Chapter IV : ฉันมาฝึกงานค่ะ!

1966 Words
  . . . ‘เธอก็คงจะน่ารักกว่านี้ถ้าเธอยิ้มให้ฉันในตอนแรก!’ . . . . ร่างบางยืนหมุนตัวไปมาอยู่หน้ากระจกมาสักพักใหญ่ เปลี่ยนชุดนั้นแล้วก็ชุดนี้แต่ก็ดูเหมือนว่าจะไม่มีชุดไหนที่เหมาะกับการไปทำงานวันแรกเลย (?) “เขาต้องแต่งตัวกันยังไงน้า” คนตัวเล็กยืนบิดไปบิดมาก่อนบางสิ่งจะแว๊บขึ้นในหัว “เอ้อ! ไปฝึกงานก็ต้องชุดนักศึกษาสินะ” ว่าแล้วไม่รอช้ารีบจัดแจงเอาชุดนักศึกษาออกมาแล้วรีบจัดการตัวเองให้เรียบร้อยและพร้อมออกไปเผชิญกับการทำงานครั้งแรก! กระเป๋าสะพายถูกพาดลงบนบ่าก่อนเจ้าของร่างจะเดินโฉบออกไปอย่างมั่นใจ “ดีนะที่หาข้อมูลที่ตั้งมาก่อน -^-  โฮ้ะ เรื่องแค่นี้ ฉันเจ๋งอยู่แล้ว” คนตัวเล็กตรงลงไปยังสถานีรถไฟใต้ดินและทำตามขั้นตอนอย่างคล่องแคล่ว ใช้เวลาเพียงไม่นานลูน่าก็มาหยุดอยู่หน้าตึกสูงตระหง่าน ‘Stardust Entertainment’ ลูน่าสูดหายใจเข้าลึกๆก่อนจะย่างก้าวเข้าไปด้านในด้วยความมั่นใจที่ขุดออกมา! “สวัสดีค่ะ มาติดต่อเรื่องฝึกประสบการณ์ค่ะ..” “อ้ออ สวัสดีค่ะ น้องนักศึกษาที่ทางมหาลัยส่งเรื่องมาใช่ไหมคะ” “ใช่ค่ะ” “โอเคจ่ะพี่ได้รับเรื่องแล้ว เดี๋ยวนั่งรอสักครู่นะครับเดี๋ยวพี่ไปตามพี่เลี้ยงของหนูมาให้”  ลูน่าพยักหน้ารับหงึดหงักแล้วนั่งลงรอด้วยใจตุ้มๆต่อมๆเพราะไม่รู้ว่าการมาเผชิญโลกกว้างครั้งนี้เธอจะได้รับประสบการณ์แบบไหนกลับไป จะต้องทำงานกับคนแบบไหน จะปรับตัวเข้าได้กับพวกเขาหรือปล่าว ทุกอย่างที่กำลังจะเกิดในเร็ววันนี้สร้างความกังวลให้ร่างบางไม่น้อย แต่เมื่อคิดได้ว่ามันคือสิ่งที่ยังมาไม่ถึงจะมัวกังวลไปเพื่ออะไรกันเมื่อคิดได้อย่างนั้นคนตัวเล็กก็รีบสะบัดหัวไล่ความคิดแสนวุ่นวายนี้ให้ออกไปทันที “สวัสดีค่ะ ^^ หนูจะมาฝึกงานที่นี่ใช่ไหมคะ” สาววัยกลางคนกล่าวทักทายพร้อมรอยยิ้มบนใบหน้าก่อนนั่งลงตรงข้ามกับคนตัวเล็กแล้วยื่นเอกสารบางอย่างให้ “ค..ค่ะ” ลูน่ายิ้มกลับไปอย่างกล้าๆกลัวๆพร้อมโค้งหัวให้เล็กน้อยเพื่อเป็นการแสดงความนอบน้อม “เดี๋ยวๆ ไม่ต้องเกร็งขนาดนั้น ฮ่าๆๆๆ ” พี่สาวตรงหน้าหัวเราะร่าให้กับการกระทำอันน่าเอ็นดูของเด็กใหม่ก่อนจะเริ่มอธิบายเนื้อหาในเอกสารตรงหน้าและดูเหมือนร่างบางเองก็ให้ความสนใจไม่น้อย “สิ่งนี้คืออะไรหรอคะ? พี่เอ่อ..” “อ้อ พี่ลืมแนะนำตัวแหะๆ พี่ชื่อเชอร์ลีนจ่ะ จะเรียกพี่เชอร์ หรือ พี่ลีนเฉยๆก็ได้ .. สิ่งนี้คือสัญญาการจะเข้ามาทำงานที่นี่ทั้งพนักงานหรือแม้กระทั่งเด็กฝึกงานอย่างหนูก็ต้องทำจ่ะ เนื้อหาในสัญญาคือไม่เปิดนำข้อมูลของศิลปินในสังกัดไปเผยแพร่หรือทำเพื่อธุรกิจค่ะ จะต้องช่วยกันปกป้องข้อมูลภายในบริษัทนะคะ” สาวน้อยตรงหน้าตั้งใจฟังพร้อมพยักหน้ารับหงึกหงักเป็นระยะๆ “เข้าใจแล้วเซ็นต์ตรงนี้เลยจ่ะ” ว่าแล้วก็หยิบยื่นปากกาให้สาวน้อยตรงหน้าก่อนคนตัวเล็กจะลงมือในทันที “ขอบคุณนะคะสำหรับคำแนะนำ ^^ จากนี้ช่วยชี้แนะด้วยนะคะพี่เชอร์ ” ลูน่าลุกขึ้นโค้งหัวให้คนตรงหน้าอย่างมีมารยาท “ได้เลยยยย รับรองอยู่กับพี่มันส์! งั้นตามพี่มาจะพาไปดูห้องในบริษัท” ไม่ว่าปล่าวหญิงสาวลุกขึ้นพร้อมกวักมือเรียกรุ่นน้องให้เดินตามก่อนจะออกเดินนำไปยังสถานที่ต่างๆในบริษัท “ห้องนี่เป็นห้องของสไตล์ลิสหรือคนที่นี่เขาจะเรียกพวกเราๆว่าโคดี้นะคะ หน้าที่ของเราก็ตามชื่อเลยสไตล์ลิสไม่ใช่แค่เสื้อผ้านะแต่รวมไปถึงหน้าผมต่างๆและไม่ใช่หน้าที่แค่นี้ เวลาที่ศิลปินจะคัมแบคเราก็ต้องออกแบบคอนเซ็ปให้เข้ากับเพลงที่กำลังจะปล่อย เรียกได้ว่าเราก็ต้องทำงานร่วมกับหลายๆฝ่ายด้วยนะคะ” พี่สาวอธิบายไปพลางเดินนำไปยังส่วนต่างๆ ลูน่าเองก็ก้มหน้าก้มตาจนบันทึกลงในสมุดเล่มเล็กที่เตรียมมาด้วย “ส่วนนี้เป็นห้องของศิลปินค่ะ มีทั้งห้องซ้อมเต้น ห้องแต่งเพลง ห้องอัดจะอยู่ในตึกส่วนนี้นะ” สาววัยกลางคนเปิดประตูเข้าไปเรียกความสนใจจากคนในห้องได้เป็นอย่างดี “อ้าวพี่เชอร์ลีนสวัสดีครับ !! ธ..เธอ!? ” เสียงชายหนุ่มที่คุ้นหูกล่าวทักทายแขกผู้มาถึงก่อนจะตะกุกตะกักพร้อมตาที่เบิกโพรงด้วยความตกใจ “หืม? สวัสดีค ..ค่ะ! คุณแอชตัน” อาการตะกุกตะกักของอีกคนทำให้คนที่ก้มหน้าเขียนงกๆอยู่อดแปลกใจไม่ได้จนต้องเงยหน้าขึ้นมามอง “อ้าวพวกเธอรู้จักกันมาก่อนหรอ?” “เห้ยปล่าวๆๆพี่ แค่คุ้นหน้าเฉยๆครับ” แอชตันรีบสวนกลับทันทีที่มีโอกาสพร้อมส่งสายตาเป็นสัญญาณให้คนตัวเล็กเออ ออตามตัวเองไป‘ถ้าบริษัทรู้ว่ายัยนี่เป็นแฟนคลับซวยแน่!’ “อ๋อ..เอ่อลูน่าเองก็พอรู้จักวงของคุณแอชตันบ้างค่ะพี่เชอร์” “อ๋อออ อย่างนี้นี่เองงั้นก็ไม่ต้องเสียเวลาแนะนำกันสินะ ส่วนนายนะแอชนายจะไปคุ้นหน้าสาวของนายที่ไหนก็ช่างแต่สาวน้อยคนนี้ชื่อลูน่านะเป็นสไตล์ลิสฝึกหัด” “= =! เด็กฝึกงานหรอ ผมไม่เห็นจะรู้เลยว่าบริษัทเรามีนโยบายรับเด็กฝึกงานด้วยนอกจากฝ่ายการตลอด” ร่างสูงเองก็ทำหน้าเหมือนไม่อยากจะเชื่อสักเท่าไหร่ “จริงๆมันก็ไม่มีหรอกแต่นายก็รู้นี่ว่าตอนนี้เราขาดคนอย่างน้อยได้คนมาช่วยแบ่งเบางานก็ยังดีและก็ประจวบเหมาะกับทางมหาลัยของน้องเขาทำเรื่องของมาฝึกด้วยพี่ก็เลยรับไว้ก็เท่านั้นเองจ่ะ เอาหละเสียเวลามามากแล้วพี่พาลูน่าไปดูบริษัทต่อก่อนนะ” ว่าจบก็เดินไปตบบ่าคนอายุน้อยกว่าเบาๆก่อนยื่นหน้าไปกระซิบ “น้อยๆหน่อยนะพ่อเสือ..” ไม่ว่าปล่าวใบหน้าสวยกลับยกยิ้มอย่างกวนประสาทให้ชายหนุ่ม “!!! ผมเปล่า!” เสียงทุ่มกล่าวโพ่งออกมาจนทำให้อีกคนที่ไม่ค่อยๆจะเข้าใจสถานการณ์สะดุ้งเบาๆ “ลูน่าาาา ~~ เราไปทัวร์กันต่อเถอะจ่ะ” หญิงวัยกลางคนรีบดึงมือลูน่าออกจากห้องไปทันทีโดยมีร่างบางที่เดินตามหลังแอบหลันกลับมามองชายอีกคนที่ถูกทิ้งไว้ในห้องก่อนจะพบว่าเขามองตมเธออย่างไม่วางสายตา ‘นี่มันอะไรกันเนี่ย!’ . . . . . หลังจากที่ข่าวการมีสไตล์ลิสฝึกหัดเข้ามาทำงานด้วยแพร่ออกไปก็สร้างความประหลาดใจและตื่นเต้นให้คนในบริษัทได้ไม่น้อยเพราะโดยปกติทางบริษัทจะไม่มีการรับสไลต์ลิสฝึกหัดเพราะเป็นหน้าที่ที่ต้องใกล้ชิดศิลปินเป็นอย่างมาก เพราะฉะนั้นการจะรับใครเข้าทำงานในตำแหน่งนี้ทางบริษัทเองก็ต้องแน่ใจว่าคนๆนั้นจะปฏิบัติตนได้เหมาะสมและรักษาผลประโยชน์ของบริษัทและความเป็นส่วนตัวของศิลปินได้..และแน่นอนว่าคนที่ตื่นเต้นที่สุดเมื่อรู้ข่าวก็ต้องเป็นเขาคนนั้น..คนที่ถูกชะตากับสาวน้อยลูน่า! จูโน่! “o.O  เหยยยย จริงดิ! จริงๆดิพี่! ” จูโน่เขย่าแขนคนเป็นพี่ด้วยท่าทางตื่นๆไม่อยากจะเชื่อหูตัวเองเท่าไหร่ “เออจริงดิ ฉันจะโกหกแกทำไมหละ” คนพี่เองก็ตอบกลับไปอย่างตัดรำคาญ “ !!! >ก๊อกๆ! เสียงเคาะประตูตามมารยาทดังขึ้นก่อนร่างสูงๆของผู้จัดการวงจะตามเข้ามา ทุกคนในวงให้ความสนใจและหันไปทักทายกันอย่างพร้อมเพียง “สวัสดีครับพี่” “สวัสดีพวกนายเตรียมตัวพร้อมกันรึยัง เช้านี้เราต้องไปประชุมกับทุกฝ่านเรื่องทัวร์คอนเสิร์ต” “พร้อมแล้วครับ” เหล่าบอยแบนด์ตอบกันอย่างพร้อมเพียงก่อนเดินตามผู้จัดการออกไป ทันทีที่เข้ามาถึงห้องประชุมใหญ่จูโน่ก็รีบสอดส่องสายตาหาเพื่อนใหม่ทันทีจนไปสะดุดเข้ากับร่างเล็กที่ก้มหน้าก้มตาขีดๆเขียนๆบางอย่างในสมุด ไม่รอช้า..จูโน่แอบย่องไปด้านหลังลูน่าก่อนใช้นิ้วมือจิ้มไปที่เอวเล็กอย่างจัด “บู่วว!” “เห้ยยย!!” ลูน่าสะดุ้งโหยงสมุดปากกาตกลงกับพื้นพร้อมเสียงอุทานที่หลุดออกมาด้วยความตกใจเรียกความสนใจจากคนทั้งห้องให้หันมามองเจ้าหล่อนจนเป็นตาเดียว “อ..เอ่อ.. ข ขอโทษค่ะ” ร่างเล็กรีบรนรานก้มลงเล็กสมุดก่อนวางหน้านิ่งเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งๆที่ใบหน้ากลมกำลังขึ้นสีแดงระเรื่อโดยไม่ทันสังเกตุว่าใครบางคนกำลังยิ้มให้กับอาการเปิ่นๆของเธออยู่ ท่าทางเก้ๆกังๆของคนตัวเล็กเรียกเสียงหัวเราะจากผู้ใหญ่ด้วยความเอ็นดู “ไง เจ้าโน่เจอเพื่อนใหม่ก็แผงฤทธิ์เลยหรอ” เสียงพี่เชอร์กล่าวขึ้นเมื่อพบว่าจูโน่อยู่ด้านหลังคนตัวเล็ก “โหยยพี่ ผมแค่แกล้งลูน่าเอง เนอะลูน่า คิกคิก~” “แกล้งบ้าอะไของนายแบบนี้เล่าโน่! ฉันตกใจหมด แถมอายด้วย..  (._.” เสียงเล็กกล่าวพร้อมปากที่ยื่นออกมาน้อยๆเพื่อยืนยันว่าเธอไม่ค่อยชอบใจเท่าไหร่ “โอ๋ๆๆๆ ฉันขอโทษนะเดี๋ยวฉันจะเลี้ยงเครปเธอเป็นการต้อนรับละกันเนอะ” “จะเลี้ยงก็ค่อยว่ากันทีหลังตอนนี้นายกลับไปอยู่ที่นายได้ละโน่ จะเริ่มประชุมแล้วย่ะเจ้าเด็ก!” พี่เชอร์ลีนว่าพลางดันไหล่โน่เบาๆให้เขากลับไปและแน่นอนว่าหนุ่มน้อยไม่มีการขัดขืนใดๆยอมทำตามอย่างว่าง่ายและไม่ลืมที่จะหันกลับมาทำมินิฮาร์ทให้เพื่อนสาว “ฮ่าๆ ดูเจ้าโน่ดิคงชอบเธอมากแน่ๆเลยนั่น” พี่เชอร์ลีนหัวเราะให้กับการกระทำน่ารักๆนั่นของหนุ่มน้อย “นี่ๆพี่ผมเห็นนะ ว่าพี่แอบยิ้มอ่ะ” จูโน่ไม่ว่าเปล่าเอาศอกกระทุ้งสีข้างของพี่ชายตัวโต “ยิ้ม ยิ้มอะไรอ่ะ เปล่านี่” แอชตันยังคงทำเป็นไม่สนใจในสิ่งที่น้องถาม “ไม่ยอมรับก็ตามใจ~~ แต่ผมเห็นละกัน! พี่คงเริ่มอยากจะเก็บเธอเข้าคอลเลคชั่นพี่แล้วหละสิ กิ๊วๆ~” คนน้องเองก็ไม่น้อยหน้าทำท่าทางเลียนแบบคนพี่ส่งผลให้คิ้วหนาเริ่มกระตุกเล็กน้อยด้วยความขุ่นเคือง “คอลเลคชั่นบ้าไร! นี่ฉันไม่ได้มั่ว! เขาเรียกทั่วถึง! อ่ะ!” “นี่พวกนายจะคุยกันอีกนานไหม ฟังๆบ้างต้องทำอะไร” เลโอที่นั่งอยู่ด้านหลังกล่าวขึ้นมาแทรกพร้อมใช้เท้ากระทุ้งเก้าอี้ของแอชตันที่นั่งอยู่ด้านหน้า “เออเข้าใจแล้ว!” ร่างสูงหันไปตอบกลับเพื่อนร่วมวงอย่างหงุดหงิด . . . . ‘ไอโน่!!! แกนะแก มันน่านัก!!’ . . . .
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD