต่อจริงๆหรือ”
“เออ เย็นชืดหมดแล้วค่อยไปกินต่อที่โรงแรมก็แล้วกัน” ว่าแล้วก็เรียกเด็กเก็บเงินที่ยืนรอบริการอยู่แล้ว “ไม่ต้องทอน” ยืนแบงก์สีเทาลงบนบิลโดยไม่มองตัวเลข เด็กหนุ่มก้มหน้ารับพร้อมร้อยยิ้มให้ลูกค้า
“นายนี่เป็นเอามาก” ขจรแย้งติดใจเรื่องที่ราเชนทร์ไม่ยอมกินข้าว และแน่ใจว่าที่กระเพาะเพื่อนรักไม่ทำงานเพราะบังเอิญเจอคู่กรณีคนสวยนั้นเอง
อาการเหมือนคนหงุดหงิด ไม่ได้ทำให้ชายหนุ่มที่เดินผ่านหน้าไป ลดทอนความน่ามองลงไปในสายตาของ ณดาหรือแพมได้เลย “พวกเราก็ไปกันเถอะ” ริมฝีปากบางเฉียบแต้มด้วยลิปสีสดฉีกยิ้มก่อนจะชวนกันลุกขึ้นและออกจากร้าน ไปยังจุดหมายปลายทางที่อยู่ไม่ไกล
หลังจากที่ไม่มีเสียงน้องสาวเข้ามาพูดจาหยอกเย้า แต้มสีสันให้กับคนในคฤหาสน์ ปองรักได้แต่เก็บตัวอยู่แต่ในห้องเสียส่วนมาก หรือไม่ก็เฝ้าขลุกอยู่กับแปลงกุหลาบที่กำลังผลิดอกสะพรั่งสวยงาม โดยมีโดมรับทำหน้าที่ช่วยดูแล โดยไม่ขาดตกบกพร่อง เธอจึงไว้วางใจปล่อยให้โดมดูแลสิ่งที่ตนเองรักและหวงอย่างอุ่นใจ
“กลับมาแล้วหรือค่ะ”เสียงหวานเอ่ยทักทายเมื่อเห็นว่าเป็นใครเปิดประตูห้องเข้ามา พร้อมเดินตรงไปรับเสื้อสูทในมือของสามี
“ครับ คิดถึงจัง” เสียงทุ้มเอ่ยบอกพร้อมแตะจมูกโด่งลงบนแก้มนวลที่เอียงรับอย่างรู้ใจแม้จะออกเขินๆกับความหวานที่ยังไม่คุ้นชินนัก
“วันนี้กลับไวจัง” แววตาสงสัยหันมองนาฬิกาบนฝาผนังเพื่อให้แน่ใจว่าเธอเข้าใจไม่ผิด เพราะหลังจากที่ สามีหยุดเข้าบริษัทเกือบครึ่งเดือนโดยสั่งการแค่ทางอีเมลและโทร.คุย และเริ่มกลับไปทำงานอย่างปกติ แต่หลังจากนั้นสามีก็กลับบ้านดึกเกือบทุกคืน
“เคลียร์งานลงตัว วันนี้เลยกลับบ้านไว...” ราชิตเอ่ยพร้อมก้าวไปนั่งบนเตียงนุ่มปลดกระดุมแขนเสื้อออก “แม่เตือนบอกว่าไม่ลงไปด้านล่างเลย ไม่เบื่อหรอ?” ใบหน้าซึ่งมีแววกังวนฉาบอยู่บนใบหน้า เอ่ยถามเมียสาว
“ก็ไม่เชิงหรอกคะ ก็ลงไปดูแปลงกุหลาบ แล้วขึ้นมาอ่านหนังสือธรรมะอยู่ค่ะ ไม่มีอะไรน่าเบื่อหรอก”
“เก่งจัง” ใบหน้าของคนสูงวัย วัยห้าสิบต้นๆยิ้มกระจ่างอย่างปลื้มปริ่ม ก่อนจะจรดปลายจมูกบนหน้าผากมนที่หย่อนก้นนั่งลงใกล้ๆ สูดกลิ่นหอมจนชุ่มปอด นัยน์ตาหวานไหวระริกพร้อมยิ้มหวานตอบรับกับการกระทำและคำชม
“ว่างๆก็ชวนเด็กๆออกไปช้อปปิ้งบ้างสิ”
“ขอบคุณค่ะ” เธอขอบคุณในความมีน้ำใจของสามี แต่นั้นไม่ใช่นิสัยของเธอ บัตรเครดิตที่สามีมอบให้ แม้อีกฝ่ายไม่บอกวงเงิน แต่เธอรู้ว่ามันไม่มีวันหมด แต่นั้นไม่ใช่ความปรารถนาที่เธอจะชื่นชมกับสิ่งนอกกายนั้น เพราะทุกวันนี้ เธอคิดว่าเธออยู่สุขสบายอยู่แล้วกับสิ่งที่อีกฝ่ายมอบให้ ที่เหลือก็อยู่ที่เธอจะรักและตอบแทนเขาจนวาระสุดท้ายของกันและกันอีกนานแค่ไหน
“ว่าแต่ อย่าทำงานหนักจนลืมดูแลตัวเองนะคะ” เธอเย้าเตือนด้วยความเป็นห่วงและไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะลืมได้เมื่อเธอโทร.ไปเตือนทุกครั้งเมื่อถึงเวลา คนถูกย้ำเตือนส่งยิ้มแทนคำตอบ
“ขอบคุณที่ดูแลผมเป็นอย่างดี” เสียงทุ้มเอ่ยอย่างแผ่วเบาพอให้ได้ยิน
“รักและก็ห่วงนี่คะ” เสียงหวานเผยความรู้สึกอีกครั้งและถึงไม่บอกราชิตก็รู้อยู่เสมอ ว่าหญิงสาวที่ผู้คนเคยปรามาสไว้ ‘เมียเด็ก ขายได้แม้กระทั้งความรู้สึก’เวลานั้นเขาอยากเตะปากเพื่อนที่เป็นหุ้นส่วนให้เลือดกบปากนัก
แต่ ณ เวลานี้ เขาเชื่อว่าปองรัก ‘ความรู้สึก’ซื้อไม่ได้ด้วยเงิน
“อาบน้ำก่อนนะคะ” เสียงนุ่มเอ่ยบอกพร้อมวางเสื้อสูทในมือลงบนเตียง จัดการปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตให้สามี คนสูงวัยได้แต่มองดูการกระทำของเมียสาวอย่างชื่นชม