โรงแรมเหมราชมนตรา เวลาสี่โมงเย็น ตอนนี้กำลังจัดแต่งงานของแขกระดับเศรษฐีคนหนึ่ง ตามเวลาที่งานจะเริ่มคืนหนึ่งทุ่มตรง ฉะนั้นเวลานี้คือการตรวจตราความเรียบร้อย ของผู้ที่มีหน้าที่ดูแลรับผิดชอบ ต่อให้ไม่ใช่เวลาทำงานแต่ก็ต้องทำงานอีเว้นท์ให้ออกมาสมบูรณ์แบบที่สุด
คเชนทร์ รองประธานกรรมการหนุ่มหล่อไฟแรง จอดรถที่หน้าประตูทางเข้าโรงแรม และยังไม่ทันที่เขาจะได้เปิดประตูรถ พนักงานเปิดประตูก็วิ่งมาเปิดให้กับเขาอย่างรู้หน้าที่
“สวัสดีครับท่าน” พนักงานกล่าวทักทายพร้อมกับยกมือไหว้ ขณะที่คเชนทร์ก็ก้าวลงรถไปด้วย
“สวัสดีครับ” คเชนทร์ทักทายกลับเสียงเรียบ พลางถอนหายใจเบาๆ เหมือนมีความเครียดและหงุดหงิดเล็กๆ
“วันนี้มีงานเย็นเหรอครับ”
“อืม นี่ไง งานแต่ง ถูกตามด้วยให้มาเช็กความเรียบร้อย”
“เหนื่อยหน่อยนะครับ”
“อืม ฝากเอารถไปไว้ที่ลานจอดทีนะ” คเชนทร์บอกพร้อมกับยื่นกุญแจรถให้
“ได้ครับ” พนักงานหนุ่มรับคำก่อน จากนั้นคเชนทร์จึงได้เดินเข้าโรงแรมโดยมีพนักงานอีกคนรอเปิดประตูให้ ทว่าจังหวะเดียวกันนั้นก็มีเจ้าหน้าหน้าที่สาววัยสามสิบปี วิ่งกระหืดกระหอบมาทางเขาเลย
“มาพอดีเลยค่ะนาย!”
“มีอะไร แล้วนี่ทำท่าตื่นตกใจทำไมเนี่ย”
“ก็อยู่เนี่ย มีแต่พนักงานตัดสินใจอะไรไม่ได้ ผู้บริหารกลับไปหมดแล้วค่ะ”
“ก็เลยโทรตามผมเนี่ยนะ นี่ก็ผู้บริหาร” คเชนทร์ชี้มือเข้าหาตัวเองพร้อมกับทำสีหน้ากวนๆ
“มันอยู่ในความดูแลของเราเป็นหลักไงคะ”
“แล้วนี่มีปัญหาอะไร” เขาถามเสียงหงุดหงิด
“เดินไปด้วยคุยไปด้วยนะคะ คือจริงๆ แล้วก็ไม่มีอะไรยุ่งยากหรอกค่ะ แต่เจ้าของงานอยากให้คนที่ดูแลหลักๆ อยู่ให้เขาปรึกษา เผื่ออยากได้อะไรเพิ่มเติมค่ะ”
“มันเป็นเรื่องของออแกไนซ์ ไม่เกี่ยวกับเรา เราแค่ให้เช่าสถานที่ป่าว” คเชนทร์ถามกลับแบบกวนๆ
“แต่มันเป็นสถานที่เราไงคะ ออแกไนซ์ก็ทีมที่เรารู้จัก อุ้ยลืมถาม พ่อเลี้ยงไม่มาเหรอคะ”
“ถ้ามาก็เห็นแล้วสิ อย่าถามถึงพ่อ พ่อไม่ว่างหมดเวลาทำงานของท่านแล้ว นี่แทบจะยกโรงแรมให้ไอ้เชนทร์แล้วเนี่ย” คเชนทร์ออกปากบ่น
“แหมลูกรักก็งี้แหละค่ะ พ่อก็รักเป็นธรรมดา”
“เดี๋ยวเราเข้าไปดูในงานสักหน่อยเผื่อขาดเหลือ” คเชนทร์บอกอีกครั้ง คราวนี้ทิ้งความกวนเป็นจริงจังเล็กน้อย
“ค่ะ” ว่าแล้วคเชนทร์ก็เดินนำเจ้าหน้าที่สาว ไปยังห้องแกรนด์บอลรูมที่ใช้จัดสถานที่แต่งงานของเศรษฐีคนหนึ่ง เขาไม่รู้จักหรอกเพราะคนรวยน่ะมีเยอะ แต่เรื่องความเยอะของเจ้าบ่าว ก็ทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดแทนทีมออแกไนซ์ไนเสียเหลือเกิน
“นายมาน่ะ” ทีมงานเอ่ยพร้อมกับหันมามองก่อนจะยกมือไหว้สวัสดี
“สวัสดีครับนาย” ทีมงานทักทายคเชนทร์
“สวัสดีครับ ขาดเหลืออะไรไหม ที่ทางโรงแรมจะต้องจัดเตรียมเนี่ย”
“มันก็มีเรื่องกระจุกกระจิกน่ะครับก็แก้ไขได้แหละ แต่ทีมงานก็อยากให้นายมาเป็นขวัญและกำลังใจให้เท่านั้นเอง”
“เรื่องใหญ่จริง ผมไม่ใช่เจ้านายพวกคุณซะหน่อย”
“แต่เป็นผู้บริหารนะครับ อย่างน้อยก็แบบลูกค้าเกรงใจสักนิด”
“แน่ใจเหรอว่าลูกค้าเกรงใจผม ไม่หรอกมั้ง”
“จะว่าไปแล้ว ลูกค้าก็ไม่ได้เห็นหน้านายนี่เนอะ เห็นแต่บอสเราแต่บอส กลับแล้ว นายมาก็ดีครับ คนคุ้นเคยเวลามีเรื่องอะไรเราจะแอบหลบอยู่หลังนาย”
“เป็นไม้กันหมา?” คเชนทร์ถามแบบกวนๆ
“แม่ทัพต่างหากล่ะครับ”
ก็เพราะว่าคเชนทร์เป็นผู้บริหารที่เป็นแม่ทัพ ออกหน้ารับ นำทัพบุกเป็นคนแรก เวลาทำงานอะไรก็ตามทั้งทีมงานของตัวเอง หรือทีมงานจ้างมา ซึ่งรู้จักกันดีก็อยากให้คเชนทร์อยู่ด้วย หรือถ้าจะให้เรียกง่ายๆ คือหากยกพวกตีกันเนี่ย คเชนทร์นี่แหละตัวเปิดล่ะ ซึ่งคนละสไตล์กับพ่อเลี้ยง
“ขาดเหลืออะไรเพิ่มเติมก็บอกแล้วกัน ผมจะอยู่จนถึงหนึ่งทุ่ม แล้วก็จะกลับมีนัดกับนายพ่อน่ะ”
“ได้ครับนาย”
“ผมจะเข้าไปดูด้านในหน่อย”
“เชิญครับเดี๋ยวผมพาไป” หนึ่งในทีมงานซึ่งเป็นหัวหน้าตอบ จากนั้นคเชนทร์จึงได้เดินนำ พร้อมด้วยผู้จัดการสาว และทีมงานเข้าไปในห้องแกรนบอลรูม การจัดตกแต่งสถานที่เรียบร้อยกว่า 99% แล้ว เพียงแต่เจอเจ้าบ่าวเรื่องมากก็จะปรับนั่นเปลี่ยนนี่
คเชนทร์จึงเดินตรวจความเรียบร้อย เพราะหลายๆ อย่างทางโรงแรมเป็นคนจัดการ อย่างเช่นอาหารการกินที่ไว้เลี้ยงแขกรวมถึงเครื่องดื่ม
“อาหารเนี่ยเดี๋ยวพนักงานทยอยนำมาเติมครับ” ทีมงานคนหนึ่งตอบ
“ตอนนี้เจ้าบ่าว เจ้าสาวคือ?”
“แต่งตัวครับงานเริ่มหนึ่งทุ่มครึ่งคงช้านิดหน่อย”
“โอเค นี่ผมไม่ยักกะเห็นภาพเจ้าบ่าวเจ้าสาว ยังไม่เอาออกมาอีกเหรอ”
“ยังครับ เจ้าบ่าวเขาไม่ชอบอวดน่ะ เพราะว่ามันอยู่ในวีดีโอพรีเซนต์ครับ แล้วก็รอถ่ายภาพที่หน้างานอย่างเดียว ส่วนด้านหน้าก็มีแต่อักษรย่อ”
“หึๆ หรือว่าไม่อยากให้เห็นว่าเจ้าสาวหน้าตาเป็นยังไง” คเชนทร์นึกแซว
“ผมก็ยังไม่เห็นเลยครับ อ่อไม่สิ เห็นในคลิปน่ะ สวยน่ารักมากๆ เชียวน่าอิจฉา”
“หึๆ โอเค ขาดเหลืออะไรบอกนะ”
“จะเข้าออฟฟิศไหมคะคุณเชนทร์” ผู้จัดการสาวถาม
“ไม่ล่ะ ผมคงเดินดูงานน่ะ นี่กะเช้าเริ่มทยอยกันกลับแล้วนี่นะ ใช่ไหม”
“ใช่ค่ะ” ผู้จัดการสาวตอบ จากนั้นคเชนทร์ก็ตรวจตราความเรียบร้อย ในฐานะผู้บริหาร และต้องดูแลเกี่ยวกับการอำนวยความสะดวกเรื่องสถานที่ ต้องจัดการแบบไม่ขาดตกบกพร่อง แม้จะไม่ใช่สายตรงที่ต้องดูแล แต่เวลานี้เขาคือขวัญและกำลังใจของผู้ใต้บังคับบัญชา ที่ทุกคนก็อยากเรียกหา นั่นก็เพราะว่าเขาเคยเป็นลูกน้องมาก่อน เป็นคนใกล้ชิดพ่อเลี้ยงทุกคนเข้าถึงได้ง่าย