'คุณนายเธอเป็นเมียคนล่าสุดของเจ้าสัวจ้ะพี่ แต่งงานได้ไม่ถึงเดือนเจ้าสัวก็เส้นเลือดในสมองแตกกลายเป็นผัก รักษาอยู่ปีครึ่งก็จากไปอย่างสงบ นับจากวันนั้นก็ห้าปีได้แล้วมั้ง'
'แล้วคุณนายเธอไม่มีลูกกับเจ้าสัวหรือ'
'ไม่มีหรอกจ้ะ อย่างที่บอก ตอนที่แต่งงานกันเจ้าสัวก็สภาพร่างกายไม่ค่อยดี ตอนนั้นคุณนายอายุยี่สิบแปดเอง ส่วนเจ้าสัวห้าสิบกว่าเข้าไปแล้ว แต่งได้เดี๋ยวเดียวก็ล้มหมอนนอนเสื่อ'
'น่าสงสาร'
'ชีวิตคุณนายเธอน่าสงสารมากจ้ะพี่เบิ้ม เธอรักเจ้าสัวด้วยใจจริง ยอมแต่งงานไม่สนคำครหาว่าจับผัวรวย ตอนที่เจ้าสัวล้มป่วยคุณนายก็ดูแลอย่างดีเป็นปีๆ พอเจ้าสัวจากไปเธอก็จัดแจงแบ่งสมบัติให้ลูกๆ เจ้าสัวอย่างเท่าเทียม ส่วนตัวเองก็เก็บไว้แค่บ้านหลังที่เป็นเรือนหอ กับเงินที่เจ้าสัวให้ไว้ แถมยังเข้าไปดูแลธุรกิจของเจ้าสัวที่ลูกๆ ไม่เอาอีก ดีแสนดี แต่ก็อาภัพนัก'
'อืม'
'พี่ต้องทำตัวดีๆ นะ ทำงานกับคุณนายสบายจะตาย เงินเดือนเยอะ สวัสดิการดีเยี่ยม เดือนๆ หนึ่งแทบไม่ได้ใช้เงินสักแดง พี่จะได้มีเงินส่งให้เจ้าบัวมัน'
'พี่รู้แล้ว'
'เมียเก่าพี่ก็กะไร ใจดำ แต่งกับผัวรวยแต่ไม่ส่งเสียลูกสาวตัวเองสักแดง'
'อย่าพูดถึงเขาเลย พี่ไปขับรถให้คุณนายก่อนนะบิว'
'จ้ะ โชคดีพี่'
.
.
'คุณนายเธอน่าสงสาร ทุกวันนี้ต้องดูแลอะไรหลายๆ อย่างจนแทบไม่ได้หลับไม่ได้นอน ลูกๆ ของเจ้าสัวไม่เอาไหนเลยซักคน สักจะเอาแต่เงินแต่ทองไม่ยอมทำงาน'
คำพูดของน้องสาวดังขึ้นในหัว เบิ้มมองผ่านกระจกมองหลัง เห็นร่างอรชรเอนหลับสนิทก็นึกเห็นใจ ผู้หญิงสวยๆ ที่อายุเพียงสามสิบห้าปีกลับต้องแบกภาระไว้มากมาย ไหล่เล็กๆ นั่นจะรับได้แค่ไหนเชียว
'คุณนายยังสวยยังสาว เธอไม่คิดมีผัวใหม่หรือ'
'ไม่รู้สิพี่ แต่ใครเข้ามาจีบคุณนายเธอก็ไม่เล่นด้วยเลย เอาแต่ทำงานงกๆ'
หลังจากทำงานมาได้ร่วมเดือน เบิ้มก็มั่นใจว่าสิ่งที่น้องสาวพูดไม่ผิดนัก
เพราะเขาต้องขับรถรับส่งเจ้านายสาว เลยได้เห็นอะไรหลายๆ อย่างที่หลายคนไม่มีทางรู้ และสิ่งหนึ่งที่ต้องได้เห็นเป็นประจำทุกวัน คือภาพของคุณนายสวยสง่าที่นอนหลับอุตุอยู่ด้านหลังเขา
ภาพที่คนอื่นเห็น กับภาพที่เบิ้มเห็นมันต่างกัน
"คุณนายขอรับ"
เบิ้มร้องเรียกเสียงนุ่มสุภาพ ร่างอรชรในชุดราตรียาวขยับเล็กน้อยแต่ยังไม่ยอมลืมตาขึ้น ปกติคุณนายเป็นคนตื่นง่าย บางครั้งแค่จอดรถเธอก็ตื่นขึ้นมาโดยไม่ต้องเรียกด้วยซ้ำ
"คุณนายขอรับ ถึงบ้านแล้วนะขอรับ"
เบิ้มลองเรียกอีกครั้ง แต่ทุกอย่างก็เหมือนเดิม คุณนายคนสวยขยับตัวเหมือนรำคาญแต่ไม่ยอมตื่น
"เอาไงดีล่ะคราวนี้"
เบิ้มคิดไม่ตก ตอนนี้ตีหนึ่งกว่าแล้ว บ้านทั้งหลังเงียบสนิท คนงานคนอื่นคงนอนกันหมดแล้ว จะให้เรียกก็ไม่ได้ เพราะทุกคนต้องตื่นแต่เช้าต่างจากเขาที่ตื่นสายได้ถ้าวันไหนคุณนายออกงานเย็นค่ำแบบวันนี้
นั่งคิดอยู่สักพักหนุ่มผิวแทนตัวใหญ่ก็ตัดสินใจ เบิ้มลงจากที่ของตัวเอง ก่อนจะเปิดประตูด้านหลังออกแล้วช้อนเจ้านายสาวขึ้นด้วยอ้อมแขนแกร่งที่ผ่านการทำงานหนักมาทั้งชีวิต
"อื้อ..."
"คุณนายขอรับ"
ไม่มีเสียงตอบรับ ร่างระหงทำเพียงแค่เบียดกายเข้าหาไออุ่น แล้วซุกหน้าลงกับแผ่นอกแกร่งก่อนจะหลับใหลอีกครั้ง
กลิ่นแอลกอฮอล์จางๆ ทำให้เบิ้มรู้ว่าสิ่งที่ทำให้คุณนายหลับลึกคืออะไร ชายหนุ่มใช้หลังดันปิดประตูรถ ก่อนจะก้าวอาดๆ เข้าไปในตัวบ้านที่เงียบสนิท....
.
.
"อื้อออ"
เบิ้มวางคุณนายลงบนเตียงนอน คุณนายรีบซุกกายเข้าหาผ้าห่มผืนใหญ่ ขาเรียวยกขึ้นกอดก่ายเหมือนคนขี้เหงา เธอหลับสนิท ไม่มีท่าทีว่าจะตื่นขึ้นมา แม้แต่รองเท้าส้นสูงที่ใส่อยู่ก็ไม่คิดจะถอดออก
เห็นแบบนั้นเบิ้มก็ใจร้ายทิ้งให้เจ้านายนอนหลับไม่สบายไม่ลง ร่างใหญ่คุกเข่าลงข้างเตียง มือหยาบค่อยๆ จับข้อเท้าขาวไว้ แล้วลงมือแกะสายรัดรองเท้าที่ค่อนข้างซับซ้อนอย่างใจเย็น
"อื้อ"
เสียงของคนเมายังคงดังเป็นระยะ เบิ้มถอดรองเท้าข้างหนึ่งได้สำเร็จแล้ว แต่พอเขาจับข้อเท้าอีกข้างขึ้นมา...
"เจ็บ"
เสียงครางประท้วงด้วยความเจ็บปวดของคนหลับทำให้เบิ้มตกใจจนเกือบปล่อยข้อเท้าหลุดมือ เพราะพาลคิดไปว่าตัวเองมือหนักจนทำให้ผิวขาวๆ บอบช้ำเข้าจนได้
"คุณนาย..."
"เจ็บจัง"
คุณนายร้องบอกอีกครั้ง ก่อนจะดึงกระโปรงขึ้นสูงจนคนขับรถตาเหลือก
"เจ็บ... ถูกผลัก นวดให้หน่อย"
อึก!
เบิ้มมองขาเรียวขาวเนียนละเอียดตรงหน้าด้วยความรู้สึกสับสน คุณนายดึงกระโปรงขึ้นไปจนเห็นขาอ่อน ตรงนั้นเขาเห็นว่ามันแดงขึ้นเล็กน้อย แต่ไม่ได้ทำให้ความสวยงามลดลงเลย
ชายหนุ่มวันสามสิบเจ็ดเหงื่อตก ภาพตรงหน้าสวยงามจนร่างกายมีปฏิกิริยาที่ไม่ควรขึ้น ทั้งๆ ที่หนึ่งเดือนที่ผ่านมาเขาควบคุมมันได้แล้วแท้ๆ แต่เพราะเป็นผู้ชาย บางทีร่างกายมันก็ไม่เชื่อฟังสมอง
"นวดหน่อย"
"เอ่อ..."
เบิ้มรีบดึงสติให้กลับมา เขาตบแก้มตัวเองแรงๆ ความคิดร้ายจึงค่อยๆ หลุดออกไป
"เดี๋ยวผมตามเจ้าบิวมาให้นะขอรับ"
นี่คงเป็นทางออกที่ดีที่สุด ยอมโดนน้องด่าหน่อย แต่ดีกว่าให้แตะต้องผิวขาวๆ นั่นด้วยตัวเอง
เบิ้มไม่ใช่คนดีนัก แต่ก็ไม่อยากเป็นคนเลว คุณนายมีบุญคุณ เขาไม่ควรคิดต่ำๆ แบบนั้น มือหยาบด้านนี้ก็ไม่ควรแตะต้องผิวเนียนนุ่มของคุณนายให้ต้องแปดเปื้อนด้วยซ้ำ
"ไม่..."
เสียงอ้อแอ้ร้องประท้วง ดวงตาฉ่ำน้ำเปิดขึ้นมอง
"เบิ้มนั่นแหละ นวดให้ฉันที"
"ไม่ได้ขอรับคุณนาย มันไม่เหมาะ"
แทบไม่ต้องคิด เบิ้มปฏิเสธเสียงหนักแน่นทันที
"เธอเองก็รังเกียจฉันหรือ"
เสียงหวานตัดพ้อ ปลายเสียงสะอื้นเล็กน้อยจนคนฟังใจอ่อนยวบ
"มีแต่คนรังเกียจฉัน ทำไมล่ะ? ฉันทำอะไรผิด"
"คุณนายขอรับ..."
เบิ้มเสียงอ่อนไปหมด เขาแพ้น้ำตาผู้หญิง ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่ยอมอยู่กินกับเมียเก่าที่วันๆ เอาแต่แต่งตัวสวยๆ ไม่คิดทำมาหากินแบบนั้นมาได้ตั้งหลายปี พอเบิ้มต่อว่าเจ้าหล่อนก็ร้องไห้ และเขาก็ใจอ่อนทุกครั้งจนน้องสาวด่า
"เธอไปพักเถอะ ฉันจะนอนแล้ว"
ชายตัวใหญ่ละล้าละลัง ทำท่าจะลุกออกไปเพราะกลัวคำครหา แต่อีกใจก็สงสารเจ้านายสาวที่แบกรับอะไรไว้มากมายจนเผยความอ่อนแอออกมาแบบนี้
ร่างระหงพลิกหันหลัง ไหล่เล็กสั่นเทาเพราะแรงสะอื้น นาทีนั้นเบิ้มไม่มีความคิดอะไรในหัว นอกจากทำอะไรก็ตามให้คุณนายหยุดร้องไห้แบบนี้
"คุณนายขอรับ"
แค่นวด คงไม่เป็นไร
"เดี๋ยวผมนวดให้ขอรับ"