บทที่ 10

779 Words
พอทุกคนหยุดตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้าแล้วทีมกู้ภัยก็ช่วยโบว์ลิ่งและอะตอมขึ้นมาจากหลุมนั้น [โรงพยาบาล] "ฟื้นแล้วค่ะโบว์ลิ่งฟื้นแล้ว" ณิชารีบเดินเข้ามาหาเพื่อน พอทุกคนได้ยินแบบนั้นก็รีบมาดูโบว์ลิ่ง "หนูเป็นไงบ้างลูก" บัวชมพูกุมมือลูกไว้แล้วน้ำตาก็ไหล "แม่คะ" ส่วนลูกสาวพอเห็นหน้าแม่ก็ปล่อยโฮออกมาอย่างหนัก "ไม่เป็นอะไรแล้วนะโบว์ลิ่งขวัญเอ้ยขวัญมานะลูก" แล้วทั้งสองก็กอดกัน โบว์ลิ่งนอนดูอาการและให้น้ำเกลืออยู่ที่โรงพยาบาลหนึ่งคืนสองวัน แล้วทั้งหมดก็เดินทางกลับบ้าน เย็นวันต่อมาอันนาได้นัดบัวชมพูและก็ชาญชัยมาทานข้าวที่บ้านเพื่อจะคุยเรื่องที่เกิดขึ้น ถึงแม้ว่าพ่อแม่ของอะตอมไม่ได้ไปที่นั่นด้วย แต่ทั้งสองก็รู้ความคืบหน้าทั้งหมด ว่ามันเกิดอะไรขึ้นบ้าง "เรื่องมันเกิดขึ้นแล้วทางเราก็จะรับผิดชอบเต็มที่ ถ้าไม่เพราะอะตอมหนูโบว์ลิ่งก็คงจะไม่ตกอยู่ในสภาพนั้น แถมยังไปจูบกันให้ประชาชีเขาเห็นอีก" อันนาพูดกับทุกคนแบบเด็ดเดี่ยว "แล้วแต่แม่จะจัดการเลยแล้วกันแต่พ่อว่าเรียกลูกลงมาคุยด้วยดีไหม" ธีรวุฒิพ่อของอะตอม "แม่ว่าลูกเราสนใจโบว์ลิ่งอยู่เหมือนกันนะพ่อ เพราะช่วงนี้โทรหาโบว์ลิ่งบ่อยมากแล้วยังไปจูบกันอีก แม่ว่าไม่ต้องถามหรอกหาฤกษ์หมั้นฤกษ์แต่งให้เขาเลย" แบบนี้ก็เข้าทางบรรดาแม่ๆเพราะทั้งสองอย่างจะเป็นดองกันอยู่แล้ว "งั้นเราหาฤกษ์เลยดีไหม" บัวชมพูก็ไม่อยากจะให้โบว์ลิ่งต้องไปลงเอยกับคนอื่นอยู่แล้วเพราะเธอรู้จักอะตอมมาตั้งแต่เกิด "ดีเลยงั้นพรุ่งนี้เราไปหาฤกษ์หมั้นแล้วค่อยเซอร์ไพรส์เด็กๆ" ตอนนี้ที่อะตอมไม่ได้ลงมาคุยกับพวกผู้ใหญ่ ก็เพราะว่ากำลังคุยแชทอยู่กับณิชา เช้าวันต่อมา.. "นึกว่าจะมาเรียนไม่ได้แล้ว" ยิปซีเห็นโบว์ลิ่งเดินเข้ามาก็เลยทัก "ไม่เป็นไรแล้วล่ะ แล้วณิชาล่ะ" "คงอยู่กับแฟน เพราะเห็นเดินมาส่งกัน แต่ยังไม่เห็นเข้ามาในห้องนะ" พอใกล้เวลาเข้าเรียนค่อยเห็นณิชาเดินเข้ามาในห้อง "ถึงไหนกันแล้ววะแก" ยิปซีถามณิชา ตอนนี้ณิชากับยิปซียังไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้น "แกถามแบบมีเลศนัยนะ" ณิชาตอบเพื่อนแบบเลี่ยงๆ แต่โบว์ลิ่งไม่ได้นึกขำกับเพื่อนเลยทุกคำที่ทั้งสองพูดกันมามันทำให้ใจเธอหล่นวูบ [บ้านของอะตอม] "อะไรนะครับแม่!!" ทีแรกอะตอมคิดว่าตัวเองฟังผิด เขาก็เลยถามแม่อีกครั้ง "แม่ได้ฤกษ์หมั้นของลูกกับโบว์ลิ่งมาแล้วนะ อีกสองอาทิตย์ข้างหน้าหมั้นกันไปก่อนแล้วค่อยหาฤกษ์แต่งทีหลัง" "แม่คิดอะไรอยู่แม่พูดเรื่องอะไร ทำไมแม่ไม่ถามความคิดเห็นผมบ้าง" "ทำไมต้องให้แม่ถามด้วยก็ทุกอย่างที่อะตอมทำแม่ก็เห็นหมด" "ผมไม่ได้รักโบว์ลิ่ง ผมมีคนที่ผมรักอยู่แล้ว ถ้าแม่คิดจะจับผมคลุมถุงชน แม่ฝันไปเถอะ" "แล้วเรื่องที่ลูกทำกับหนูโบว์ลิ่งไว้ล่ะทุกคนเขาเห็นหมดลูกทำให้หนูโบว์ลิ่งเขาเสียหายลูกต้องรับผิดชอบ" "แค่จูบนะครับ! กับผู้หญิงคนอื่นผมทำเยอะกว่านั้นไม่เห็นมีใครมาเรียกร้องอะไรเลย แล้วเรื่องนั้นผมก็ไม่ได้จูบเธอก่อนด้วย เธอต่างหากที่เป็นคนดึงผมลงไปจูบ" "แต่แม่พูดกับฝั่งนั้นไว้เป็นมั่นเป็นเหมาะแล้วลูกจะให้แม่เสียผู้ใหญ่เหรอ แล้วแม่จะมองหน้าแม่ของโบว์ลิ่งติดไหม ลูกก็รู้ว่าแม่กับบัวชมพูเป็นเพื่อนรักกันมาตั้งแต่สมัยไหนแล้ว อย่าให้แม่ต้องได้เสียเพื่อนเพราะเหตุการณ์นี้เลย" "แล้วไงครับผมต้องเสียคนที่ผมชอบไปงั้นเหรอ" "เรื่องนั้นแม่ไม่รู้ ลูกต้องเคลียร์ตัวเองให้จบก่อนงานหมั้น ถ้าไม่งั้นไม่ต้องมาเรียกแม่ว่าแม่!" พอพูดจบอันนาก็ตัดบทด้วยการเดินหนีออกไป "แม่!" อะตอมไม่เคยเห็นแม่เขาโกรธหรือโมโหขนาดนี้มาก่อน ที่แม่เขาพูดมาก็มีส่วนจริงบ้าง เพราะถ้าเรื่องนี้ไม่ลงเอยตามที่ผู้ใหญ่พูดกัน ครอบครัวของทั้งสองฝั่งคงจะมองหน้ากันไม่ติด
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD