เมื่อมาเป็นเจ้านาย เขาก็ยังเป็นคนเดิม เป็นตัวแทนพ่อเลี้ยง และน่าเข้าใกล้สำหรับลูกน้อง ผิดก็แต่บุคลิกที่ภูมิฐานขึ้นตามตำแหน่งนั่นแหละ ฉะนั้นเวลามีงานสำคัญ เขามักถูกขอให้มาอยู่เป็นกำลังใจให้น้องลูกเสมอ แม้แต่เหล่าพันธมิตรอย่างทีมงานออแกไนซ์ประจำจังหวัด
อีเว้นท์คืนนี้เป็นงานแต่งงานของเศรษฐีหนุ่มคนหนึ่ง เป็นคนเชียงใหม่ แต่ได้เจ้าสาวเป็นคนกรุงเทพฯ นั่นก็เพราะว่าทำธุรกิจที่กรุงเทพสลับกับเชียงใหม่ แต่งแบบสากล แต่อยากได้สถานที่แบบล้านนานเสียหน่อย จึงเลือกที่จะมาแต่งที่โรงแรมเหมราชมนตรา คเชนทร์ไม่ได้รู้จักหรอก เพราะไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับใคร เขาทำตัวเหมือนพ่อเลี้ยงของเขานั่นแหละ ติดจะหนักกว่าด้วยซ้ำ คือไม่ชอบยุ่งกับนักธุรกิจคนไหน
ช่วงเวลานี้เจ้าบ่าว เจ้าสาวกำลังแต่งตัว ถูกจัดเอาไว้คนละห้อง แต่งใครแต่งมัน จะนานหน่อยก็เจ้าสาวนี่แหละ เพราะต้องละเอียดละออมากกว่าเจ้าบ่าว แต่ถึงกระนั้นก็ใช้เวลาหลายชั่วโมง เพื่อความพิถีพิถันในความงดงาม
จวบจนกระทั่งใกล้จะถึงเวลาหนึ่งทุ่มที่งานจะเริ่ม ญาติๆ เจ้าบ่าวเจ้าสาวต่างลงไปรอต้อนรับแขกในงานเสียก่อน ส่วนเจ้าสาวนั้นยังแต่งตัวไม่เสร็จดีนัก เพราะเพิ่งจะแต่งหน้าทำผม และเตรียมที่จะใส่ชุด
“เจ้าขา เสร็จหรือยังลูก แขกใกล้จะมาแล้วนะ” เสียงของมารดาฝ่ายเจ้าสาวเอ่ยขึ้นด้วยความตื่นเต้น
“ยังค่ะแม่ เหลือใส่ชุด แม่ลงไปรับแขกก่อนก็ได้นะคะ เดี๋ยวหนูตามลงไป” จันทรภาเจ้าสาวที่สวยที่สุดในค่ำคืนนี้เอ่ยขึ้นพลาง พลางเตรียมสวมชุด โดยมีช่างแต่งหน้าทำผมช่วย
“แล้วนี่คุณตุลย์เสร็จหรือยังเนี่ย” มารดาถามขึ้นอีก
“ปล่อยให้หนุ่มๆ จัดการตัวเองไปเถอะค่ะ แม่และผู้ใหญ่คนอื่นๆ ลงไปรอด้านล่างเถอะค่ะ”
“จริงๆ ค่ะแม่ เดี๋ยวญาติๆ ฝ่ายเจ้าบ่าวจะไม่เจอนะคะ ทางนี้เดี๋ยวอิงจัดการช่วยยัยเจ้าเองค่ะ” น้ำอิงเพื่อนสนิทของจันทรภา เอ่ยขึ้น
“งั้นฝากน้ำอิงด้วยนะลูก แม่จะลงไปแล้ว”
“ค่ะแม่” น้ำอิงตอบ จากนั้นมารดาของจันทรภาก็ออกไปพร้อมกับญาติฝ่ายเจ้าบ่าว ซึ่งอยู่ห้องติดกันนั่นแหละ แต่เจ้าบ่าวจะอยู่อีกห้อง อีกชั้น เพราะความที่เป็นหนุ่มอยากมีความเป็นส่วนตัวตามอุปนิสัยของเขานั่นแหละ เขาไม่ชอบให้ใครเข้าไปวุ่นวาย แม้กระทั่งเวลาแต่งหน้าแต่งตัวเตรียมเข้าพิธี จนกว่าจะเรียบร้อยโน่นแหละ
“ถ้าไม่มีอะไรแล้ว พวกพี่จะขอตัวกลับนะคะ น่าจะเหลือแค่ใส่ชุดเจ้าสาว” ช่างแต่งหน้าสาวประเภทสองเอ่ยขึ้น
“อุ้ย! จริงสิคะลืมบอกไป พี่กลับเลยก็ได้ค่ะ พี่ตุลย์จ่ายเงินหรือยังคะ” จันทรภาถามขึ้นทันที เพราะหมดหน้าที่ของช่างแล้วเช่นกัน
“จ่ายเรียบร้อยแล้วค่ะ”
“งั้นขอบคุณมากๆ เลยค่ะเหลือใส่ชุด เจ้าขากับเพื่อนแต่งกันเองได้ค่ะ”
“โอเคค่ะ ขอบคุณนะคะขอให้มีความสุขมากๆ ค่ะ” ว่าแล้วช่างแต่งหน้าก็เก็บกระเป๋าเครื่องสำอางทั้งหมด แล้วออกไปทันที เหลือไว้แต่จันทรภากับน้ำอิง
ตี๊ดๆ เสียงคล้ายกับนาฬิกาปลุกมือถือดังขึ้น ทำให้น้ำอิงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู
“อุ้ยเอ่อ นาฬิกาปลุก ใกล้จะได้เวลาแล้ว เร็วๆ เจ้าขา จะได้ลงไปรับแขก”
“อ้าวเหรอ รอก่อนๆ แล้วจะได้ไปบอกพี่ตุลย์”
“เอ่อ เอางี้ เจ้าขาแต่งตัวรอนะไปก่อน นานอ่ะดูแล้ว เดี๋ยวเราไปเรียกคุณตุลย์เอง น่าจะอยู่กับผู้ช่วยแหละ”
“โอเคๆ ถ้าเสร็จแล้วก็ให้พี่ตุลย์ลงไปก่อนเลยนะ ผู้ชายอ่ะเสร็จเร็วกว่าผู้หญิงอยู่แล้ว”
“จ้ะ” ว่าแล้วน้ำอิงก็ออกไปจากห้องทันที โดยให้จันทรภาอยู่แต่งตัวคนเดียว เพราะเป็นเรื่องที่ไม่ยุ่ง แต่งเองคนเดียวได้ ขั้นตอนอื่นๆ เสร็จสิ้นหมดแล้ว
ช่วงเวลาเดียวกัน จากห้องสวีตที่จันทรภาและบิดามารดาของเธอเปิดเอาไว้เพื่อแต่งตัวนั้น ถัดขึ้นไปชั้นบนก็เป็นห้องแต่งตัวของเจ้าบ่าว
ซึ่งเป็นห้องสวีทเช่นกัน แยกกันจองเพื่อใช้ในการแต่งตัวแบบผู้ชายอย่างที่บอก แต่คีย์การ์ดมีสองอัน ให้จันทรภาเก็บไว้หนึ่งอัน เผื่ออยากจะเข้ามาเรียกเจ้าบ่าวในห้องนี้ ส่วนอีกอันเจ้าบ่าวเป็นคนเก็บเอาไว้
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก! น้ำอิงเดินมาถึงห้องก็เคาะประตูทันที และยืนรออยู่สักครู่ประตูก็เปิดเข้าไปช้าๆ พร้อมกับเลขาของเจ้าบ่าวโผล่มา
“อ้าวคุณน้ำอิง เชิญครับ มีอะไรหรือเปล่า” เลขาหนุ่มบอกพลางมองหน้าและการแต่งตัวของเพื่อเจ้าสาวคนนี้ สวยและเซ็กซี่มากเลยทีเดียว
“มาตามคุณตุลย์น่ะ เสร็จหรือยังคะ”
“อยู่อีกห้องหนึ่งครับ ยังไม่เสร็จเท่าไหร่ ถึงผู้ชายจะแต่งตัวเร็วแต่ก็ลำบากเหมือนกันนะครับ เพราะเป็นชุดทักสิโด้”
“งั้นอิงเข้าไปหาคุณตุลย์ได้ไหมคะ ยัยเจ้าขาฝากมาน่ะ”
“ได้ครับ เชิญ เปิดประตูก็ทะลุเข้าไปได้เลยครับ” ว่าแล้วเลขาหนุ่มก็เปิดทางให้น้ำอิงเดินไปจนถึงประตูบานหนึ่ง ซึ่งเป็นห้องทะลุนั้นเอง โดยที่เลขาหนุ่มไม่ได้ตามเข้าไป พอเข้ามาปุ๊บน้ำอิงก็เห็นว่าเจ้าบ่าวหรือที่เธอเรียกว่าพี่ตุลย์ หรือตุลยเทพ เพิ่งจะใส่กางเกงแต่ยังไม่ได้สวมเสื้อเลย
“อุ้ยเอ่อ คุณตุลย์” น้ำอิงอุทานด้วยความตกใจเล็กน้อย ก่อนจะเม้มปากด้วยความประหม่าเมื่อเห็นชายหนุ่มกำลังจะใส่เสื้อ
“ขอโทษทีค่ะ ยัยเจ้าขาให้มาบอกว่า ถ้าคุณตุลย์เสร็จแล้วก็ลงไปก่อนได้เลยค่ะ” สิ้นคำของเธอ ตุลยเทพก็หันมามองพลางยิ้มนิดๆ
“เสร็จเหรอ ยัง” เขาตอบอย่างมีนัย
“แล้วเจ้าขาล่ะแต่งตัวเสร็จหรือยัง” เขาถามขึ้นอีก
“ยังค่ะ แต่แต่งเองได้ เลยให้อิงมาเรียกคุณตุลย์น่ะ” น้ำอิงบอกเสียงหวานพลางมองมือเขาที่กำลังติดกระดุม
“ไม่ต้องลงไปพร้อมกันก็ได้ ใครเสร็จก่อนก็ลงไปก่อนเดี๋ยวแขกรอ”
ชายหนุ่มตอบพลางก้มลงมองที่กระดุมเสื้อของตัวเอง สลับกับปลายตามองน้ำอิง
“เอ่อ รบกวนน้ำอิงเรียกเจ้านันเข้ามาหาผมหน่อย”
“ได้ค่ะ” ว่าแล้วหญิงสาวก็เดินกลับไปยังประตูบานเดิม แล้วเรียกเลขาชายเข้ามาหาตุลยเทพทันที
“ครับคุณตุลย์”
“ลงไปดูงานข้างล่างช่วยคุณพ่อคุณแม่ก่อนนะ ไม่ต้องห่วงทางนี้ ฉันแต่งตัวเองได้ ถ้าเสร็จแล้วจะลงไป” ตุลยเทพบอกเสียงเรียบ
“ให้ผมไปบอกคุณเจ้าขาไหมครับ”
“ไม่เป็นไรคะ เจ้าขาก็ให้มาบอกนั่นแหละคะ ว่าถ้าเรียบร้อยแล้วก็ให้ลงไปก่อน แต่งตัวเท่านี้ไม่ลำบากใครหรอก อีกอย่างแขกคงทยอยกันมาแล้ว มัวแต่รอกันอยู่ ก็จะไม่ได้เห็นหน้าเจ้าภาพน่ะสิคะ” น้ำอิงอธิบาย
“เอาอย่างนั้นก็ได้ครับ อย่านานนะครับคุณตุลย์”
“ไม่นานหรอกสักครึ่งชั่วโมงก็น่าจะเรียบร้อย” เขาตอบพลางเหลือบมองน้ำอิงเล็กน้อย
“โอเคครับ” เมื่อรับคำเสร็จนันทนัชก็ออกไปทันที กระทั่งได้ยินเสียงปิดประตูด้านนอก นั่นแปลว่าเลขาหนุ่มได้ออกแล้ว เท่านั้นแหละตุลยเทพก็เดินเข้ามาหาน้ำอิงแล้วกระชากเข้าไปกอด หญิงสาวได้แต่โอนอ่อนไปตามแรงและเงยหน้าขึ้นสบตาชายหนุ่มอย่างเว้าวอน ชนิดที่ไม่เอ่ยอะไร ปากร้อนสุดช่ำชองก็ประกบจูบและบดขี้อย่างดูดดื่มร้อนแรง เรียกได้ว่าทำให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้